หนุ่มเศรษฐีลึกลับ - ตอนที่ 498
บทที่ 498 ทางใครทางมัน
ลู่เสี้ยงหยางจ้องมองเย่สวนที่เดินเข้ามาในห้อง ดูจากใบหน้าของเธอก็รู้ว่าเธอมีอารมณ์ที่หนักอึ้ง เพื่อไม่ให้เธอต้องรู้สึกแย่ไปมากกว่านี้ เพราะงั้นเธอจึงแสร้งไม่รู้ว่าเขาเป็นอัมพาต พลันเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไม่คิดเลยว่าผมจะสลบไปตั้งสามวัน เวลาผ่านไปเร็วดีจังเลย”
เย่สวนเพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อย ในใจเธอลังเล ว่าจะบอกสถานการณ์ของเขาในตอนนี้กับเขาดีหรือไม่ แต่เมื่อไตร่ตรองอีกทีไม่บอกคงจะดีกว่า เขาเกรงว่าลู่เสี้ยงหยางจะได้รับการกระทบจิตใจติดๆ จะรับไม่ได้ หากลู่เสี้ยงหยางเกิดคลั่งเสียสติขึ้นมา ก็ไม่มีใครช่วยเขาได้แล้วจริงๆ
“นั่นสิ เวลาผ่านไปเร็วดีจังเลย” เย่สวนกล่าวไปตามน้ำ
ลู่เสี้ยงหยางนึกบางอย่างขึ้นมาได้ จึงเอ่ยถามออกไป “วันนั้นหลังจากที่ผมถูกนักฆ่าทำร้ายจนสลบไป เธอรอดมาได้ยังไง?”
เย่สวนทำหน้าสงสัย “ฉันไม่รู้ ฉันเองก็สลบไปเหมือนกัน ตื่นขึ้นมาอีกทีก็อยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว”
นี่ไม่ใช่คำโกหกของเย่สวน เธอรู้สึกเหมือนว่าความทรงจำของเธอได้ขาดหายไปครึ่งหนึ่ง ตอนนี้เธอรู้แค่ว่าลู่เสี้ยงหยางสลบไป ตัวเธอเองก็สลบไปด้วย ส่วนระหว่างนั้นเกิดอะไรขึ้นนั้น เธอไม่รู้อะไรเลย
“อืม” ลู่เสี้ยงหยางพยักหน้า ด้วยความสงสัย รู้สึกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นช่วงนี้มีเรื่องราวที่ประหลาดมากมาย
ทีแรกเขายังมีคำพูด แต่ในตอนนี้เอง เสียงฝีเท้าดังขึ้นที่หน้าห้องผู้ป่วย หลิวจิ้งนำอาหารมาให้กับเย่สวนและลู่เสี้ยงหยาง
หลายวันก่อนหลิวจิ้งอยู่ข้างนอก เธอเองก็เพิ่งกลับมาบ้านเมื่อวันนี้ เมื่อได้รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นกับลู่เสี้ยงหยาง เธอเสียใจอยู่ครึ่งค่อนวัน
วันนี้เธอตั้งใจทำมาหารมาให้กับเย่สวนและลู่เสี้ยงหยาง
ลู่เสี้ยงหยางรู้สึกซาบซึ้งใจ ว่ากันว่ายากนักที่จะได้พบกับความจริงใจ ตอนนี้เขาอัมพาตไปแล้ว แต่หลิวจิ้งก็ไม่รังเกียจเขา และเธอก็ไม่ได้สั่งให้เย่สวนหย่ากับเขาด้วย
สำหรับลู่เสี้ยงหยาง หลิ่วจิ้งมีใจขนาดนี้ก็เพียงพอแล้ว
แถมยังอาหาร หลิวจิ้งยังปลอบใจลู่เสี้ยงหยางอยู่อย่างนั้น บอกให้เขาอย่าคิดมาก อยู่รักษาตัวที่โรงพยาบาลก็พอแล้ว
ลู่เสี้ยงหยางรู้สึกแสบร้อนที่เบ้าตา น้ำตาแทบจะไหลออกมา ไม่คิดเลยว่าแม่ยายที่มักจะเหยียดตาด้วยคำพูดที่เยือกเย็นในเวลาปกติ ในเวลาคับขันจะเป็นห่วงเขามากถึงขนาดนี้
เย่สวนเองก็คลายกังวลไปมาก เธอคิดว่าหลังจากที่แม่ของเธอรับรู้สถานการณ์ของลู่เสี้ยงหยาง จะบีบบังคับให้พวกเขาหย่ากันเสียอีก แต่ไม่คิดเลยว่าครั้งนี้หลิวจิ้งจะมีความเห็นอกเห็นใจถึงเพียงนี้
หลังจากนั้นเมื่อหลิวจิ้งจากไป หวังเสว่ กงหยู่หนิง และเสว่เฟยเส่ก็เดินเข้ามาในห้องพักทันที
เมื่อเห็นว่าลู่เสี้ยงหยางตื่นขึ้นมาแล้ว ทั้งสามดีใจจนออกนอกหน้า แม้ว่าจะมีความเสียใจอยู่บ้าง เมื่อวันนี้พวกเขามาเยี่ยมลู่เสี้ยงหยาง ตอนนั้นลู่เสี้ยงหยางยังไม่ตื่น ตอนนี้คุณหมอบอกกับพวกเธอว่า ลู่เสี้ยงหยางเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นอัมพาต
และวันนี้ ลู่เสี้ยงหยางก็นอนอยู่บนเตียงไม่ไหวติง ก็ได้พิสูจน์แล้วว่าคำของคุณหมอนั้นเป็นเรื่องจริง
แต่ทั้งสามนั่นค่อนข้างใสซื่อ พวกเธอยังคงคิดว่าลู่เสี้ยงหยางไม่รู้เรื่องนี้เสียอีก พวกเธอจึงไม่ได้พูดอะไรออกมา เพียงแค่ปลอบใจลู่เสี้ยงหยาง ให้รักษาตัวดีๆ อีกไม่กี่วันออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว
ลู่เสี้ยงหยางรู้สึกซาบซึ้งและอบอุ่นหัวใจ เขาค้นพบว่า มีคนตั้งมากมายเป็นห่วงเขา ต่อให้ต้องตายไปก็ไม่เสียชาติเกิดแล้ว
ต่อจากนั้น ทั้งสามสาวอยู่ที่ห้องพักฟื้นกว่าครึ่งค่อนวัน ถึงได้ขอตัวกลับ
เพิ่งก้าวเท้าออกจากโรงพยาบาล กงหยู่หนิงก็น้ำตาไหลออกมา หลายปีมานี้ ลู่เสี้ยงหยางเป็นผู้ชายคนแรกที่เธอชอบ เมื่อเห็นความทุกข์ทรมานของลู่เสี้ยงหยางในตอนนี้ เธอไม่สามารถทำใจได้จริงๆ
หากไม่ใช่เพราะลู่เสี้ยงหยางแต่งงานแล้ว เย่สวนเป็นภรรยาของเขาละก็ เธอคิดที่จะอยู่เตียงข้างลู่เสี้ยงหยางไปตลอดชีวิต อยู่ดูแลการใช้ชีวิตของลู่เสี้ยงหยาง
เสว่เฟยเส่เองก็เศร้าสลดอยู่ไม่น้อย ใบหน้าปกคลุมไปด้วยความหม่นหมอง เธอยังติดหนี้บุญคุณของลู่เสี้ยงหยางอยู่
หวังเสว่เองก็หดหู่ใจไม่แพ้กัน เธอรู้สึกสับสนอย่างบอกไม่ถูก
…..
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว หลายวันหลังจากนั้น ลู่เสี้ยงหยางใช้ชีวิตที่โรงพยาบาล
แม้ว่าสุขภาพของลู่เสี้ยงหยางจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ผ่านการตกตะกอนหลายวันมานี้ ลู่เสี้ยงหยางได้ทำการตัดสินใจแล้ว
วันนี้เช้า เมื่อเย่สวนเข้ามาในห้องพักฟื้น ลู่เสี้ยงหยางก็ได้เจรจากับเย่สวนอย่างจริงจัง
ลู่เสี้ยงหยางลอบถอนหายใจ ก่อนที่จะปริปากเอ่ยกับเย่สวน “เย่สวน อันที่จริงผมรู้ว่าสุขภาพผมเป็นยังไง ขอบคุณสำหรับความดูแลที่คุณมีให้ในหลายวันมานี้ ผมรู้สึกพอใจมากแล้ว”
หืม?
เมื่อได้ยินประโยคเหล่านั้น ร่างบางของเย่สวนสั่นเทา ลู่เสี้ยงหยางรับรู้สถานการณ์ของเขาอย่างนั้นหรือ?
เย่สวนฝืนยิ้มออกมาอย่างขมขื่น ก่อนกล่าวกับลู่เสี้ยงหยาง “อย่าคิดมากเลย คุณหมอบอกแล้วว่าคุณได้นับบาดเจ็บสาหัส เสียเลือดมากเกินไป หลายวันนี้ร่างกายไม่สามารถขยับได้ คุณพักผ่อนสักหน่อยก็กลับมาเป็นปกติแล้ว”
ลู่เสี้ยงหยางส่ายหน้า เอ่ยอย่างมุ่งมั่น “คุณไม่ต้องปลอบใจผม ผมรู้ดี ผมผ่านกับการที่ท่อนล่างนอนแน่นิ่งกับเตียงมาหลายวัน แต่ไม่เป็นไร ผมปล่อยวางแล้ว ผมไม่มีทางคิดสั้นหรอก คุณวางใจเถอะ”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น เย่สวนไม่สามารถเก็บกลั้นได้อีกต่อไป น้ำตาไหลทะลักออกมาราวกับสร้อยมุกที่สายขาด
หลายวันมานี้ ต่อหน้าลู่เสี้ยงหยาง เธอไม่กล้าแสดงความรู้สึกที่มีออกมาให้ลู่เสี้ยงหยางเห็น นี่เป็นครั้งแรก
ลู่เสี้ยงหยางจับจ้องเย่สวนที่น้ำไหลเอ่อนอง หัวใจราวกับมีดคมกรีดเฉือน แต่ก็ยังคงทนกล่าวออกไป “หลายวันมานี้ผมไตร่ตรองไปมาอยู่เรื่องหนึ่ง หลายปีมานี้ที่ผมแต่งเข้าบ้านตระกูลเย่ ผมรักคุณจริงๆ รึเปล่า แต่น่าเศร้า ที่ผมไม่เคยรักคุณเลย หลายปีมานี้ ที่ผมไม่ยอมไปจากตระกูลเย่ เป็นเพราะผมไม่มีที่ไป ผมต้องการกินหรืออยู่ฟรีที่ตระกูลเย่”
“บัดนี้ผมค้นพบว่า ผมจะเป็นหนอนเน่าต่อไปไม่ได้ และทำให้คุณลำบากต่อไปไม่ได้ เพราะงั้นวันนี้ผมจะพูดให้ชัดเจน จากนี้เราทางใครทางมัน เห็นแก่ที่เราเคยเป็นสามีภรรยาต่อกัน คุณฟังผมคำสั่งของผมเป็นครั้งสุดท้ายเถอะนะ ฮ่าฮ่า เราจากกันด้วยดีเถอะ วันหลังเรายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้”
อะไรนะ? ในเวลาแบบนี้ ในสถานการณ์แบบนี้ลู่เสี้ยงหยางคิดจะเลิกกับตน?
เมื่อเย่สวนได้ยินประโยคเหล่านั้น เธอสงสัยว่าตัวเองหูฝาดไป จับจ้องลู่เสี้ยงหยางนิ่ง ร่างบางแข็งทื่อ
หัวใจที่บอบช้ำอยู่แล้ว ตอนนี้เจ็บปวดมากขึ้นไปอีก แทบจะเสียสติไป ร้องไห้ด้วยความเสียใจอย่างถึงที่สุด
เมื่อเห็นสภาพที่น่าสงสารของเย่สวน ลู่เสี้ยงหยางแทบจะทนต่อไปไม่ไหว แต่เมื่อนึกถึงความสุขในอีกครึ่งชีวิตหลังของเธอ จึงกัดฟันกล่าวต่อ “พอได้แล้ว ผมเหนื่อยแล้ว คุณออกไปเถอะ ต่อจากนี้เราเจอกันให้น้อยหน่อยจะดีกว่า” แม้ว่าเย่สวนจะรู้ว่าที่เขาพูดออกมาอย่างนั้นก็เพื่อเธอ แต่เมื่อได้ยินประโยคที่ไร้หัวใจเช่นนี้ ก็ยังรู้สึกว่าลู่เสี้ยงหยางเสมือนกับมีดเล่มหนึ่งที่ทิ่มแทงหัวใจของเธอ
หือหือ!
เย่สวนไม่สามารถควบคุมน้ำตาของตัวเองอยู่ได้ เธอลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ ปิดหน้าวิ่งออกไปจากห้อง
ซู๊ด!
ลู่เสี้ยงหยางถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ น้ำตาค่อยๆ ไหลออกมาจากดวงตา