สูตรโกงฉบับเด็กเรียน - บทที่ 209 ผมจะทำให้โตเกียวลุกเป็นไฟ

บทที่ 209 ผมจะทำให้โตเกียวลุกเป็นไฟ

สเปรย์ลิโดเคนและโฟมไฮโดรคอลลอยด์เป็นยาระงับปวดที่ใช้ภายนอกซึ่งมีความเข้มข้นต่ำ การรับรองจึงเป็นไปได้อย่างง่ายดายยิ่ง

โดยทั่วไปแล้วประเภทของยาที่ต้องผ่านการรับรองจะมีความยากง่ายดังต่อไปนี้ ขอใบรับรองยากที่สุดคือยาที่ต้องให้ผ่านทางหลอดเลือดดำ รองลงมาคือยารับประทาน และง่ายที่สุดคือยาใช้ภายนอก

แต่ถึงกระนั้นความเชื่อมั่นของผู้ป่วยต่อยาที่ไม่ได้เปิดตัวสู่ตลาดอย่างเป็นทางการก็ยังค่อนข้างต่ำ

ดังนั้นเมื่อแพทย์เข้าไปเจรจากับผู้ป่วยแล้วจึงยังมีผู้คนที่ยินยอมค่อนข้างน้อย โดยในวันแรกมีผู้ป่วยเพียงสิบเคสเท่านั้นที่เข้ารับการล้างแผล ทั้งที่ทุกคนที่เข้าร่วมจะได้รับเงินอุดหนุน

ความเข้มข้นของลิโดเคนในสเปรย์ชนิดนี้ต่ำมาก มันจะออกฤทธิ์แค่บริเวณที่พ่นลงไปแล้วจะแทรกซึมเข้าไปในบริเวณผิวหนังโดยรอบ และจะถูกดูดซึมภายในเวลาไม่กี่นาที เพราะความเข้มข้นที่ต่ำมากนั่นเอง

ซึ่งเวลาดูดซึมนั้นก็เพียงพอต่อการล้างแผลให้ผู้ป่วยในแผนกทวารหนัก ซึ่งผู้ป่วยหลายคนก็กำลังเฝ้าดูผลของสเปรย์นี้อยู่เหมือนกัน

เมื่อผู้ป่วยกลุ่มแรกที่เข้าร่วมการทดลองจะออกจากโรงพยาบาลแล้ว ก็ได้มีการตรวจร่างกายส่วนต่างๆ ด้วย ทั้งตรวจเลือด ตรวจการทำงานของตับและไต รวมถึงตรวจสอบความปลอดภัยด้านอื่นๆ และได้ข้อสรุปว่าการใช้สเปรย์นี้ในระยะเวลาสั้นๆ จะไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองมากนัก

ช่วงนี้ทางบริษัทจื้อเหิงเองก็ไม่ได้อยู่นิ่ง มีการทดลองส่วนผสมของสเปรย์ ‘ฉีดปุ๊บหายปั๊บ‘ อีกหลายครั้งเพื่อศึกษาผลข้างเคียงต่างๆ

จนได้ข้อสรุปว่าการใช้สเปรย์นี้ปริมาณหนึ่งร้อยมิลลิลิตรจะมีโอกาสเพียงสิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่จะเกิดอาการระคายเคือง

สเปรย์ ‘ฉีดปุ๊บหายปั๊บ‘ หนึ่งขวดมีปริมาณเพียงสามสิบห้ามิลลิลิตรเท่านั้น และในการใช้งานหนึ่งครั้งก็ใช้เพียงหนึ่งถึงสองมิลลิลิตรเท่านั้น และยิ่งถ้าเป็นรูปแบบของสเปรย์ก็จะไม่ก่อให้เกิดความระคายเคืองรุนแรง

ใบรับรองพร้อมลายเซ็นก็ถูกส่งไปยังแผนกทวารหนักของโรงพยาบาลผู่เจ๋อด้วย เมื่อมีใบรับรองความปลอดภัยแล้ว ผู้ใช้ก็จะมีความเชื่อมั่นในตัวผลิตภัณฑ์มากขึ้นด้วย

ที่สำคัญคือ การล้างแผลบริเวณทวารหนักนั้นสร้างความเจ็บปวดได้อย่างทรมานสุดขีด

ผู้ป่วยในเคสที่ใช้สเปรย์ ‘ฉีดปุ๊บหายปั๊บ‘ ระหว่างการล้างแผลทั้งสิบเคสไม่รู้สึกเจ็บมาก อีกทั้งหลังจากล้างแผลเสร็จ ผู้ป่วยยังไม่รู้สึกอึดอัดด้วย ทำให้ผู้ป่วยคนอื่นๆ เริ่มสั่นคลอนไปด้วย

อีกทั้งใบรับรองความปลอดภัยนี้ยังทำให้พวกเขายอมรับในตัวผลิตภัณฑ์มากขึ้นด้วย

หลังจากที่ทดลองใช้มาหลายวัน ผู้ป่วยก็เริ่มหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ทั้งสองอย่างนี้มากขึ้นเรื่อยๆ!

ไม่เพียงเท่านั้น โฟมปิดแผลไฮโดรคอลลอยด์ยังได้รับคำชมจากผู้ป่วยอย่างเป็นเอกฉันท์ด้วย

เพราะว่าสเปรย์ลิโดเคนยังมีคุณสมบัติเป็นยา ในขณะที่โฟมไฮโดรคอลลอยด์นั้นแตกต่างออกไป เพราะมีลักษณะเป็นของใช้แล้วทิ้ง ผู้คนจึงยอมรับผลิตภัณฑ์ชนิดนี้มากกว่า

การเปิดตัวผลิตภัณฑ์และการทดลองใช้งานกับผู้ป่วยเป็นไปได้อย่างราบรื่น

นอกจากนี้ บริษัทจื้อเหิงยังเริ่มนำผลิตภัณฑ์ไปให้โรงพยาบาลชั้นนำแห่งอื่นทดลองใช้ด้วย ไม่ใช่เพียงแต่โรงพยาบาลผู่เจ๋อเท่านั้น โดยทางบริษัทจะมอบผลิตภัณฑ์ให้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย จากนั้นจึงค่อยรวบรวมข้อมูลผลตอบรับ

วันที่สิบเก้า ตุลาคม ไป๋เยี่ยนั่งวิเคราะห์ข้อมูลอยู่ภายในหอพักของเขา และรวบรวมผลการประเมินผลิตภัณฑ์ทั้งสองชนิดนี้จากข้อมูลที่ได้รับมา

เกณฑ์วัดความเจ็บปวดนานาชาติคือเกณฑ์ที่นำมาใช้วัดประสิทธิภาพของสเปรย์ ‘ฉีดปุ๊บหายปั๊บ‘ ได้ดีที่สุด ส่วนในแง่ของการตรวจสอบความปลอดภัยก็ใช้วิธีการวิเคราะห์ตามปกติ

ส่วนเกณฑ์ที่ใช้ในการกระเมินโฟมไฮโดรคอลลอยด์ก็คือเกณฑ์วัดอัตราการฟื้นตัวนานาชาติในสาขาโรคทางทวารหนัก ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนยึดมาตรฐานระดับนานาชาติเป็นเกณฑ์การประเมิน

ภายในระยะเวลาสองวัน ไป๋เยี่ยก็เตรียมผลิตภัณฑ์ของเขาไว้พร้อมแล้ว พอดีกับที่พานเซี่ยงเหนียนแจ้งเขาว่าจะออกเดินทางไปโตเกียวในอีกสองวันข้างหน้า ให้เขาเริ่มเตรียมสิ่งของที่ต้องนำไปด้วยได้แล้ว

วันที่ยี่สิบเอ็ด ตุลาคม พานเซี่ยงเหนียนและไป๋เยี่ยเตรียมออกเดินทางสู่โตเกียว มีเจ้าหน้าที่คอยแนะนำพวกเขา เจ้าหน้าที่เหล่านี้มักเป็นคนที่สปอนเซอร์ของงานมอบหมายให้มาดูแลความเรียบร้อยให้ผู้เชี่ยวชาญและศาสตราจารย์ที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมดฮณ๊ฯดฯฌซ,

ไป๋เยี่ยเตรียมสัมภาระของเขาพร้อมแล้วก็ออกเดินทางไปยังจุดนัดพบที่พานเซี่ยงเหนียนนัดหมายไว้

ที่นี่มีคนเยอะมาก ทันทีที่พานเซี่ยงเหนียนเดินเข้ามา ทุกคนก็กล่าวทักทายเขา วงการแพทย์โดยเฉพาะในสาขานี้มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก มักจะมีการชวนคนเหล่านี้ไปร่วมงานอยู่เป็นประจำ ทำให้พวกเขาได้เจอกันปีละหลายครั้ง แต่ละคนจึงรู้จักกันเป็นอย่างดี

“หัวหน้าพานมาแล้ว!”

“สวัสดีครับ หัวหน้าพาน กำลังรอคุณอยู่เลย”

“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับหัวหน้าพาน”

พานเซี่ยงเหนียนมองไปรอบๆ พร้อมกับกล่าวทักทายทุกคน ปีนี้เขาอายุห้าสิบปีแล้ว อีกทั้งยังเป็นที่รู้จักในสาขาโรคทางทวารหนักอีกด้วย ทุกคนจึงเคารพเขาในฐานะรุ่นพี่มาก

ทันใดนั้นก็มีชายสวมชุดสูทและแว่นตาคนหนึ่งเดินเข้ามาหาพานเซี่ยงเหนียน พานเซี่ยเหนียนจึงยื่นมือออกไปหาชายคนนั้นพร้อมรอยยิ้ม “หัวหน้าหลี่กลับมาแล้วเหรอ ฮ่าๆ ไม่ได้เจอกันตั้งนานเลยนะ”

อีกฝ่ายตบหลังพานเซี่ยงเหนียนเบาๆ “ไม่ได้เจอกันมาสักพักแล้ว ใช่แล้ว ผมเพิ่งกลับมา ถ้าผมไม่กลับมาตอนนี้ คงได้รับหนังสือแจ้งจากทางนั้นแล้ว ฮ่าๆ แต่ครั้งนี้มีเหล่าพานอยู่ด้วย คงไม่น่าเบื่อหรอก”

พานเซี่ยงเหนียนยิ้ม “การประชุมประจำปีจะไม่มีหัวหน้าหลี่ได้ยังไงล่ะครับ ในเมื่อวิทยาลัยแพทย์ยูเนียนของคุณเป็นแหล่งกำเนิดแนวทางปฏิบัติประจำสาขาโรคทางทวารหนักในประเทศเรา คราวนี้คุณออกไปเรียนต่อซะนานเลยนะ แบบนี้คงต้องแสดงฝีมือให้ทุกคนในงานที่โตเกียวเห็นแล้วละ”

หลี่มู่หยางหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเหลือบไปเห็นไป๋เยี่ย “หืม เหล่าพาน นี่คุณรับนักศึกษาปริญญาโทด้วยเหรอ”

พานเซี่ยงเหนียนได้รับตำแหน่งนี้มาเกือบสิบปีแล้ว จึงเปิดรับนักศึกษาปริญญาโทได้ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่เคยรับนักศึกษาเข้ามาเลยแม้แต่คนเดียว หลี่มู่หยางจึงประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นพานเซี่ยงเหนียนพาไป๋เยี่ยมาด้วย

“ไม่ใช่ๆ นี่คือนักศึกษาฝึกงานในแผนกของผมน่ะ เป็นนักศึกษาในสังกัดของผอ.หลิว” พานเซี่ยงเหนียนส่ายหัวไปมาแล้วหันไปแนะนำอีกฝ่ายให้ไป๋เยี่ยฟัง “เสี่ยวเยี่ย นี่คือหัวหน้าหลี่ หลี่มู่หยาง เป็นหัวหน้าแผนกทวารหนักของโรงพยาบาลยูเนียนที่เรียกได้ว่าเป็นเสาหลักของสาขาทวารหนักเลยก็ได้”

ไป๋เยี่ยยิ้มและกล่าวทักทายอีกฝ่าย “สวัสดีครับอาจารย์หลี่ ผมชื่อไป๋เยี่ย เป็นนักศึกษาสาขาโรคประสาทและสมองครับ”

หลี่มู่หยางพยักหน้าลง “กะตือรือร้นใช้ได้เลยนะพ่อหนุ่ม”

ครั้งนี้มีคนได้รับเชิญไปที่โตเกียวประมาณยี่สิบคน ซึ่งถือว่าไม่มากแต่ก็ไม่น้อยจนเกินไป เมื่อทุกคนมาถึงแล้ว เจ้าหน้าที่ก็นำทางพวกเขาไปที่เครื่องบิน

ทันทีที่ก้าวขาขึ้นเครื่องบิน ไป๋เยี่ยก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากระบบ

[ติ๊ง! ภารกิจไม่จำกัดเวลา: เปิดใช้งานภารกิจ การเดินทางไปโตเกียวครั้งนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิด ระบบจะประเมินความสำเร็จตามผลงานของคุณ]

[แจ้งเตือน: นี่คือภารกิจที่ไม่จำกัดระยะเวลา พยายามปรับปรุงประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์และสร้างอิทธิพลให้ตนเอง ยิ่งคุณมีอิทธิพลมากเท่าใด หรือยิ่งผลงานของคุณน่าทึ่งมากเท่าใด รางวัลก็จะยิ่งมากตามไปด้วย โปรดอย่าได้กลัว ยิ่งคุณกล้าได้กล้าเสียมากเท่าใด ระบบก็ยิ่งมอบรางวัลให้มากเท่านั้น!]

ไป๋เยี่ยชะงักไปครู่หนึ่ง ภารกิจไม่จำกัดเวลาเหรอ สวยสิแบบนี้

อย่างไรเสียไป๋เยี่ยก็เข้าใจถึงจุดแข็งของบรรดาไอเท็มที่ระบบมอบให้อยู่แล้ว พอคิดได้ดังนั้น ไป๋เยี่ยก็ยิ่งคาดหวังมากขึ้น

เพียงแต่ว่า…คำเตือนครั้งนี้ดูค่อนข้างน่าสนใจ ‘พยายามปรับปรุงประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์และสร้างอิทธิพลให้ตนเอง ยิ่งคุณมีอิทธิพลมากเท่าใด หรือ ยิ่งผลงานของคุณน่าทึ่งมากเท่าใด รางวัลก็จะยิ่งมากตามไปด้วย’

ดูเหมือนว่าเราจะต้องออกไปเฉิดฉายที่โตเกียวซะหน่อยแล้ว!