หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting - บทที่ 745 ดวงเนตรสวรรค์! ดวงเนตรปีศาจ!
- Home
- หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting
- บทที่ 745 ดวงเนตรสวรรค์! ดวงเนตรปีศาจ!
บทที่ 745 ดวงเนตรสวรรค์! ดวงเนตรปีศาจ!
หวังเป่าเล่อเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง ตอนนั้นเองชายหนุ่มก็สังเกตเห็นว่า กลุ่มที่เข้าร่วมการปล้นร้อยละเจ็ดสิบเป็นศิษย์ที่หวังจะเก็บทรัพยากรมาเพื่อใช้เป็นการส่วนตัว!
ส่วนที่เหลือก็เป็นผู้ฝึกตนที่ไม่ได้ทำประโยชน์ให้สำนักสักเท่าใด ไม่ก็เป็นผู้ฝึกตนฝีมือดาษๆ ทั่วไป พวกเขาเป็นพวกที่สำนักไม่จำเป็นต้องเลี้ยงเอาไว้ การที่คนเหล่านี้ขึ้นมาอยู่ที่นี่ด้วยทำให้หวังเป่าเล่อค่อนข้างประหลาดใจ
แต่ชายหนุ่มก็กำลังจะออกจากที่นี่ในไม่ช้า เขาจึงไม่ใคร่ใส่ใจนัก ความสนใจของหวังเป่าเล่อทั้งหมดตอนนี้อยู่ที่การเตรียมตัวเมื่อจะต้องเร้นกายออกไป ชายหนุ่มต้องการหลีกเลี่ยงการถูกพบให้ได้มากที่สุด
เรือบินรบสำนักเกลียวคลื่นสวรรค์ออกเดินทางด้วยความเร็วอันน่าตื่นตะลึง เสียงของเครื่องยนต์ดังครั่นครืนอยู่ในอากาศขณะที่ตัวเรือบินพุ่งทะยานออกไปสู่ชั้นบรรยากาศ เรือบินรบลอยละล่องผ่านแนวอากาศออกไปราวกับมีเสียงอสูรน่าสะพรึงกลัวร้องคำรนตามหลังมาด้วย ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงก็ผ่านทะลุชั้นบรรยากาศอันหนาทึบขึ้นมาอยู่ในอวกาศ!
ดวงตาของหวังเป่าเล่อหรี่ลงเล็กน้อย ชายหนุ่มเห็นดาวเอกดวงเนตรสวรรค์ลอยคว้างอยู่ในอวกาศ มีเรือบินรบนับร้อยลำของสำนักใหญ่ทั้งสามลอยอ้อยอิ่งอยู่รอบๆ แต่ละลำปล่อยรัศมีรุนแรงออกมา เรือบินรบเหล่านี้คือเรือบินที่ปิดกั้นทางเข้าออกของดวงดาวเอาไว้ ด้านหลังแนวเรือบินรบมี…ดาวหางขนาดมหึมาล่องลอยอยู่!
หากจะพูดให้ชัด สิ่งนั้นคือป้อมปราการที่หลอมขึ้นมาจากดาวหาง!
ป้อมปราการนั้นไม่ได้ลอยอยู่เองในอวกาศ หากแต่กำลังถูกแมงกะพรุนสีรุ้งขนาดยักษ์ลาก!
แมงกะพรุนส่องแสงเรืองรองและแผ่รัศมีพลังปราณขั้นเชื่อมวิญญาณชั้นสมบูรณ์ คลื่นพลังกระเพื่อมออกมาครอบคลุมบริเวณโดยรอบแมงกะพรุนเอาไว้สิ้น หากจ้องมองดูดีๆ ก็จะเห็นร่างร่างหนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่ภายในตัวแมงกะพรุนนั้น ร่างนั้นไม่มีพลังวิญญาณแผ่ออกมา แม้กระนั้น ร่างของเขาก็ยังส่งความสะพรึงกลัวเข้าไปจับจิตใจของใครๆ ที่ได้เห็น
เขาก็คือ…ผู้ฝึกตนขั้นจิตวิญญาณอมตะนั่นเอง!
เรือบินรบที่ผ่านเข้าออกดวงดาวถูกแบ่งออกเป็นสองแนว พวกมันเหาะผ่านแมงกะพรุนสีรุ้งไปอย่างเป็นระเบียบ ขณะที่เรือบินรบเหาะผ่านไป แมงกะพรุนจะส่องลำแสงออกมากวาดผ่านเรือบินรบเหล่านั้น หากการตรวจสอบนั้นไม่พบสิ่งแปลกปลอม เรือบินรบก็จะผ่านไปได้ตามปกติ
ความวิตกกังวลของหวังเป่าเล่อเพิ่มขึ้นทันทีที่ได้เห็นดังนั้น ชายหนุ่มจ้องมองภาพนั้นอย่างตั้งอกตั้งใจ ก่อนจะค่อยๆ ผ่อนคลายลง
“ไม่เป็นไรหรอก!” หวังเป่าเล่อพึมพำกับตนเอง ก่อนจะลอบมองไปยังคนอื่นๆ รอบกาย แล้วจึงรู้ว่าเขาไม่ใช่คนเดียวที่กังวล ผู้อาวุโสคนอื่นๆ ก็ดูไม่ต่างกัน ขนาดผู้อาวุโสสูงสุดยังเงียบขรึมเป็นพิเศษ
กริยาของคนเหล่านี้ไม่ได้มาจากความรู้สึกผิด หากแต่เป็นการตอบสนองตามธรรมชาติ เป็นความกลัวและความเคารพยำเกรงต่อพลังอันมหาศาลที่ออกมาจากร่างของผู้ฝึกตนขั้นจิตวิญญาณอมตะ
ความเงียบเข้าปกคลุมเรือบินรบสำนักเกลียวคลื่นสวรรค์ขณะที่มันต่อแถวเพื่อรอออกจากดวงดาว พวกเขาต้องเฝ้ารอถึงสองชั่วโมงกว่าที่จะได้รับการตรวจสอบ เรือบินรบเหาะเข้าไปใกล้แมงกะพรุนอย่างช้าๆ ขณะที่แสงสีรุ้งวาบผ่านเรือบินรบ หวังเป่าเล่อก็สัมผัสได้ถึงตัวตนของวิญญาณอันทรงพลังที่เข้าล้อมรอบกายเขาเอาไว้
ราวกับว่าการป้องกันทั้งหมดทั้งในความคิดและกระเป๋าคลังเก็บของชายหนุ่มถูกปลดทิ้ง ทุกๆ ความคิดและสิ่งของทุกชิ้นต่างถูกเผยให้ตัวตนวิญญาณได้รับรู้
ตอนนั้นเอง กระบวนท่าสารัตถะของหวังเป่าเล่อก็เริ่มทำงานขึ้นมาอย่างน่าฉงน กระบวนท่านี้เป็นของขวัญจากศิษย์พี่ บุรุษผู้นี้เป็นราชันสวรรค์ลำดับแรกของตระกูลไม่รู้สิ้น ผู้ที่ตำนานกล่าวไว้ว่าเป็นคนสังหารจักพรรดิสวรรค์ กระบวนท่าสารัตถะสร้างร่างมายาที่สามารถหลอกตาตัวตนวิญญาณนั้นได้ ทำให้มันมองเห็นเพียงสิ่งที่หวังเป่าเล่อต้องการให้เห็นเท่านั้น
หวังเป่าเล่อเป็นผู้ฝึกตนที่ทรงพลัง แต่ก็ยังไม่บรรลุถึงขั้นเชื่อมวิญญาณ การล่อหลอกนี้ได้ผลเพียงเพราะผู้ฝึกตนขั้นจิตวิญญาณอมตะผู้นี้ตรวจสอบเพียงคร่าวๆ เท่านั้น หากการตรวจสอบละเอียดกว่านี้ หวังเป่าเล่อก็ไม่มั่นใจนักว่าเขาจะผ่านมาได้โดยไร้ปัญหา
การตรวจสอบใช้เวลาทั้งสิ้นราวๆ สิบกว่าวินาทีเท่านั้น จากนั้นพวกเขาก็ได้รับสัญญาณว่าให้ผ่านไปได้ เสียงถอนหายใจอย่างโล่งอกดังออกมาพร้อมๆ กัน ผู้อาวุโสสูงสุดขยับเรือบินรบออกห่างจากแมงกะพรุนอย่างช้าๆ เรือบินรบค่อยๆ เคลื่อนที่เร็วขึ้น และไม่นานนักมันก็เริ่มมุ่งหน้าออกสู่ห้วงอวกาศ!
ข้าต้องอดทนเอาไว้ เรายังอยู่ในระยะสัมผัสสวรรค์ของผู้ฝึกตนขั้นจิตวิญญาณอมตะ ยังมีภยันตรายซุกซ่อนอยู่ภายในอารยธรรมดวงเนตรสวรรค์ คงจะเป็นการดีที่สุดหากข้าลงมือเมื่อเราออกพ้นระบบดาวเคราะห์ดวงเนตรสวรรค์ไปแล้ว…หวังเป่าเล่อมีท่าทีเหมือนดังเคย แต่ในศีรษะขณะนี้กำลังหมุนวนกับการหาทางหนีทีไล่ ชายหนุ่มตัดสินใจปลอดภัยไว้ก่อน เขาจะรอให้เรือบินรบออกนอกระบบดาวเคราะห์ดวงเนตรสวรรค์จึงค่อยหาทางหลบหนี
ประสาทอันเขม็งเกลียวของหวังเป่าเล่อค่อยผ่อนคลายลงเมื่อพวกเขาทิ้งดาวเอกดวงเนตรสวรรค์ไว้เบื้องหลัง ชายหนุ่มคิดไปถึงสีหน้าของอาจารย์ปู่และต้วนมู่ฉีเมื่อเขาเดินทางกลับไปถึงสหพันธรัฐ ความคิดนั้นทำเอาเขาตัวสั่นเทาด้วยความตื่นเต้น
ไม่มีสิ่งใดในโลกที่จะหยุดยั้งข้าจากการขึ้นเป็นผู้นำแห่งสหพันธรัฐได้! หวังเป่าเล่อคิดอย่างตื่นเต้นก่อนที่อะไรบางอย่างจะหันเหความสนใจของเขาไป เส้นทางที่เรือบินรบกำลังมุ่งหน้าไปนั้นผิดปกติ ตำแหน่งของดวงดาวผิดเพี้ยนไปจากที่ชายหนุ่มจำได้จากบนแผนที่ดวงดาว
เรือบินรบไม่ได้กำลังมุ่งหน้าออกจากระบบดาวเคราะห์ดวงเนตรสวรรค์ หากแต่กำลังเหาะตรงไปยัง…ดวงดาวที่อยู่ตรงจุดศูนย์กลางของระบบดาวเคราะห์!
การค้นพบนี้ทำเอาหวังเป่าเล่อตะลึง และเขาก็ไม่ใช่คนเดียว ความตื่นตะลึงปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผู้อาวุโสและผู้ฝึกตนแทบทุกคนที่อยู่บนเรือบินรบ พวกเขาหันหน้าไปหาผู้อาวุโสสูงสุดที่กำลังกุมบังเหียนเรือบินรบอยู่ในขณะนี้
ผู้อาวุโสคนหนึ่งกำลังจะเปิดปากถามเมื่อผู้อาวุโสสูงสุดยกนิ้วมือประสานกันเป็นผนึกฝ่ามือ ก่อนจะซัดลงไปบนแผงควบคุมอย่างรุนแรง พลังปราณของเขาปะทุขึ้นมาจากร่าง ส่งให้เรือบินรบพุ่งทะยานออกไปด้วยความเร็วสูงสุด เสียงสนั่นครั่นครืนดังสะท้านขึ้นทั่วอวกาศเมื่อเรือบินรบพุ่งเข้าหาดารานิรันดร์ด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง!
เรือบินรบตรงไปยังดารานิรันดร์อย่างรวดเร็ว!
เรือบินรบขณะนี้ดูราวกับว่ากำลังเดินทางด้วยความเร็วแสง มันทำให้แสงบิดเบี้ยวและหักเหขณะที่พุ่งทะยานผ่านอวกาศไป!
สีหน้าของหวังเป่าเล่อตื่นตระหนกถึงขีดสุด ประกายมืดดำปรากฏวาบขึ้นในดวงตา ชายหนุ่มไม่รู้เลยว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น แต่เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เรื่องดีแน่ เขาหรี่ตาลง เตรียมตัวที่จะต้องต่อสู้ฝ่าหนีออกไปจากเรือบินรบ ขณะที่มันเข้าใกล้ดารานิรันดร์ด้วยความเร็วสูง ทว่าในตอนนั้นเอง…นัยน์ตาของชายหนุ่มก็เบิกโพลง
วิชาดวงเนตรปีศาจที่หลับใหลอยู่ในกายเขา…ได้ตื่นขึ้นมาเองในวินาทีนั้น มันหมุนวนอย่างบ้าคลั่งและรุนแรงราวกับเป็นอสูรที่ดุร้าย ก่อนจะแผ่รัศมีแห่งความคลุ้มคลั่ง…และหิวโหยออกมา!
อากาศด้านหลังหวังเป่าเล่อเริ่มบิดเบี้ยว ดวงตาปีศาจค่อยๆ ก่อตัวขึ้นมา หวังเป่าเล่อไม่ทันได้ตั้งตัว ชายหนุ่มรีบปิดผนึกดวงตาปีศาจเอาไว้ก่อนที่มันจะได้โผล่ออกมา แต่วิชาดวงเนตรปีศาจก็ยังหมุนวนอยู่ภายใน
เกิดอะไรขึ้นกับ ข้าถูกจับได้เช่นนั้นหรือ ลมหายใจของหวังเป่าเล่อขาดห้วงเพราะความตื่นตระหนกภายในใจ
เขาสัมผัสได้ถึงความหิวโหยของวิชาดวงเนตรปีศาจที่ทวีความรุนแรงขึ้นขณะที่เรือบินรบเข้าใกล้ดารานิรันดร์ ความหิวโหยนั้นเริ่มเข้าเกาะกุมหวังเป่าเล่อ ชายหนุ่มสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างในดารานิรันดร์…ที่กำลังเพรียกหาเขา
มันราวกับเป็นน้ำเสียงของมารดาที่เรียกหาบุตร เด็กน้อยที่หลงทางทุกคนย่อมต้องยอมโอนอ่อนต่อเสียงเรียกและกลับคืนสู่อ้อมอกของมารดา!
ข้าไม่ได้ถูกจับได้ นี่มันสิ่งอื่น…หวังเป่าเล่อคิดแล้วตัวสั่น ความคิดอันพิลึกพิลั่นก่อตัวขึ้นในใจ ในวินาทีเดียวกันนั้น…ดารานิรันดร์ขนาดใหญ่ยักษ์เกินบรรยายซึ่งอยู่ตรงหน้าเรือบินรบที่กำลังมุ่งตรงเข้าหาก็ส่งคลื่นเพลิงและพลังงานออกมาระลอกหนึ่ง!
มีรอยแยกร้าวเล็กปรากฏขึ้นบนดารานิรันดร์ ก่อนจะค่อยๆ ขยายกว้างขึ้นและลึกขึ้น ในชั่วเวลาไม่กี่วินาที รอยแยกนั้นก็ลามไปจนถึงอีกฟากของดารานิรันดร์ จากนั้น…รอยแยกนั้นก็เปิดขึ้นราวกับเป็นเปลือกตา!
จักรวาลสั่นสะท้านเลื่อนลั่น ผู้ฝึกตนบนเรือบินรบทุกคนต่างก็ได้ยินเสียงอื้ออึงในหัว พวกเขาจ้องมองไปยังดวงตาขนาดเท่าดารานิรันดร์…ด้วยความมึนงง!
รูม่านตาของดวงตาเป็นสีเทาไร้ดูเยือกเย็นซึ่งอารมณ์ขณะเปล่งรัศมีอันทรงพลังออกมา ราวกับเป็นเทพยดาที่มองลงมายังเหล่ามนุษย์ปุถุชน ดวงตานั้นมองลงมายังเรือบินรบที่เคลื่อนเข้าไปหา ซึ่งดูเล็กจ้อยราวกับเป็นมดปลวกเมื่อเทียบกัน
ทุกคนบนเรือบินรบต่างก็ตื่นตะลึงไปตามๆ กัน ไม่มีใครสังเกตเห็นร่างที่สั่นเทิ้มของหวังเป่าเล่อหรือดวงตาปีศาจที่ดิ้นขลุกขลักอยู่ภายในกายชายหนุ่ม วิชาดวงเนตรปีศาจขณะนี้ตื่นเต็มที่แล้วและกำลังดิ้นเร่าๆ อย่างรุนแรง แม้กระทั่งสิ่งนี้ก็ยังไม่เทียบเท่าความตกตะลึงที่หวังเป่าเล่อกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้!
ไม่มีทางที่ชายหนุ่มจะเย็นใจอยู่ได้ ดวงตาที่แปรสภาพมาจากดารานิรันดร์นั้น…ดูไปแล้วก็แทบจะเหมือนกับ…ดวงตาปีศาจซึ่งปรากฏขึ้นทุกคราที่เขาเรียกใช้วิชาดวงเนตรปีศาจเลยทีเดียว!
อารยธรรมดวงเนตรสวรรค์…และวิชาดวงเนตรปีศาจ…หัวใจของหวังเป่าเล่อเต้นโครมครามอยู่ในอก ในอึดใจต่อมา เรือบินรบก็ถูกแรงดึงดูดของดารานิรันดร์ดึงให้เข้าไปหาอย่างรุนแรง มันเริ่มเบนหัวและเคลื่อนไปยังดารานิรันดร์อย่างรวดเร็ว!