หนุ่มเศรษฐีลึกลับ - ตอนที่ 490
บทที่ 490 ประกาศโทษประหาร
ลู่เสี้ยงหยางนึกไม่ถึงเลย ว่าตอนนี้เขาจะปรากฏขึ้นในคลิปวิดีโอ ที่น่ากลัวไปกว่านั้น เขากลับทำเรื่องที่ไม่คาดคิดลงไป
ในคลิปวิดีโอ เขาคุกเข่าลงต่อหน้าไป๋หมิ่นหมิ่น ก่อนที่จะกดไป๋หมิ่นหมิ่นลงกับพื้นอย่างไร้เหตุผล ก่อนที่จะใช้ความรุนแรง
เมื่อดูจนจบ ลู่เสี้ยงหยางยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น หัวสมองขาวโพลน
นี่มัน…..ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้?
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของลู่เสี้ยงหยาง จางเต้าหย่วนคิดว่าลู่เสี้ยงหยางไร้คำแก้ตัว เขาอัพคลิปวิดีโอขึ้นบอร์ดของสถาบัน ก่อนที่จะกล่าวกับทุกคนในสนาม “หลักฐานการก่อเหตุของลู่เสี้ยงหยาง อยู่ในบอร์ดของสถาบัน ทุกคนเข้าไปดูได้ หลักฐานมัดตัวอย่างแน่นหนาขนาดนี้ ลู่เสี้ยงหยาง ไม่สามารถแก้ตัวใดๆ ได้อีก”
เมื่อประโยคนี้หลุดออก ทุกคนต่างหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เข้าไปที่บอร์ดของสถาบัน
ไม่นาน ทุกคนต่างดูคลิปวิดีโอจนจบ เกิดความโกลาหลในกลุ่มชนอีกครั้ง
ไม่คิดเลย ว่าจะเป็นฝีมือของลู่เสี้ยงหยางจริงๆ ตอนนี้หลักฐานมัดตัวอยู่ตรงหน้าเขา ดูสิว่าเขาจะแก้ตัวยังไงได้อีก
เย่สวน หวังเสว่ เสว่เฟยเส่และกงหยู่หนิงต่างยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น เสมือนกับเป็นรูปปั้นแกะสลัก
มีคลิปวิดีโอเป็นหลักฐาน ต่อให้พวกเขาไม่เชื่อว่าลู่เสี้ยงหยางเป็นคนร้าย ก็ต้องเชื่อ
ส่วนอาจารย์ประจำชั้นอย่างจูหยู่เจิน รู้สึกว่าเธอต้องขายขี้หน้าเพราะลู่เสี้ยงหยาง ไม่คิดเลยว่าไอ้หมอนี่ตะเป็นเศษเดนจริงๆ แม้แต่เพื่อนร่วมชั้นยังลงมือฆ่าข่มขืนได้ลงคอ
แต่เมื่อคิดดูอีกที การที่ลู่เสี้ยงหยางทำเรื่องแบบนี้ลงไป ก็สมเหตุสมผล
ก่อนหน้านี้ ที่ลู่เสี้ยงหยางกลั่นยาคืนจิตให้กับเธอ ก็เอาเปรียบเธออยู่บ่อยครั้ง ไหนจะให้เธอนวดไหล่ทุบขา เรียกเขาว่าพี่ชายบ้าง
พระเจ้า เธอเป็นอาจารย์ประจำชั้นของเขานะ เขายังกล้าถึงขนาดนี้
ดูเหมือนว่านี่สินะถึงจะเป็นเขาที่แท้จริง ช่างกล้า
เมื่อนึกถึงสิ่งเหล่านี้ จูหยู่เจินเชื่อสนิทใจว่าลู่เสี้ยงหยางเป็นฆาตกร จึงหันไปทางจางเต้าจี๋ “ผู้อำนวยการ ลู่เสี้ยงหยางเป็นนักเรียนของฉัน เขาทำเรื่องแบบนี้ ฉันรู้สึกเสียใจอย่างมาก ฉันต้องขอโทษทางสถาบันด้วย ที่ลู่เสี้ยงหยางเป็นคนที่ไม่เอาไหน มอบเขาให้แก่ฉันเถอะ ฉันจะจัดการเขาเอง”
ประโยคที่ไม่มีความเป็นส่วนตัว ยุติธรรม
จางเต้าจี๋พยักหน้า ตอบตกลงจูหยู่เจิน แต่ในเวลานี้เอง ลู่เสี้ยงหยางเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ “ผู้อำนวยการผมไม่ยอม คุณจะตัดสินผม เพียงเพราะคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดนี่ มักง่ายเกินไปหน่อยหรือเปล่า”
จางเต้าหย่วนหัวเราะออกมา “แล้วแกมีปัญหาอะไรอีก?”
ลู่เสี้ยงเอ่ย “ข้อหนึ่ง ผมไม่มีเหตุผลที่จะต้องฆ่าไป๋หมิ่นหมิ่น ไม่มีเหตุที่จะก่ออาชญากรรม ข้อสอง เมื่อคืนนี้ ผมอยู่ที่บ้านกับเย่สวนตลอด เธอเป็นพยานให้ผมได้ ข้อสาม หากผมเป็นคนร้ายจริงๆ ผมไม่โง่ถึงขนาดทิ้งคลิปจากกล้องวงจรปิดเอาไว้”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น จางเต้าจี๋นิ่งไป
หากแต่ฉินหยุนเฟยกลับเอ่ย “ลู่เสี้ยงหยาง หลักฐานอยู่ตรงหน้า เลิกคิดที่จะแก้ตัวซะเถอะ ฉันจะตอบคำถามข้อแรกของแกเอง เมื่อวันแกอยู่ในห้องกับไป๋หมิ่นหมิ่น ทุกคนเห็นแกขัดแย้งกับเธอ แล้วเธอก็ขู่ฆ่านาย ตั้งแต่ตอนนั้นแกก็โกรธเธอแล้ว เป็นเหตุเป็นผล แล้วมาดูที่คลิป แกคุกเข่าต่อหน้าไป๋หมิ่นหมิ่น แกต้องขอร้องเธออย่างแน่นอน ขอให้เธออย่าถือสาแก แต่ไป๋หมิ่นหมิ่นไม่ยอมแน่นอนอยู่แล้ว เธอยังคงเหยียดหยามดูถูกแก ในสถานการณ์แบบนี้ แกอายจนโกรธมาก จึงฆ่าข่มขืนเธอ ก็เป็นเหตุเป็นผล สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นเหตุให้แกก่ออาชญากรรม!”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ทุกคนต่างพยักหน้าเห็นด้วย การวิเคราะห์นี้มีเหตุผล ต้องเป็นเพราะลู่เสี้ยงหยางโกรธ จึงลงมือฆ่าไป๋หมิ่นหมิ่นแน่
จางเต้าจี๋เองก็เห็นด้วยกับบทวิเคราะห์นี้ พลันหันไปหาเย่สวน “เมื่อกี้ข้อที่สองที่ลู่เสี้ยงหยางบอกว่า เธออยู่กับเขาทั้งคืน เป็นเรื่องจริงหรือไม่?”
เย่สวนพยักหน้า “ผู้อำนวยการ เป็นเรื่องจริงค่ะ ลู่เสี้ยงหยางไม่ได้โกหก และฉันก็เชื่อมั่นในตัวลู่เสี้ยงหยาง เขาไม่มีทางเป็นคนร้ายแน่นอน ขอให้ท่านผู้อำนวยการสืบเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด ให้ความยุติธรรมแก่ลู่เสี้ยงหยางด้วย”
จางเต้าจี๋เอ่ยเสียงเรียบ “หากลู่เสี้ยงหยางบริสุทธิ์จริงๆ ผมไม่มีทางใส่ร้ายเขาแน่นอน”
เมื่อจบประโยค ฉินหยุนเฟยกล่าวขึ้นอีกครั้ง “ผู้อำนวยการ คำพูดของเย่สวน ไม่เพียงพอที่จะยืนยันว่าลู่เสี้ยงหยางเป็นผู้บริสุทธิ์”
จบคำ เขาก็หันไปทางเย่สวน “เมื่อคืนนี้ เธอได้อยู่กับลู่เสี้ยงหยางตลอดเวลาหรือเปล่า? เธอแน่ใจเหรอ ว่าเขาไม่มีห่างจากเธอเลย”
เย่สวนเอ่ยขึ้นอย่างมั่นใจ “แน่นอน เมื่อคืนนี้เราเข้านอนตั้งแต่4ทุ่มกว่า กระทั่งวันนี้ตอนเช้าถึงได้ออกจากบ้าน”
ฉินหยุนเฟยหัวเราะออกมา “ดีมาก เมื่อกี้เธอพูดแล้ว ว่าเธอกับลู่เสี้ยงหยางเข้านอนตั้งแต่4ทุ่มกว่า ถ้าอย่างนั้นลู่เสี้ยงหยางอาจจะแอบออกไปเงียบๆ หลังเธอหลับไปแล้ว เธอก็ไม่สามารถรับรู้ได้”
“นี่มัน…..” เย่สวนไม่สามารถโต้ตอบได้
“เฮ้อ” หวังเสว่ลอบถอนหายใจ ก่อนส่ายหน้า ตอนนี้หลักฐานทุกอย่างชี้ชัดไปที่ลู่เสี้ยงหยาง ไม่ส่งผลดีต่อลู่เสี้ยงหยางนัก
กงหยู่หนิงและเสว่เฟยเส่ตื่นเต้นจนเหงื่อออกตามฝ่ามือฝ่าเท้า พลันคิดหาวิธีช่วยลู่เสี้ยงหยาง
ในเวลานี้ จางเต้าจี๋เอ่ยถามลู่เสี้ยงหยางอย่างหนักแน่น “ยังมีอะไรจะพูดอีกไหม?”
ลู่เสี้ยงหยางหัวเราะออกมา “ผู้อำนวยการ หากผมฆ่าคนจริงๆ ผมจะตั้งใจทิ้งคลิปวงจรปิดเอาไว้ หรือว่าผมจะตั้งใจเลือกลงมือในที่ที่มีกล้องกัน คุณไม่รู้สึกว่าทุกอย่างนี้ชัดเจนมาก ว่ามีคนใส่ร้ายผม เพื่อสังหารผมอย่างนั้นหรือ”
“ฮ่าฮ่า ลู่เสี้ยงหยาง แกนี่ให้คุณค่าตัวเองสูงไปหรือเปล่า แกก็แค่ไอ้กระจอก มีใครที่ว่างมาก เสียแรงสร้างเรื่องเพื่อใส่ร้ายแกกัน?”
ในตอนนี้ ฉินหยุนเฟยเอ่ยเสริม “แกมันก็แค่ยาจก ยังไปไม่ถึงขั้นฆ่าคนโดยไม่ทิ้งร่องรอย ตอนนั้นแกนึกแค่ว่าสะใจ หลังจากที่ฆ่าไป๋หมิ่นหมิ่น แกกลับรู้สึกกลัว จึงไม่ทันที่จะจัดการกล้องวงจรปิด สมเหตุสมผลแล้วนี่ไง?”
“อืม ไม่เลว นักเรียนคนนี้วิเคราะห์ได้ดี ต้องเป็นแบบนั้นแน่ ลู่เสี้ยงหยาง คนไม่เอาถ่านเกาะผู้หญิงกินอย่างแกอย่าเล่นลิ้นไปหน่อยเลย ยอมรับโทษซะเถอะ” เมื่อได้ยินบทวิเคราะห์ของฉินหยุนเฟย ทุกคนอย่างยืนข้างเขา ตัดสินว่าลู่เสี้ยงหยางคือคนร้าย
ให้ตาย! พวกเขาไม่ชอบลู่เสี้ยงหยางอยู่แล้ว ไอ้หมอนี่ก็แค่ยาจก แต่กลับได้แต่งงานกับผู้หญิงที่แสนสวยอย่างเย่สวน
แม่งเอ๊ย ไม่ชอบมันมานานแล้ว วันนี้จะเล่นงานมันให้ตาย ต้องมีความสุขมากแน่
เย่สวนเป็นกังวล ร่างบางตัวสั่นเทาขึ้นมา มาถึงขนาดนี้แล้ว ต่อให้ลู่เสี้ยงหยางไม่ยอมรับ ก็คงไร้ประโยชน์
ในฐานะที่เป็นหัวหน้าทีมอาชญากรรมร้ายแรงอย่างเสว่เฟยเส่ แม้จะรู้สึกว่าเรื่องนี้ มีคนวางแผนอยู่เบื้องหลัง แต่เธอกลับไม่มีหลักฐานพยาน ก็เลยไม่สามารถขัดขึ้นได้
อันที่จริงลู่เสี้ยงหยางก่อคดีสังหาร ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่จองทางตำรวจ แต่ตอนนี้ลู่เสี้ยงหยางเป็นนักบู๊ ต้องเคารพในกฎระเบียบของวงการนักบู๊
อันที่จริง ตำรวจควบคุมได้เพียงคนธรรมดา ไม่สามารถเกี่ยวข้องกับความบาดหมางของทางวงการนักบู๊ได้
นี่เป็นข้อตกลงของทางตำรวจและสถาบันศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้า
ต่อมา จางเต้าจี๋หันไปทางลู่เสี้ยงหยาง พร้อมเอ่ยเสียงเรียบ “ไอ้หนู หลักฐานมัดตัวขนาดนี้ อย่าคิดที่จะเล่นลิ้น ตอนนี้ฉันขอประกาศ ประหาร”