หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler - ตอนที่ 1372
พายุมิติเป็นครั้งคราวสร้างความหายนะในพื้นที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ดาวหางข้ามผ่านไปในบางครั้งพร้อมกับเสียงดังก้องระหว่างฟ้าดิน
ฟิ้ว!
ทันใดนั้นลำแสงสายหนึ่งก็พุ่งผ่าน ร่างที่ดูเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางมองไปรอบๆ ราวกับว่าเขากำลังมองหาอะไรบางอย่าง
“พิภพเขตล่างที่จอมยุทธ์มังกรขาวจากมาน่าจะอยู่ในทิศทางนี้” ร่างชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองขณะที่ก้มมองลงไปที่หลังมือเป็นครั้งคราว ลวดลายมังกรสีขาวเปล่งแสงสีขาวออกมา
นี่ก็คือมู่เฉินนั่นเอง
นับตั้งแต่ที่เขาออกจากจักรวรรดิเหนือ เขาก็เดินทางมาสามเดือนแล้ว เขาไม่ได้หยุดพักมุ่งหน้ามาทางตะวันตกเฉียงใต้ของมหาพันภพอย่างต่อเนื่อง
ระหว่างทางคงมีแต่เทพเซียนเท่านั้นที่รู้ว่าเขาผ่านมากี่ทวีปแล้ว ภายใต้การเดินทางบ้าคลั่ง เขาก็ใช้เวลาสามเดือนกว่าที่จะได้เข้ามาในเขตตะวันตกเฉียงใต้ของมหาพันภพ
ตามการนำของอักขระมังกรขาว พิภพเขตล่างของจอมยุทธ์มังกรขาวน่าจะอยู่ในบริเวณนี้
ทว่านี่ก็ยังคงเป็นการค้นหาที่ยากลำบากสำหรับเขา เพราะแม้ว่ามหาพันภพจะเชื่อมต่อกับพิภพเขตล่างนับไม่ถ้วน แต่ก็ต้องพบจุดตัดมิติเพื่อจะเข้าไปได้
ซึ่งหน้าจุดตัดมิตินั้นมีขนาดเล็กราวกับฝุ่นละอองยากที่จะตรวจจับได้ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาจุดตัดนั่น
ทว่าอารมณ์ของมู่เฉินก็สงบลงระหว่างการเดินทางสามเดือนนี้ ในเมื่อตัดสินใจที่จะค้นหาเส้นทางเทียนจื้อจุน เขาก็เพียงทำสุดกำลัง
ดังนั้นเขาจึงมองไปรอบๆ ก่อนที่จะหลับตาลง คลื่นหลิงไร้ขอบเขตระเบิดออกมาจากร่างกาย พลังงานนี้คล้ายกับระลอกคลื่นกระจายไปทั่วช่องว่าง
ประสาทสัมผัสของมู่เฉินก็แผ่ออกไปพร้อมกับคลื่นหลิงเพื่อค้นหาทุกๆ ตารางนิ้ว
เขารู้ว่านี่จะเป็นกระบวนการยาวนาน แต่เขาก็ไม่ได้กังวล ราวกับการเดินทอดหุ่ยไปในโลกทีละก้าว…ละก้าว
ดังนั้นเวลาก็เคลื่อนคล้อยไปภายใต้การค้นหาของเขา
โดยไม่รู้ตัวหนึ่งเดือนก็ผ่านไปแล้ว…
มู่เฉินไม่รู้ว่าการค้นหาไปไกลแค่ไหน เขารู้เพียงว่าทุกการค้นหาจะจบลงด้วยพลังงานที่หมดไป จากนั้นเขาก็จะนั่งสมาธิเพื่อฟื้นฟูและเริ่มการค้นหาต่อ
กระบวนการนี้ดำเนินไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า…
แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับผลอะไรในเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ยังคงขยายขอบเขตการค้นหาต่อไป
ดังนั้นอีกหนึ่งเดือนก็ผ่านไป
มู่เฉินลืมตาขึ้นด้วยความเหนื่อยล้าปกคลุมใบหน้า แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นเต็มแบบเขาก็ไม่สามารถแบกรับความเหนื่อยล้าเช่นนี้ได้
เขาเงยหน้าขึ้น คลื่นหลิงของเขาแพร่กระจายไปเกือบร้อยลี้ ทว่าก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ชัดว่าเขาล้มเหลวอีกครั้ง
“คลื่นหลิงจะหมดลงอีกแล้ว” มู่เฉินขมวดคิ้วด้วยความผิดหวังในดวงตา ในเวลาสองเดือนที่ผ่านมาถ้าเขาไม่แน่วแน่พอ เขาคงยอมแพ้เรื่องนี้ไปนานแล้ว
“เป็นไปได้ไหมที่การนำทางมีปัญหา? หรือว่าพิภพเขตล่างนั้นถูกทำลายไปแล้ว?” มู่เฉินมองไปที่อักขระมังกรขาวก็เม้มริมฝีปาก หากเป็นเช่นนั้นการทำงานหนักตลอดครึ่งปีที่ผ่านมาของเขาก็จะสูญเปล่า
“ไม่ว่ายังไงข้าจะยอมแพ้กลางคันไม่ได้!”
มู่เฉินกัดฟัน เขายังคงตั้งมั่นในความคิดก่อนที่จะค่อยๆ ดึงคลื่นหลิงที่อ่อนแอกลับมาทีละน้อย เตรียมพร้อมที่จะพักผ่อนก่อนที่จะดำเนินการค้นหาต่อไป
“หืม?”
แต่ขณะที่มู่เฉินถอนการรับรู้ จู่ๆ ท่าทางของเขาก็แข็งค้าง เพราะในวินาทีนั้นเขารู้สึกได้ถึงความผันผวนแปลกประหลาดจากทางตะวันตก
ความผันผวนนั้นบอบบางมาก ถ้าไม่ใช่เพราะประสาทสัมผัสของมู่เฉินอ่อนไหวในขณะนี้ เขาคงมองข้ามไปแล้ว
ดังนั้นเขาจึงเคลื่อนตัวหายไป ไม่กี่ลมหายใจก็ไปปรากฏตัวขึ้นในพื้นที่ที่เกิดความผันผวน
สายตาเขาจับจ้องที่เบื้องหน้า คลื่นหลิงก็แผ่กระจายออกไปทีละชุ่น…ละชุ่นเพื่อควานหามิติ
คลื่นพลังแผ่ออกไปอย่างระมัดระวัง พักใหญ่ม่านตามู่เฉินก็หดเกร็ง ก่อนที่มือของเขาจะสร้างตราประทับขึ้น คลื่นหลิงรวมตัวกันไปที่บริเวณนั้น
ฮึ่ม ฮึ่ม!
คลื่นหลิงกลายเป็นวงรัศมีพร้อมกับสายตาของมู่เฉินจับจ้องไปในจุดนั้น เห็นแสงสีดำที่คล้ายกับฝุ่นละอองปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ
นั่นคือที่มาของความผันผวนที่แปลกประหลาด
มู่เฉินมองไปที่แสงสีดำด้วยความสุขบนใบหน้า นั่นคือจุดตัดมิติที่เขาค้นหามาตลอดสองเดือน
ตราบเท่าที่เขาสามารถโยงจุดตัดมิติได้ เขาก็จะสามารถเข้าสู่พิภพเขตล่างของจอมยุทธ์มังกรขาวได้
“ในที่สุดข้าก็พบแล้ว”
มู่เฉินรู้สึกโล่งใจมาก แต่เขาไม่ได้เปิดมิติในทันที เขานั่งลงโบกแขนเสื้อ ของเหลวจื้อจุนจำนวนมากพวยพุ่งออกมา เขาฟื้นพลังงานตัวเองอย่างรวดเร็ว
แม้ที่นั่นจะเป็นพิภพเขตล่าง แต่ก็ถูกครอบครองโดยเผ่าปีศาจต่างมิติ ดังนั้นหากเขาต้องการที่จะเข้าไป เขาจะต้องอยู่ในสภาพพร้อมรบ
ขณะที่เขากำลังฟื้นฟูคลื่นพลัง เขาก็ยังคงตื่นตัวและมองไปรอบๆ เผื่อมีคนมา
สำหรับมหาพันภพ พิภพเขตล่างเป็นสถานที่ที่ไม่เหมือนใครและอาจเป็นโชคชะตาที่ดี ยิ่งไปกว่านั้นพิภพเขตล่างอ่อนแอกว่ามหาพันภพ ดังนั้นถ้าสามารถเข้าสู่พิภพเขตล่างก็จะรู้สึกถึงความอยู่ยงคงกระพันตามธรรมชาติ
แต่โชคดีที่ผู้ที่อยู่ในมหาพันภพจะเข้าสู่พิภพเขตล่างได้ยาก แม้ว่าพวกเขาจะหาจุดตัดมิติได้ นั่นเป็นเพราะกฎของพิภพเขตล่าง ใครก็ตามที่ต้องการเข้าไปจะต้องมีการนำจากพิภพเขตล่างด้วย
ก็เหมือนกับที่มู่เฉินครอบครองไข่มุกมังกรขาวที่มีผนึกของจอมยุทธ์มังกรขาวอยู่ ซึ่งสามารถใช้เป็นกุญแจสำหรับเขาในการหลีกเลี่ยงกฎของพิภพเขตล่างที่จะปะทะเข้ามา
โดยธรรมชาติแล้วไม่มีอะไรแน่นอน มีผู้คนพยายามแอบเข้าไปในพิภพเขตล่างเสมอ ดังนั้นมู่เฉินจึงไม่ต้องการให้คนอื่นค้นพบจุดตัดมิติที่เขาค้นหาอย่างยากลำบาก เพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น
ขณะที่มู่เฉินยังคงตื่นระวังประมาณสองชั่วโมงคลื่นหลิงที่อ่อนล้าของเขาก็ค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น ทำให้สายตาของเขาสั่นไหวด้วยพลังงานเต็มเปี่ยมอีกครั้ง
เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังงานที่ฟื้นคืนในร่างกาย มู่เฉินก็รู้สึกโล่งใจก่อนที่จะลุกขึ้นยืนมองไปที่จุดตัดมิติ
คราวนี้เขาไม่ลังเล นิ้วชี้ออกไป คลื่นหลิงไร้ขอบเขตส่งเสียงหวีดหวิวพุ่งเข้าโจมตีจุดตัดมิติ
ฮึ่ม ฮึ่ม!
จุดตัดมิตินี้คล้ายกับหลุมดำ กลืนกินพลังงานอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ภายใต้การกลืนกินมู่เฉินก็เห็นจุดฝุ่นค่อยๆ ขยายกว้างขึ้น…
หลายนาทีต่อมาจุดฝุ่นก็กลายเป็นหลุมดำขนาดหนึ่งจั้ง กระจายความผันผวนเชิงพื้นที่ออกไป
มู่เฉินมองไปที่หลุมดำก็เหวี่ยงหมัดออก แต่ก็มีอาการดีดกลับ ทำให้กำปั้นรู้สึกเจ็บร้าวไปหมด
“เป็นเรื่องยากสำหรับคนในมหาพันภพที่จะเข้าสู่พิภพเขตล่างจริงๆ”
มู่เฉินถอนหายใจก่อนที่จะเรียกไข่มุกมังกรขาว เขาเทพลังงานลงในไข่มุก แสงสีขาวจางๆ ก็ห่อหุ้มร่างมู่เฉินไว้
เมื่อเห็นสิ่งนี้ มู่เฉินก็หายใจเข้าลึก ท่าทางเคร่งขรึมลงหลายส่วน เขาเงียบไปพักหนึ่งก่อนที่จะกัดฟันก้าวเข้าไปในหลุมดำโดยไม่ลังเล
“หวังว่าข้าจะพบเส้นทางเทียนจื้อจุนที่นั่น…”
แสงสีขาวทะลุผ่านหลุมดำ ครั้งนี้มู่เฉินไม่รู้สึกถึงการขัดขวางอีกต่อไป เขาเคลื่อนเข้าไปได้อย่างง่ายดาย
เมื่อภาพเงาของมู่เฉินหายไป หลุมดำก็สั่นเบาๆ ก่อนที่จะหดตัวลงกลับเป็นจุดฝุ่น ซ่อนตัวในอากาศ…
พื้นที่นี้กลับสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง