หนุ่มเศรษฐีลึกลับ - ตอนที่ 489
บทที่ 489 ใส่ร้าย
ลู่เสี้ยงหยางใส่แยแสคำพูดของไอ้งั่งฉินหยุนเฟยและหวังเจี้ยน หากแต่หันไปเอ่ยถามจางเต้าจี๋ “ผู้อำนวยการ ผมไม่เข้าใจ คุณบอกว่าผมทำเรื่องที่ไร้ศีลธรรม ตกลงมันเรื่องอะไรกันแน่?”
สายตาของทุกคนตกไปอยู่ที่จางเต้าจี๋อีกครั้ง ตามประโยคที่ได้กล่าวถามออกไป เพื่อรอคำตอบจากเขา
อีกฝ่ายเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา “แกอย่ามาแสร้งโง่ เมื่อคืนนี้ แกทำอะไรลงไป แกรู้ดีแก่ใจ หากแกคุกเข่าลงยอมรับผิด เรื่องที่แกทำลงไปเมื่อคืน ทางสถาบันจะใจกว้างลงโทษสถานเบา”
ยิ่งฟังเขาก็ยิ่งสับสน พลันส่ายหน้า “ขอโทษด้วยครับผู้อำนวยการ ผมไม่รู้ว่าคุณพูดอะไรกันแน่”
จูหยู่เจินเองก็งงเป็นไก่ตาแตก หันไปทางจางเต้าจี๋ “ผู้อำนวยการ เมื่อคืนนี้ ลู่เสี้ยงหยางทำอะไรกันแน่ ท่านบอกมาเลยได้ไหม? หากเป็นความผิดของลู่เสี้ยงหยางจริงๆ ฉันจะไม่อยู่เฉยแน่”
จางเต้าจี๋ไม่สบอารมณ์ “ก็ได้ ยังไงซะตอนนี้ ก็ต้องให้คำอธิบายกับทางสถาบันอยู่แล้ว”
เขาหยุดชะงัก ก่อนที่จะกล่าวต่อ “ตอนนี้ พาตัวลู่เสี้ยงหยางไปที่สนาม ผมจะประกาศโทษของเขา ต่อหน้าทุกคน”
“ครับ ผู้อำนวยการ” จบประโยค ชายสองคนที่เข้ามาจางเต้าจี๋ด้วย เดินไปที่ลู่เสี้ยงหยาง
ชายหนุ่มสองคนนี้เป็นนักบู๊มากฝีมือระดับแปดขั้นสุดพวกเขาเป็นอาจารย์ประจำชั้นของนักเรียนชั้นปีที่หนึ่งและสอง
พวกเขามาถึงที่ลู่เสี้ยงหยางอย่างรวดเร็ว ทั้งคู่เอื้อมมือออกไปพร้อมกัน เพื่อที่จะรวบตัวของลู่เสี้ยงหยาง
ลู่เสี้ยงหยางนั่งนิ่ง ไม่ตอบโต้ ตอนนี้เขาอยู่ที่สถาบันหลงเสิน ที่มีนักบู๊มากฝีมือ หากเขาต่อต้านก็เท่ากับไปตาย และตัวเขาเองก็ไม่ได้ทำอะไร เขาไม่กลัวที่คนพวกนี้จะใส่ร้ายป้ายสีตนเอง
เพราะงั้น ลู่เสี้ยงหยางจึงถูกทั้งสองรวบตัว
“นำตัวมันไป” จางเต้าจี๋คำรามอย่างเย็นชา
“ครับ ผู้อำนวยการ” ทั้งสองตอบรับ ก่อนที่จะจับตัวลู่เสี้ยงหยางมุ่งไปที่สนาม
นักเรียนคนอื่นในห้องภายใต้การนำพาของจูหยู่เจิน ออกมาห้องเรียนไปอย่างรวดเร็ว
ไม่นาน ลู่เสี้ยงหยางถูกนำตัวมาที่สนาม ในเวลาเดียวกัน เสียงประกาศในวิทยุดังขึ้น ให้อาจารย์และนักเรียนทุกคนมารวมตัวกันที่สนาม
เพียงไม่กี่นาทีนักเรียนและอาจารย์ทุกคนก็มาอยู่รวมกันที่สนามเป็นที่เรียบร้อย
เย่สวน หวังเสว่ และเสว่เฟยเส่พวกเธอต่างก็เห็นลู่เสี้ยงหยางถูกอาจารย์ทั้งสองคนรวบตัวเอาไว้ที่กลางสนาม ต่างก็เกิดความประหลาดใจขึ้น
หรือว่าลู่เสี้ยงหยางทำอะไรผิดในสถาบัน?
แต่ต่อให้เป็นอย่างนั้น ก็ไม่ถึงกับต้องรุนแรงขนาดนี้เลย อย่างมากก็ให้อาจารย์ประจำชั้นลงโทษหน่อยก็พอแล้วนี่
ด้วยความสงสัย หญิงสาวทั้งสามจึงสอบถามกับกงหยู่หนิงที่อยู่ห้องเกียวกันกับลู่เสี้ยงหยาง
หากแต่กงหยู่หนิงเองก็ไม่รับรู้เรื่องราว บอกกับทั้งสาม ว่าเมื่อสักครู่ผู้อำนวยการพาอาจารย์ทั้งสองท่าน บุกจับลู่เสี้ยงหยางถึงห้อง ให้เหตุผลว่าเมื่อคืนลู่เสี้ยงหยางทำเรื่องที่ไร้ศีลธรรมลงไป
อะไรนะ? เรื่องที่ไร้ศีลธรรม?
เมื่อได้ยินอย่างนั้น เสว่เฟยเส่และหวังเสว่จ้องหน้ากัน
ลู่เสี้ยงหยางช่างกล้าจริงๆ ตกลงว่าเขาทำอะไรกันแน่? ถึงได้กระทบถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงอย่างผู้อำนวยการ
ส่วนเย่สวนนั้นถอนหายใจออกมา เมื่อคืนนี้ หลังจากที่ลู้เสี้ยงหยางกลับบ้าน เขาหลับไปพร้อมกับเธอ คงมีอะไรเข้าใจผิดแน่
ในเวลานี้ จางเต้าจี๋เห็นว่าทุกคนมากันครบแล้ว ถึงได้ปริปากกล่าว “ตอนนี้ผมมีเรื่องจะประกาศ เมื่อคืนนี้ ในสถาบันของเราเกิดเรื่องขึ้น ทำให้ผมรู้สึกเสียใจอย่างมาก”
สายตาเขาเหลือบไปที่ลู่เสี้ยงหยาง เอ่ยอย่างเน้นชัด “ไอ้ขยะนี่ เมื่อคืนที่ทะเลสาปไป๋หม่า มันขืนใจไป๋หมิ่นหมิ่น ก่อนที่จะใช้ชีวิตที่โหดเหี้ยมอำมหิต สังหารนักเรียนของเราไป๋หมิ่นหมิ่น”
อะไรนะ? ลู่เสี้ยงหยางฆ่าคน? แถมยังข่มขืนก่อนฆ่า?!
บัดซบ! ทำไมถึงต้องโรคจิตโหดร้ายถึงเพียงนี้
เมื่อจบประโยคของจางเต้าจี๋ นักเรียนและอาจารย์นิ่งอึ้ง เสมือนกับว่าได้ยินที่น่าตกใจ
“พระเจ้า นี่มัน…..นี่มันเป็นไปได้ยังไง?!” กงหยู่หนิง หวังเสว่ เสว่เฟยเส่ ทั้งสามตกตะลึงจนอ้าปากค้าง คิ้วขมวดกันแน่ บอกตามตรง ต่อให้ตาย พวกเธอก็ไม่เชื่อ ว่าลู่เสี้ยงหยางจะทำเรื่องที่ไร้มนุษยธรรมแบบนี้ลงไปได้
“ไม่! เป็นไปไม่ได้!” เย่สวนนิ่งแข็ง หัวสมองขาวโพลน สติสตังหายไปสิ้น
ฉินหยุนเฟยงุนงง ก่อนที่จะได้สติกลับคืนมา พลางทับถมลู่เสี้ยงหยาง “ลู่เสี้ยงหยาง ไอ้บัดซบ ไม่คิดเลยว่าแกจะเป็นพวกเดรัจฉาน ฆ่าข่มขืนเพื่อนร่วมชั้น แกยังทำได้ลงคอ แกยังมีความเป็นคนอยู่รึเปล่า?”
หวังเจียนเองก็ชี้หน้าลู่เสี้ยงหยาง ก่อนด่ากราด “ลู่เสี้ยงหยาง ปกติเราว่าแกเป็นไอ้ยาจก ไม่คิดเลย ว่าแกจะกล้าดีถึงขนาดนี้ ทำเรื่องที่ลงทรามลงไปได้ เรื่องไร้ศีลธรรมแบบนี้ ฉันมา ทุกคนในสถาบัน ควรจะถ่มน้ำลายให้แกจมตายไปซะ”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น นักเรียนเกือบทั้งหมดเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง ต่างวิพากษ์วิจารณ์ลู่เสี้ยงหยางไปต่างๆ นานา
“เหอะ แทงมันให้ตาย มันง่ายเกินไป ผมว่าทำให้มันสูญพันธ์ุซะ ถึงจะสาสมกับความผิดของมัน”
“บัดซบ ไอ้เขยแต่งเข้านี่ภรรยาที่บ้านไม่ให้แตะต้องแน่ๆ คงจะอดอยาก ถึงได้ทำเรื่องที่เลวทรามขนาดนี้ได้ลงคอ”
“แม่ง ไอ้เสนียดเกาะผู้หญิงกิน ขายขี้หน้าผู้ชายสิ้นดี พวกเราต้องอยู่สถาบันเดียวกับเขา ช่างเป็นอะไรที่เสียชาติเกิด”
ใบหน้าของลู่เสี้ยงหยางยังคงนิ่งเฉย กับประโยคเหล่านี้ ที่จางเต้าจี๋พูดออกมาเมื่อสักครู่ เมื่อคืนเขาฆ่าข่มขืนไป๋หมิ่นหมิ่น เป็นเรื่องที่ไร้ที่มาที่ไป หรือว่าผู้อำนวยการต้องการใส่ร้ายป้ายสีเขา?
เมื่อนึกขึ้นได้อย่างนั้น ลู่เสี้ยงหยางรู้สึกเหยียด ยังไงซะสถาบันหลงเสินก็จัดตั้งขึ้นโดยสถาบันหลงถัง และหลงถังก็เป็นถึงหนึ่งในห้าสถาบันศักดิ์สิทธิ์ ห้าสถาบันศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่แค่อวดอ้าง พวกเขาเป็นสักลักษณ์แห่งความยุติธรรมไม่ใช่หรือ? หรือว่าทั้งหมดนี่ก็เป็นเพียงภาพที่พวกเขาสร้างขึ้นเท่านั้น? ฮ่าฮ่า ให้ตาย มันต่างอะไรกับพวกลัทธิมืดกัน?
ลู่เสี้ยงหยางเหลือบมองจางเต้าจี๋ กล่าวอย่างเหยียดหยาม “ผู้อำนวยการ ยังไงซะคุณก็เป็นคนที่มีหน้ามีตาในสถาบัน ใส่ร้ายผมแบบนี้ ไม่อายบ้างหรือยังไง?”
ตางเต้าจี๋หัวเราะออกมาเสียงดัง ก่อนที่จะตอบลู่เสี้ยงหยาง “นี่แก ให้คุณค่าตัวเองสูงไปหน่อยหรือเปล่า แกคิดว่า สถานะอย่างฉัน มีความจำเป็นที่จะใส่ร้ายมนุษย์ตัวเล็กๆ อย่างแกงั้นหรือ? เรื่องที่แกทำลงไปเมื่อคืนนี้ ไม่ต่างอะไรกับสัตว์เดรัจฉาน หลักฐานมัดตัวแน่นหนา แกยังคิดจะแก้ตัวอีกหรือ ถ้างั้นฉันจะให้แกดูหลักฐาน แกจะได้ตายตาหลับ”
จบคำ เขาเอื้อมมือล้วงเข้าไปในกระเป๋าหยิบเอาโทรศัพท์ออกมา หลังจากที่เลื่อนล็อกหน้าจอ ก็เข้าสู่คลิปวิดีโอในทันที
ทันใดนั้น หัวใจของลู่เสี้ยงหยางตกลงไปตาตุ่ม รูม่านตาขยาย