หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler - บทที่ 1437 ยกระดับเจดีย์พุทธะ
ภายในเจดีย์บรรพบุรุษ
ดูเหมือนจะมีมิติมากมายภายในเจดีย์และมู่เฉินก็นั่งอยู่หนึ่งในนั้น เขาเงยหน้าขึ้นพร้อมกับดวงตาที่สั่นไหว เขาสามารถมองเห็นเงาโบราณวูบวาบภายในความว่างเปล่า พื้นที่นี้ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยรัศมีประสบการณ์
“เจดีย์บรรพบุรุษนี้เป็นไพ่ตายที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าฝูถูซึ่งได้รับการสืบทอดมาหลายแสนปี ก่อนที่ผู้อาวุโสใหญ่ทุกคนจะสิ้นอายุขัย พวกเขาจะมาที่นี่และกระจายคลื่นหลิงออกไปเพื่อหลอมรวมกับเจดีย์บรรพบุรุษ ซึ่งนี่ทำให้เจดีย์บรรพบุรุษได้รับพลังอันไร้ขอบเขตเช่นนี้เมื่อเวลาผ่านไป”
ชิงเหยี่ยนจิ้งนั่งข้างมู่เฉินใบหน้านางดูเคร่งขรึมขณะที่กล่าวขึ้น “หากพลังอันเต็มเปี่ยมของเจดีย์บรรพบุรุษถูกปลดปล่อยออกมา สามารถสังหารจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งได้เลยทีเดียว”
“อดีตตอนที่จักรวรรดิปีศาจต่างมิติบุกเข้ามาในมหาพันภพ พวกมันก็โจมตีเผ่าฝูถู เหล่าบรรพบุรุษได้ใช้พลังของเจดีย์บรรพบุรุษเพื่อสังหารจอมปีศาจระดับเทียนสามคน”
เมื่อมู่เฉินได้ยินเช่นนั้นก็ฉายความขนพองสยองเกล้าบนใบหน้า จอมปีศาจระดับเทียนถือได้ว่าเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่ง ไม่คิดว่าพวกมันจะถูกสังหารโดยเจดีย์บรรพบุรุษ ดังนั้นบอกได้เลยว่าเจดีย์บรรพบุรุษน่ากลัวเพียงใด
“ที่จริงแล้วสรุปง่ายๆ ก็คือเจดีย์บรรพบุรุษถือว่าเป็นอาวุธมหสวรรค์ขั้นยอดเยี่ยม มิหนำซ้ำยังอยู่ในแถวหน้าของชั้นเซิ่งอีกด้วย”
มู่เฉินพยักหน้า เขาเคยเห็นบาตรแก้วแปดเทวลิขิตที่เป็นอาวุธมหสวรรค์ขั้นยอดเยี่ยมชั้นเซิ่งที่ได้รับการปรับแต่งโดยเทพจักรพรรดิสงครามและมันก็แค่ปลิวออกไปหลังจากรับการโจมตีของฝูถูเฉวียน แต่กระนั้นก็ไม่มีร่องรอยการแตกหักใดๆ ดังนั้นเขาจึงสามารถบอกได้ว่าสุดยอดอาวุธเทพนี้ทรงพลังเพียงใด
เห็นได้ชัดว่าเจดีย์บรรพบุรุษทรงพลังยิ่งกว่าบาตรแก้วแปดเทวลิขิต ตามการคาดการณ์ของเขานี่อาจเป็นหนึ่งในอาวุธมหสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุดในมหาพันภพ
“อีกครู่ข้าจะเร้ารัศมีบรรพบุรุษออกมา เจ้าก็รีบดูดซับซะ แม้ว่าเจดีย์พุทธะของเจ้าจะได้รับการพิจารณาให้เป็นอันดับต้นของอาวุธมหสวรรค์ขั้นยอดเยี่ยมธรรมดา แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นอาวุธมหสวรรค์ขั้นยอดเยี่ยมชั้นหลิงด้วยซ้ำ ดังนั้นข้าหวังว่าระดับของเจดีย์พุทธะของเจ้าจะแข็งแกร่งขึ้นด้วยสิ่งนี้” ชิงเหยี่ยนจิ้งยิ้ม
หัวใจของมู่เฉินถูกล่อลวงเมื่อได้ยิน เขารู้ถึงผลของเจดีย์พุทธะดี ไม่เพียงแต่สามารถผนึกได้ ยังสามารถเปลี่ยนคลื่นหลิงของเขาให้เป็นผลึกคลื่นบริสุทธิ์ ซึ่งมอบความมั่นใจให้กับเขาที่จะต่อกรจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซียนได้
มิฉะนั้นเพียงแค่คลื่นหลิงของเขาเพียงอย่างเดียว อาจถูกปราบปรามโดยจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซียนแล้ว ดังนั้นนี่จึงเป็นข่าวดีหากเขาสามารถยกระดับเจดีย์พุทธะได้อีกครั้ง
“ตกลง”
มู่เฉินพยักหน้าด้วยความคาดหวัง
ชิงเหยี่ยนจิ้งไม่ได้พูดอะไรเมื่อเห็นภาพนี้ จากนั้นนางก็วาดตราประทับ ทันใดนั้นมิติก็ผันผวนพร้อมกับเสียงกระหึ่มเก่าแก่ดังผ่านมิติที่ไม่มีที่สิ้นสุด
มู่เฉินเงยหน้าขึ้นมองเห็นรัศมีโบราณที่ไหลลงมา
เมื่อรัศมีโบราณปรากฏขึ้น มู่เฉินก็สัมผัสได้ถึงเจดีย์พุทธะภายในร่างกายสั่นไหวรุนแรงราวกับว่าได้เจออาหารอันโอชะ
มากจนก่อนที่มู่เฉินจะเรียกออกมา เจดีย์พุทธะก็ผุดขึ้นมาเหนือศีรษะและขยายออกไปอย่างรวดเร็ว มีขนาดหมื่นจั้งภายในเวลาไม่กี่ลมหายใจ
เจดีย์พุทธะแผ่รัศมี ดูดเกลียวรัศมีโบราณเข้าไปในเจดีย์
พร้อมกับการดูดซับรัศมีโบราณ แสงศักดิ์สิทธิ์ก็พวยพุ่งขึ้นบนเจดีย์ ดูลึกลับและบริสุทธิ์ยิ่งนัก
ในเวลาเดียวกันเจดีย์พุทธะขนาดใหญ่ก็ราวกับได้ขับสิ่งสกปรกออกไป ค่อยๆ ลดขนาดลง
ขณะที่หดตัวรัศมีศักดิ์สิทธิ์จากเจดีย์พุทธะก็บริสุทธิ์ยิ่งขึ้น ภายนอกเจดีย์ก็มีรัศมีโบราณไหลเวียนอยู่
เมื่อมู่เฉินสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของเจดีย์พุทธะ เขาก็ค่อยๆ หลับตาลงเข้าสู่สมาธิลึกซึ้ง เนื่องจากเขารู้สึกได้ถึงคลื่นหลิงจำนวนมหาศาลที่ถ่ายเทเข้าสู่ร่างกาย
เมื่อชิงเหยี่ยนจิ้งเห็นภาพนี้ก็ยิ้มก่อนจะหายตัวไปอย่างช้าๆ
มู่เฉินฝึกฝนตลอดทั้งเดือน
หลังจากหนึ่งเดือนผ่าน ชิงเหยี่ยนจิ้งก็ปรากฏตัวในมิติอีกครั้งพร้อมกับความตกใจและดีใจบนใบหน้าเมื่อเห็นภาพเบื้องหน้า
ยามนี้มู่เฉินยังคงนั่งนิ่ง ทว่าเจดีย์พุทธะได้หดตัวลงเหลือขนาดเท่าฝ่ามือขณะที่ลอยอยู่เหนือมู่เฉิน ดูดซับรัศมีโบราณอย่างต่อเนื่อง
ขนาดไม่ได้เป็นการเปลี่ยนแปลงเพียงอย่างเดียว แต่แม้กระทั่งรัศมีก็ยังมีร่องรอยของกลิ่นอายโบราณเข้มข้น
ขณะนี้เจดีย์พุทธะดูเหมือนจะไม่ได้ถูกสร้างจากคลื่นหลิง แต่ได้รับการขัดเกลาจนถึงขีดสุด ราวกับเป็นเจดีย์ผลึกแก้วของจริงที่ล่องลอยอยู่ในความลึกซึ้ง
นอกจากนี้ยังมีความผันผวนคลื่นหลิงทรงพลังที่เปล่งออกมาราวกับว่าเป็นอาวุธมหสวรรค์ขั้นยอดเยี่ยมของแท้
ตามการคาดการณ์ของชิงเหยี่ยนจิ้ง เจดีย์พุทธะน่าจะมีคุณภาพเทียบเท่าอาวุธมหสวรรค์ขั้นยอดเยี่ยมชั้นหลิงแล้ว
ทว่านั่นยังไม่ใช่ขีดจำกัด
นางสัมผัสได้ว่าเจดีย์พุทธะยังสั่นสะท้านอยู่ตลอดเวลา กำจายความตะกละตะกลามขณะที่ดูดซับรัศมีโบราณราวกับว่าต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้นไปอีก
ทว่ารัศมีโบราณที่พุ่งลงมาไม่ได้เข้มข้นมาก ดังนั้นการเพิ่มประสิทธิภาพจึงช้าลง
“ในเมื่อเฉินเอ๋อมีความสามารถเช่นนี้ ในฐานะมารดาข้าต้องช่วยเขาหน่อยแล้ว”
ชิงเหยี่ยนจิ้งยิ้มถ้าเป็นผู้อาวุโสทั่วไป นางก็ไม่สนใจแน่นอน เนื่องจากรัศมีโบราณในเจดีย์บรรพบุรุษล้ำค่ามาก ดังนั้นเว้นแต่จะเป็นคนที่มีคุณูปการยิ่งใหญ่ มิฉะนั้นไม่มีทางที่จะได้รับแน่
ทว่าคนอย่างชิงเหยี่ยนจิ้งไม่เล่นตามกฎอยู่แล้ว ในมุมมองของนางรัศมีบรรพบุรุษอาจมีค่า แต่ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะลอยอยู่แค่ที่นี่ ดังนั้นใช้ประโยชน์มอบคุณค่าให้ซะจะดีกว่า
นางเคาะนิ้วมิติก็สั่นไหว รัศมีโบราณเริ่มหนาแน่นขึ้นและเทลงไปในเจดีย์พุทธะ
ฮึ่ม ฮึ่ม!
เมื่อรัศมีโบราณจำนวนมหาศาลหลั่งไหลลงมา เจดีย์พุทธะก็สั่นสะท้านรุนแรง เปล่งประกายราวกับว่าสามารถยับยั้งสรรพสิ่งในโลกได้
ชิงเหยี่ยนจิ้งยังสามารถเห็นลวดลายโบราณเริ่มปรากฏบนพื้นผิวของเจดีย์ซึ่งดูโบราณและลึกซึ้ง
ตู้ม!
เมื่อลวดลายโบราณปกคลุมทั้งเจดีย์ เจดีย์ผลึกแก้วนี้ก็สั่นสะท้าน แสงที่เปล่งออกมาทำให้กระทั่งชิงเหยี่ยนจิ้งยังต้องหรี่ตาลง
แสงคงอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะหายไป
เจดีย์พุทธะลอยอยู่เหนือศีรษะมู่เฉิน แสงเริ่มหดตัวลงกลายเป็นภาพโบราณที่มีลวดลายอยู่บนตัว ซึ่งทำให้มิติโดยรอบแปรปรวน
ในเวลาเดียวกันมู่เฉินก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น เจดีย์พุทธะที่ลอยอยู่เหนือศีรษะก็พลิ้วลงมาที่ฝ่ามือ
มู่เฉินจ้องมองไปที่เจดีย์และสัมผัสได้ถึงพลังที่น่าตกใจนั่น
ตามการคาดการณ์ของเขาเจดีย์พุทธะนี้อาจไม่ได้ด้อยไปกว่ากระบี่เกล็ดจักรพรรดิเลย
ในอดีตกระบี่เกล็ดจักรพรรดิเป็นหนึ่งในไพ่ตายของเขา แต่ตอนนี้แม้ว่าเจดีย์พุทธะจะเทียบไม่ได้กับกระบี่ที่อยู่ในจุดสูงสุด แต่ก็อยู่ใกล้แค่เอื้อมแล้ว
ที่สำคัญที่สุดยังมีคลื่นหลิงมหาศาลหลั่งไหลออกมาจากเจดีย์พุทธะกลับเข้าสู่ร่างกายของเขา ทำให้ความแข็งแกร่งของเขาก้าวหน้าขึ้นอีกครั้งทะลุระดับเทียนจื้อจุนขั้นหลิงระยะกลางแล้ว
“สมกับเป็นเจดีย์พุทธะ สามารถพัฒนาในระดับนี้ได้ด้วยรัศมีโบราณ” ชิงเหยี่ยนจิ้งถอนหายใจ
ตอนนี้เจดีย์พุทธะมาถึงจุดสูงสุดของอาวุธมหสวรรค์ขั้นยอดเยี่ยมชั้นเซียนแล้ว
อาวุธมหสวรรค์ขั้นยอดเยี่ยมชั้นเซียนเป็นสิ่งที่หาได้ยาก แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซียนก็ไม่มีในครอบครอง มากจนจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งบางคนที่เพิ่งบรรลุก็ใช้อาวุธมหสวรรค์ขั้นยอดเยี่ยมในชั้นนี้ ดังนั้นจึงมองเห็นมูลค่าได้
ด้วยอาวุธมหสวรรค์ระดับนี้ แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นเต็มก็สามารถต่อกรกับจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นหลิงได้
“ขอบคุณท่านแม่”
มู่เฉินยิ้ม เขารู้ดีว่าถ้าไม่ใช่เพราะมารดาควบคุมเจดีย์บรรพบุรุษเพื่อให้รัศมีโบราณทรงคุณค่าเพิ่ม คงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าที่เขาจะไปถึงจุดนี้ได้
ชิงเหยี่ยนจิ้งยิ้ม “รัศมีโบราณไม่มีประโยชน์ถ้าทิ้งไว้ที่นี่หรอก ในเมื่อเจ้ามีความสามารถก็เอาไปเถอะ แต่นี่คือสิ่งที่เป็นของเผ่าฝูถู แม่หวังว่าหากอนาคตเผ่าฝูถูตกอยู่ในอันตราย เจ้าจะลงมือช่วยเหลือนะลูกรัก”
ชิงเหยี่ยนจิ้งรู้ว่ามู่เฉินไม่มีความรู้สึกดีกับเผ่าฝูถูด้วยมีม่านกั้นอยู่ในใจเขา แต่นี่เป็นสิ่งที่นางไม่อยากเห็น ดังนั้นนางจึงอยากใช้สิ่งนี้ปัดเป่าความขุ่นเคืองในใจของบุตรชายไปบ้าง
มู่เฉินรู้ความคิดของชิงเหยี่ยนจิ้งดี ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าหลังจากไตร่ตรองชั่วครู่ “ตราบใดที่ท่านแม่สบายดี ก็ไม่มีอะไรที่แก้ไขไม่ได้ระหว่างข้ากับเผ่าฝูถู”
“ทักษะการฝึกฝนและสายเลือดของข้าแม้จะมาจากท่านแม่ แต่ท่านก็มาจากเผ่าฝูถู ดังนั้นหากเผ่ามีปัญหาในอนาคตข้าจะต้องช่วยเหลือแน่”
ชิงเหยี่ยนจิ้งพยักหน้าด้วยความพอใจพลางลูบศีรษะมู่เฉินด้วยความรักก่อนที่จะยิ้ม “ในเมื่อเรียบร้อยแล้ว เราก็เตรียมออกเดินทางกันเถอะ”
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นความปีติยินดีก็ฉายบนใบหน้าของมู่เฉิน
“ได้เลย!”
เมื่อเห็นความสุขของบุตรชาย ชิงเหยี่ยนจิ้งก็รู้สึกยินดีตามไปด้วย นางยิ้มด้วยความปรารถนาข้นคลั่กในดวงตา