หนุ่มเศรษฐีลึกลับ - ตอนที่ 508
บทที่ 508 ใช้ไม่ได้การสักคน
สำหรับลู่เสี้ยงหยาง ตระกูลเซี่ยงได้คืบจะเอาศอก ก่อนหน้านี้พวกเขาให้ยาพลิกสวรรค์แก่เย่สวนเพียงหนึ่งเม็ด เขาคืนให้กับตระกูลเซี่ยงสิบเม็ด ตระกูลเขาได้ไปมากพอแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะหน้าด้านถึงเพียงนี้ คิดที่จะเอายาพลิกสวรรค์จากเขา100เม็ด
เย่สวนตัวแข็งทื่อ เธอรู้อยู่แล้วว่าตระกูลเซี่ยงตั้งใจหาเรื่องลู่เสี้ยงหยาง
ทุกอย่างชัดเจนดีอยู่แล้ว ต่อให้ลู่เสี้ยงหยางให้ยาพลิกสวรรค์แก่ตระกูลเซี่ยง10เม็ดไปแล้ว แต่ตัวเธอก็ไม่มีทางหลุดออกจากตระกูลเซี่ยงได้
ความตั้งแต่ของตระกูลเซี่ยงก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ตระกูลเซี่ยงอยากจะเล่นงานลู่เสี้ยงหยาง
ในความคิดของเซี่ยงเทียนไห่ ลู่เสี้ยงหยางสามารถนำยาพลิกสวรรค์ออกมาได้10เม็ด แสดงว่าในตัวลู่เสี้ยงหยางไม่ขาดยาพลิกสวรรค์แน่
ในเวลานี้ลู่เสี้ยงหยางกลับหลังหัน จับจ้องไปที่เซี่ยงเทียนไห่ “เมื่อกี้แกว่าไงนะ? ยังอยากจะได้ยาพลิกสวรรค์อีก100เม็ด?”
เซี่ยงเทียนไห่พยักหน้า กล่าวด้วยทีท่าโอหัง “ไอ้หนู ขอเพียงแค่แกเอายาพลิกสวรรค์ออกมา100เม็ด เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ตระกูลเซี่ยงจะไม่เอาเรื่อง”
ประโยคที่หลุดออก ทุกคนต่างหันความสนใจไปที่ลู่เสี้ยงหยาง เพื่อดูว่าเขาจะตอบโต้อย่างไร
แต่ลู่เสี้ยงหยางเมื่อสักครู่สามารถนำยาพลิกสวรรค์ออกมาได้10เม็ด เหนือความคาดหมายเสียจริง
ไม่แน่แค่หลอกเขาหน่อย ตระกูลเซี่ยงก็อาจจะได้ยาพลิกสวรรค์อีก100เม็ดจริงๆ ก็ได้
เมื่อคิดได้อย่างนั้น หลายคนต่างแสดงสีหน้าอิจฉาออกมา ธุรกิจในครั้งนี้ตระกูลเซี่ยงได้กำไรเละ
แต่น่าเสียดายที่ในสถานการณ์แบบนี้ ลู่เสี้ยงหยางไม่ใช่คนที่ใครจะทำอะไรเขาก็ได้ เขาหัวเราะออกมาเสียงดัง เยาะเย้ยเซี่ยงเทียนไห่ “ตาแก่ อย่าโลภมากไปหน่อยเลย เมื่อกี้ผมให้ยาพลิกสวรรค์แก่คุณไป10เม็ด ก็เพราะผมอารมณ์ดี ก็เลยให้ตระกูลเซี่ยงเป็นรางวัล ไม่คิดเลยว่าตระกูลเซี่ยงจะโลภมาก ถ้าอย่างนั้น 10เม็ดนั่นก็ไม่ต้องเอาแล้วกัน”
อะไรนะ?
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ทุกคนต่างนิ่งงัน คำพูดดุดันขนาดนี้ กลับออกมาจากปากของยาจกคนหนึ่งอย่างนั้นหรือ
เซี่ยงเทียนไห่หัวเราะอย่างชั่วร้าย สายตาราวกับมีดคมที่จ้องเขม็งลู่เสี้ยงหยาง “ไอหนู เรื่องนี้แกตัดสินใจไม่ได้หรอกนะ วันนี้ ยาพลิกสวรรค์อีก100เม็ดที่เหลือ แกคิดจะให้ก็ต้องให้ ไม่ให้ก็ต้องให้”
ดูเหมือนว่า ตระกูลเซี่ยงคิดจะใช้ไม้แข็งสินะ
ลู่เสี้ยงหยางระเบิดหัวเราะ นี่ต่างหากสิ่งที่เขารอคอย สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ทำให้เขาโมโหมาตั้งนานแล้ว อยากจะสั่งสอนตระกูลเซี่ยงใจจะขาด
เขายื่นมือออกไป กระดิกนิ้วทางเซี่ยงเทียนไห่ กล่าวเสียงเรียบ “ในเมื่อตระกูลเซี่ยงอยาใช้กำลัง ก็ไม่ต้องพูดมาก เข้ามาเลย”
เหอะ เซี่ยงเทียนไห่ไม่พอใจ พลันหันไปด้านล่างของเวที ยื่นแขนออกไป กล่าวอย่างนอบน้อม “ท่านผู้อาวุโสทั้งสามท่าน เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ พวกท่านเองก็เห็นแล้ว เป็นเพราะลู่เสี้ยงหยางยโสนัก หากตระกูลเซี่ยงไม่ทวงความยุติธรรมในครั้งนี้ จะยืนหยัดต่อไปยังไงได้อีก? ตอนนี้ผมอยากเรียนเชิญท่านผู้อาวุโสทั้งสาม จัดการไอ้หมอนี่ซะ ยาพลิกสวรรค์หนึ่งร้อยเม็ดนี้ ผมจะมอบให้กับสำนักซี่ฟางโหลวทั้งหมด”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ชายทั้งสามที่อยู่ด้านล่างเวลาต่างลุกขึ้นทีละคน พวกเขาทั้งสามสวมชุดแบบเดียวกัน คือชุดนักพรต
ทั้งสามเป็นผู้อาวุโสของสำนักนอกอย่างสำนักซี่ฟางโหลว อันได้แก่ผู้อาวุโสใหญ่ ผู้อาวุโสรอง และผู้อาวุโสสาม
สำนักซี่ฟางโหลว เป็นหนึ่งในห้าสำนักที่เก่งที่สุด ความสามารถและอำนาจจัดอยู่ในอันดับต้นๆ ของวงการนักบู๊ในหวาเซี่ย
ในหวาเซี่ย ตระกูลมากมายต่างอยู่ภายใต้การดูแลของสำนักใหญ่ทั้งห้า ที่บังเอิญไปกว่านั้น ตระกูลเซี่ยงแห่งไห่ตงนั้นอยู่ในความดูแลของสำนักซี่ฟางโหลว
ตอนนี้ สายตาของผู้อาวุโสทั้งสามตกไปอยู่ที่ลู่เสี้ยงหยาง ผู้อาวุโสใหญ่กล่าวอย่างราบเรียบ “ตอนนี้ทางที่แกก็ควรจะเอายาพลิกสวรรค์อีก100เม็ดออกมา ไม่อย่างนั้นก็ปลิดชีพตัวเองซะ สองทางนี้ แกเลือกเอาเอง”
ลู่เสี้ยงหยางหัวเราะออกมา กับประโยคที่ได้ยิน นี่น่ะหรือการกระทำของสำนักแห่งความถูกต้อง?
ก็แค่อาศัยพรรคพวกมาก คิดที่จะบีบบังคับตัวเองนำยาพลิกสวรรค์100เม็ดออกมาก็เท่านั้น
นี่มันต่างอะไรกับโจร?
ก่อนหน้านี้ที่สถาบันหลงเสิน ลู่เสี้ยงหยางถูกใส่ร้าย บีบบังคับให้เขาเป็นฆาตกรข่มขืนไป๋หมิ่นหมิ่น
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขาก็ไร้ความรู้สึกดีกับสำนักใหญ่ทั้งห้า
บัดนี้นำนักซี่หางโหลวเองก็ไม่แตกต่าง ไร้เหตุผลสิ้นดี
ดูเหมือนว่าสำนักใหญ่ทั้งห้าจะไม่มีคนที่ใช้การได้เลยนะ ไม่แน่อาจจะสารเลว มากกว่าสำนักกวางหมิงและสำนักจิ่วโหยวก็ได้
เมื่อนึกถึงสิ่งเหล่านี้ ลู่เสี้ยงหยางไร้ความลังเล เขาระเบิดหัวเราะเสียงดัง จับจ้องไปที่ผู้อาวุโสทั้งสาม “คนหน้าซื่อใจคดอย่างพวกคุณ ปากของพวกคุณนี่มันน่ารังเกียจสิ้นดี ผมจะบอกให้ก็ได้ ในตัวผมยังมียาพลิกสวรรค์อยู่อีก หากพวกคุณแน่จริง ก็เข้ามาแย่งเอาเองสิ”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ผู้อาวุโสทั้งสามสายตาประกายขึ้นมาทันที ก่อนที่จะจ้องหน้ากัน
ทั้งสามลุกออกจากที่นั่งอย่างรู้ตัว ขยับฝีเท้า เดินไปที่ลู่เสี้ยงหยาง
เมื่อเห็นว่าลู่เสี้ยงหยางและผู้อาวุโสทั้งสามกำลังจะทำสงคราม แขกที่มาในงานต่างลุกออกจากที่นั่ง เพื่อเว้นพื้นที่ให้กับพวกเขา
ใบหน้าของลู่เสี้ยงหยางเฉยชา ไร้สีสันใดๆ บนใบหน้า เขาหันไปกำชับเย่สวน “เธอหลบไปก่อน”
จบประโยค เขากระโดดลงจากเวที ไปยืนอยู่ที่ข้างผู้อาวุโสทั้งสาม
ภายในผู้อาวุโสทั้งสาม ผู้อาวุโสสามมีอารมณ์ที่รุนแรงที่สุด เขาคำรามอย่างดุดันเริ่มการโจมตีเป็นคนแรก
สาวเท้าก้าวใหญ่ ร่างกายพุ่งทะยานไปทางลู่เสี้ยงหยาง
ดูเหมือนว่า เขาจะใช้ร่างกายเป็นอาวุธ ใช้วิธีที่เรียบง่ายหยาบกระด้างรุนแรงในการต่อสู้กับลู่เสี้ยงหยาง
ลู่เสี้ยงหยางหลี่ตาลง เผยใบหน้ายิ้มเยาะ
เมื่อสักครู่เขาคานคะเนเอาไว้อย่างแม่นยำ ผู้อาวุโสทั้งสามท่านนี้เป็นนักบู๊ระดับแปด แถมในกลุ่มนักบู๊ระดับแปด ถือได้ว่าเป็นสุดยอดปรมาจารย์ หากเป็นเมื่อก่อน ความสามารถระดับเขาหากต้องต่อสู้กับสามคนนี้อาจจะกินแรงไปมาก แต่ตอนนี้หลังจากที่ดานเถียนที่ถูกแทงฟื้นฟู ก็เท่ากับว่าดานเถียนได้รับการเกิดใหม่เป็นครั้งที่สอง ทำให้ความแข็งแกร่งของเขาก้าวกระโดดจากพื้นฐานของก่อนหน้านี้ ตอนนี้ การเผชิญหน้ากับทั้งสาม เขาไม่คิดมากเลยแม้แต่น้อย
แม้ว่าลู่เสี้ยงหยางจะไม่ใช่นักบู๊ระดับแปด แต่ความสามารถของเขาในตอนนี้อยู่เหนือกว่าตัวเขาในอดีต
ไม่นานผู้อาวุโสสามก็ทาถึงตัวลู่เสี้ยงหยาง เกิดเสียงดังเปี๊ยะราวกับถั่วระเบิดดังมาจากร่างของเขา
ในตอนนี้ร่างกายของเขาราวกับว่ามีพลังร้ายแรงซ่อนอยู่
ในเวลาเดียวกัน ทั้งมือและเท้าของผู้อาวุโสสามไร้การจู่โจมแต่อย่างใด ร่างกายของเขาต่างหากที่เป็นอาวุธอันร้ายกาจ เขาคิดที่จะใช้ร่างกายของเขาเองทิ่มแทงลู่เสี้ยงหยางให้ตาย!
ลู่เสี้ยงหยางไร้ท่าที ต่อการจู่โจมอันร้ายกาจของผู้อาวุโสสาม เขาเพียงสลัดเท้าไปข้างหน้าเบาๆ หนึ่งที
ปัง!
ไวราวกับสายฟ้า ตกไปสู่หว่างอกของผู้อาวุโสสามอย่างรวดเร็ว
ไม่มีใครคาดคิด ว่าในสถานการณ์แบบนี้ของผู้อาวุโสสาม ถูกลู่เสี้ยงหยางถีบปลิวในท่าเดียว ร่างกายราวกับว่าวที่สายขาดที่ปลิวว่อนออกจากโรงแรม
เงียบหงิม!
ภายในโรงแรมเงียบกริบอีกครั้ง