หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler - บทที่ 1520 คนคนนั้น
โฮก!
ชั้นรัศมีปีศาจถูกฉีกออกจากกัน มังกรสีม่วงทองขนาดมหึมาปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับเกล็ดสีทองเปล่งรัศมีสีทองสว่างจ้า เมื่อแผ่กระจายออกไปรัศมีปีศาจก็ถูกสลายไปด้วยแรงกดดันที่น่ากลัว
เบื้องหลังมังกรสีม่วงทองยังมีสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ติดตามมา อึดใจต่อมาคลื่นหลิงทรงพลังก็กวาดออก ทำเอาแรงกดดันปีศาจถอยร่นกลับไปอีกหลายส่วน
“นั่นจักรพรรดิมังกรแท้จริง อดีตผู้อาวุโสใหญ่เผ่ามังกร!”
“จักรพรรดิหงส์ฟ้าแท้จริงก็อยู่ที่นี่เช่นกัน!”
“ส่วนนั่นคือผู้อาวุโสคุนเผิงและราชันวานรทะลุฟ้า!”
“…”
เสียงโห่ร้องดังมาจากในดินแดนวั้นมู่ เนื่องจากสิ่งมีชีวิตขนาดมหึมาเหล่านั้นเป็นมหาเทพอสูรสูงสุดที่มีชื่อเสียงของมหาพันภพ
จอมยุทธ์ที่ถูกกล่าวถึงเหล่านี้เทียบได้กับระดับเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งระยะปลาย ซึ่งไม่ได้อ่อนแอไปกว่าฉิงเทียน ชิงซันและปู้สือเลย
ท้ายที่สุดแล้วมีสิ่งมีชีวิตมากมายเกินคณนาในมหาพันภพ นอกเหนือจากเผ่ามนุษย์ยังมีเผ่าเทพอสูร และในบรรดาเผ่าเทพอสูรนี้ มหาเทพอสูรก็คือโอรสสวรรค์ ความแข็งแกร่งไม่ได้อ่อนแอไปกว่ามนุษย์เลย
แม้ว่าทั้งสองเผ่าพันธุ์มักจะมีข้อพิพาทกันเนืองๆ แต่ทุกคนก็เป็นส่วนหนึ่งของมหาพันภพ ดังนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับเผ่าปีศาจที่บุกรุกเข้ามาในบ้าน พวกเขาก็ต้องร่วมมือร่วมใจกันเอาชนะ
ทุกคนเข้าใจดีว่าหากมหาพันภพตกอยู่ในเงื้อมมือของจักรวรรดิปีศาจ ทุกสรรพสิ่งก็จะตกเป็นทาส
ภายใต้สายตาที่เต็มไปด้วยความสุขของทุกคน เหล่าเทพอสูรก็ย่อขนาดร่างกายลง คนนำเบื้องหน้าเป็นชายวัยกลางคนสวมชุดคลุมสีม่วงทองดูแข็งกระด้าง ดวงตาของเขาราวกับทองที่เอิบอาบความกดดันน่ากลัว
ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็คือจักรพรรดิหงส์ฟ้าจากสองตระกูล เป็นหนึ่งชายหนึ่งหญิง
มู่เฉินได้พบกับหวงจิงจักรพรรดิหงส์ฟ้าแท้จริงมาก่อนเมื่อในอดีต แม้ว่าพลังของเขาจะอยู๋ในระดับเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งระยะกลาง แต่ถ้าร่วมมือกับจักรพรรดิหงส์แท้จริงอีกคนก็สามารถเผชิญหน้ากับจอมปีศาจระยะปลายสุดสองคนได้เลยทีเดียว
ที่เบื้องหลังยังมีจอมยุทธ์เทพอสูรจากเผ่าต่างๆ ซึ่งดูเกรี้ยวกราดนัก
“พี่ฉิง พวกข้าคงไม่ได้มาสายใช่ไหม” จักรพรรดิมังกรแท้จริงประสานมือเข้าด้วยกันคารวะ
เมื่อเห็นกำลังเสริม ฉิงเทียน ชิงซันและปู้สื่อก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แม้ว่าจะมีจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนมากมายในดินแดนวั้นมู่ แต่ทุกคนก็จดจ่ออยู่กับค่ายกลไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้แค่พวกเขาสามคนก็ไม่เพียงพอที่จะเผชิญหน้ากับจักรวรรดิปีศาจต่างมิติที่ยกพลกันมาที่นี่
ด้วยการมาถึงของเผ่าเทพอสูร ความกดดันที่มีก็คลายลงทันที
“ฮ่าๆ ไอ้พวกปีศาจเวรไม่เคยคิดยอมแพ้เลยใช่ไหม? โหยหามหาพันภพของเรายิ่งนัก!” ม่านตาสีทองของจักรพรรดิมังกรแท้จริงกะพริบอย่างเย็นชา ขณะที่มองไปที่ปีศาจที่น่ารังเกียจ
จอมปีศาจเซิ่งเทียนมองกลับมาอย่างไม่แยแส “ก็แค่พวกแมลงยังกล้าพูดเย่อหยิ่งเช่นนี้? เมื่อไรที่จักรวรรดิปีศาจครอบครองมหาพันภพ พวกข้าจะใช้เทพอสูรอย่างเจ้าเป็นพาหนะ”
“ไอ้เวรรนหาที่ตาย!” ราชันวานรทะลุฟ้าคำรามรุนแรงขณะที่ม่านตาเปลี่ยนเป็นสีแดง มือเขากำแน่นไม้พลองก็ปรากฏขึ้น มิติแตกออกพร้อมกับการกวัดแกว่ง
“เผ่าอั้นหมัวกำจัดพวกมันซะ อย่าปล่อยให้แมลงเหล่านั้นเข้าใกล้” จอมปีศาจเซิ่งเทียนสั่งการอย่างไม่แยแส
“ฮี่ๆ แมลงเหล่านี้น่ารำคาญก็จริง แต่เนื้อหอมหวลเป็นยาบำรุงชั้นดีสำหรับเรา!” จอมปีศาจอั้นเทียนยิ้มขณะที่มองดูเหล่าเทพอสูรก่อนที่จะโบกมือ
ในมิติแตกร้าว รัศมีปีศาจรุนแรงพวยพุ่งออกมา สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่หลายร่างปรากฏขึ้น เมื่อพลังแผ่ซ่านออกมาทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ว่าพวกมันก็คือจอมปีศาจระดับเทียนทั้งหมด
แม้ว่าจะมีขอบเขตระนาบมิติในพิภพเขตล่าง แต่ครั้งนี้เผ่าปีศาจก็ใช้พลังทั้งหมดที่มีเพื่อนำกองทัพผ่านเข้ามาได้
“ฮ่าๆ พวกข้าเคยจับแมลงกินมาแล้ว เนื้อของมันหวานกรอบอร่อย แต่ข้าว่าพวกมันรสชาติน่าจะด้อยกว่าเมื่อเทียบกับแก” จอมปีศาจอั้นเทียนยิ้มพร้อมกับหรี่ตาขณะมองไปที่จักรพรรดิมังกรแท้จริง
ดวงตาของจักรพรรดิมังกรแท้จริงเปลี่ยนไปเป็นน่ากลัวตอบว่า “ข้าจะฉีกแกทีละชิ้นเพื่อใช้เป็นเครื่องสังเวยให้กับเผ่าพันธุ์เหล่านั้น!”
“ข้ากลัวว่าแกจะทำไม่สำเร็จนะสิ”
จอมปีศาจอั้นเทียนยิ้มขณะที่ดวงตามืดมนลงพลางประกาศอย่างไม่แยแส “ฆ่าพวกมัน!”
ตู้ม!
ที่ด้านหลังทันใดนั้นเหล่าปีศาจก็ระเบิดรัศมีปีศาจออกมาซึ่งสร้างหายนะไปทั่วภูมิภาค ห่อหุ้มไปทางกลุ่มจักรพรรดิมังกรแท้จริง พวกมันทั้งหมดก็คือจอมปีศาจระดับเทียน
“ฆ่า! ฆ่าไอ้พวกนั้นซะ!”
ราชาวานรทะลุฟ้าคำรามพลางซัดไม้พลองออกไป ฉีกแหวกมิติเหวี่ยงเข้าหาหนึ่งในจอมปีศาจ
คุนเผิง หวงจิงและจอมยุทธ์มหาเทพอสูรเผ่าอื่นๆ ก็เคลื่อนไหวเช่นกัน คลื่นหลิงไร้ขอบเขตครางกระหึ่มพร้อมกับแรงกดดัน ขณะที่เข้าโรมรันไม่มีกลัวเกรง
ตู้ม ตู้ม!
การเผชิญหน้าครั้งนี้ทำให้โลกโยกคลอนไปหมด คลื่นหลิงมหาศาลและคลื่นปีศาจปะทะกันแม้แต่ดวงดาวบนท้องฟ้าก็สั่นไหว
จักรพรรดิมังกรแท้จริงไม่ได้เคลื่อนไหว แต่สายตาจับจ้องไปที่จอมปีศาจอั้นเทียนที่ดูสบายใจ เขารู้สึกถึงรัศมีอันตรายอย่างยิ่งจากอีกฝ่าย
“เจ้าแมลง ยังไม่ลงมืออีกเหรอ?” จอมปีศาจอั้นเทียนยิ้มพร้อมกับหรี่ตาลงขณะมองไปที่จักรพรรดิมังกรแท้จริง
ดวงตาของจักรพรรดิมังกรดูน่าสะพรึงกลัวขึ้น ตัวเขาเป็นจอมยุทธ์ชั้นสูงสุดในมหาพันภพและไม่มีใครโอหังเรียกเขาในลักษณะนี้ แม้ว่าคนคนนี้จะทำให้เขารู้สึกว่าถูกคุกคาม แต่ดวงตาของจักรพรรดิมังกรแท้จริงก็ยังคงเปล่งประกายด้วยความเย็นชา
“ในเมื่อไม่คิดขยับตัวก็ตายซะ” จอมปีศาจอั้นเทียนยิ้มขณะที่กระแสคลื่นในม่านตาหมุนคว้างกลายเป็นลำแสงสีดำพุ่งออกมา
ลำแสงสีดำนั้นเต็มไปด้วยรัศมีแห่งการทำลายล้าง ในเส้นทางพาดผ่านพลังทั้งหมดถูกลบออก ช่างน่ากลัวยิ่งนัก
เมื่อลำแสงสีดำปรากฏขึ้นจักรพรรดิมังกรก็มีสีหน้าเคร่งเครียด เขาไม่กล้าที่จะประมาท เสียงคำรามดุดันดังออกมาจากลำคอ
“กรงเล็บมังกรแท้จริง!”
เขายื่นมือออกมาก่อร่างเป็นกรงเล็บมังกรขนาดยักษ์ซึ่งปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีม่วงทอง เมื่อเหวี่ยงออกไปมิติก็ฉีกออกจากกัน แม้ว่าจะมีสะเก็ดมิติบินวนรอบกรงเล็บมังกร แต่ก็ไม่สามารถทิ้งรอยใดๆ ไว้บนเกล็ดได้ ในทางกลับกันยิ่งทำให้กรงเล็บนี้ดุร้ายมากขึ้น
กรงเล็บนี้สามารถฉีกทะลุร่างเวทสวรรค์ของจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งธรรมดาได้เลยทีเดียว
ชี่!
กรงเล็บมังกรพุ่งหวือออกไปชนเข้ากับลำแสงสีดำ ทว่าความปั่นป่วนขนาดใหญ่ที่คาดไว้ไม่ได้เกิดขึ้น แต่มิติก็ยังยุบลงอย่างรวดเร็วกลายเป็นหลุมดำขนาดใหญ่
เมื่อกรงเล็บมังกรหายไปจักรพรรดิมังกรแท้จริงก็ตัวสั่นสะท้าน เกิดรอยเลือดไหลลงที่กรงเล็บของเขา
จอมปีศาจอั้นเทียนยิ้มให้จักรพรรดิมังกรแท้จริง อึดใจต่อมาก็สร้างภาพมายาทะยานออกไปพร้อมกับกระแสคลื่นวนในดวงตาเขาหมุนคว้างเร็วขึ้น
โฮก!
จักรพรรดิมังกรแท้จริงเปล่งเสียงคำราม ร่างกายก็เริ่มขยายขนาดพร้อมกับเกล็ด ดูเหมือนมนุษย์มังกรพุ่งเข้าปะทะกับจอมปีศาจอั้นเทียน
ปัง ปัง ปัง!
ทั้งสองฝ่ายปะทะกัน ทุกกระบวนท่าก็ทำให้พื้นดินสั่นสะเทือน
เมื่อมองไปที่เหล่าจอมยุทธ์ที่ช่วยซื้อเวลาไม่ให้พวกเขาเข้าสู่ดินแดนวั้นมู่ได้ จอมปีศาจเซิ่งเทียนก็หันกลับไปมองฉิงเทียน ชิงซันและคนอื่นๆ “เมื่อพวกข้าปรากฏตัว จักรวรรดิปีศาจก็ได้เริ่มบุกโจมตีมหาพันภพทุกหัวระแหงแล้ว ดังนั้นอย่าหวังว่าจะได้รับกำลังเสริมใดอีก”
ฉิงเทียนตอบอย่างเย็นชา “นั่นก็หมายความว่ากำลังของเผ่าปีศาจถูกรั้งไว้มากเช่นกัน”
ฉิงเทียนเอี้ยวหน้ามองไปที่ดินแดนวั้นมู่ ขณะนี้มีหอกมากกว่าสี่สิบเล่มสร้างขึ้นโดยค่ายกล หลังจากนี้อีกประมาณห้าสิบครั้งพลังชีวิตของเทพปีศาจจักรพรรดิก็จะถูกลบออกตลอดกาล
พวกเขาต้องลากเวลาออกไป
“ถ้าพี่เซียวและพี่หลินอยู่ที่นี่ ไอ้พวกปีศาจเหล่านี้จะหยิ่งยโสได้ยังไง?” ฉิงเทียนถอนหายใจ กระทั่งเขาเองยังรู้สึกชื่นชมคนทั้งสอง แม้ว่าพวกเขาจะเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งระยะปลายเหมือนกัน แต่ฉิงเทียนมีความรู้สึกที่คลุมเครือว่าตนเองไม่สามารถเทียบเคียงกันเทพจอมยุทธ์ทั้งสองได้
ตลอดหลายหมื่นปีที่ผ่านมามีอัจฉริยะมากมายนับไม่ถ้วนในมหาพันภพ ซึ่งเขาก็ได้พบมามาก แต่ไม่เคยมีใครที่สามารถให้ความรู้สึกเช่นนี้มาก่อน
“พวกมันสองคนเป็นตัวปัญหาจริงๆ พวกข้าถึงกับต้องแยกกองทัพสูงสุดออกจากกัน” จอมปีศาจเซิ่งเทียนทอดถอนหายใจ “ถ้าพวกมันมีเวลามากกว่านี้ ข้ากลัวว่าทั้งสองคนนั่นจะไปถึงในระดับของเทพจักรพรรดินิรันดร์ แต่ช่างน่าเสียดาย…”
รอยยิ้มผิดแผกปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของจอมปีศาจเซิ่งเทียน “พวกเจ้าไม่มีโอกาสนั้นแล้ว”
สายตาของฉิงเทียนเย็นชาลง “นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าพวกแกสามารถทำลายค่ายกลได้หรือไม่!”
จอมปีศาจเซิ่งเทียนมองไปที่ฉิงเทียน สายตาก็ดูแปลกประหลาดยิ่งขึ้น รอยยิ้มยิ่งดูน่ากลัว “ฉิงเทียน ข้าไม่สามารถทำอะไรกับค่ายกลย์นี้ได้ก็จริง”
“แต่คนอื่นทำได้…”
ม่านตาของฉิงเทียนหดลงขณะแลกเปลี่ยนสายตากับชิงซันและปู้สื่อ พวกเขาเร้าคลื่นหลิงปกคลุมรอบตัวทันที ตั้งระวังสูงสุด
“ข้าจะดูว่าใครสามารถทำลายค่ายกลได้!” ฉิงเทียนยิ้มเย็น
จอมปีศาจเซิ่งเทียนคลี่ยิ้ม ทว่ารอยยิ้มดูพิลึกนัก เขาจ้องมองไปที่ฉิงเทียนและพูดช้าๆ
“ในเมื่อเจ้าอยากรู้ งั้นข้าจะบอกให้เอาบุญว่า… คนคนนั้น…”
“ก็คือแก…ราชัน-สังหาร-ปีศาจ—ฉิงเทียน!”