หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler - ตอนที่ 1209
หนึ่งในใต้หล้า 大主宰
บทที่ 1209 พิธีเทพธิดาลั่ว
วังหลวงลั่วเสิน
ชัยภูมิที่นี่ล้อมรอบด้วยแม่น้ำลั่วไหลเชี่ยว ที่ตั้งอยู่ตรงจุดตัดของแม่น้ำ มีสายน้ำไหลหลั่งไม่สิ้นสุดราวกับว่าไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
พิธีเทพธิดาจะจัดขึ้นที่นี่
ดังนั้นทั่วบริเวณจึงเต็มไปด้วยการรักษาความปลอดภัยเข้มงวด โดยมีกองทัพประจำการอยู่ทุกด้านของแม่น้ำ มีกระทั่งนักรบขี่กระเรียนสายฟ้าตั้งกระบวนทัพเป็นแนวป้องกันบนท้องฟ้า แม้แต่แมลงวันสักตัวก็ไม่สามารถเล็ดลอดเข้าไปได้
สามารถมองเห็นผู้คนจำนวนมากชุมนุมทั้งสองฝั่งแม่น้ำที่ทอดยาวสุดสายตา
พวกเขาเหล่านี้เป็นประชาชนของตระกูลลั่วเสินซึ่งกำลังรอการปรากฏตัวของจักรพรรดินีองค์ใหม่
พวกเขาต้องการเป็นสักขีพยานในพิธีเทพธิดาลั่ว เพื่อเฝ้ามองจักรพรรดินีก้าวขึ้นสู่บัลลังก์
บริเวณนี้ได้กลายเป็นจุดสนใจของทั้งเมืองลั่วเสินหรือกระทั่งทั้งตระกูล
ตึง!
ขณะที่ทุกคนกำลังรออย่างตื่นเต้น เสียงระฆังโบราณก็ดังขึ้น
ฟิ้ว!
เมื่อระฆังดังกังวาน ริ้วแสงก็พุ่งออกมาจากวังลั่วเสิน ก่อนที่จะพลิ้วลงเหนือแท่นที่ลอยบนผิวแม่น้ำ
นี่เป็นแท่นพิธีที่เหมือนว่าถูกปั้นมาจากหยกขาว ระยิบระยับแพรวพราวอย่างยิ่ง แต่ความสนใจผู้คนไม่ได้อยู่ที่แท่นพิธีเลย กลับเป็นหญิงสาวที่อยู่บนนั้น
นางยืนบนแท่นพิธี เรือนผมสีเงินยวงพร่างพราวภายใต้แสงตะวัน ใบหน้าไร้ที่ติราวกับประติมากรรมชิ้นเอกของโลก
ซ่าๆๆ!
เมื่อนางปรากฏตัวผู้คนทั้งหมดก็คุกเข่าลงราวกับนาข้าวที่ล้มลงเมื่อถูกพายุพัดใส่ ดวงตาที่มองเงาร่างบนแท่นพิธีทั้งลุกโชนและอัดแน่นด้วยความนับถือ
“ถวายบังคมองค์จักรพรรดินี!”
เสียงกึกก้องดังขึ้นในเมืองลั่วเสินสะท้อนไปมาเป็นเวลานาน
เมื่อเห็นดวงตาโชติช่วงด้วยความเชื่อมั่นของประชากรตระกูลลั่วเสิน ขั้วอำนาจอื่นๆ ที่มาเข้าร่วมพิธีเทพธิดาลั่วก็มีท่าทางเปลี่ยนแปลง พวกเขาไม่คิดว่าตระกูลลั่วเสินที่กำลังจะล่มสลาย ไม่กี่ปีผ่านมาจะกลับมาเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันได้
นี่ทำให้พวกเขาต้องทอดถอนหายใจ จากนั้นก็มองดูร่างเงาบนแท่นพิธีด้วยความหลงใหล ยามนี้พวกเขาต้องยอมรับว่าบางคนในโลกมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่สามารถดึงดูดผู้คนทั้งหมดไว้ได้
เห็นได้ชัดว่าจักรพรรดินีองค์ใหม่ของตระกูลลั่วเสินอยู่ในประเภทนั้น
ลั่วหลีกวาดมองไปผู้คนที่คุกเข่าเบื้องหน้าก็ก้มศีรษะลงเล็กน้อย แม้จะไม่ได้พูดอะไร แต่กลิ่นอายสูงศักดิ์ก็ลุ่มหลงในหัวใจของทุกคน
“นายหญิง!”
ที่ด้านหลังลั่วหลี เงาร่างสองร่างที่หนุ่มแน่นคุกเข่าลงบนพื้น มือข้างหนึ่งแตะหน้าอก พวกเขาเฝ้ามองร่างอรชรเบื้องหน้าด้วยดวงตาสุกสว่างและความรักความเทิดทูนฉายในส่วนลึกของดวงตา
ลั่วหลีหันไปมองทั้งสองคน พวกเขาเป็นจอมยุทธ์รุ่นใหม่ที่โดดเด่นที่สุดในตระกูลลั่วเสิน ถ้ามู่เฉินอยู่ที่นี่ก็จะสามารถจดจำทั้งสองได้ทันที เนื่องจากพวกเขาเป็นคนที่ติดตามลั่วเทียนเสินไปยังสำนักศึกษาเป่ยชาง
ลั่วชิงหยาและลั่วซิว
ช่วงเวลาหลายปีพวกเขาก็เติบโตขึ้นมากเช่นกัน ตอนนี้พวกเขาอยู่ในระดับจื้อจุนขั้นเก้าระยะเต็ม ด้วยวัยของพวกเขาแม้ว่าลั่วหลีจะให้การสนับสนุนทรัพยากร แต่ก็ปฏิเสธความโดดเด่นของพวกเขาไม่ได้
“จะต้องมีบางคนคิดทำลายพิธีเทพธิดาลั่วแน่นอน ข้าหวังว่าเจ้าสองคนจะสามารถขัดขวางพวกเขาได้” ลั่วหลีเอ่ยเสียงเบา
ภายใต้การสั่งการของนาง ลั่วชิงหยาและลั่วซิวแทบจะควบคุมกองทัพทั้งหมดของตระกูลลั่วเสิน พวกเขาทั้งสองมีอำนาจมากในกองทัพ
“ถ้าพวกข้ายังอยู่จะไม่ยอมให้หน้าไหนมาปรากฏตัวต่อหน้าท่านได้” ลั่วชิงหยายิ้มไม่มีการสั่นคลอนในเนื้อเสียงของเขาสักนิด
“แม้ตายพวกข้าก็จะใช้ศพขัดขวางศัตรูไว้ ไม่ให้มารบกวนท่านแน่” ลั่วซิวยิ้มกว้าง ทว่ารอยยิ้มกลับเต็มไปด้วยจิตสังหาร
ลั่วหลียิ้มขณะที่ส่ายหัวเบาๆ “อย่าตายเลย”
ลั่วชิงหยาและลั่วซิวรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ จากนั้นก็ผงกหัวรับแล้วทะยานกลับไปยังกองทัพ ครั้งนี้พวกเขาไม่ปล่อยกระทั่งแมลงวันเข้ามารบกวนลั่วหลีได้อย่างแน่นอน แม้จะต้องใช้ราคาชีวิตของพวกเขาจ่ายก็ตาม
หลังจากที่พวกเขาไปแล้วลั่วหลีก็กวาดสายตาไปยังอีกทิศทางหนึ่ง ตรงนั้นเป็นกลุ่มคนที่นำโดยผู้อาวุโสสามคน ทั้งสามปล่อยพลังงานที่ผันผวนทรงประสิทธิภาพ บ่งบอกได้ว่าพวกเขาเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้น!
ทว่าลั่วหลีไม่มีความยินดีในสายตาสักนิดขณะที่มองผู้อาวุโสทั้งสาม ในทางตรงกันข้ามกลับมีไอเย็นยะเยือกวาบขึ้นในดวงตาของนาง เนื่องจากพวกเขาทั้งสามคนมาจากตระกูลสาขา
ในตระกูลลั่วเสินพวกเขามีอำนาจสูงสุดนอกเหนือจากราชวงศ์
แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่ได้จงภักดีต่อราชวงศ์ ตรงกันข้ามมีแต่คนพยายามลดบทบาทของราชวงศ์ หากไม่ใช่ลั่วทียนเสินยังยืนหยัด คนพวกนี้คงจะเข้ายึดบัลลังก์แล้ว
ดังนั้นในพิธีเทพธิดาลั่วนี้ ไม่เพียงแต่ลั่วหลีจะพึ่งพาพวกเขาไม่ได้ นางยังต้องคอยระวังพวกเขาด้วย
“ท่านลุงเทียนหลง” ลั่วหลีเรียกเสียงเบา
ที่เบื้องหลัง ชายวัยกลางคนที่แข็งแกร่งกำยำข้างลั่วเทียนเสินก้าวออกมาโค้งคำนับให้ เขาคือลั่วเทียนหลงหนึ่งในจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้นของราชวงศ์
เมื่อก่อนเขาและบิดาของนางเป็นเพื่อนรักกัน ทว่าหลังจากที่บิดาของลั่วหลีเสียชีวิต ความวุ่นวายในตระกูลทำให้เขาผิดหวังจนแยกตัวออกไป แต่เมื่อลั่วหลีกลับมา นางลองไปเชิญเขาด้วยตัวเองหลายครั้ง ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจออกจากการปลีกวิเวกกลับมาที่ตระกูล
“ฝากท่านช่วยเฝ้าดูคนพวกนั้นอย่างใกล้ชิดด้วย” ลั่วหลีพูดกับลั่วเทียนหลง
ลั่วเทียนหลงเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้นคนเดียว ดังนั้นจึงค่อนข้างตึงมือสำหรับเขาที่คอยกันจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้นสามคนไว้ แต่สถานการณ์ปัจจุบันตระกูลลั่วเสินไม่มีตัวช่วยมากนัก เขาเป็นคนสุดท้ายที่นางขอให้ช่วยได้แล้ว
เมื่อลั่วเทียนหลงได้ยินคำพูดของนาง เขาก็พยักหน้าโดยไม่ลังเล
“ขอบคุณมาก” ลั่วหลีเผยยิ้มกว้างออกมา
ลั่วเทียนหลงหัวเราะ “ความช่วยเหลือยิ่งใหญ่ที่สุดของพ่อเจ้าคือการมีลูกสาวที่โดดเด่น ข้าเชื่อว่าด้วยมือของเจ้าตระกูลลั่วเสินจะเติบโตแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม! ดังนั้นเจ้าให้ข้าทำอะไรก็ได้ที่เจ้าต้องการ!”
เขาทะยานออกไปพลิ้วตัวลงระหว่างกลุ่มคนกับแท่นพิธึ จากนั้นก็จ้องมองไอ้งั่งสามคนด้วยจิตสังหารเข้มข้นที่ฉายขึ้นบนใบหน้าเพื่อเป็นการเตือน
ที่นั่นผู้อาวุโสทั้งสามมองลั่วเทียนหลงโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงท่าทางใด ก่อนที่จะหันไปมองร่างเงาบนแท่นพิธีด้วยสายตาซับซ้อน
หลังจากที่ลั่วเทียนหลงไปประจำตำแหน่งแล้ว ลั่วหลีก็หันไปหาลั่วเทียนเสินและพยักหน้าให้
“เริ่มเลยเจ้าค่ะ”
ลั่วเทียนเสินสูดหายใจลึกๆ การวางแนวป้องกันของลั่วหลีค่อนข้างสมบูรณ์แบบ ซึ่งทำให้เขารู้สึกพึงพอใจ ทว่าเขารู้ว่านี่ไม่ใช่พวกเดียวที่พวกเขาจะต้องป้องกัน ซึ่งลั่วหลีก็รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน
พิธีเทพธิดาลั่วในครั้งนี้อาจเป็นครั้งที่อันตรายที่สุดในช่วงหลายปี
แต่ไม่ว่าจะอันตรายเพียงใดก็ไม่มีทางให้พวกเขาถอยอีกแล้ว
แสงหลิงหนาแน่นคลี่กระจายออกจากแท่นพิธี แท่นดอกบัวก่อตัวขึ้นใต้ฝ่าเท้าของลั่วหลี นางนั่งลงพร้อมกับเรือนผมสีเงินพลิ้วไหวไปกับสายลม ช่างเป็นภาพงดงามยิ่งนัก
ลั่วหลีเงยหน้าขึ้นมองสายตาคาดหวังนับไม่ถ้วน ประชาชนทุกผู้ทุกนามล้วนปรารถนาให้นางประสบความสำเร็จ เพราะนี่เกี่ยวข้องกับอนาคตของตระกูลลั่วเสิน
ดังนั้นครั้งนี้นางจะล้มเหลวไม่ได้!
ลั่วหลีสูดหายใจลึก อึดใจก็กัดลิ้นโดยไม่ลังเล เลือดกลั่นไหลออกมาหยดลงมาจากท้องฟ้าทิ้งตัวสู่แม่น้ำลั่ว
ตู้ม!
เมื่อเลือดกลั่นไหลเข้าไป แม่น้ำทั้งสายก็กลายเป็นสีแดงแล้วเริ่มกวนตัว ประกายไฟสีแดงเข้มนับไม่ถ้วนพวยพุ่งออกมาจากแม่น้ำ ก่อนที่พวกมันจะลอยขึ้นไปอาบไล้ร่างลั่วหลี
ทันใดนั้นชุดสีขาวของนางก็ถูกย้อมสีแดงเข้ม
สีแดงเข้มลึกมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่จะกลายเป็นเปลวไฟล้อมรอบร่างลั่วหลีพร้อมกับเสียงท่องคาถาโบราณดังขึ้นในฟ้าดิน
ทุกคนมองไปที่เปลวไฟสีแดงเข้ม หัวใจของพวกเขาก็เกร็งแน่น นั่นเป็นเพราะพวกเขารู้ว่า…
พิธีเทพธิดาลั่วได้เริ่มขึ้นแล้ว