หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting - บทที่ 1203 เสริมแผ่นโลกา
เมื่อชายชราชุดขาวของเต๋าเก้ารัฐเอ่ยออกมา ทันใดนั้นผู้เยี่ยมยุทธ์จากแต่ละสำนักในจักรพิภพศักดิ์สิทธิ์แห่งเต๋าฝั่งซ้ายที่เพิ่งมาถึงก็พากันขมวดคิ้ว แต่ละคนลังเลไม่ก้าวเข้าไป
“หืม?” ชายชราชุดขาวหรี่ตาลงแล้วมองมา
เมื่อสายตาของเขากวาดผ่าน จักรพิภพจากเจ็ดแปดสำนักที่มาถึงเหล่านั้นก็ใจสั่นสะท้านตามๆ กัน เป็นเพราะการจับจ้องจากจอมพลังระดับจักรพิภพชั้นมหาวัฏจักรนั้นไม่ใช่สิ่งที่ใครๆ จะทนได้เลย
“ผู้อาวุโสสามเต๋า ไม่รู้ว่าปรมาจารย์เก้าเต๋าผู้สูงส่งออกจากด่านหรือยัง” ผู้ฝึกตนระดับจักรพิภพชั้นกลางสูงสุดคนหนึ่งในหมู่จักรพิภพจากแต่ละสำนักที่ถูกจับจ้องกัดฟันเอ่ยถาม
“สามารถออกมาได้ทุกเมื่อ!” ชายชราชุดขาวขมวดคิ้ว เมื่อเร็วๆ นี้จู่ๆ ก็มีข่าวลือไม่ดีเกี่ยวกับปรมาจารย์เต๋าเก้ารัฐของเขามากมาย กล่าวว่าปรมาจารย์เก้าเต๋าไม่ได้มีพลังต่อสู้ระดับจักรพรรดิสวรรค์ ทำให้เต๋าเก้ารัฐอารมณ์เสียมาก ทั้งยังหาที่มาของข่าวลือนี้ไม่พบ ตอนนี้เขาจึงสะบัดแขนเสื้อ ยกมือขวาขึ้นมา ในมือมีแผ่นหยกโบราณประณีตหนึ่งแผ่นปรากฏ เขาบีบมันเบาๆ ทันใดนั้น กระแสเต๋ามโหฬารก็แผ่กระจายออกมาทันที
กระแสเต๋านี้เกินกว่าจักรพิภพไปแล้ว มันคือระดับจักรวาล และเป็นระดับขั้นจักรพรรดิสวรรค์ เมื่อมันแผ่ออกมา แววตาชายชราชุดขาวก็เผยประกายแสงเฉียบคม
“พวกเจ้ายังไม่ไปทำลายส่วนที่ขาดหายอีก!”
ผู้ฝึกตนระดับจักรพิภพที่เอ่ยถามก่อนหน้านี้หน้าเปลี่ยนสี หน้าผากมีเหงื่อเย็นไหลออกมา
ระยะนี้มีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับปรมาจารย์เก้าเต๋าระดับจักรวาลผู้นั้นของเต๋าเก้ารัฐ บ้างก็บอกว่าปรมาจารย์เก้าเต๋าผู้นี้มรณภาพขณะนั่งสมาธิ บ้างก็ว่าอีกฝ่ายกลับมายังโลกเพื่อหลีกเลี่ยงการกลับชาติมาเกิด ดังนั้นจึงถูกสำนักแห่งความมืดสยบไว้ ทั้งยังมีที่บอกว่าอีกฝ่ายไม่อาจก้าวออกจากประตูภูเขาของเต๋าเก้ารัฐได้ เรื่องนี้แพร่กระจายไปทั่วจักรพิภพศักดิ์สิทธิ์แห่งเต๋าฝั่งซ้าย ทำให้จิตใจของสำนักทั้งหลายสั่นสะท้านรุนแรง
ถึงขั้นที่มีผู้เยี่ยมยุทธ์ไปทำนายความลับสวรรค์ แม้ว่าคำตอบที่ได้จะพร่าเลือน แต่ก็ชี้ไปที่เรื่องมรณภาพขณะนั่งสมาธิได้รางๆ แม้แต่ตอนนี้ ถึงกระแสเต๋าที่แผ่นหยกแผ่ออกมาจะเป็นระดับจักรวาลจริงๆ ก็ยังไม่แน่ใจเต็มร้อย แต่ก็ไม่กล้าเดิมพัน
ดังนั้นผู้ฝึกตนระดับจักรพิภพชั้นกลางคนนี้จึงรีบกัดฟันคำนับทันที
“รับบัญชา!” กล่าวพลางสายตาของเขาก็ฉายแววตัดสินใจ เมื่อมองไปยังระบบสุริยะก็มีจิตสังหารส่องวาบแล้วพุ่งออกไปเป็นคนแรก จักรพิภพแต่ละสำนักเหล่านั้นด้านหลังของเขาก็ไม่กล้าพูดมาก พากันพุ่งตามไป หนึ่งคณะเจ็ดคนเข้ามาใกล้ระบบสุริยะในพริบตา ก่อนจะก้าวเข้าไปยังจุดขาดแหว่งของแผ่นเลื่อนระดับโลกาซึ่งปกคลุมระบบสุริยะอยู่
เพิ่งจะเข้ามา เจ็ดคนนั้นก็ลงมือทันที พลังฝึกปรือระดับจักรพิภพระเบิดออกแล้วโจมตีกำแพงเกราะป้องกัน
ทันใดนั้น แผ่นเลื่อนระดับโลกาที่เลือนรางก็แจ่มชัดขึ้นมาจากความโปร่งใสอย่างช้าๆ ท่ามกลางการสั่นสะเทือนรุนแรงนั้น ทางฝั่งปรมาจารย์ซิงอี้และศิษย์พี่หญิงใหญ่ รวมถึงศิษย์พี่รองและเทพวัว แม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะถอยร่นอย่างต่อเนื่องจนไม่อาจขัดขวางไว้ได้ทั้งหมด แต่…ขณะที่ยังคงสกัดกั้นสำนักใหญ่ห้าอันดับแรกซึ่งรวมไปถึงเต๋าเก้ารัฐอยู่นั้น สำนักแต่ละแห่งก็ส่งผู้ฝึกตนหนึ่งหรือสองคนไปโจมตีเกราะป้องกันของแผ่นเลื่อนระดับโลกาของระบบสุริยะแล้ว
ส่วนคนที่เหลือไม่ได้เข้าไปใกล้
ภายในระบบสุริยะตอนนี้ แม้ว่าพลังฝึกตนผันผวนบนร่างของหวังเป่าเล่อจะเลื่อนจากห้าสิบกว่าขั้นจนใกล้ถึงเจ็ดสิบขั้นและมีพลานุภาพน่าตกตะลึงขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังไปไม่ถึงทั้งหมด
หวังเป่าเล่อถอนหายใจ
แผ่นเลื่อนระดับโลกาไม่สมบูรณ์แบบ ขาดไปมุมหนึ่ง ถ้าหากหวังเป่าเล่อเพียงแค่เลื่อนระดับเป็นจักรพิภพปกติ การที่แผ่นเลื่อนระดับโลกาผสานเข้าสู่สหพันธรัฐย่อมเพียงพอจะหนุนนำการทะลวงของเขาได้อยู่แล้ว ถึงขั้นที่ยังไม่ต้องพูดถึงตัวเขาแค่คนเดียว ต่อให้เพิ่มขึ้นคนมากกว่านี้ก็ยังเพียงพอ
แต่การเลื่อนระดับของเขาครั้งนี้มีสิ่งที่จำเป็นต้องใช้มากนัก เทียบได้กับหนึ่งร้อยเท่าของจักรพิภพธรรมดา ดังนั้นมุมที่ขาดไปมุมนี้จึงสำคัญมาก หวังเป่าเล่อก็ไม่มั่นใจว่าเขาจะทำสำเร็จด้วย
ดังนั้นเขาจึงไม่กลัวที่จะเปิดเผยการเลื่อนขั้นขึ้นสูงของตนออกมาภายใต้สายตาจับจ้องของทุกคน สิ่งที่เขาต้องการก็คือดึงดูดความสนใจของผู้คน เขาต้องทำให้สำนักและตระกูลทั้งหลายของจักรพิภพศักดิ์สิทธิ์แห่งเต๋าฝั่งซ้ายเกิดความรู้สึกถึงวิกฤตอันตราย ไม่ว่าจะเพื่อแผ่นเลื่อนระดับโลกา หรือเพื่อขัดขวางตัวของเขาก็ตาม ขอเพียงที่พวกเขามา ขอเพียงพวกเขาก้าวเข้ามาในแผ่นเลื่อนระดับโลกาเท่านั้น…
หวังเป่าเล่อก็จะมีความมั่นใจว่าจะยืมพลังชีวิตของพวกเขามาทำให้แผ่นเลื่อนระดับโลกาเข้าใกล้ความสมบูรณ์แบบอย่างไร้ขีดจำกัดในช่วงสั้นๆ และทำให้ส่วนที่ขาดไประหว่างการเลื่อนระดับถูกเสริมเข้ามาได้
นี่คือแผนแรกเริ่มของหวังเป่าเล่อหลังจากกลับมายังสหพันธรัฐและศึกษาทำความเข้าใจแผ่นเลื่อนระดับโลกานี้แล้ว เพราะเขาได้พบว่าแผ่นเลื่อนระดับโลกานี้…แฝงไว้ซึ่งวิชาเคลื่อนจักรวาล ขณะเดียวกัน เนื่องจากมันมีส่วนที่ขาดแหว่งอยู่ ดังนั้นทันทีที่ใช้งานมัน…ส่วนขาดแหว่งก็จะเป็นจุดที่ร้ายกาจที่สุดจริงๆ!
เพียงแต่ศิษย์พี่หญิงใหญ่ ศิษย์พี่รอง และเทพวัว รวมไปถึงประมุขซิงอี้ แม้ไม่ได้ตั้งใจจะเผยจุดอ่อนทั้งยังไร้พลังขัดขวางจริงๆ แต่…เต๋าเก้ารัฐและสำนักใหญ่อีกสี่สำนักที่เหลือกลับไม่เสี่ยง ยังคงระมัดระวัง สั่งให้จักรพิภพของสำนักอื่นๆ เข้ามาตรวจสอบก่อน
แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานจนเริ่มระแคะระคาย ความพยายามก่อนหน้านี้ของตนก็ต้องสูญเปล่าแล้ว ยังมีอีกเรื่อง ตอนนี้หวังเป่าเล่อสามารถคาดเดาได้ว่าแผ่นเลื่อนระดับโลกาที่ไม่สมบูรณ์นี้ มากที่สุดก็หนุนนำให้ตนไปถึงระดับเจ็บสิบขั้นเท่านั้น ถึงอย่างไรระหว่างความสมบูรณ์และความไม่สมบูรณ์ สิ่งที่ขาดไปนั้นไม่ใช่แค่ส่วนแหว่งหายไปส่วนเดียว แต่เป็นการเสริมพลังรอบด้านหลังจากรวมเป็นหนึ่งโดยสมบูรณ์ต่างหาก
“เป็นข้าที่คิดง่ายไป ต่อให้อาจารย์ไม่มา ก็เกรงว่าคนพวกนี้คงไม่ยอมเสี่ยง ผลสุดท้ายก็ยังคงเป็นเช่นนี้…” หวังเป่าเล่อลอบถอนหายใจ รู้สึกเสียใจเล็กน้อย มุมขาดหายตอนนี้มีแค่จักรพิภพเจ็ดคนเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ของแผ่นเลื่อนระดับโลกาก็มีอยู่แค่หกคน
พอรวมกันแล้วก็มีจักรพิภพอยู่สิบสามคน นอกจากชั้นกลางสูงสุดคนหนึ่งแล้ว คนที่เหลือล้วนเป็นชั้นต้น
“ถ้าหากมีเพิ่มอีกสิบคน…” หวังเป่าเล่อหรี่ตา ตอนนี้เอง ปราการที่จุดขาดแหว่งก็เกิดเสียงสะเทือนเลื่อนลั่น จักรพิภพเจ็ดคนในนั้นลงมือเต็มกำลัง เมื่อเห็นปราการกำลังจะถูกทำลาย ผู้ฝึกตนระดับจักรพิภพชั้นกลางคนเดียวในนั้นก็บังเกิดความประหลาดใจขึ้นในดวงตา จากนั้นคล้ายจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างจึงหน้าเปลี่ยนสี ร่างกายถอยหลังกลับทันที
แต่ขณะที่เขาสังเกตเห็นบางอย่างและกำลังถอยกลับนั้น ภายในดวงตาของหวังเป่าเล่อพลันมีประกายแสงเย็นเยียบส่องวาบ เขาไม่ลังเลอีก แต่ยกมือขวาขึ้นชี้ไปทันที!
“หัน!”
หนึ่งคำถูกเอ่ยออกไป ทันใดนั้นแผ่นเลื่อนระดับโลกาขนาดมหึมาที่ปกคลุมทั่วทั้งระบบสุริยะก็พลิกหมุน ขณะที่พลิกหมุนอยู่นั้น จิตเคลื่อนจักรวาลสายหนึ่งก็ระเบิดออกมาทันที ชายชราชุดขาวของเต๋าเก้ารัฐด้านนอกและผู้อาวุโสระดับจักรพิภพชั้นปลายของอีกสี่สำนักพากันหน้าเปลี่ยนสีแล้วผุดลุกขึ้น สีหน้าท่าทางของจักรพิภพคนอื่นๆ ก็เคลื่อนไหวด้วยเช่นกัน…
ตอนนี้ร่างกายของจักรพิภพชั้นต้นหกคนที่มาจากห้าสำนักของพวกเขาพร่าเลือนในพริบตา ไม่มีพลังจะหลุดพ้นหรือต่อต้านได้เลยแม้แต่น้อย จากนั้นก็หายตัวไปทันที เมื่อปรากฏตัวขึ้น…พวกเขาก็ล้วนถูกส่งไปยังมุมที่ขาดไปแล้ว!
“มีกลโกงจริงๆ ด้วย!”
“สมควรตาย!!”
ทันใดนั้นก็มีเสียงคำรามต่ำดังออกมาจากสำนักทั้งห้ารวมไปถึงเต๋าเก้ารัฐ ตอนนี้ผู้ฝึกตนหกคนที่ถูกส่งไปยังจุดขาดแหว่งหน้าเปลี่ยนสี ระเบิดพลังฝึกตนออกมาพร้อมกับผู้ฝึกตนจักรพิภพชั้นกลางเพียงผู้เดียวคนนั้น หลบหนีออกจากที่นี่
แต่ในพริบตาต่อมา
“ผนึก!”
แววตาของหวังเป่าเล่อที่นั่งขัดสมาธิอยู่ในดวงอาทิตย์ดารานิรันดร์ก็ฉายแววโหดเหี้ยม ขณะที่เอ่ยเสียงราบเรียบ จุดขาดแหว่งของแผ่นเลื่อนระดับโลกาก็มีพลังผนึกสะเทือนฟ้าปรากฏขึ้นทันที มันตรงไปผนึกตายตำแหน่งทุกจุด ทำให้ผู้ฝึกตนที่อยู่ในนั้นไม่อาจพุ่งออกมาได้ใน
“หวังเป่าเล่อ!” พริบตาที่เสียงตะโกนลั่นดังออกมาจากภายในและภายนอกจุดขาดแหว่งตามๆ กันนั้น ชายชราชุดขาวของเต๋าเก้ารัฐและผู้อาวุโสระดับจักรพิภพชั้นปลายของสี่สำนักก็พุ่งออกมาพร้อมกัน แต่พริบตาที่พวกเขาพุ่งออกมา อวกาศทะเลเพลิงก็พุ่งเข้ามากะทันหันแล้วปกคลุมทั่วทั้งแปดทิศ เงาร่างของปรมาจารย์แห่งไฟก้าวเดินออกมาจากความว่างเปล่า
เขาโบกมือขัดขวางทั้งห้าคนเอาไว้โดยตรง
“เพลิงกัลป์ เจ้ากล้า! ปรมาจารย์เก้าเต๋าของข้าจะต้องมาจัดการเจ้าแน่!” ดวงตาของชายชราชุดขาวของเต๋าเก้ารัฐเปล่งประกายเย็นเยียบแล้วตะโกนเสียงต่ำ
“จัดการหรือ อาศัยวงแหวนเต๋าของสำนักเจ้าก็บรรลุถึงระดับจักรวาลแค่เดี๋ยวเดียวเท่านั้น เขากล้าออกมาหรือไม่ แสร้งทำเป็นมีพลังต่อสู้ระดับจักรพรรดิสวรรค์อะไรกัน พลังต่อสู้ระดับจักรพรรดิสวรรค์ของจักรพิภพศักดิ์สิทธิ์แห่งเต๋าฝั่งซ้ายมีแค่ท่านปู่ของเจ้าอย่างข้าคนเดียวเท่านั้น ครั้งก่อนก็ขู่ปู่ไปแล้ว ครั้งนี้เจ้ายังคิดจะมาขู่ปู่ของเจ้าอีกหรือ” ปรมาจารย์แห่งไฟยิ้มเย็น แอบคิดว่าถ้าข่มขู่ตัวเขาอีก เขาก็จะกระจายข่าวลือให้แพร่หนักยิ่งกว่าเดิม
ช่วงนี้ข่าวลือเกี่ยวกับปรมาจารย์เต๋าเก้ารัฐของจักรพิภพศักดิ์สิทธิ์แห่งเต๋าฝั่งซ้ายนั้น ย่อมเป็นเขาที่สร้างขึ้น…..
ขณะเดียวกัน ระหว่างที่ปรมาจารย์แห่งไฟและผู้อาวุโสห้าสำนักประมือกันนั้น แววตาของหวังเป่าเล่อก็เยือกเย็น แล้วเอ่ยขึ้นอีกครั้ง!
“สังเวย!”
ทันทีที่เอ่ยออกมา ทันใดนั้นก็เกิดแรงดึงดูดมหาศาลระเบิดออกมากะทันหันจากกลางแผ่นเลื่อนระดับโลกาภายในระบบสุริยะ เนื่องจากจุดอื่นๆ ล้วนเต็มหมดแล้ว ดังนั้นเมื่อมันระเบิดออกมา จุดขาดแหว่งจึงกลายเป็นเป้าหมายทันที
ครั้นที่นี่ถูกผนึกไว้คล้ายเป็นผนึกตาย ทันใดนั้นผู้เยี่ยมยุทธ์จักรพิภพสิบสามคนในนั้นก็มีสีหน้าบ้าคลั่งอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ต้องการจะกระแทกออกไปอย่างบ้าคลั่ง แต่เห็นได้ชัดว่าทำไม่ได้!
พริบตาต่อมา ร่างกายของสิบสามคนนี้ก็สั่นสะท้าน ยอดหัวกะโหลกของพวกเขา ทวารทั้งเจ็ดของพวกเขา เลือดเนื้อทุกตารางนิ้วทั่วร่างของพวกเขา กระดูกทุกชิ้นภายในร่าง แม้แต่ทุกตารางนิ้วของดวงวิญญาณเทพล้วนมีกลิ่นอายแห่งสารัตถะ ระเบิดออกมาด้วยตัวเองภายใต้แรงดึงดูดนี้ ก่อนกลายเป็นเกลียวหมอกสีขาวพุ่งทะยานไปยังเส้นขอบของแผ่นเลื่อนระดับโลการอบด้าน!
การดูดซึมเช่นนี้ทั้งบังคับและเผด็จการ ดังนั้นขณะที่สารัตถะของทุกคนถูกดูดออกไปก็มาพร้อมกับความเจ็บปวดรุนแรงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้ผู้ฝึกตนทั้งสิบสามคนนี้ส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนออกมา
ร่างกายของพวกเขาแห้งเหี่ยวแบบที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า วิญญาณเทพของพวกเขากำลังโปร่งใส พลังชีวิต พลังฝึกตน ไปจนถึงร่องรอยของการดำรงอยู่ทั้งหมดของพวกเขาล้วนถูกแรงดึงดูดจากแผ่นเลื่อนระดับโลกา…ดูดออกไปในตอนนี้เอง!
ขณะที่ดูดซับไปอยู่นั้น แม้ว่าจุดที่ขาดแหว่งไปของแผ่นเลื่อนระดับโลกาจะไม่ได้สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง แต่กลับมีเส้นเลือนรางปรากฏอยู่ มันขดพันผสานเข้าด้วยกัน ทำให้แผ่นเลื่อนระดับโลกานี้เคลื่อนไปสู่ความสมบูรณ์แบบอย่างเลือนรางพร้อมทั้งแผ่กระจายต่อไปไม่หยุดยั้ง
ส่วนพลังฝึกปรือในตอนนี้หวังเป่าเล่อก็ระเบิดพรวดพราดทันใดตามการดูดซับ และความสมบูรณ์ที่เพิ่มขึ้นทีละน้อยๆ ของแผ่นเลื่อนระดับโลกา!
เจ็ดสิบขั้น เจ็ดสิบห้าขั้น แปดสิบขั้น แปดสิบห้าขั้น…เก้าสิบขั้น
ผมของเขาปลิวไสวราวกับกลายเป็นสายธารดวงดารา วิญญาณเทพของเขาเผยตัวออกมาราวกับยักษ์ และคล้ายสะท้อนก้องกังวานไปกับมหาเต๋า กายเนื้อของเขาเคลื่อนไหวคล้ายกำลังสะท้อนไปกับอวกาศ จนกระทั่ง…พลังฝึกปรือของเขาก็มาถึงเก้าสิบห้าขั้นของดารานิรันดร์ชั้นมหาวัฏจักรแล้ว!
………………………………..