หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler - บทที่ 1522 เผ่าเสียหลิง
เปลวไฟพิสุทธิ์ลุกโชนจากร่างของฉิงเทียน
ห่อหุ้มทั่วสรรพางค์กายของเขาเอาไว้ เปลวไฟปล่อยแรงกดดันสูงล้ำราวกับว่าเป็นจักรพรรดิแห่งเปลวไฟ
“นี่คือเพลิงจักรพรรดิ เพลิงของเทพจักรพรรดิอัคคี ว่าแต่ทำไมถึงมาอยู่ที่ร่างฉิงเทียนได้?” เมื่อเหล่าจอมยุทธ์เห็นภาพนี้ก็จ้องมองไปที่เปลวไฟสุกสว่างด้วยความงุนงง ฉากนี้น่าตื่นตายิ่งนัก
ฉิงเทียนก็รู้สึกได้ว่าสามารถควบคุมร่างกายได้อีกครั้งจากความช่วยเหลือของเปลวไฟ เมื่อมองไปที่เปลวไฟที่ห่อหุ้มร่างกาย เขาก็พึมพำเบาๆ “พี่เซียวน่ากลัวจริงๆ”
ไม่มีใครรู้ว่าเพลิงจักรพรรดินี้มาจากไหน แต่เขาชัดเจนมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลายร้อยปีก่อนตอนที่เขากลับมาจากจักรวรรดิปีศาจ เขาได้พบกับเทพจักรพรรดิอัคคีที่วังมหาพันภพ
ตอนนั้นเซียวเหยียนก็ขมวดคิ้วจ้องมองมาที่เขาพักใหญ่ ก่อนที่จะมอบมุกเพลิงให้เขาพกติดตัวตลอดเวลา ตอนแรกเขายังรู้สึกแปลกใจ แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเซียวเหยียนอาจจะสัมผัสได้ถึงบางสิ่งในเวลานั้น ทว่าเมล็ดหัวใจปีศาจถูกฝังลึกเกินไป ในช่วงเวลาที่ไม่ถูกใช้งาน แม้แต่เซียวเหยียนก็ไม่มั่นใจ ดังนั้นจึงได้แค่มอบมุกเพลิงจักรพรรดิให้ด้วยความระมัดระวัง
แต่ไม่คิดว่าการกระทำอย่างระมัดระวังของเซียวเหยียนจะช่วยเขาให้รอดพ้นจากการเป็นคนบาปของมหาพันภพ
เปลวไฟรอบตัวชิงซันและปู้สื่อก็ค่อยๆ หายไป พวกเขาหลุดพ้นจากการคุมขังของจอมปีศาจเซิ่งเทียน จากนั้นก็มองไปที่ฉิงเทียนอย่างเป็นกังวล
เมื่อพวกเขาเห็นเพลิงจักรพรรดิบนร่างฉิงเทียน พวกเขาก็อึ้งไปชั่วครู่ก่อนที่จะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น จากนั้นก็พากันถอนหายใจโล่งอก
ยามนี้ค่ายกลดับแสงพันปีศาจเหลือเพียงม่านแสงชั้นสุดท้าย หากเปิดออกเผ่าปีศาจก็จะสามารถบุกเข้ามาในดินแดนวั้นมู่ได้ ยิ่งหากพวกมันสามารถปลดปล่อยเทพปีศาจจักรพรรดิได้ละก็ งานนี้เรียกว่าหายนะครั้งใหญ่สุดๆ แน่
“บ้าเอ๊ย!”
สายตาของจอมปีศาจเซิ่งเทียนน่าสะพรึงกลัว เขาไม่เคยคิดว่าแผนนี้จะล้มเหลว นี่ยิ่งทำให้ไอสังหารหนาแน่นปกคลุมไปทั่ว
“ฉิงเทียน รีบเร้าค่ายกลฟื้นฟูการป้องกัน!” ปู้สื่อร้องเรียกสติ
ฉิงเทียนหายใจเข้าลึกๆ เริ่มวาดตราประทับ ค่ายกลผันผวนอีกครั้งพร้อมกับม่านแสงการป้องกันเพิ่มขึ้นทีละชั้น
“โจมตีเข้าไป! ฉีกค่ายกลนั่นให้แหลกไปเลย!” จอมปีศาจเซิ่งเทียนโบกมือบัญชาการพร้อมกับดวงตาวูบแสงเย็นเยือก
ตู้ม!
ทันใดนั้นรัศมีปีศาจก็พลุ่งพล่านที่ด้านหลังจอมปีศาจเซิ่งเทียน เสียงคำรามดังก้อง ร่างปีศาจทะยานออกมานับไม่ถ้วนพุ่งเข้าหาปราการป้องกัน
“ทุกคนหมุนเวียนคลื่นหลิงลงไปในค่ายกล!” ใบหน้าของฉิงเทียนเคร่งเครียดขณะตะโกนกร้าว
เมื่อเห็นเผ่าปีศาจต่างมิติเริ่มการโจมตี ทุกคนต่างก็ส่งเสียงคำราม คลื่นหลิงพลุ่งพล่านในร่าง ร่างเทห์สวรรค์ของแต่ละคนก็ถูกเร้าออกมาทันที กระแสพลังหลิงนับไม่ถ้วนหลั่งไหลเข้าสู่โลงศพ
ฟิ้ว ฟิ้ว!
ขณะที่ควันปีศาจพุ่งหวือ ฉิงเทียน ชิงซันและปู้สื่อก็แลกเปลี่ยนสายตากันอย่างรวดเร็ว ก่อนที่คลื่นหลิงจะระเบิดออกจากร่างพวกเขาเทลงในขบวนแถวแสงที่อยู่ใต้ฝ่าเท้า
ฮึ่ม ฮึ่ม!
ขบวนแถวแสงระเบิดขึ้นด้วยความกระจ่างใส ปะทะกับร่างปีศาจที่กำลังพุ่งเข้าใส่
ชี่ ชี่!
ในช่วงเวลาปะทะกัน รัศมีก็แสดงให้เห็นถึงพลังอันน่ากลัว ในเส้นทางของรัศมีร่างปีศาจไม่สามารถแม้แต่จะได้ส่งเสียงสักแอะก็ถูกทำให้บริสุทธิ์ไปในทันที
ค่ายกลดับแสงพันปีศาจถูกสร้างขึ้นด้วยพลังชีวิตของเทพจักรพรรดินิรันดร์ สามารถต้านทานรัศมีปีศาจทุกประเภทได้ ซึ่งจะเริ่มต้นการโจมตีทันทีที่สัมผัสได้ เฉพาะจอมยุทธ์ที่ฝึกฝนขุมพลังหลิงเท่านั้นที่สามารถผ่านเข้าไปได้อย่างปลอดภัย
“พุ่งเข้าไป!”
จอมปีศาจเซิ่งเทียนมองผู้ใต้บังคับบัญชาจำนวนมากถูกสังหารในพริบตา ทว่าสีหน้าไม่เปลี่ยนไปเลย เสียงเยือกเย็นดังก้อง
ดังนั้นเสียงคำรามจึงก้องดังขึ้นอีกครั้ง ร่างปีศาจก็คล้ายกับหิ่งห้อยเล่นไฟ พุ่งเข้าใส่ค่ายกลอย่างไม่เกรงกลัว
“ช่างเลือดเย็นนัก ค่ายกลดับแสงพันปีศาจจะโจมตีรัศมีปีศาจทุกประเภท แม้ว่าเขาจะเสียสละกำลังพลอีกหลายส่วน แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะฝ่าแนวป้องกันไป” ฉิงเทียนกล่าวเสียงเย็น
ชิงซันและปู้สื่อก็พยักหน้า แต่ฝ่ายหลังมีความระมัดระวังมากกว่าจึงพูดขึ้นว่า “เราก็ไม่สามารถลดการป้องกันได้ พวกปีศาจรอคอยเวลานี้มานานหลายหมื่นปี ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ง่ายแน่”
จอมปีศาจเซิ่งเทียนมองไปที่ฉากเบื้องหน้าอย่างเย็นชา ในเวลาแค่สิบกว่านาทีพวกเขาไม่รู้ว่ามีนักรบจบชีวิตไปแล้วเท่าไร มากจนมีนักรบราชันปีศาจเกือบร้อยคนที่สละชีวิตไปแล้วด้วย
แต่ถึงแม้จะเผชิญกับการสูญเสียครั้งใหญ่ก็ยังไม่สามารถสั่นคลอนขบวนแถวแสงได้
“ค่ายกลที่เทพจักรพรรดินิรันดร์ทิ้งไว้เป็นหายนะกับเผ่าปีศาจของข้าแท้จริง” ประมุขสามสิบสองเผ่าใหญ่บางคนกล่าวด้วยความกลัวและความเกลียดชัง
จอมปีศาจเซิ่งเทียนมองไปที่กองทัพนักรบปีศาจที่เสียหายหนักอย่างไม่แยแส จนกระทั่งวินาทีหนึ่งเขาก็พึมพำออกคำสั่งอย่างเย็นชา
ลำแสงปีศาจหลายสิบสายพุ่งรวมเข้าในรัศมีปีศาจจากนั้นก็ทะยานไปยังขบวนแถวแสงของค่ายกล
“จอมปีศาจเซิ่งเทียนเป็นบ้าไปรึ? ถ้าทำอย่างนี้ต่อ แม้ว่านักรบทั้งหมดจะพุ่งเข้าชนก็ไม่สามารถทำลายค่ายกลได้หรอก!” ฉิงเทียนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขณะมองไปที่เผ่าปีศาจต่างๆ ที่พุ่งเข้าสู่ความตาย
ชิงซันและปู้สื่อก็งุนงงไปเช่นกัน นี่เป็นเรื่องผิดปกติเกินไป
ขณะที่พวกเขากำลังงุนงง นักรบปีศาจอีกมากมายที่ถูกรัศมีจากขบวนแถวแสงกวาดโดนก็สลายหายไปในอากาศ จากนั้นนักรบอีกกลุ่มก็พุ่งเข้ามา
รัศมีจากค่ายกลซัดไปที่ร่างปีศาจหลายสิบร่างนั้น
แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นทันใด ร่างปีศาจหลายสิบร่างหยุดชะงักเพียงชั่วครู่ พวกมันไม่ได้ถูกชำระบริสุทธิ์เหมือนปีศาจคนอื่นๆ แต่พวกมันกลับเพิ่มความเร็วพุ่งเข้าหาขบวนแถวค่ายกลได้
“อะไรน่ะ?!”
เมื่อรับรู้ถึงสิ่งนี้ ฉิงเทียน ชิงซันและปู้สื่อก็ตกใจ ปีศาจเหล่านี้ต่อต้านรัศมีบริสุทธิ์ได้เรอะ?
“หยุดพวกมัน!” ทั้งสามรู้สึกไม่สบายใจจนต้องเปล่งเสียงคำรามออกมา
ตู้ม ตู้ม!
แต่ประมุขเกือบสิบในสามสิบสองคนของเผ่าปีศาจใหญ่ก็เคลื่อนไหว รัศมีปีศาจรุนแรงกวาดเข้าหาทั้งสามคน
ปัง ปัง!
ขณะที่สวรรค์และโลกถูกฉีกออกจากกัน พวกฉิงเทียนก็ถูกขัดขวางไปชั่วขณะ ตอนนี้สายเกินไปสำหรับพวกเขาที่จะเคลื่อนไหวแล้ว
ดังนั้นปีศาจหลายสิบร่างก็พุ่งเข้าสู่ขั้นสุดท้ายของแถวแสงแล้ว
“ไม่จำเป็นต้องตกใจ ค่ายกลปฏิเสธรัศมีปีศาจทั้งหมด ตราบใดที่พวกมันสัมผัสก็จะถูกทำให้บริสุทธิ์…” ปู้สื่อปลอบใจ แต่ก่อนที่จะพูดประโยคนั้นจบ ร่างปีศาจหลายสิบร่างก็เข้ามาสัมผัสกับแถวแสงแล้ว
ทันใดนั้นรัศมีปีศาจรอบๆ ก็หายไป ถูกแทนที่ด้วยคลื่นหลิงไร้ขอบเขตที่จากร่างกายของพวกมัน
“คลื่นหลิง?! เป็นไปได้ไง?!”
ยามนี้ยอดยุทธ์ทั้งสามเบิกตากว้างด้วยความตกใจหวาดผวาเมื่อเห็นรัศมีปีศาจรอบๆ ร่างเงาหลายสิบร่างถูกเปลี่ยนเป็นคลื่นหลิง นอกจากนี้ทั้งหมดก็อยู่ในระดับเทียนจื้อจุนด้วย!
“พวกปีศาจบ่มเพาะคลื่นหลิงได้อย่างไร?!” ดินแดนวั้นมู่ตกอยู่ในความโกลากลเช่นกัน ทุกคนมองไปที่ฉากนี้ด้วยความไม่อยากเชื่อ
เมื่อพิจารณาจากรัศมีปีศาจก่อนหน้าก็เห็นได้ชัดว่าเป็นเผ่าปีศาจแน่แท้ แต่ตอนนี้พลังหลิงที่เปิดเผยออกมาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกเขาเลย
เมื่อร่างเงาจำนวนมากสัมผัสกับเกลียวแสง คลื่นหลิงก็ปะทุขึ้น ค่ายกลไม่ได้ก่อสิ่งกีดขวางใดๆ ทำให้พวกมันเข้ามาในดินแดนวั้นมู่ได้
“ฮ่าๆ! ฉิงเทียน จักรวรรดิปีศาจวางแผนมาหลายหมื่นปี พวกแกไม่สามารถจินตนาการได้หรอก!” เสียงหัวเราะร่าของจอมปีศาจเซิ่งเทียนดังขึ้น
“พวกแกทุกคนสงสัยใช่ไหมล่ะว่าเผ่าปีศาจเพาะบ่มคลื่นหลิงได้อย่างไร?
“ง่ายมาก เพราะพวกเขาไม่ได้เป็นปีศาจสายเลือดบริสุทธิ์แท้จริง แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่สร้างขึ้นมาจากเผ่าปีศาจและเผ่ามหาพันภพ พวกเขาเป็นชนรุ่นใหม่ที่พวกข้าเลี้ยงดู ซึ่งถูกเรียกว่าเผ่าเสียหลิง มิหนำซ้ำยังสามารถเพาะบ่มทั้งพลังปีศาจและพลังหลิงได้ตั้งแต่เกิด! วะฮะฮ่าๆ!”
จอมยุทธ์ทุกคนเงียบไปขณะที่สีหน้าเขียวคล้ำ
จักรวรรดิปีศาจต่างมิติยึดครองพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของมหาพันภพรวม รวมถึงพิภพเขตล่างอีกนับไม่ถ้วน ดังนั้นจึงมีจำนวนประชากรเพียงพอที่จะทำทดลองเช่นนั้น เนื่องจากพวกมันไม่ได้กังวลกับการตายของสิ่งมีชีวิตที่มีต้นกำเนิดมาจากมหาพันภพ…
ที่สำคัญที่สุดคือพวกมันประสบความสำเร็จ
ใบหน้าของจอมยุทธ์ทุกคนมืดมนขณะเงยหน้าขึ้น พวกเขามองร่างเงาหลายสิบร่างที่พุ่งผ่านม่านแสง เมื่อรัศมีหลิงรอบตัวหายไป ร่างเหล่านั้นก็ถูกเปิดเผยในครรลองสายตา
พวกมันดูเหมือนมนุษย์ในมหาพันภพ แต่สามารถสังเกตเห็นดวงตาปีศาจบนฝ่ามือที่ค่อยๆ เปิดออก
ทันใดนั้นคลื่นหลิงทรงพลังก็พัดออกจากร่างกายพวกมัน
‘ไอ้ตัวเหล่านี้…ถูกเรียกว่า ‘เผ่าเสียหลิง’ เรอะ?’