หนุ่มเศรษฐีลึกลับ - ตอนที่ 487
บทที่ 487 คุกเข่าก้มกราบขอขมา
ลู่เสี้ยงหยางสะดุ้งโหยงกับเสียงกรี๊ดร้องของหญิงสาว พลันก้มหน้า ถึงได้ค้นพบว่า คนที่เขาเดินชนนั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นไป๋หมิ่นหมิ่น
บอกตามตรง หากเป็นผู้หญิงคนอื่น ลู่เสี้ยงหยางก็อาจจะมีความคิดที่ลามกขึ้นมาบ้างก็ได้ แต่เมื่อเห็นว่าเป็นผู้หญิงตรงหน้า เขาก็รู้สึกขยะแขยงขึ้นมา
ผู้หญิงคนนี้หัวสูงอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เพราะตัวเองอยู่ในสถานะของเขยแต่งเข้า เธอมักจะเหยียดหยามเขาเสมอ
คนอื่นๆ ในห้องเรียน เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของไป๋หมิ่นหมิ่น ทุกคนต่างก็หันหน้ากลับมา ด้วยสายตาที่เบิกกว้าง
ก็ได้พบกับลู่เสี้ยงหยางชนเข้าที่อกของไป๋หมิ่นหมิ่น มือของลู่เสี้ยงหยางเพิ่งจะเอาออกจากเอวของไป๋หมิ่นหมิ่น
หลายคนเริ่มด่าทอ กับฉากที่เห็น
“บัดซบ ไอ้เขยแต่งเข้านี่กล้ามากเกินไปแล้ว ถึงได้กล้าแต๊ะอั๋งพี่หมิ่นหมิ่น”
“ให้ตาย ไอ้งั่ง อยากเจ็บตัวสินะ”
“ฮ่าฮ่า พี่หมิ่นหมิ่น เอาให้ไอ้หมอนี่ตายไปเลย”
ชั่วพริบตา ลู่เสี้ยงหยางถูกวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา
เสียงเหล่านั้น ทำให้ไป๋หมิ่นหมิ่นโมโหหนักขึ้นกว่าเดิม หน้าบึ้งด้วยความรู้สึกขยะแขยง เธอง้างมือขึ้นคิดจะสั่งสอนลู่เสี้ยงหยาง
หากแต่ลู่เสี้ยงหยางที่ความไวมากกว่า เขาพันธนาการข้อแขนของไป๋หมิ่นหมิ่นเอาไว้ “เมื่อกี้เธอเองต่างหากที่ชนฉัน”
ไป๋หมิ่นหมิ่นไม่สนใจสิ่งเหล่านี้ เธออ้าปากก่นด่าอยู่ท่าเดียว “ลู่เสี้ยงหยาง แกกล้ามาก อยู่ที่บ้าน เมียของแกคงจะไม่ยอมให้แกแตะต้องสินะ อยู่ข้างนอก ถึงได้ทำสิ่งที่น่ารังเกียจถึงขนาดนี้ ฉันจะเรียกคนมา ตัดมือแกทิ้งเสีย”
ลู่เสี้ยงหยางหัวเราะอย่างเย็นชา ปล่อยแขนของไป๋หมิ่นหมิ่น จ้องเธอนิ่ง “ตามใจ”
เมื่อจบคำเขาไม่แยแสเธออีก พลันเดินไปนั่งลงที่ที่นั่งของเขา
เมื่อไป๋หมิ่นหมิ่นเห็นว่าเขยแต่งเข้าอวดดี เธอโกรธจัดยิ่งกว่าเก่า พลันชี้หน้าด่าลู่เสี้ยงหยาง
ส่วนประโยคที่ด่าทอ ไม่มากไปกว่าการที่จะสังหารลู่เสี้ยงหยาง
ลู่เสี้ยงหยางส่ายหน้า ไม่แยแสหมาบ้าอย่างไป๋หมิ่นหมิ่น
กระทั่งใกล้ถึงเวลาเข้าเรียน ไป๋หมิ่นหมิ่นถึงได้สงบลง
วันนี้ทั้งวันนอกจากการเรียนแล้ว ไม่ได้เกิดเรื่องราวอะไรขึ้นกับลู่เสี้ยงหยางอีก
เมื่อพลบค่ำถึงเวลาเลิกเรียน เขาและเย่สวนทานอาหารข้างนอกก่อนที่จะกลับบ้าน
…..
ค่ำคืน ไป๋หมิ่นหมิ่นนัดเพื่อนเอาไว้หลายคน เพื่อเที่ยวผับบาร์ ทีแรกพวกเธอเล่นกันอย่างสนุกสนาน กระทั่งกลางคันมีข้อความเข้า
เป็นข้อความจากฉินหยุนเฟย ฉินหยุนเฟยนัดเธอ ให้ไปพบที่ทะเลสาปไป๋หม่า
เมื่อเห็นข้อความ ไป๋หมิ่นหมิ่นทั้งตื่นเต้นและดีใจ อันที่จริง ในใจเธอนั่น รักชอบในตัวฉินหยุนเฟยมาตลอด เธอเคยทดลองจีบฉินหยุนเฟยมาก่อน แต่ก่อนหน้านี้ฉินหยุนเฟยไม่สนใจเธอเลยแม้แต่น้อย
ไม่คิดไม่ฝันเลย ว่าคืนนี้ฉินหยุนเฟยจะเป็นฝ่ายนัดเธอ ฉินหยุนเฟยกำลังจะตอบรับ ในความรู้สึกของเธอใช้ไหม?
ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้สูง ไป๋หมิ่นหมิ่นไม่สามารถทนอยู่ได้ เธอทิ้งเพื่อนสาวเอาไว้ ขับรถออกไปคนเดียว มุ่งตรงไปที่ทะเลสาปไป๋หม่า
ทะเลสาปไป๋หม่าตั้งอยู่ที่เขตชานเมือง แม้ว่าบรรยากาศจะสวยงามมาก แต่เพราะค่อนข้างห่างไกล ตอนกลางคืนจึงไร้ผู้คนสัญจรผ่าน
กากไม่ใช่เพราะไป๋หมิ่นหมิ่นถูกความรักบังตา เธอก็คงจะเป็นไปไม่ได้ที่จะถ่อไปที่ทะเลสาปไป่หม่าในเวลาแบบนี้
แถมเมื่อไปถึงทะเลสาปไป๋หม่า สิ่งที่ทำให้ไป๋หมิ่นหมิ่นต้องประหลาดใจ คือเธอไม่พบฉินหยุนเฟยแม้เงา
เธอคิดว่าอาจเป็นเพราะเธอมาเร็วเกินไป ฉินหยุนเฟยอาจจะยังมาไม่ถึง เพราะงั้นเธอจึงขึ้นไปนั่งรอบนรถ
ในเวลาเดียวกัน บนถนนใต้เขาทะเลสาปไป๋หม่า มีรถคันหนึ่งจอดอยู่ ซึ่งมีลู่เซี่ยงหลงและเซี่ยตงเสว่นั่งอยู่บนรถ
ในตอนนี้ โทรศัพท์ของลู่เซี่ยงหลงได้รับข้อความหนึ่ง เมื่อเปิดข้อความออกมาดู ก็เป็นข้อความตอบกลับ ไป๋หมิ่นหมิ่นมาถึงทะเลสาปไป๋หม่าแล้ว
ลู่เซี่ยงหลงรู้สึกตื่นเต้นดีใจ ฮ่าฮ่า จะได้ลิ้มรสชาติของไป๋หมิ่นหมิ่นเสียแล้ว
ก่อนหน้านี้ ประวัติที่นักสืบให้กับเขา ไป๋หมิ่นหมิ่นเป็นผู้หญิงขี้เที่ยว อีกประเดี๋ยวคงจะน่าตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย
อึก!
เขาลอบกลืนน้ำลาย ลู่เซี่ยงหลงปิดบังความกระหาย ก่อนที่จะเอ่ยขึ้น “คุณภรรยา ไป๋หมิ่นหมิ่นถึงแล้ว ได้เวลาผมออกโรงแล้ว”
“อืม” เซี่ยตงเสว่พยักหน้ารับ เธอรู้จักลู่เซี่ยงหลงดี จึงกำชับอย่างหนักแน่น “อีกเดี๋ยวเมื่อเจอไป๋หมิ่นหมิ่นแล้ว ฆ่าเธอซะในทันที จำเอาไว้ให้ดี อย่ามีความคิดอะไรต่อผู้หญิงคนนี้ ไม่เช่นนั้นฉันจะตัดช่วงล่างของคุณทิ้งไปซะ!”
บัดซบ จำเป็นที่จะต้องโหดเหี้ยมอำมหิตถึงขนาดนี้ไหม?
ลู่เซี่ยงหลงสูดหายใจเข้าโดยอัตโนมัติ “ไม่หรอก ผมแยกแยะได้น่า คุณภรรยา วางใจได้เลย”
“ได้ หวังว่าคุณจะทำได้อย่างที่พูด รีบไปเถอะ” เซี่ยตงเสว่เร่งชายหนุ่ม ด้วยความกลัวว่าไป๋หมิ่นหมิ่นจะรอนาน จนกลับไปก่อน
ลู่เซี่ยงหลงตอบรับ พลันใส่หน้ากากที่เตรียมเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว ชั่วพริบตาเขาก็กลายเป็นลู่เสี้ยงหยาง
เมื่อเตรียมการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ลู่เซี่ยงหลงถึงได้ลงจากรถ มุ่งไปที่ทะเลสาปไป๋หม่า
ทะเลสาปไป๋หม่า
ไป๋หมิ่นหมิ่นยังคงนั่งรออยู่บนรถ เป็นเวลาครึ่งชั่วโมงแล้ว ทีแรกเธอไม่อยากจะรอต่อไป แต่ในตอนนี้เอง ในที่สุดก็พบเงาร่างของคนค่อยๆ เดินเข้ามา
หืม? พี่หยุนเหยอย่างนั้นหรือ?
เมื่อเห็นเงาร่างที่ใกล้เข้ามา ไป๋หมิ่นหมิ่นรู้สึกตื่นเต้น สายตาเป็นประกาย เธอเปิดประตูรถเดินลงไปอย่างทนรอไม่ไหว
หากแต่เมื่อเงานั่นเข้าใกล้เธอ หญิงสาวถึงได้พบว่า ไม่ใช่ฉินหยุนเฟย แต่เป็นไอ้กระจอกลู่เสี้ยงหยาง
เธอหน้าบึ้งตึงทันที ในหัวพลันนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เมื่อช้าไอ้โรคจิตนี่ชนตัวเองเข้า แถมมือยังลูปคลำที่เอวของเธออีก
เหอะ เรื่องนี้เธอยังไม่ได้คิดบัญชีกับเขาเลย
ทันใดนั้น ไป๋หมิ่นหมิ่นชี้หน้าก่นด่าลู่เสี้ยงหยาง “ลู่เสี้ยงหยาง ทำไมถึงเป็นไอ้กระจอกอย่างแกไปได้? พี่หยุนเฟยล่ะ? ทำไมเขาถึงไม่มา?”
ลู่เสี้ยงหยางแสยะยิ้ม “นางแพศยา ปกติเธอดูนิ่งๆ ไม่คิดเลย ว่าจะนัดผู้ชายในเวลาดึกดื่นแบบนี้”
ไป๋หมิ่นหมิ่นไม่พอใจ พร้อมเผยสีหน้ารังเกียจอย่างยิ่ง “ยุ่งอะไรด้วย ไอ้ยาจก วันนี้ฉันยังไม่ได้คิดบัญชีกับแกเลย หากแกคุกเข่าลงก้มกราบขอขมาฉัน แล้วยอมรับว่าตัวเองเกาะผู้หญิงกิน ฉันก็จะปล่อยแกไป”
ให้ตาย!
เมื่อได้ยินสิ่งเหล่านี้ ลู่เซี่ยงหลงประหลาดใจ ดูเหมือนว่าชีวิตของลู่เสี้ยงหยางที่ปินเหอไม่เท่าไหร่ แม้แต่ผู้หญิงยังกล้าชี้หน้าด่าแว๊ดๆ
ฮ่าฮ่า ไร้ประโยชน์สิ้นดี
“เหอะ ฉันจะบอกให้ อันที่จริงคืนนี้ฉินหยุนเฟยไม่ได้นัดเธอมา ฉันเองนี่แหละที่นัดเธอ เพื่อที่จะคุกเข่าก้มลงกราบขอขมาเธอ”
ลู่เซี่ยงหลงเอ่ยแบบนั้นออกไปกะทันหัน
ยังไงซะตอนนี้เขาก็เป็นลู่เสี้ยงหยาง ทนรังเกียจหน่อยไม่เป็นไร
อะไรนะ?
ไป๋หมิ่นหมิ่นงงเป็นไก่ตาแตก เมื่อได้ยินประโยคของลู่เซี่ยงหลง
คืนนี้ไอ้ยาจกลู่เสี้ยงหยางเองหรือที่เป็นคนนัดเธอออกมา? เพื่อที่จะคุกเข่ากราบขอขมาเธอ?!
แต่ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าปลอมล่ะ ปกติแล้วไอ้ยาจกลู่เสี้ยงหยางออกจะอวดดี ทำไมคืนนี้ทำได้ไม่เอาไหนขนาดนี้ล่ะ?
แม้ว่าเธอจะสงสัย แต่ไป๋หมิ่นหมิ่นก็ยังคงรู้สึกพึงพอใจอย่างมาก
เธอหัวเราะออกมาเสียงดัง ก่อนที่จะเอ่ยกับลู่เซี่ยงหลง “ไอ้กระจอก แกมันเป็นคนไม่เอาไหนที่เกาะผู้หญิงกิน ถือว่าแกพอรู้ตัวเองบ้าง แกคุกเข่าลงต่อหน้าฉันเดี๋ยวนี้ แล้วก้มกราบขอโทษฉันซะดีๆ”