หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler - ตอนที่ 1153
หนึ่งในใต้หล้า 大主宰
บทที่ 1153 สัมผัส
เหนือทะเลสาบสวรรค์
ความปั่นป่วนยังคงดำเนินต่อไป ขณะที่ใบหน้าของจาโหลหลัวน่าเกลียดขึ้นทีละน้อย สายตาที่จับจ้องมาโดยรอบทำเอาหางตาเขากระตุกไม่หยุด
เขาไม่คิดว่าการเผชิญหน้ากับแผนการของเขา ไม่เพียงแต่มู่เฉินจะทำลายลงในพริบตา ยังทำให้เขาวุ่นวายตามไปอีกด้วย
จักรวรรดิปีศาจต่างมิติและมหาพันภพเป็นศัตรูคู่อาฆาตตั้งแต่โบราณกาล ดังนั้นความไม่พอใจใดๆ จะถือว่าเล็กน้อยต่อหน้าภัยอันตรายทำลายล้างเช่นนั้น
ดังนั้นอะไรที่เกี่ยวข้องกับเผ่าปีศาจสักเผ่าจะถือว่าเป็นศัตรูของทุกผู้ทุกนามในมหาพันภพ
แน่นอนว่าคำพูดของมู่เฉินไม่อาจผลักจาโหลหลัวไปยังจุดนั้นได้ แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้เขารู้สึกแย่มาก
“สมน้ำหน้า!” เมื่อจิ่วโยวเห็นสีหน้าจาโหลหลัวดิ่งลง นางก็รู้สึกสะใจจนอดหัวเราะออกมาไม่ได้
ทว่าแม้จาโหลหลัวจะรู้สึกหน้าม้านไป แต่ความไม่ธรรมดาทำให้เขาฟื้นสติได้อย่างรวดเร็ว เขาไม่สนใจสายตาเยาะเย้ยที่กวาดมาหาขณะจ้องหน้ามู่เฉินอย่างลึกซึ้ง “ลิ้นของพี่มู่บาดลึกยิ่งนัก แต่ไม่รู้ว่าความสามารถเจ้าจะเฉียบคมเท่ากับลิ้นไหม?”
แม้ว่าน้ำเสียงจะนิ่งสงบ แต่ใครๆ ก็สามารถสัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าที่ซ่อนอยู่ในคำพูดอันเย็นเยือก
“งั้นก็ต้องมาลองด้วยตัวเองดู” มู่เฉินยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ
สองสายตาจ้องกันด้วยความเย็นชาฟาดฟันกันเปรี้ยงปร้าง รอบตัวพวกเขาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่น่าทึ่ง ทำให้จอมยุทธ์โดยรอบตกใจ เห็นได้ชัดว่าพวกเขางงงวยว่าทำไมทั้งสองคนถึงมีความเป็นศัตรูกันอย่างลึกซึ้งระหว่างกันขนาดนั้น
“เฮ้ หนุ่มๆ ถ้าอยากสู้กันก็ออกไปข้างนอก อย่ารบกวนการชำระล้างของพวกเรา” เมื่อสายธนูถูกดึงจนตึงระหว่างทั้งสอง เสียงกระหยิ่มเกียจคร้านดังมาแต่ไกล ทุกคนมองไปที่ซูชิงหยิงที่กำลังมองมู่เฉินและจาโหลหลัวอยู่ด้วยความเบื่อหน่าย แม้ว่าทั้งคู่จะเต็มไปด้วยจิตสังหาร แต่นางก็บอกได้ว่าพวกเขาไม่คิดจะต่อสู้กันที่นี่
ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงของซูชิงหยิง จาโหลหลัวก็ถอนจิตสังหารและยิ้ม “ดูเหมือนว่าเราต้องเลื่อนเวลาออกไปอีกหน่อย”
มู่เฉินพยักหน้า “ยินดีต้อนรับทุกเมื่อ”
เมื่อเห็นว่าทั้งสองถอยออกจากกันจริงๆ ซูชิงหยิงก็เบ้ปากก่อนจะยืดเอวพลางควบคุมเรือที่ใต้ฝ่าเท้า ทันใดนั้นเกลียวแสงมันวาวไร้ขอบเขตก็กวาดออกพร้อมกับก้อนอัญมณีจิตทะเลสาบสวรรค์บินฉวัดเฉวียนไปบนท้องฟ้า
ความผันผวนของคลื่นหลิงที่ทรงพลังเกินกว่าทุกคนถูกกวาดออกไป ทำให้กระทั่งสีหน้าของฉินจิงเจ๋อยังเปลี่ยนไป เขามองก้อนอัญมณีจิตเหล่านั้นก็กลืนน้ำลายลงคอ “นั่น…จิตทะเลสาบสวรรค์เก้าสิบดวง?”
ณ ที่นี่ทุกคนไม่สามารถซ่อนความตกใจ พวกเขาอึ้งไปกับจำนวนที่มากเช่นนั้น
ฮึ่ม ฮึ่ม!
จิตทะเลสาบสวรรค์เก้าสิบดวงราวกับดวงดาวห่อหุ้มอยู่รอบร่างซูชิงหยิง นางยกมือขึ้นน้ำทะเลสาบที่อยู่ใต้เท้าก็หมุนคว้างรุนแรงกลายเป็นกระแสน้ำวนที่กว้างประมาณหนึ่งพันจั้ง ซึ่งแข็งแกร่งกว่าสายธารของฉินจิงเจ๋อ
ดูท่าถึงจะเป็นการชำระล้างขั้นสูงเหมือนกัน แต่เนื่องจากจำนวนที่มากกว่าชัดว่าซูชิงหยิงอยู่ในชั้นที่สูงกว่าขึ้นไปอีก
ตู้ม!
ทันใดนั้นลำแสงขนาดใหญ่ก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าจากกระแสน้ำวน แสงหลิงเริ่มรวมตัวกันที่ขอบฟ้าไม่กี่อึดใจต่อมาก็ก่อร่างเป็นแม่น้ำเปล่งประกายระยับ
แม่น้ำมีขนาดใหญ่กว่าสายธารของฉินจิงเจ๋อสิบเท่า พลังที่บรรจุอยู่ภายในก็ใหญ่กว่าและบริสุทธิ์กว่ามาก
พวกคนมุงมองไปด้วยความอิจฉาหากพวกเขาสามารถได้รับการชำระล้างขั้นนั้นก็จะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง
ซ่า ซ่า!
แม่น้ำม้วนตัวอยู่บนท้องฟ้าก่อนจะพุ่งลงมา ทว่าเมื่อพบกับโอกาสที่หายากเช่นนี้ ซูซิงหยิงกลับไม่ได้ใช้เพื่อปรับแต่งร่างเทห์สวรรค์ ตรงกันข้ามนางนั่งลงแสงสีแดงกะพริบบนหน้าผากของนางก่อนที่รังไหมสีแดงเข้มจะปรากฏออกมาอย่างช้าๆ
แม่น้ำระยิบระยับไหลลงมาเทลงบนรังไหมสีแดงเข้ม ซึ่งรังไหมก็กลืนกินแม่น้ำราวกับกับเหวลึก
แม่น้ำถูกกลืนลงไปมากขึ้น….มากขึ้น ลวดลายโบราณก็เริ่มปรากฏบนรังไหมรอยแตกแผ่กระจายออกไป
เมื่อน้ำหยดสุดท้ายร่วงลงรังไหมสีแดงเข้มก็ถูกปกคลุมไปด้วยรอยแตกก่อนที่จะแตกเป็นเสี่ยงๆ พร้อมกับแสงสีแดงบินออกไป
ภายใต้สายตานับไม่ถ้วน ผีเสื้อน่าหลงใหลสีแดงเข้มก็บินออกมาจากรังไหม บินวนรอบตัวซูชิงหยิงอย่างมีความสุข
ทุกครั้งที่ผีเสื้อกระพือปีกความผันผวนของคลื่นหลิงทรงพลังจะเล็ดลอดออกมา ซึ่งทำให้แม้แต่จอมยุทธ์ระดับจื้อจุนขั้นเก้าระยะเต็มยังต้องสะดุ้งในหัวใจ
“นี่คือ… แมลงวิญญาณพันธะชีวิตของซูชิงหยิง?” มู่เฉินมองไปที่ผีเสื้อด้วยความประหลาดใจ ว่ากันว่าหลิงฉงซือทุกคนจะมีแมลงวิญญาณพันธะชีวิตของตัวเอง ทว่าก่อนที่แมลงวิญญาณเหล่านั้นจะเติบโตเต็มที่พวกมันจะอ่อนแอมาก แต่เมื่อพวกมันเติบโตถึงขีดสุดก็จะสามารถพัฒนาไปพร้อมกับเจ้านาย นอกจากนี้ยังสามารถสละตัวเองเพื่อแลกกับชีวิตของเจ้านายอีกด้วย
ด้วยแมลงวิญญาณพันธะชีวิตนี้มันจะเทียบเท่ากับการมีสองชีวิต
ซูชิงหยิงมีความแน่วแน่แท้จริงที่จะไม่ใช้การชำระล้างกับตัวเองและเลือกฟูมฟักแมลงวิญญาณของตนเอง ในท้ายที่สุดนางก็สามารถปล่อยให้มันโตได้อย่างเต็มที่
ด้วยแมลงวิญญาณพันธะชีวิตนี้พลังของซูชิงหยิงจะเพิ่มขึ้นทวีคูณแน่นอน ถ้านางกลับไปที่ประตูมังกรทะยานสวรรค์ตอนนี้ ก็อาจจะได้รับสถานะศิษย์ระดับมังกรทองคำอย่างง่ายดาย
หลังจากที่ซูชิงหยิงเสร็จสิ้นกระบวนการ หญิงทั้งสามก็ไม่สามารถระงับความตื่นเต้นได้ จิ่วโยวเริ่มเป็นคนแรก นางกระตุ้นป้ายใต้เท้าจิตทะเลสาบสวรรค์เจ็ดสิบแปดดวงบินออกมา แม้ว่าจะด้อยกว่าซูชิงหยิงในแง่ของจำนวน แต่ก็มีมากกว่าฉินจิงเจ๋อถือได้ว่าค่อนข้างดี นอกจากนี้ก็ยังเป็นเพราะความช่วยเหลือของเซียวเซียวและหลินจิ้ง ไม่เช่นนั้นด้วยพลังของจิ่วโยวโอกาสที่นางจะจัดการกับจิตทะเลสาบสวรรค์ได้จะไม่สูงเกินไป
ถ้าจำนวนของจิ่วโยวเรียกว่าค่อนข้างดีแล้ว เมื่อเซียวเซียวและหลินจิ้งเริ่มทำการเคลื่อนไหวแต่ละคนก็มีลูกตาแทบถลนออกมา
แสงแวววาวระเบิดออกมาจากเรือมังกรทองคำภายใต้เท้าของหญิงสาวทั้งสอง จิตทะเลสาบสวรรค์ก็บินฉวัดเฉวียนออกมาหมุนรอบตัวพวกนางราวกับทางงช้างเผือก
ซึ่งมีถึงเก้าสิบเก้าดวงด้วยกัน!
นั่นถือได้ว่าเป็นจุดสูงสุดของการชำระล้างขั้นสูง!
มู่เฉินมองไปที่จิตทะเลสาบสวรรค์รอบตัวพวกนางก็ตกอยู่ในความคิดลึกซึ้ง ดูเหมือนว่าเซียวเซียวและหลินจิ้งก็ไม่รู้วิธีที่จะได้รับจิตทะเลสาบสวรรค์ดวงที่ร้อย
แน่นอนว่าเขาก็ไม่กล้าอ้างว่าวิธีการที่ตนเองคิดถูกต้อง เพราะเขายังต้องลองเสี่ยงพนันดู…
เมื่อจู้เยี่ยนและจาโหลหลัวเห็นจำนวนก้อนอัญมณีจิตที่อยู่รอบตัวหญิงสาวทั้งสอง พวกเขาก็หดตาก่อนจะกระทืบเท้า ซึ่งก็มีก้อนอัญมณีจิตถึงเก้าสิบเก้าดวงด้วยเช่นกัน!
โห่
ความปั่นป่วนเกิดขึ้น ทุกคนดวงตาเป็นสีแดงก่ำ จิตทะเลสาบสวรรค์เก้าสิบเก้าดวงเป็นจุดสูงสุดของการรับการชำระล้างขั้นสูง
“แต่ทำไมพวกเขาถึงมีเก้าสิบเก้าดวงเท่านั้น?” ทว่าก็มีบางคนรู้สึกถึงความผิดปกติ ด้วยพลังของจอมยุทธ์เหล่านี้ หากพวกเขาได้รับเก้าสิบเก้าดวง ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะขาดดวงสุดท้าย…
ด้วยความภาคภูมิใจพวกเขาจะต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้รับจิตทะเลสาบดวงที่ร้อยเพื่อรับการชำระล้างที่สมบูรณ์แบบ
“ดูเหมือนว่าการชำระล้างขั้นสมบูรณ์จะไม่สามารถรับได้ด้วยวิธีการธรรมดา” ทุกคนครุ่นคิด จากนั้นก็เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นมีเพียงเหตุผลนี้เท่านั้นที่เหมาะสมกับคำอธิบายว่าทำไมจู้เยี่ยน จาโหลหลัว เซียวเซียวและหลินจิ้งจึงคว้าจิตทะเลสาบสวรรค์ได้เก้าสิบเก้าดวงเท่านั้น
ฮึ่ม ฮึ่ม
ในขณะที่ทุกคนตกใจกับจำนวน ทะเลสาบสวรรค์ใต้เท้าของพวกเขาก็ก่อตัวเป็นกระแสน้ำวนขนาดมหึมาก่อนที่เสาแสงจะทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า
เมฆรวมตัวกันเบื้องบนพร้อมแสงแล่นแปลบปลาบ
ภาพที่ปรากฏเหนือร่างจิ่วโยวเป็นสายธารที่มีความยาวประมาณร้อยจั้งแม้ว่าจะด้อยกว่าซูชิงหยิงแต่ก็เหนือกว่าฉินจิงเจ๋อ
เมื่อเทียบกับจิ่วโยว อีกสี่คนทำให้เกิดความปั่นป่วนสั่นสะเทือนโลกาเนื่องจากกระแสน้ำวนที่อยู่ใต้เท้าของพวกเขามีขนาดหลายพันจั้งพร้อมกับแสงหลิงที่ครอบงำก่อนที่จะกลายเป็นทะเลสาบสี่แห่งที่มีขนาดหลายพันจั้ง
เกลียวแสงหลิงพุ่งออกมาจากทะเลสาบเหล่านั้น พลังงานที่บริสุทธิ์ดูข้นหนืดเล็กน้อยก่อตัวเป็นสะพานพลังงานหลิงที่ดูลึกซึ้งมาก
ทุกคนตกตะลึงเมื่อมองไปที่ทะเลสาบ เทียบกับสิ่งนี้ การชำระล้างของซูชิงหยิงถือได้ว่าลีบแบนไปเลยทีเดียว
“นี่คือจุดสูงสุดของการชำระล้างขั้นสูงเรอะ? ช่างทรงพลังจริงๆ!” ผู้คนมองไปด้วยความโลภ หากพวกเขาได้รับการชำระนี้ก็จะยิ่งเพิ่มความแข็งแกร่งจนไม่อาจบรรยายได้
ทว่าเผชิญหน้ากับคนดุร้ายเหล่านี้ก็ไม่มีใครกล้าเอามือจุ่มลงไปหรอก
“ทำไมมู่เฉินไม่เคลื่อนไหวมั่งล่ะ?”
ขณะที่ผู้ชมตกใจกับพิธีชำระล้างขั้นสูง ก็มีบางคนสังเกตเห็นมู่เฉินยืนนิ่งอยู่บนเรือมังกรทองคำเช่นกัน แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดป้ายมังกรทองคำของเขาถึงดูสลัวรางมาก
“พี่มู่ ทำไมไม่มีความผันผวนจากจิตทะเลสาบสวรรค์ที่มาจากป้ายมังกรทองคำของเจ้า” จาโหลหลัวเงยหน้าขึ้นมองไปที่มู่เฉินด้วยรอยยิ้ม
ขณะที่เขาพูดทุกคนต่างมองไปที่มู่เฉินด้วยความสงสัย
หญิงสาวทั้งสามก็มองไปที่มู่เฉินด้วยสายตาเป็นกังวล นั่นเป็นเพราะพวกนางรู้สึกได้ว่าไม่มีเกลียวแสงหลิงใดๆ พรั่งพรูออกมาจากป้ายมังกรทองคำของมู่เฉิน หมายความว่าไม่มีจิตทะเลสาบสวรรค์ใดๆ งั้นเหรอ!
หรือว่ามู่เฉินได้เจอปัญหาขณะรวบรวมจิตทะเลสาบ?
บางคนที่มีความคิดเช่นนี้ก็ต่างรู้สึกดีใจในความโชคร้ายของเขา โดยเฉพาะจาโหลหลัวที่มุมปากโค้งขึ้น
เผชิญหน้ากับการจ้องมองของพวกเขา มู่เฉินก็ไม่สนใจค่อยๆ หลับตาลงเงียบๆ สัมผัสถึงความผันผวนที่อยู่ลึกลงไปในทะเลสาบสวรรค์
ทว่ามือของเขาในแขนเสื้อก็ค่อยๆ กระชับเป็นหมัดขณะรอคอย
นั่นเป็นเพราะเขาไม่มั่นใจ นี่เป็นเพียงการคาดเดาหากเขาล้มเหลวก็จะสูญเสียมากมายกับการชำระล้างนี้
เวลาค่อยๆ ไหลผ่าน มู่เฉินปิดกั้นทุกสรรพเสียงรับรู้ถึงการไหลของน้ำในส่วนลึกของทะเลสาบสวรรค์
ครืน
ท่ามกลางการรอคอย ทันใดนั้นเสียงแปลกๆ ก็ดังมาจากส่วนลึกของทะเลสาบสวรรค์
มู่เฉินลืมตาขึ้นทันทีพร้อมกับความสุขที่นึกไม่ถึงพล่านในม่านตา
นั่นเป็นเพราะขณะนี้ในที่สุดเขาก็สัมผัสได้ถึงรอยประทับที่เขาทิ้งไว้ในจิตทะเลสาบสวรรค์!