หนุ่มเศรษฐีลึกลับ - ตอนที่ 511
บทที่ 511 นอกเสียจากฆ่าฉันทิ้ง
แม้ว่าเซี่ยงเทียนไห่จะไม่ใช่นักบู๊ แต่ตอนนี้เขาสามารถสัมผัสได้ ถึงความอาฆาตที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวของลู่เสี้ยงหยาง
เขารู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมา แม้แต่ผู้อาวุโสของสำนักซี่ฟางโหลวลู่เสี้ยงหยางยังกล้าสังหาร หากเขาคิดจะลงมือกับตนเอง คงไม่มีใครที่จะห้ามเขาได้
แม้ว่าจางซูฟางเองก็หวาดกลัว แต่เธอโอหังจนติดเป็นนิสัย ชี้หน้าด่ากราดลู่เสี้ยงหยาง “อะไรกัน กลางวันแสกๆ ยังกล้าฆ่าคน ฉันว่าแกไม่อยากอยู่แล้วสินะ อยากเข้าไปอยู่ในตาราง ฉันก็จะจัดให้”
จบประโยคเธอหยิบโทรศัพท์ออกมา เตรียมแจ้งความ
เธอไม่ใช่นักบู๊ จึงไม่รู้กฎระเบียบข้อนี้ ความบาดหมางของนักบู๊ ตำรวจไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งเกี่ยว
ตำรวจมีหน้าที่แค่เรื่องราวภายนอกวงการบู๊เท่านั้น
ลู่เสี้ยงหยางยิ้มเยาะ ไม่แยแสจางซูฟาง ปล่อยให้เธอแจ้งความตามอำเภอใจ ฝีเท้าขยับเคลื่อน ก้าวไปทางเซี่ยงเทียนไห่
เซี่ยงหยู่โม่ตื่นตูม บิดาของเขาเป็นที่เพิ่งพาของตระกูลเซี่ยง หากวันนี้ถูกลู่เสี้ยงหยางกำจัด ตระกูลเซี่ยงจบเห่แน่ หากตระกูลเซี่ยงล้ม คุณชายตระกูลเซี่ยงอย่างเขาก็ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น
เมื่อนึกได้อย่างนั้น เขากัดฟันสู้วิ่งไปอยู่เบื้องหน้าเซี่ยงเทียนไห่ เพื่อขัดขวางลู่เสี้ยงหยาง
ลู่เสี้ยงหยางไม่คิดเลยว่าจะมีช่วงเวลาที่เซี่ยงหยู่โม่ใช้การได้ด้วย เขากวาดสายตาพิจารณา ก่อนกล่าวเสียงเรียบ “ถือว่าแกเป็นลูกผู้ชาย ตอนนี้คุกเข่าลงกราบผมสามที ผมจะไว้ชีวิตอันไร้ค่าของคุณ”
ประโยคนี้ทำให้เซี่ยงหยู่โม่โมโหจนเนื้อตัวสั่น ใบหน้าเขียวปั้ด สายตาจ้องลู่เสี้ยงหยางนิ่ง “บัดซบ ลู่เสี้ยงหยาง อย่าโอหังมากไปหน่อยเลย อย่าคิดนะว่ามีความสามารถกระจอกแค่นั้นแล้วจะทำอะไรก็ได้ ฉันจะบอกให้ ตระกูลเซี่ยงและสำนักซี่ฟางโหลวมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นต่อกัน หากวันนี้แกกล้าแตะต้องคนของตระกูลเซี่ยง สำนักซี่ฟางโหลวต้องกำจัดแกแน่”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ลู่เสี้ยงหยางนึกขำ เซี่ยงหยู่โม่ปัญญาอ่อนใช่ไหม? เขาสังหารผู้อาวุโสของสำนักซี่ฟางโหลวทิ้งไปแล้วคนหนึ่ง ได้เป็นศัตรูกับสำนักซี่ฟางโหลวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ในสถานการณ์แบบนี้ หากเขาถอนรากถอนโคนตระกูลเซี่ยงไปด้วย จะเป็นอะไรไป?
ยังไงซะเขาและสำนักซี่ฟางโหลวก็ได้ฉีกหน้าหันไปเรียบร้อยแล้ว
ลู่เสี้ยงหยางหัวเราะชอบใจ ก่อนส่ายหน้า “อย่ามัวแต่พูดไร้สาระอยู่เลยย ต่อให้เจ้าสำนักซี่ฟางโหลวอยู่ตรงหน้า ก็ช่วยตระกูลเซี่ยงของพวกแกไม่ได้อยู่ดี”
จบประโยค ลู่เสี้ยงหยางยกเท้าขึ้น ประทับลงที่ข้อพับของเซี่ยงหยู่โม่
เซี่ยงหยู่โม่เสียการทรงตัว คุกเข่าลงตรงหน้าลู่เสี้ยงหยาง
“แม่งเอ๊ย” เซี่ยงหยู่โม่ร้อนรุ่มใจ คิดที่จะอ้าปากด่ากราดลู่เสี้ยงหยาง แต่ร่างของเขาได้ถูกลู่เสี้ยงหยางเตะจนล้มลงไปกองกับพื้น
“โอ๊ย” เสียงอุทานร้องด้วยความเจ็บปวดปานจะขาดใจ ดังออกมาจากปากของเซี่ยงหยู่โม่
คนรอบข้างต่างสูดหายใจเข้า พลันรู้สึกเย็นวาบขึ้นมากะทันหัน
ที่แท้เมื่อสักครู่ หลังจากที่ลู่เสี้ยงหยางเตะเซี่ยงหยู่โม่จนล้ม พร้อมกับเหยียบเข้าที่น้องชายของเซี่ยงหยู่โม่
เซี่ยงหยู่โม่เผชิญหน้ากับความรู้สึกไข่แตก
ในเวลานี้ ลู่เสี้ยงหยางจ้องมองเซี่ยงหยู่โม่เต็มความสูงพร้อมกล่าว “ผมเคยบอกไปแล้ว เย่สวนเป็นได้แค่ผู้หญิงของผมคนเดียวเท่านั้น คุณคิดไม่ซื่อต่อเธอ นี่คือราคาที่คุณต้องจ่าย”
ประโยคที่ดุดัน
เย่สวนซาบซึ้งจนน้ำตาร่วงริน หลิวจิ้งสายตาประกาย ลู่เสี้ยงหยางในวันนี้ทำให้เธอรู้สึกแตกต่างออกไป
ในเวลาเดียวกัน เมื่อเห็นลูกชายตัวเองถูกทำร้าย เซี่ยงเทียนไห่และจางซูฟางสีหน้าโกรธจัด
ให้ตาย ตระกูลเซี่ยงฝากความหวังในการสืบทอดตระกูลต่อไปจากลูกชายคนเดียวอย่างเซี่ยงหยู่โม่ แต่ตอนนี้…..
ตอนนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห จางซูฟางด่ากราดใส่ลู่เสี้ยงหยางทันที “ไอ้เดรัจฉาน ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม ความแค้นนี้หากไม่ชำระ ตระกูลเซี่ยงก็ไม่คู่ควรที่จะมีชีวิตอยู่…..”
เพี๊ยะ!
ไม่ทันได้จบประโยค กูถูกลู่เสี้ยงหยางฟาดเข้าบ้องหูเต็มๆ
“นางแก่ พูดมากเกินไปแล้ว” ลู่เสี้ยงหยางกล่าวอย่างหน้าตาย
“เอ๋?” จางซูฟางอึ้งไปสักพักกว่าจะดึงสติกลับคืนมาได้
แม่งเอ๊ย! ก็แค่ไอ้ยาจกกล้าบังอาจตบบ้องหูเธองั้นหรือ
“สมควรตาย ไอ้เดรัจฉาน กล้าตบฉัน วันนี้ฉันจะฝังแกทั้งเป็น” จางซูฟางปากร้ายขึ้นมา พร้อมใช้กำลังกับลู่เสี้ยงหยาง
แต่ไม่ทันที่เธอได้ถูกตัวลู่เสี้ยงหยาง ลู่เสี้ยงหยางยกแขนขึ้น ฟาดใบหน้าของจางซูฟางไปหลายที
เธอถูกตบต่อเนื่อง จนใบหน้าบวมช้ำราวกับหัวหมู
จางซูฟางจ้องเขม็งลู่เสี้ยงหยางด้วยความโกรธจัด หากสายตาฆ่าคนได้ ลู่เสี้ยงหยางคงตายไปแล้วหลายครั้ง
ลู่เสี้ยงหยางละสายตาออกจากจางซูฟาง แสยะยิ้มมุมปาก เผยรอยยิ้มที่ใสซื่อ “ผมไม่เพียงแต่กล้าตบคุณ แต่ผมยังกล้าฆ่าคุณด้วย เชื่อไหม?”
เปรี้ยง!
เมื่อได้ยินอย่างนั้น จางซูฟางเกิดเสียงฟ้าร้องดังก้องในหัว รูขุมขนในร่างกายตั้งชูชันขึ้น
ในตอนนี้ ลึกลงไปใต้จิตวิญญาณมีเสียงบางอย่างบอกกับเธอว่า หากเธอยังไม่หุบปาก ลู่เสี้ยงหยางจะฆ่าเธอทิ้งทันที
จางซูฟางยกมือขึ้นปิดปากอย่างรู้งาน ดวงตาสั่นไหวด้วยความหวาดหวั่น
หลังจากนั้นสายตาของลู่เสี้ยงหยางจึงตกไปอยู่ที่เซี่ยงเทียนไห่
เซี่ยงเทียนไห่เหลือไหลพราก ไม่คิดเลย ว่าตระกูลเซี่ยงจะยั่วยุคนที่ร้ายกาจอย่างลู่เสี้ยงหยางเข้า
เขาหวาดวิตกสุดขีด กลัวว่าลู่เสี้ยงหยางจะวู่วาม เซี่ยงเทียนไห่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ “แก แกคิดจะทำอะไรกันแน่?”
ลู่เสี้ยงหยางอย่างเยาะเย้ย “คุณสั่งให้ผมเอายาพลิกสวรรค์ออกมาอีก100เม็ดไม่ใช่หรือไง? ตอนนี้ผมจะให้คุณ คุณกล้ารับเอาไว้ไหมล่ะ?”
“…..” เซี่ยงเทียนไห่ สีหน้าเปลี่ยนไป สูดเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าปอด กลืนน้ำลายอึก รีบหยิบยาพลิกสวรรค์สิบเม็ดออกมาจากกระเป๋า “คุณลู่ ก่อนหน้านี้ผมมีตาหามีแววไม่ บังอาจรับยาพลิกสวรรค์สิบเม็ดมา ผมจะคืนให้กับคุณ”
ในสถานการณ์ตรงหน้า เซี่ยงเทียนไห่ไม่ยกธงขาวคงไม่ได้แล้ว
แน่นอน ว่านี่เป็นเพียงแค่การเสแสร้งเท่านั้น เซี่ยงเทียนไห่วางแผนในใจ ว่าจะหาโอกาสในการสังหารไอ้ยาจกอย่างลู่เสี้ยงหยางอย่างไร
ลู่เสี้ยงหยางไม่อยากจะแยแสลูกเล่นของเซี่ยงเทียนไห่ พลันเผยรอยยิ้มเล็กๆ ไม่ต่อคำกับเซี่ยงเทียนไห่ หยิบยาพลิกสวรรค์มาไว้จากมือของเซี่ยงเทียนไห่
แต่ต่อให้เป็นอย่างนั้น ลู่เสี้ยงหยางก็ไม่คิดที่จะปล่อยตระกูลเซี่ยงไปอยู่ดี
สายตาเพ่งพินิจเซี่ยงเทียนไห่ กล่าวเสียงเรียบ “เรื่องของวันนี้เป็นความผิดของตระกูลเซี่ยง ในเมื่อทำผิด ก็ควรที่จะคุกเข่ากราบขอโทษ”
อะไรนะ? คุกเข่า? ไอ้หมอนี่จะมากเกินไปแล้ว?
เซี่ยงเทียนไห่กำหมัดแน่น กัดฟันกรอด ตระกูลเซี่ยงในไห่ตง ยังไงซะก็เป็นตระกูลชั้นนำที่มีหน้ามีตา เคยถูกเหยียดหยามแบบนี้ซะที่ไหน?
ภายใต้ความโมโห เขาถลึงตาโตใส่ลู่เสี้ยงหยาง กล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำ “เป็นไปไม่ได้ นอกจากฆ่าฉันทิ้งซะ”