สูตรโกงฉบับเด็กเรียน - บทที่ 314 ความคิดของโจนส์

บทที่ 314 ความคิดของโจนส์

‘การประชุมศัลยกรรมกระดูกฉุกเฉินจะจัดขึ้นที่โรงแรมไห่ถัง กรุงปักกิ่ง ในวันที่ 15 เมษายน 2018…’

ทันทีที่จดหมายเชิญฉบับนี้ถูกส่งไปยังผู้เชี่ยวชาญและอาจารย์ชื่อดังทั่วโลก ทุกคนมีปฏิกิริยาที่แตกต่างออกไปหลังจากได้เห็นจดหมายดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม หัวข้อ ‘ศัลยกรรมกระดูกฉุกเฉิน’ ก็ยังคงเป็นเรื่องแปลกใหม่แต่มีประโยชน์ แม้แต่ทีมที่นำโดยอาคามอสซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยไฮเซนเบิร์กและทีมแพทย์ฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลกก็เคยค้นคว้าหัวข้อนี้มาเป็นระยะเวลาหนึ่ง

หากโครงการนี้ประสบผลสำเร็จก็จะเกิดคุณค่าอันมีความหมายมหาศาลต่อสังคมอย่างแน่นอน

ทุกคนจึงตัดสินใจใช้เรื่องนี้เป็นหัวข้อของการประชุมครั้งนี้

แน่นอนว่าแนวคิดของไป๋เยี่ยต่อการประชุมครั้งนี้ย่อมไม่ได้แฝงด้วยเจตนาบริสุทธิ์!

เจตนาของเขาคือเขาต้องการดึงดูดผู้เชี่ยวชาญและอาจารย์ชั้นนำจากทั่วโลกนั่นเอง

แน่นอนว่า บรรดาผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการที่เข้าร่วมการประชุมไม่ได้คิดเลยว่าการประชุมที่พวกเขากำลังจะเข้าร่วมคือทะเลดอกไม้ที่มีซากศพซ่อนอยู่ เมื่อเข้าไปแล้วก็ออกมาไม่ได้อีกต่อไป

วันนี้ที่มหาวิทยาลัยไฮเซนเบิร์กมีแดดจัดชวนให้รู้สึกสดชื่น ทว่าโจนส์กลับนั่งผวาอยู่ในห้องทำงานของเขา

เพราะอะไรกัน

ก็เพราะเขาเพิ่งได้รับข่าวว่าผู้เชี่ยวชาญ อาจารย์ และนักวิชาการด้านการแพทย์ฉุกเฉินและศัลยกรรมกระดูกในมหาวิทยาลัยไฮเซนเบิร์กได้รับจดหมายเชิญกันอย่างน้อยเกือบครึ่งมหาวิทยาลัยแล้ว

มันทำให้เขาเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น…

แต่เขาจะไปห้ามคนพวกนั้นเข้าร่วมได้อย่างไร

ไม่มีทาง!

ท้ายที่สุดแล้ว การประชุมก็ถูกจัดขึ้นในวันเสาร์ การให้อิสรภาพในวันหยุดสุดสัปดาห์ถือเป็นสิ่งสำคัญ ทว่าในฐานะที่เขาเป็นถึงผู้อำนวยการของไฮเซนเบิร์ก โจนส์ก็หวังว่าเขาจะทำบางอย่างเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์อันน่าอับอายนี้ได้บ้าง

โจนส์จึงเรียกผู้บริหารจากสาขาต่างๆ ในวิทยาลัยแพทย์มาปรึกษาหารืออย่างเร่งด่วน

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่อาคามอสลาออกไปแล้ว โยฮันก็ได้รับหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมแพทย์ฉุกเฉิน ทว่าเขากลับดูไม่มีความสุขเลย เขามักคิดว่าสิ่งที่เขาทำอยู่…คือของเหลือที่อาคามอสทิ้งไว้

เขาคิดว่าอาคามอสคงจะกำลังติดตามไป๋เยี่ยไปศึกษาองค์ความรู้ระดับสูงอยู่

ทุกวันนี้เขากลายเป็นคนไม่มีกะจิตกะใจจนแทบจะเป็นโรคซึมเศร้าแล้ว

เขายิ่งคิดว่าชีวิตของตนเองในฐานะนักวิจัยทางการแพทย์เริ่มถดถอยลงเรื่อยๆ เขาควรจะอุทิศตัวเองให้กับการศึกษามากกว่าจะมัวหมกมุ่นอยู่กับอำนาจ

หลังจากไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว โยฮันก็ตัดสินใจเดินทางไปยังกรุงปักกิ่งที่ประเทศจีน ถ้าเขามีโอกาสจริงๆ เขาก็อยากเป็นศิษย์ของไป๋เยี่ยและศึกษาความรู้ชั้นยอดบ้าง

ตอนนี้ไม่มีใครรู้ตัวว่าปัจจัยบางอย่างกำลังก่อตัวขึ้นอย่างลับๆ ในกลุ่มนักวิจัยสาขาเวชศาสตร์ฉุกเฉินของมหาวิทยาลัยไฮเซนเบิร์ก

ผู้เชี่ยวชาญระดับด็อกเตอร์หลายคนได้รับความรู้จากไป๋เยี่ยตั้งแต่ตอนที่ไปเยือนเมียนมาแล้ว ไป๋เยี่ยจึงสูงส่งมากในสายตาของพวกเขา

ตอนนี้ไป๋เยี่ยกำลังจะจัดการประชุมขึ้นด้วยตนเอง โดยมีศาสตราจารย์ชั้นนำสองคนอย่างโมลโดและอาคามอสเข้าร่วมด้วย

บรรดาผู้เชี่ยวชาญระดับด็อกเตอร์ต่างเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น ความอยากรู้อยากเห็น และความคาดหวัง!

ประสบการณ์ทั้งหมดที่พวกเขาได้รับจากประเทศเมียนมาได้กลายมาเป็นองค์ความรู้ ส่วนความรู้และแนวคิดใหม่ๆ ที่พวกเขาได้รับจากไป๋เยี่ยนั้นก็กำลังถูกแปรเปลี่ยนให้มีความเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น

นี่คือสิ่งที่พวกเขาไม่เคยคาดหวังหรือจินตนาการมาก่อน

เพราะฉะนั้นพวกเขาจะพลาดการประชุมครั้งนี้ไปไม่ได้แน่นอน

ซึ่งโจนส์ผู้เป็นผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยไฮเซนเบิร์กก็ได้ตัดสินใจครั้งสำคัญหลังจากที่ได้พิจารณาและวิเคราะห์อย่างรอบคอบ

โจนส์ได้เชิญให้ ‘มอริส’ เข้ามารับตำแหน่งผู้อำนวยการสาขาศัลยกรรมกระดูกที่วิทยาลัยแพทย์ไฮเซนเบิร์ก

บุคคลดังกล่าวไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญชาวเยอรมัน แต่เขาเป็นปรมาจารย์ที่มีชื่อเสียงพอๆ กับโมลโดผู้มีบทบาทในทวีปยุโรปและสหรัฐอเมริกามาโดยตลอด

เป็นเวลานานแล้วที่การวิจัยในสาขาวิชาต่างๆ ถูกแยกออกจากกัน จึงเกิดความแตกต่างขึ้นมากมาย

อย่างไรก็ตาม มาตรฐานของยา อาหาร และการแพทย์ในยุโรปและสหรัฐอเมริกาก็เป็นที่ยอมรับของทั่วโลกมาโดยตลอด

มาตรฐานการตรวจสอบของเอฟดีเอในสหรัฐอเมริกาและยุโรปนั้นก็ได้รับการยอมรับจากองค์การอนามัยโลกมาโดยตลอด แน่นอนว่าเหตุผลก็คือความน่าเชื่อถือนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึงการจัดตั้งแนวทางปฏิบัติต่างๆ

ในความเป็นจริงกลับเป็นเรื่องตรงกันข้าม เมื่อโมลโลปฏิเสธแนวทางการแพทย์สาขาศัลยกรรมกระดูกที่ถูกเสนอโดยหลายประเทศในยุโรปและสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2015 ทั้งยังเสนอแนวคิดและเทคนิคใหม่ๆ ของเขาไปด้วย แต่ถึงกระนั้นสิ่งที่เขาเสนอก็ไม่ได้รับการอนุมัติจากองค์การอนามัยโลก ซึ่งในตอนนั้นมอริสก็เป็นหนึ่งในผู้รับผิดชอบการพัฒนาแนวทางปฏิบัติในสหรัฐอเมริกานั่นเอง

ความแตกต่างในมุมมองและความไม่สอดคล้องกันของแนวคิดมักจะนำไปสู่ผลลัพธ์ดังกล่าว ซึ่งเป็นสิ่งที่เข้าใจได้

ดังนั้น ตลอดระยะเวลาที่โมลโดดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานการสอนและการวิจัยสาขาศัลยกรรมกระดูกที่ไฮเซนเบิร์ก เขาก็แทบไม่ได้ติดต่อหรือให้ความร่วมมือกับชาวยุโรปและสหรัฐอเมริกา ถึงขั้นเก็บแนวคิดต่างๆ ไว้กับตนเองเลยด้วยซ้ำ

ทว่าการลาออกของโมลโดและการประชุมสาขาศัลยกรรมกระดูกฉุกเฉินที่จะจัดขึ้นที่ประเทศจีนได้กระตุ้นให้โจนส์เกิดความคิดบางอย่างขึ้นมาในทันใด

เราดึงตัวมอริสมาได้แน่นอน!

เพราะว่าตอนนี้ตำแหน่งผู้อำนวยการสาขาศัลยกรรมกระดูกของโรงพยาบาลและมหาวิทยาลัยกำลังว่างอยู่ และจำเป็นที่จะต้องมีผู้เชี่ยวชาญระดับสูงมารับตำแหน่งนี้ ซึ่งมอริสก็ไม่ได้มีคุณสมบัติน้อยไปกว่าโมลโดเลย

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือโจนส์เชื่อว่าการลาออกของโมลโดไม่ใช่เรื่องเลวร้าย และยังมองว่ามันเป็นโอกาสในการพัฒนาสาขาศัลยกรรมกระดูกอีกด้วย

เราสามารถลองผสมผสานเทคโนโลยีศัลยกรรมกระดูกของเยอรมันเข้ากับแนวคิดจากประเทศในยุโรปตะวันตกและอเมริกา และสร้างองค์ความรู้ระดับสูงที่มาจากการบูรณาการข้อดีของทั้งสองฝั่งเข้าด้วยกัน

ตอนแรกโจนส์ไม่ได้โกรธที่โมลโดลาออกขนาดนั้น ทุกคนย่อมมีความทะเยอทะยานเป็นของตัวเอง แต่แล้วอาคามอสก็มาลาออกอีกคน นั่นทำให้เขาโกรธขึ้นมาทันที

คุณมองว่าไฮเซนเบิร์กเป็นแหล่งรวมผู้เชี่ยวชาญสินะ

โจนส์ไม่ได้โกรธพวกเขาสองคน แต่โกรธคนที่มีเจตนาดึงตัวพวกเขาไป

โจนส์จึงตีตั๋วไปแคลิฟอร์เนียเพื่อไปเชิญมอริสด้วยตนเอง พร้อมทั้งตัดสินใจนำความคิดของเขาไปพูดคุยกับอีกฝ่ายดู

อย่างไรเสียรากฐานและศักยภาพของไฮเซนเบิร์กย่อมนำไปเทียบชั้นกับวิทยาลัยทั่วไปไม่ได้ อีกทั้งวิทยาการสาขาศัลยกรรมกระดูกของเยอรมันยังโด่งดังไปทั่วโลกด้วย

เทคโนโลยีที่ซับซ้อนเป็นพิเศษและพัฒนาการด้านอุตสาหกรรมทำให้ไฮเซนเบิร์กพัฒนาวิทยาการด้านการศัลยกรรมกระดูกได้อย่างเหมาะสมยิ่งขึ้น

เมื่อถึงวันที่ 15 เมษายน โจนส์ก็จะแถลงข่าวสำคัญของวงการศัลยกรรมกระดูก พร้อมทั้งเชิญให้มอริสเข้ามารับตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสาขาศัลยกรรมกระดูกของมหาวิทยาลัยไฮเซนเบิร์ก โดยโจนส์เชื่อว่าวิธีการนี้จะช่วยดึงดูดผู้เชี่ยวชาญสาขาศัลยกรรมกระดูกจากทุกประเทศทั่วโลกได้เช่นกัน

เพราะสิ่งที่เขากำลังสื่อคือการผสมผสานระหว่างสองแนวคิดไปจนถึงการถือกำเนิดของเทคโนโลยีขั้นสูงในอนาคต

โจนส์จึงมั่นใจมาก!

นี่คือความมั่นใจของผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยระดับโลก!

ซึ่งไม่อาจแทนที่ได้ด้วยแนวคิดของ ‘ใครก็ได้’ จากประเทศจีนแต่อย่างใด

แต่…มันจะเป็นไปตามที่เขาคิดไว้จริงๆ หรือ