หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler - บทที่ 1487 หกสิบแปดล้าน
ครืน!
ท้องฟ้าคำรน มหาสมุทรคำรามพร้อมกับรัศมีจั้นยี่มังกรตัวมหึมาขดอยู่ ลวดลายจั้นเหวินหกสิบแปดล้านลายกำลังเต้นระริกอยู่บนร่างของมัน รัศมีจั้นยี่ตลบอบอวลทำเอามิติสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น…
ลวดลายจั้นเหวินหกสิบแปดล้านลาย!
เมื่อเห็นจำนวนลวดลายจั้นเหวินที่มีมากมายมหาศาล ผู้คนที่อยู่นอกเจดีย์ก็สูดอากาศเย็นสุดปอดพร้อมกับฉายสีหน้าตกตะลึง ไม่มีใครคิดว่ามู่เฉินจะประสบความสำเร็จเพียงนี้ได้…
“ไอ้เด็กบ้านั่น…”
หมัวเฮอเทียนฉายความดำมืดในดวงตากับฉากนี้ เผชิญหน้ากับลวดลายจั้นเหวินหกสิบแปดล้านลาย กระทั่งจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซียนระยะปลายยังต้องล่าถอย
ประจันหน้ากับพลังนี้ไม่ต้องพูดถึงซื่อหลัวเลย แม้แต่หมัวเฮอโยวก็ยังต้องถอยหนี
ยามนี้มู่เฉินคุกคามหมัวเฮอโยวได้อย่างแท้จริง
“เขายังมีไพ่ตายอยู่ในมืออีกเหรอเนี่ย?” ฝูถูเฉวียนตกใจกับฉากนี้ ตอนแรกเขาคิดว่ามู่เฉินคงจะตกที่นั่งลำบาก ที่ไหนได้ชายหนุ่มกลับพลิกโอกาสกลับมาได้อีกครั้ง
“แต่ว่ารัศมีจั้นยี่ระดับนี้เกินการควบคุมของเขาแล้ว ดูเหมือนว่าซื่อหลัวจะบีบให้เขาต้องนำไพ่ตายออกมา”
ฝูถูเฉวียนเห็นน้ำตาเลือดไหลจากมุมตาของมู่เฉิน นี่เป็นเพราะรัศมีจั้นยี่รุนแรงและทรงพลังเกินไป ด้วยเหตุนี้มู่เฉินจึงไม่สามารถควบคุมได้อย่างสมบูรณ์ แต่โชคดีที่เขาประสบความสำเร็จสูงไม่งั้นอาจจะตายจากพลังล้นเหลือนี่ก็ได้
ชิงเหยี่ยนจิ้งพยักหน้าเบาๆ ทอดถอนหายใจและรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าว นางรู้ว่าก่อนที่พวกนางแม่ลูกจะได้พบกัน มู่เฉินบีบตัวเองอยู่ในสถานการณ์การต่อสู้ท้าทายขีดจำกัดตนเองมาตลอด
เพราะต้องใช้ชีวิตสู้เท่านั้นเขาถึงจะประสบความสำเร็จเช่นนี้
ขณะที่มหาสมุทรคำราม
ซื่อหลัวก็เงยหน้าขึ้นมองไปที่มังกร แรงกดดันที่เอิบอาบทำให้เขารู้สึกเจ็บแปลบที่ผิวหนัง
ความกดดันมหาศาลปกคลุมไปทั่ว
“ไม่คิดว่าเจ้าจะทำถึงระดับนี้ได้…” ซื่อหลัวถอนหายใจ
มู่เฉินเช็ดน้ำตาเลือดบนแก้มแล้วคลี่รอยยิ้ม ใบหน้าเขาดูน่าขนพองสยองเกล้าเล็กน้อย “คู่ต่อสู้ทรงพลังเกินไป ดังนั้นข้าก็ต้องใช้ความแข็งแกร่งให้เต็มที่”
ตอนแรกทักษะนี้เป็นสิ่งที่เขาเก็บไว้เพื่อใช้กับหมัวเฮอโยว แต่ดันโชคร้ายมาเจอศัตรูทรงพลังอย่างซื่อหลัวก่อน ดังนั้นจึงต้องงัดไพ่ตายนี้ออกมา
“งั้นข้าก็รู้สึกเป็นเกียรติยิ่งนัก”
ซื่อหลัวยิ้มก่อนที่ใบหน้าจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม แม้จะเผชิญกับแรงกดดันเช่นนี้คนอย่างเขาก็ไม่ยอมแพ้ มือประสานเข้าด้วยกัน “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ขอข้าทดสอบความแข็งแกร่งของลวดลายจั้นเหวินหกสิบแปดล้านลายหน่อยเถอะ”
มู่เฉินไม่ได้พูดอะไรอีก แต่หลับตาลงและประสานมือเข้าด้วยกัน
โฮก!
มังกรคำราม ดวงตาเปล่งประกายราวกับดาวสองดวงจ้องมองไปที่ซื่อหลัว อึดใจต่อมาหางมังกรก็ฟาดลงพร้อมกับการยุบตัวของมิติ ภาพเงาขนาดใหญ่กลายเป็นคลื่นรัศมีจั้นยี่รุนแรงเล็งเป้าไปที่ซื่อหลัว
ขณะที่คลื่นกวาดลงมาก็ทำให้ทุกอย่างที่ขวางหน้าแตกเป็นเสี่ยงๆ
หลุมอุกกาบาตขนาดใหญ่ก่อตัวในมหาสมุทรเบื้องล่างจนน้ำไม่สามารถเติมเต็ม
โดยที่มีซื่อหลัวยืนอยู่ตรงกลาง
เมื่อมองไปที่มังกรดำดิ่งลงซื่อหลัวก็หายใจเข้าลึกๆ “ทักษะมหาวัชระ!”
ฮึ่ม ฮึ่ม!
ทันใดนั้นเลือดในร่างซื่อหลัวก็เดือดพล่านพร้อมกับรัศมีแวววาว ตัวเขาเริ่มขยายขนาด ในช่วงเวลาสั้น ก็กลายเป็นยักษ์สูงร้อยจั้งที่ปกคลุมไปด้วยลวดลายสีทองโบราณ เลือดสีทองไหลออกมาจากรูขุมขน
กลิ่นอายดุร้ายระเบิดออกมาจากร่างของเขา
“นั่นคือวิทยายุทธระดับเสินทงที่แข็งแกร่งที่สุดของขุมกำลังยอดวิญญาณ มีข่าวลือว่าเทียบได้กับวิทยายุทธระดับเสินทงขั้นสุดยอดในตำนานสามสิบหกกระบวนท่าเลยทีเดียว!”
เมื่อมองไปที่ยักษ์สีทอง ความปั่นป่วนก็กวนตัวที่ด้านนอกเจดีย์พร้อมกับผู้คนจำนวนส่งเสียงฮือฮา เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครคิดว่าซื่อหลัวจะประสบความสำเร็จในการฝึกฝนทักษะเทพที่แข็งแกร่งที่สุดของขุมกำลังยอดวิญญาณ
เห็นได้ชัดว่านั่นคือไม้ตายของซื่อหลัว ซึ่งถูกมู่เฉินบังคับให้ต้องใช้
โฮก!
ยักษ์สีทองคำราม วงล้อสีทองขนาดใหญ่ถูกสร้างขึ้นระหว่างมือ เมื่อเกิดการหมุนก็ปล่อยแรงกดดันที่น่ากลัวซึ่งราวกับโล่ที่แข็งแกร่งที่สุด
ตู้ม!
รัศมีจั้นยี่กวาดข้ามขอบฟ้าก่อนที่จะซัดลงมาที่วงล้อสีทอง
ทุกคนที่อยู่นอกเจดีย์สามารถมองเห็นคลื่นกระแทกน่ากลัวแผ่ออกไปพร้อมกับรัศมีสีทองปกคลุมท้องฟ้า แม้แต่คนที่ยืนอยู่ข้างนอกยังสัมผัสได้ถึงการเผชิญหน้าที่น่ากลัว…
กระบวนท่าครั้งนี้สามารถฆ่าจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นปลายได้เลยทีเดียว
“ใครชนะ?”
แต่ดวงตาทุกคู่ก็เกาะแน่นอยู่ที่กระจกขณะที่แสงสีทองพร่างพราวกินเวลาสิบกว่านาทีก่อนที่จะค่อยๆ สลายไป ทุกคนจับจ้องไปโดยไม่กะพริบตา
มหาสมุทรยุบตัวลง น้ำไม่สามารถเติมเต็มปากปล่องขนาดใหญ่ได้ น้ำราวกับน้ำตกขณะตกลงมาจากรอบด้าน…
ในปากปล่องสามารถมองเห็นร่างปกคลุมไปด้วยเลือด หัวโล้นเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวบอกว่านั่นคือซื่อหลัว
แต่ขณะนี้คลื่นหลิงรอบตัวเขาลดลง ชัดว่าเขาได้รับบาดเจ็บหนัก
บนท้องฟ้าไกลออกไป มหาสมุทรจั้นยี่ก็เบาบางลง แต่ร่างเงาอ่อนเยาว์ยังนั่งอยู่ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจน…
รอบเจดีย์วั้นกู่เงียบกริบ ทว่าผลลัพธ์นี้ชัดเจนแล้ว
เหนือมหาสมุทรรัศมีจั้นยี่ที่เบาบางลง มู่เฉินมองไปที่ซื่อหลัวที่หมดสติด้วยสีหน้าซีดเซียว อึดใจเขาก็กระอักเลือดออกมา
“จอมทัพมู่ นักรบมังกรดำหนึ่งหมื่นคนได้รับบาดเจ็บหนัก ต้องใช้เวลาหลายเดือนในการฟื้นตัว” เสียงของเจียงหลงดังก้อง มู่เฉินหันไปมองก็เห็นใบหน้าอีกฝ่ายซีดขาวเช่นกัน มีรอยเลือดไหลลงจากมุมปากด้วย
ครั้งนี้แม้จะเอาชนะซื่อหลัวได้ แต่กองทัพมังกรดำก็จ่ายราคามหาศาล
มู่เฉินสะบัดแขนเสื้อขวดหยกบินไปหาเจียงหลง “ในนี้มีของเหลวจื้อจุนสามร้อยล้านหยด แจกจ่ายให้ทั่ว ทุกคนต้องฟื้นตัวรวดเร็วที่สุด”
“รับทราบ!”
เจียงหลงฉายท่าทางยินดี กองทัพมังกรดำสามารถฟื้นตัวได้เร็วมากขึ้นด้วยจำนวนของเหลวจื้อจุนทั้งหมดนี้
มู่เฉินโบกมือเรียกกองทัพมังกรดำกลับมา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนมองร่างที่ลอยอยู่ในมหาสมุทร
ซื่อหลัวทรงพลังอย่างแท้จริง แต่โชคดีที่เขาชนะ
มิติบิดเบี้ยวรอบร่างซื่อหลัวห่อหุ้มร่างกายนำออกจากเจดีย์วั้นกู่
พร้อมกับการหายไปของซื่อหลัว ร่างเทพสุริยะนิรันดร์ก็แตกเป็นเสี่ยงๆ พร้อมกับแสงสีม่วงทองสายใหญ่บินออกมา
โฮก!
ร่างเทพสุริยะนิรันดร์ของมู่เฉินเปล่งเสียงคำรามด้วยความกระหายก่อนที่ดูดกลืนลำแสงนั้น
ครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งก่อนๆ บังเกิดรัศมีสีทองบนหน้าผากของร่างเทพสุริยะนิรันดร์ ก่อนที่มันจะเงยหน้าขึ้นจ้องมองขึ้นไปบนสวรรค์และโลก
เมื่อมองไปที่ภาพนี้ มู่เฉินก็เหม่อลอยไป ไม่รู้ใช่ความเข้าใจผิดหรือไม่ เขารู้สึกได้ถึงแรงกระตุ้นจากร่างเทพสุริยะรันดร์ที่คิดจะสลายตนและหลอมรวมเข้ากับฟ้าดินนี้…
ความรู้สึกนั้นคงอยู่เพียงวูบเดียว มู่เฉินฟื้นสติอย่างรวดเร็วมองไปที่ร่างเทพสุริยะนิรันดร์ ลวดลายสีทองราวกับชั้นชุดเกราะสีทองยากทำลายปกคลุมบนร่างของมัน
เมื่อรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ มู่เฉินก็ยิ้มก่อนที่จะโบกมือเรียกร่างเทพสุริยะนิรันดร์กลับคืน
เขารู้สึกได้ว่ามิติโดยรอบเริ่มบิดเบี้ยวอีกครั้ง
นั่นแสดงว่าเขาผ่านชั้นนี้และกำลังจะเข้าสู่ชั้นถัดไป ซึ่งเขาใกล้จะได้แตะร่างมหาเทพนิรันดร์แล้ว!
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ดวงตามู่เฉินก็ลุกโชกด้วยไฟปรารถนา เลือดทั้งกายเหมือนจะเดือดพล่านในเวลานี้ ความโหยหาที่ไม่เคยมีมาผุดขึ้นจากส่วนลึกของจิตใจ
ร่างมหาเทพนิรันดร์!
เขารอวันนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ?
นับตั้งแต่ที่เขาเริ่มฝึกฝนร่างเทห์สวรรค์เขาก็โหยหาถึงวันนี้ แต่ในเวลานั้นเขายังอ่อนแอเกินไป จึงทำได้เพียงซ่อนความปรารถนาไว้ในใจ
หลังจากผ่านไปหลายปีในที่สุดลูกนกก็เติบใหญ่โผบินขึ้นสู่ท้องฟ้า
ในตอนนี้เขาเป็นจอมยุทธ์ระดับสุดยอดของมหาพันภพและมีคุณสมบัติที่จะแสดงความปรารถนาในใจของตนเอง…
มู่เฉินค่อยๆ หลับตาลง ปล่อยให้ร่างถูกห่อหุ้มด้วยคลื่นมิติบิดเบี้ยวแล้วค่อยๆ หายไป
“ร่างมหาเทพนิรันดร์ ข้ามาแล้ว”