สูตรโกงฉบับเด็กเรียน - ตอนที่ 24 ผมทำไวอยู่แล้ว
ตอนที่ 24 ผมทำไวอยู่แล้ว
เมื่อเห็นว่าฉีปิงกำลังช็อก เหลียงหย่งก็รีบพูดต่อ “เป็นไปตามที่อาจารย์จางบอกเลยครับ สิบอันดับแรกมาจากปักกิ่งตั้งสามคน แถมยังเป็นที่สองที่สามที่สี่อีกด้วย ถือเป็นความภาคภูมิใจของทั้งประเทศนะครับเนี่ย ทว่า…ไม่น่าเชื่อว่าอันดับหนึ่งนั้นจะเป็นผู้เข้าแข่งขันจากมณฑลจิ้นซี คะแนนของเขามัน…ทำให้ผมไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดีเลย!”
จางเสวียเวิ่นเอ่ย “อันที่จริง หลังช่วงสร้างชาติ ที่มณฑลจิ้นซีก็มีโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงปรากฏขึ้นมาหลายแห่ง เพียงแต่ชื่อเสียงมันค่อยๆ หายไปเท่านั้นเอง ทว่าในยุคที่การแพทย์แผนจีนตกต่ำ พวกเขาก็เป็นผู้ที่คอยพยุงการแพทย์แผนจีนไว้ ตอนนั้นทั้งหนาน หลี่ เป่ย เหมิน แพทย์ผู้มีชื่อเสียงทั้งสี่คนในมณฑลจิ้นซี ก็มีชื่อเสียงโด่งดังมากเลยละ! พวกเขาโด่งดังระดับประเทศ ตอนนั้นอาจารย์เหมินเป็นอาจารย์ของผม ผมยังเคยเรียนกับเขาเป็นเวลานาน ไม่รู้ว่าอันดับที่หนึ่งจะมีความสัมพันธ์อะไรกับอาจารย์เหมินหรือไม่ เรื่องนี้ก็ยังบอกไม่ได้หรอก”
ตอนนี้ไป๋เยี่ยกำลังรีบทำข้อสอบ เขาไม่มีเวลาสนใจสิ่งอื่นๆ แล้ว แน่นอน แม้แต่ตนเองเขายังไม่สนใจเลย
เพราะว่าเขาสังหรณ์ใจว่ารางวัลของภารกิจนี้ต้องสัมพันธ์กับคะแนนตามแบบฉบับของระบบแน่ๆ อาจจะคิดตามสัดส่วนคะแนน หรือไม่ก็ตามอันดับที่ได้ก็ได้!
ไป๋เยี่ยไม่รู้ว่าตนเองทำโจทย์ไปกี่ข้อแล้ว แต่เขายังรู้สึกกดดันอยู่เลย ใครจะไปรู้ว่าทั้งประเทศจะมีอัจฉริยะสักกี่คน!
ไม่ต้องพูดถึงคนอื่นหรอก พวกคนในรายการ ‘ซุปเปอร์เบรน’ มีคนไหนบ้างที่ไม่ใช่อัจฉริยะ ไม่พูดก็จำได้ไม่เคยลืมอยู่แล้ว แต่ว่าตอนนี้เขาคงไม่ต่างจากคนเหล่านั้นมากหรอกมั้ง
คิดเช่นนั้น ไป๋เยี่ยก็สั่นไปทั้งตัว ไม่ได้! ยังไม่พอ ต้องเร่งความเร็วอีก ฉันทำได้ไวกว่านั้น!
ไป๋เยี่ยคิดแล้วเร่งมือทำข้อสอบ เขาแค่กวาดสายตาก็อ่านโจทย์จบก็ได้คำตอบมาง่ายๆ แล้ว
ไป๋เยี่ยทำเร็วมาก คนอื่นก็เช่นกัน อย่างเช่นพ่างจื่อ
“เวรเถอะ ยาวสามสั้นหนึ่งเลือกสั้นสุด สั้นสามยาวหนึ่งเลือกยาวสุด สั้นสองยาวสองเลือกเอ…จุ๊ๆ…เหมือนกับเรียนมาเก้าปีเลย ทำไมฉันถึงเก่งขนาดนี้นะ!”
ตัดภาพมาที่ช่องโทรทัศน์ ทุกคนต่างไม่มีคำพูดอะไรให้กับอันดับหนึ่ง เพราะว่าในระยะเวลาสองชั่วโมงนี้ อันดับหนึ่งทำคะแนนไปถึงเก้าร้อยคะแนนแล้ว!
ในขณะที่ที่สองเพิ่งทำไปห้าร้อยคะแนน คะแนนห่างกันเกือบสองเท่า พิธีกรทั้งสองคนก็ชินแล้ว
ผู้ชมด้านล่างและผู้ชมที่สถานีโทรทัศน์ต่างพากันอึ้ง
“เอ๋ สามวินาทีแล้วทำไมไม่เพิ่มขึ้นล่ะ คะแนนไม่ขยับแล้ว ไม่สมกับเป็นอันดับหนึ่งเลย!”
“เฮ้ย ไม่ใช่ไม่ขยับ แต่มันขยับไวจนค้างไปแล้วต่างหาก! สามวินาทีต่อหนึ่งคะแนน สุดยอดมาก นี่มันเทพเกินไปแล้ว กราบเลย”
“ที่รักรีบปิดประตูเร็ว ฉันจะคลอดแล้ว ตื่นเต้นไม่ไหวแล้ว ฉันว่าครั้งนี้ต้องคลอดแน่ๆ มาเร็วๆ มารับโชคจากอันดับหนึ่งกัน ไม่แน่ลูกเราอาจจะเป็นเด็กเรียนบ้างก็ได้!” หญิงสาวใกล้คลอดจ้องโทรทัศน์ด้วยใบหน้าแดงก่ำพลางพูดกับสามี
ทุกคนต่างเพ่งสายตาไปยังหมายเลข 0055
เหลียงหย่งพูดขึ้นมาในทันใด “อ้อ แล้วก็ ผมจะโชว์สิ่งใหม่ๆ ให้ทุกท่านได้ชม เวทีของเราไม่ได้แค่แสดงคะแนนได้ แต่ยังแสดงจำนวนข้อและอัตราการตอบถูกได้ด้วย ทุกท่านสงสัยในตัวผู้เข้าแข่งขันอันดับหนึ่งไหมครับ อยากดูอัตราการตอบถูกของเขากันไหม”
“อยาก!”
“อยากสิ! อยากดู!”
ผู้ชมด้านล่างต่างพากันตื่นเต้น เพราะคะแนนของอันดับหนึ่งนั้นสูงมาก สูงจนเกือบจะเป็นเท่าตัวของผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ ถ้ายังทำความเร็วในระดับนี้ได้ล่ะก็ ต่อให้อันดับหนึ่งจะหยุดทำข้อสอบตอนนี้ ก็คงได้ที่หนึ่งอยู่ดี
มั่นคงมาก มั่นคงเหมือนกับภูเขาไท่ซาน
เหลียงหย่งหัวเราะพลางเปิดข้อมูลของอันดับที่หนึ่งขึ้นมา
ข้อมูลปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
[ชื่อ-สกุล: xx (ไม่เปิดเผย) เขต: เมืองไท่หยวน มณฑลจิ้นซี หมายเลขประจำตัวผู้สอบ: xxx0055 หมายเลขโทรศัพท์: 186xxxxxxxx (ไม่เปิดเผย) คะแนน: 1024 คะแนน จำนวนข้อ: 1229 ข้อ อัตราการตอบถูก: 83% ค่าเฉลี่ย 6.35 วินาทีต่อหนึ่งข้อ]
เหล่าคนในช่องแสดงความคิดเห็นค่อยผ่อนคลายลงหน่อย
“ก็ยังดี ผู้พันแยกย้ายเถอะ เก็บปืนใหญ่ไปได้แล้ว…”
“ก็ยังดี กองทัพพิเศษแยกย้าย กลุ่มมังกรจีนแยกย้าย เจ้าเด็กนั่นยังเป็นคน ไม่ใช่ตัวประหลาด ไม่ต้องบั่นร่างมันหรอก”
“ก็ยังดี เด็กนั่นยังเป็นคนจีน ไม่ต้องไปสนใจพวกญี่ปุ่นกับเกาหลีแล้ว”
“ดีอะไรล่ะ ภารกิจปลุกระดมประชาชนล้มเหลว เริ่มแผนบีได้…”
พิธีกรเหลียงหย่งค่อยสบายใจหน่อย “อันดับหนึ่งนี่เก่งจริงๆ เลยครับ เขาใช้เวลาทำข้อสอบข้อละหกวินาทีเองครับ แถมอัตราการตอบถูกยังสูงถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์อีกด้วย เก่งมากๆ ครับ!”
อาจารย์จางเสวียเวิ่นหัวเราะ “ไม่ว่าอย่างไร ทักษะด้านการแพทย์แผนจีนของเด็กคนนี้ก็ยังถือว่าใช้ได้อยู่ การตอบข้อสอบหนึ่งข้อภายในระยะเวลาราวๆ หกวินาทีนั้นไม่ยาก แต่การจะตอบให้ถูกทุกข้อภายในเวลาหกวินาทีนั้นยากมาก ข้อสอบตั้งพันกว่าข้อ นี่สินะ พลังแห่งคนรุ่นหลัง!”
ทว่าหลี่ซื่อเต๋อกลับส่ายหัว “จะว่าเก่งก็เก่งแหละนะ ทว่าอัตราการตอบถูกนั้นไม่สูงสักเท่าไหร่ ถ้าพูดถึงแค่ทักษะการทำข้อสอบและการทำคะแนน ก็ถือว่าเขาเก่งจริงๆ แต่เมื่อเทียบกับคนเก่งๆ พวกนั้นดูแล้วก็อาจจะยังห่างจากขั้นนั้นอยู่นิดหน่อย ถ้าไม่เชื่อทุกท่านก็ลองดูข้อมูลของอันดับสองและสามครับ”
[ลำดับที่สอง: ชื่อ-สกุล: xx (ไม่เปิดเผย) เขต: เมืองปักกิ่ง หมายเลขประจำตัวผู้สอบ: xxx0001 หมายเลขโทรศัพท์: 134xxxxxxxx (ไม่เปิดเผย) คะแนน: 601 คะแนน จำนวนข้อ: 605 ข้อ อัตราการตอบถูก: 99.3% ค่าเฉลี่ย 12.89 วินาทีต่อหนึ่งข้อ]
[ลำดับที่สาม: ชื่อ-สกุล: xx (ไม่เปิดเผย) เขต: เมืองปักกิ่ง หมายเลขประจำตัวผู้สอบ: xxx0019 หมายเลขโทรศัพท์: 134xxxxxxxx (ไม่เปิดเผย) คะแนน: 600 คะแนน จำนวนข้อ: 604 ข้อ อัตราการตอบถูก: 99.3% ค่าเฉลี่ย 12.89 วินาทีต่อหนึ่งข้อ]
อัตราการตอบถูกของทั้งคู่อยู่ที่ 99.3% น่ากลัวเกินไปแล้ว!
ข้อสอบตั้งหกร้อยข้อแต่ทำผิดแค่สี่ข้อ ผู้ชมต่างไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น อัตราการตอบถูกสูงนี่น่าอัศจรรย์กว่าคะแนนที่สูงจนน่ากลัวนั่นเสียอีก
คราวนี้หลี่ซื่อเต๋อก็หัวเราะบ้าง “จริงๆ แล้วอันดับหนึ่งอาจจะทำโจทย์มานานจึงคุ้นชินกับข้อสอบ อีกทั้งยังมีทักษะในการอ่านโจทย์ที่ดีและรวดเร็ว สำหรับข้อยากๆ ก็แค่เดาคำตอบไป ส่วนข้อง่ายก็ตอบคำตอบที่ถูกต้อง ถ้าเป็นแบบนี้ก็ไม่ต้องใช้ความคิดในการทำโจทย์เลย จึงทำให้เขาทำโจทย์ได้เร็วนั่นเอง”
“นักศึกษาคนอื่นๆ ต่างหากที่เก่งจริง เพราะมีพื้นฐานความรู้แน่น อัตราการตอบถูกจึงสูงถึงเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ ศาสตร์การแพทย์ต้องอาศัยความรอบคอบ ห้ามสะเพร่าแม้แต่นิดเดียว ดังนั้นผมจึงเห็นด้วยกับนักศึกษาอันดับหลังๆ มากกว่า เพราะว่าการแข่งรอบระดับมณฑลน่ะ จะมาอ่านโจทย์อย่างเดียวแบบนี้ไม่ได้แล้ว แต่เป็นการทดสอบศักยภาพที่แท้จริงต่างหาก”
จางเสวียเวิ่นยิ้ม “อาจารย์หลี่ คุณพูดแบบนี้ก็ไม่ถูกหรอกนะ ความเร็วในการทำข้อสอบถือเป็นความสามารถอย่างหนึ่ง การทำคะแนนก็เป็นความสามารถเช่นกัน กฏเกณฑ์ต่างหากที่สำคัญที่สุด ผมไม่เชื่อว่าถ้าอันดับหนึ่งตั้งใจทำจริงๆ โดยที่ไม่สนใจว่าจะได้คะแนนมากเท่าไหร่แล้วเขาจะตอบถูกน้อย ดังนั้นผมก็ยังคิดว่าอันดับหนึ่งเก่งอยู่ดี ทุกคนต้องทำความเข้าใจกฎเกณฑ์การแข่งขัน กฎบอกไว้ชัดเจนว่าเรียงลำดับคะแนนจากคะแนนสูงไปต่ำ คุณนี่ทำตัวคร่ำครึจริงๆ เลยนะ…”