หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler - บทที่ 1557 ดวงตาที่สิบ
มหาเพลิง มหาจักรวาลและมหาดาราตั้งแนวสามเหลี่ยมพุ่งใส่เทพปีศาจ
แม้ว่าจะไม่ได้มีความเร็วสูง แต่ก็เล็งเป้าบนร่างศัตรูราวกับว่าถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า
ในเส้นทางไม่มีความผันผวนหรือความปั่นป่วนใดๆ แต่ฉากที่สงบนี้เองที่ทำให้ใบหน้าของเทพปีศาจเปลี่ยนไปพร้อมกับความกลัวพล่านอยู่ในส่วนลึกของดวงตา
เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คาดคิดว่าทั้งสามจะมาถึงระดับนี้
หลังจากมู่เฉินออกกระบวนท่า สีหน้าก็ซีดลงไปเล็กน้อย ทว่าเขาก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว นั่นเพราะเขาครอบครองร่างมหาปราชญ์วิญญาณซึ่งสามารถให้พลังงานหลิงแก่เขาในการฟื้นฟูอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ดังนั้นแม้ว่าเขาจะใช้ทักษะทรงพลังใดก็รักษาเสถียรภาพพลังในร่างกายได้ทันท่วงที
เขามองเทพปีศาจที่ถูกล้อมโดยการโจมตีทั้งสาม หลังจากไตร่ตรองชั่วครู่มู่เฉินก็กระทืบเท้ารอยแตกขนาดใหญ่เปิดขึ้น
โลกปรากฏขึ้นอย่างคลุมเครือผ่านรอยแตก นี่คือพิภพเขตล่างที่พังพินาศไม่มีชีวิตใดๆ
รอยแตกคล้ายกับปากมหึมาขณะที่กลืนกินบริเวณที่มู่เฉิน เซียวเหยียน หลินต้งและเทพปีศาจอยู่
มู่เฉินรู้ดีว่าหากพลังทำลายล้างเล็ดลอดออกไป ไม่เพียงแต่ทวีปหลิงหมัวจะถูกทำลาย แม้แต่ทวีปโดยรอบก็จะสลายกลายเป็นเถ้าถ่าน
เผชิญหน้ากับการห่อหุ้มของพิภพเขตล่าง เทพปีศาจก็เพียงหลือบมองไปแต่ไม่ได้ใส่ใจอะไร นั่นเป็นเพราะกองทัพจักรวรรดิปีศาจอยู่ที่นี่เช่นกัน เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกลูกหลง การปะทะกันในพิภพเขตล่างถือเป็นสิ่งที่ดี
ด้วยเหตุนี้มู่เฉิน หลินต้ง เซียวเหยียนและเทพปีศาจจึงลงไปในพิภพเขตล่าง แต่ฉากภายในยังคงฉายให้ผู้คนได้เห็นต่อไปผ่านรอยแตก
ทุกคนมองไปที่เทพปีศาจที่การโจมตีสามสายพุ่งเข้าไปหา
ใบหน้าเทพปีศาจเกร็งขึ้นขณะมองดูการโจมตีทั้งสาม จากนั้นมือก็ค่อยๆ ประสานเข้าหากัน
รัศมีปีศาจโหมกระหน่ำอยู่ข้างหลัง ก่อตัวเป็นดอกบัวปีศาจใต้ฝ่าเท้า
ยามนี้เทพปีศาจผู้ชั่วร้ายไม่เผยสีหน้าใดๆ รัศมีปีศาจพวยพุ่งขึ้นรอบตัว เขาคล้ายกับรูปปั้นปีศาจพร้อมกับมีเสียงทำนองน่ากลัวสะท้อนออกมา
ดวงตาทั้งเก้าบนร่างค่อยๆ ปิดลงโดยมีแสงสีดำเก้าสายไหลเวียนจากร่างก่อนจะพุ่งไปที่ลิ้น
ลิ้นทั้งหมดเริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำซึ่งดูผิดประหลาดยิ่งนยัก
ตอนนี้เองที่การโจมตีทั้งสามเข้ามา
ร่างมหาเพลิงพุ่งลงพร้อมกับทิ้งรอยแผดเผาไว้ทั่วทั้งโลก อุณหภูมิของพิภพเขตล่างแห่งนี้สูงขึ้นและเริ่มละลายตัวลง
เมื่อมองไปที่ร่างมหาเพลิง เสียงของเทพปีศาจดังก้อง “เก้าเนตร คำสาปทำลายล้างโลก”
เขาเงยหน้าขึ้นทันใดก็เปิดปาก “โฮก!”
เมื่อทำนองปีศาจปรับเปลี่ยนเป็นคำสาปก็พุ่งออกมาจากเทพปีศาจ ซึ่งบรรจุด้วยพลังและการทำลายล้างน่ากลัวไร้ขอบเขต เสมือนปีศาจที่ชั่วร้ายที่สามารถกลืนกินสวรรค์และโลกได้
ตึง!
เมื่ออักขระปีศาจปะทะกับร่างมหาเพลิงก็ไม่ได้สร้างความปั่นป่วนขนาดใหญ่ เนื่องจากคลื่นเสียงทั้งหมดถูกทำลายภายใต้คลื่นกระแทก
ทุกคนเห็นเพียงพิภพเขตล่างถล่มลงมาอย่างรวดเร็ว
ขณะนี้มหาจักรวาลที่แผ่ซ่านด้วยความลึกซึ้งก็ซัดเข้ามา หากถูกโจมตีนี้แม้แต่เทพปีศาจก็ต้องได้รับบาดเจ็บหนัก ดังนั้นเขาจึงอ้าปากพ่นคำสาปปีศาจอีกครั้ง
“โฮก!”
เมื่ออักขระบินออกไปก็ปะทะกับมหาจักรวาล
หลังจากอักขระปีศาจทั้งสองปะทะกับมหาเพลิงเทวะและมหาจักรวาลแล้ว เทพปีศาจก็มองไปที่ลูกแก้วมหาดารา พ่นคำสาปออกมาอีกครั้ง “โฮก!”
อักขระปีศาจพุ่งออกไปหาลูกแก้วมหาดารา
ฮึ่ม!
สัมผัสได้ถึงอักขระปีศาจ ลูกแก้วก็วาวแสงขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะระเบิดออกมาพร้อมกับแสงปะทะกับอักขระปีศาจเพื่อต่อต้าน ในเวลาเดียวกันแสงโบราณอีกสายก็ทะยานออกมาจากลูกแก้วยิงเข้าใส่เทพปีศาจ
ลูกแก้วมหาดาราบรรจุพลังของร่างมหาเทพปฐมกาลสามร่าง ชั้นแรกใช้พลังของร่างมหารัศมีอนันต์เพื่อปกป้อง ใช้พลังร่างมหาเทพนิรันดร์เพื่อทำการโจมตี สุดท้ายก็ใช้ร่างมหาปราชญ์วิญญาณเป็นตัวสนับสนุนเพื่อจัดหาพลังงานที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ดังนั้นเมื่อเทพปีศาจเห็นลำแสงแววตาก็เย็นเยือกลง เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพ่นอักขระปีศาจอีกตัวเพื่อปะทะกับลำแสงนั่น
ฮึ่ม ฮึ่ม!
ขณะที่การโจมตีทรงพลังปะทะกันในพิภพเขตล่าง แม้จะไม่มีเสียงดังสนั่น แต่ทุกคนก็สัมผัสได้ถึงความผันผวนของการทำลายล้าง เนื่องจากพิภพเขตล่างกำลังพังทลายลงเรื่อยๆ จากแรงกระแทก
โฮก โฮก!
คำสาปปีศาจทั้งหมดเก้าตัวบินออกมา ปะทะกับมหาเพลิงเทวะ มหาจักรวาลและลูกแก้วมหาดารา
ระลอกคลื่นขนาดใหญ่กระจายออกไปไม่ว่างเว้น ทำให้มิติแตกเป็นเสี่ยงๆ ก่อนจะก่อตัวเป็นพายุมิติปกคลุมพิภพเขตล่างทั้งหมดไว้
ในทวีปหลิงหมัวรวมทั้งมหาพันภพทุกคนมองไปที่หน้าจออย่างกังวล แม้ว่าพายุอวกาศได้ปิดกั้นการมองเห็นของพวกเขา ทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้ชัด แต่พวกเขาก็ไม่กล้าเลื่อนสายตาไปไหน
นั่นเป็นเพราะพวกเขารู้ว่าผลลัพธ์ในสนามรบนั้น จะส่งผลกระทบต่อชะตากรรมของพวกเขา
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ในที่สุดพายุก็เริ่มสลายลง ทุกคนรีบจ้องมองไป
ภูมิประเทศของพิภพเขตล่างค่อยๆ กระจ่างขึ้น
เมื่อเห็นสถานการณ์ก็อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจลึกสุดปอด ดินแดนทั้งหมดเหลือเพียงเถ้าถ่าน
ที่นั่นว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย
มีเพียงเงาร่างหกร่างยืนประจันหน้ากันบนท้องฟ้า
ชัดว่าพิภพนี้ถูกทำลายด้วยน้ำมือของพวกเขาแล้ว
ทุกคนตกตะลึงกับพลังทำลายล้าง แต่สายตาก็พุ่งไปที่เทพปีศาจทันที เขายืนอยู่บนดอกบัวปีศาจพร้อมกับคำสาปปีศาจเก้าตัวหมุนรอบตัว
ที่เบื้องหน้าเทพปีศาจ ร่างมหาเพลิงค่อยๆ จางลงก่อนที่จะหายไป มหาจักรวาลแตกเป็นเสี่ยงๆ พร้อมกับลูกแก้วมหาดารา…
เมื่อผู้คนในมหาพันภพเห็นภาพนี้ความรู้สึกหนาวสั่นก็พวยพุ่งขึ้นมาในหัวใจ หรือว่าแม้แต่มู่เฉิน เซียวเหยียนและหลินต้งที่ใช้การโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดยังไม่สามารถเอาชนะเทพปีศาจได้?
หากเป็นเช่นนั้นพวกเขาจะสร้างภัยคุกคามให้อีกฝ่ายได้อย่างไร?
ตรงข้ามความสุขเพิ่มขึ้นบนใบหน้าของเหล่าปีศาจ
แกร็ก!
แต่เมื่อมีบางคนกังวลและมีบางคนชื่นชม เสียงแตกละเอียดก็ดังมาจากพิภพเขตล่าง ทุกคนเห็นรอยแตกบนอักขระปีศาจเก้าตัวที่อยู่รอบๆ เทพปีศาจสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น ก่อนที่จะแตกออกในที่สุด…
ร่างเทพปีศาจก็สั่นเทิ้ม ดอกบัวปีศาจที่อยู่ใต้เท้าลุกไหม้ ขณะเลือดสีดำไหลออกจากริมฝีปาก
ทั่วจักรวาลตกอยู่ในความเงียบ
ความสุขบนใบหน้าของนักรบปีศาจแข็งค้างก่อนจะเปลี่ยนเป็นหวาดผวา พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าเทพปีศาจที่อยู่ยงคงกระพันจะได้รับบาดเจ็บ…
ฝั่งมหาพันภพก็ตกอยู่ในความเงียบงันเช่นกัน ทุกคนสาดสีหน้าไม่เชื่อ เทพปีศาจได้รับบาดเจ็บ
ใบหน้าของเทพปีศาจเคร่งขรึมลงขณะปาดรอยเลือดออกจากมุมปากก่อนจะพูดเสียงเรียบเฉย “ข้าไม่คิดมาก่อนว่าจะได้รับบาดเจ็บจากน้ำมือพวกเจ้า”
เมื่อครู่เขาใช้กระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดแล้ว แต่ก็ยังประเมินทั้งสามคนต่ำไป ดังนั้นแม้ว่าเขาจะสามารถต้านทานการโจมตีเหล่านั้นได้ แต่ก็ต้องจ่ายราคาด้วยอาการบาดเจ็บ
แม้ว่าอาการบาดเจ็บเหล่านี้จะไม่ส่งผลต่อเขา แต่ก็พิสูจน์ได้ว่าทั้งสามคนทำร้ายเขาได้
ความอยู่ยงคงกระพันของเขาถูกทำลาย
มู่เฉิน หลินต้งและเซียวเหยียนแลกเปลี่ยนสายตากัน ไม่มีใครฉายความสุขบนใบหน้า พวกเขามีความภาคภูมิใจเช่นกัน ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้วพวกเขาไม่รู้สึกยินดีที่ศัตรูได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น
“เรารวมพลังกันยังทำร้ายเจ้าได้เพียงเล็กน้อย…” เซียวเหยียนยิ้ม “เทพปีศาจ เจ้าสมควรกับชื่อเสียงอย่างแท้จริง”
หลินต้งมองไปยังเทพปีศาจ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นพวกเดียวกัน แต่เขาก็รู้สึกเคารพศัตรูที่ทรงพลังเช่นนี้ ดังนั้นเขาจึงกล่าวว่า “แต่ดูเหมือนว่าความทะเยอทะยานของเจ้าที่อยากลบล้างมหาพันภพจะต้องทุ่มแรงมากกว่านี้นะ”
จากการแลกกระบวนท่าเมื่อครู่ พวกเขาพิสูจน์แล้วว่าสามารถต่อสู้กับเทพปีศาจได้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถชนะ แต่เทพปีศาจก็บดขยี้พวกเขาไม่ได้เช่นกัน
จักรวรรดิปีศาจต้องการอาศัยเทพปีศาจในการปกครองมหาพันภพ ในเมื่อเทพปีศาจถูกยับยั้งโดยพวกเขา เผ่าปีศาจต่างๆ ก็จะไม่สามารถทำลายจักรวาลนี้ได้
ดังนั้นทั้งสองฝ่ายจึงทำได้เพียงชักกะเย่อกันไปมาในศึกแห่งความเหนื่อยล้า
แสงวูบไหวในดวงตามู่เฉิน เขากล่าวว่า “แต่เมื่อเวลาผ่านไปข้อได้เปรียบของแกก็จะลดลง”
จริงที่มหาพันภพจะจ่ายราคาไม่น้อยหากพวกเขาห้ำหั่นกับจักรวรรดิปีศาจในช่วงเวลายาวนาน แต่อย่างน้อยก็สามารถซื้อเวลาได้ เพียงรออีกไม่กี่สิบปีเซียวเหยียนและหลินต้งก็จะสามารถจารึกชื่อเต็มไว้บนทำเนียบเหนือภพได้
ในเวลานั้นไม่ต้องพูดถึงสามคน เพียงแค่หนึ่งเดียวก็สามารถเอาชนะเทพปีศาจได้…
ดังนั้นตอนนี้เทพปีศาจจึงตกอยู่ในสถานกาณ์น่าอึดอัด
เขาถูกมู่เฉิน หลินต้งและเซียวเหยียนหยุดยั้งไว้ ถ้าเขาไม่สามารถทำลายการหยุดชะงักนี้ได้ก็จะเป็นการให้เวลากับเทพจอมยุทธ์แห่งมหาพันภพ
เทพปีศาจไม่มีการแสดงออกบนใบหน้า แต่สายตามืดครึ้มลง
“เทพปีศาจจงออกจากมหาพันภพกลับไปยังที่ที่เจ้ามา มหาพันภพไม่ใช่สถานที่ที่เจ้าจะมากร่างได้” มู่เฉินกล่าว
ดวงตาของเทพปีศาจสวรรค์กะพริบ รอยยิ้มผิดแผกเพิ่มขึ้นเมื่อมองไปที่ทั้งสาม “ข้าไม่เคยคิดมาก่อนว่าจักรวาลเล็กๆ นี้จะสามารถบังคับข้าเทพปีศาจจักรพรรดิให้อยู่ในตำแหน่งที่น่าสมเพชเช่นนี้…”
จากนั้นก็ส่ายหัวตอบว่า “แต่พวกเจ้าคิดเหรอว่าไม่มีอะไรที่ข้าจะทำได้เพื่อพลิกสถานการณ์แล้ว?”
ทันใดนั้นดวงตาของมู่เฉิน หลินต้งและเซียวเหยียนก็หดลง
เทพปีศาจจ้องมองไปที่ทั้งสามพลางพูดขึ้นต่อ “ที่ข้าพูดไปก่อนหน้าก็ยังมีผลนะ ตราบเท่าที่พวกเจ้ายอมสวามิภักดิ์ ข้าก็จะรับประกันความปลอดภัยของครอบครัวและสหายของเจ้าได้ นี่เป็นการถามครั้งสุดท้าย ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะคว้าโอกาสนี้”
ใบหน้าของเซียวเหยียนค่อยๆ มืดครึ้มลงกล่าวว่า “ไม่จำเป็นต้องพูดแบบนั้นอีกแล้ว อย่างมากพวกข้าก็จ่ายด้วยชีวิต ซัดกระบวนท่าที่มีออกมาเลย”
ร่างกายของมู่เฉินและหลินต้งตึงเครียดขึ้นพร้อมกับคลื่นหลิงพลุ่งพล่านอยู่รอบตัว ขณะที่สายตาจดจ้องไปที่เทพปีศาจ ด้วยความเข้มแข็งของศัตรูเช่นนี้ เขาต้องมีความมั่นใจถึงจะพูดคำเหล่านี้ออกมา
แต่พวกเขาไม่รู้ว่ามีพลังอำนาจอื่นใดที่เทพปีศาจยังมี ในเมื่อเขามาถึงจุดสุดยอดในการเปิดดวงตาทั้งเก้าแล้ว
เทพปีศาจลูบดวงตาจากนั้นก็หลุบตาลง “วิธีนี้จะทำให้ข้าสูญเสียมาก แต่ดูเหมือนว่าคงจะต้องใช้แล้ว”
ขณะที่พูดเขาก็ยิ้มบาง “แต่เอาเถอะ ตราบเท่าที่ข้าได้ครอบครองมหาพันภพ ราคาใดๆ ก็คุ้มค่า”
เขาเหยียดนิ้วเข้าไปในปากแล้วกัดเต็มแรง
เลือดสีดำไหลออกมาจากปลายนิ้ว จากนั้นเขาก็กวาดไปที่ดวงตาทั้งสามบนใบหน้าก่อนที่จะเคลื่อนลงไปที่ฝ่ามือ หัวใจและสะดือ
ในขณะนี้ดวงตาทั้งเก้าถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกันด้วยเส้นโลหิตสีดำ สร้างฉากที่ประหลาดตา
เมื่อเสร็จกระบวนการนี้ มือของเทพปีศาจก็ประสานเข้าด้วยกันสร้างตราประทับแปลกประหลาดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มบ้าคลั่งโค้งบนริมฝีปาก
“หวังว่าพวกเจ้าจะไม่ตกใจกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป…”
“เสียสละปีศาจ เก้าเนตร!”
ฟู่ ฟู่!
ขณะนั้นเองดวงตาทั้งเก้าก็ลุกโชนด้วยเปลวไฟปีศาจพร้อมกับเสียงกรีดร้องเจาะหูดังลั่นมาจากเทพปีศาจ
“ฮ่าๆๆๆ! สละ!”
ดวงตาชั่วร้ายทั้งเก้าลุกโชนอย่างรวดเร็วก่อนที่จะลดลงเหลือเพียงเถ้าถ่าน
ยามนี้เทพปีศาจสูญเสียดวงตาทั้งหมดแล้ว แม้แต่ดวงตาสองข้างก็ยังถูกแทนที่ด้วยโพรงที่ดูน่ากลัวอย่างไม่น่าเชื่อ
ทว่าลำแสงสีดำเก้าเส้นก็เดินทางผ่านผิวหนังเข้ามาก่อนที่จะรวมกันที่หว่างคิ้วของเขา
ที่จุดนั้นผิวหนังของเขาเริ่มฉีกออกจากกัน
มู่เฉิน หลินต้งและเซียวเหยียนสีหน้าเปลี่ยนไปรุนแรง เมื่อพวกเขาเห็นดวงตาชั่วร้ายที่สามารถเปลี่ยนทุกคนให้กลายเป็นปีศาจได้ปรากฏขึ้นตรงหว่างคิ้ว
ขณะนี้เสียงเยือกเย็นของเทพปีศาจที่ทำให้ทั้งมหาพันภพสั่นสะเทือนได้ก็ดังก้อง
“นี่คือไพ่ตายของข้า…”
“สละเก้าเนตร”
“สร้างเนตรที่สิบ!”