หนุ่มเศรษฐีลึกลับ - ตอนที่ 531
บทที่ 531 มุดดินสายฟ้าแลบ
ลู่เสี้ยงหยางกล่าวถามกงหยู่หนิงอย่างสนอกสนใจ แต่เธอกลับไปยอมบอก
สาวงามส่ายหน้ารัว “ในโทรศัพท์พูดไม่รู้เรื่อง เราเจอกันหน่อยไหม คุยกันต่อหน้า”
“ก็ได้ พูดนัดเวลาและสถานที่มาได้เลย” ลู่เสี้ยงหยางกล่าว
หลังจากที่ผ่านเรื่องเมื่อครั้งก่อน เรื่องราวมากมายที่เขาต้องการปฏิเสธกงหยู่หนิงคงจะปฏิเสธไม่ได้เสียแล้ว ยังไงซะเขาก็ไม่ใช่คนไร้หัวใจ
กงหยู่หนิงบอกสถานที่และเวลาในการนัดพบ ก่อนที่จะวางสาย
ลู่เสี้ยงหยางหันไปสั่งเสียกับชิวรั่วหานและโอหยางรั่วสุ่ย บอกว่าเขามีธุระที่จะต้องบอกไปข้างนอก ระหว่างนี้ให้พวกเธออยู่ดูแลเย่สวน
ชิวรั่วหานและโอหยางรั่วสุ่ยพยักหน้า ให้ลู่เสี้ยงหยางวางใจไปจัดการธุระของตัวเอง พวกเธอจะคอยดูแลเย่สวนเป็นอย่างดี
ขณะที่ลู่เสี้ยงหยางออกจากโรงพยาบาล ก็ใกล้เวลาหัวค่ำเข้าไปแล้ว
ดวงอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า สายหมอกเป็นชั้นๆ ปกคลุมไปทั่วเมือง
ท้องฟ้ามีสีแดงสวยงาม ราวกับว่าเมืองทั้งเมืองสวมด้วยชุดแต่งงานสีแดง
ลู่เสี้ยงหยางอารมณ์ไม่ค่อยจะดีนัก เพราะงั้นภาพตรงหน้าทำให้เขารู้สึกเศร้าหมอง
ดวงตะวันที่แสนงดงาม น่าเสียดายที่ใกล้ลับลา
ลู่สี้ยงหยางบังคับเครื่องยนต์ มุ่งไปที่สถานที่นัดหมาย
ระหว่างทาง เขารู้สึกเหมือนมีรถออดี้สีดำคันหนึ่งตามอยู่ข้างหลังของเขาติดๆ
เพื่อให้แน่ใจว่ารถคันนั้นสะกดรอยตามเขาใช่หรือไม่ เขาตั้งใจเลี้ยวเข้าซอยไปหลายครั้ง แต่รถออดี้สีดำก็ยังคงติดตามเขาอยู่ข้างหลัง
ลู่เสี้ยงหยางขมวดคิ้วอย่างสงสัย หลายปีมานี้คนที่เขาล่วงเกินในปินเหอมีอยู่ไม่น้อย ในเวลาอันสั้นเขาไม่อาจรู้ได้ว่าใครกันแน่ที่คิดจะสะกดรอยตามเขา
เอาเถอะ ลู่เสี้ยงหยางไม่อยากจะเสียเวลากับเรื่องพวกนี้ เขาบังคับเครื่องยนต์มุ่งไปที่จุดนัดหมายดั่งเดิม
เขาตัดสินใจที่จะหาที่ปลอดผู้คนจัดการรถคันหลังนั่นซะ
รถคันหลังราวกับรู้ความคิดความอ่านของลู่เสี้ยงหยาง เขายังคงตามลู่เสี้ยงหยางไปติดๆ อย่างไม่เดือดเนื้อร้อนใจ
หลังครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถของลู่เสี้ยงหยางหยุดลงที่โรงงานร้างแห่งหนึ่ง
เขาเปิดประตูรถ เดินออกไป
รอบด้านเต็มไปด้วยหญ้ารกร้าง โรงงานร้างถูกปล่อยทิ้งเอาไว้นาน จนมีแต่ความเสื่อมโทรมจนเกินคำบรรยาย
ในเวลานี้เอง รถออดี้สีดำที่สะกดรอยตามมาก็หยุดจอดด้วยเช่นเดียวกัน ชายปริศนาวัยกลางคนในชุดนักพรตเดินลงมาจากรถ
ชายวัยกลางคนรูปลักษณ์บ้านๆ เป็นคนที่คนเข้าไปในกลุ่มฝูงชนแล้วจะถูกลืมเลือน ดวงตาทั้งสองข้างของเขาคมกร้าว ราวกับดาบที่แหลมคมสองเล่มที่เต็มไปด้วยความเยือกเย็น
ลู่เสี้ยงหยางหลี่ตาลง สายตาของเขาตกไปอยู่ที่สัญลักษณ์บนหน้าอก
สัญลักษณ์นี้ถูกปักด้วยเส้นด้าย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์พลับพลาใต้แสงจันทร์ ลู่เสี้ยงหยางจำขึ้นได้ทันทีในแวบแรก เป็นสัญลักษณ์ของซี่ฟางโหลว
ชายหนุ่มตรงหน้าเป็นคนของสำนักซี่ฟางโหลว
ลู่เสี้ยงหยางเข้าใจทุกอย่างแล้ว เขาคงมาเพื่อแก้แค้นสิท่า ก่อนหน้านี้ที่งานแต่งของเซี่ยงหยู่โม่ เขาฆ่าผู้อาวุโสนอกสำนักคนหนึ่งของสำนักซี่ฟางโหลว และทำร้ายผู้อาวุโสนอกสำนักของสำนักซี่ฟางโหลวจนบาดเจ็บสาหัส
เขาได้เป็นปรปักษ์กับสำนักซี่ฟางโหลวตั้งแต่นั้น
เป็นไปตามคาด ชายหนุ่มกล่าว “วันนี้ฉันมาเพื่อฆ่าแก มีอะไรจะสั่งเสียไหม?”
ลู่เสี้ยงหยางส่ายหน้าเอ่ยหน้าเฉยชา “คุณมีความเชื่อมั่นขนาดนั้นเลยหรือว่าจะฆ่าผมได้”
คราวนี้ชายหนุ่มไม่พูดพร่ำทำเพลง เพียงพ่นออกมาหนึ่งประโยค “ฉันคือขุยกาง”
จบคำ ร่างกายของเขาแผ่ซ่านออกมาด้วยพลังงานที่แข็งแกร่ง พุ่งเข้าใส่ลู่เสี้ยงหยางราวกับพายุทอร์นาโด
ให้ตาย!
ลู่เสี้ยงหยางสะดุ้งโหยง ชายที่มีชื่อว่าขุยกางคนนี้เป็นนักบู๊ระดับเก้า
ตอนนี้เขาเป็นเพียงนักบู๊ระดับแปด ก่อนหน้านี้ผ่านการฟื้นฟูดานเถียน ความสามารถของเขาก็เพิ่มมากขึ้นไม่น้อย แต่ก็ไร้เทียมทานในนักบู๊ระดับแปดเท่านั้น
จากพบกับศัตรูที่เกินระดับแปด เขามีแต่จะถูกทำร้ายเท่านั้น
ยังไงซะช่องว่างระหว่างนักบู๊ก็ยากที่จะเอาชนะนักบู๊ที่เก่งกว่าได้
ที่น่าทึ่งมากกว่านั้น เพียงแค่ก้าวเดียวของเขา แต่กลับผ่านระยะห่างหลายเมตรมาถึงตัวลู่เสี้ยงหยาง
มุดดินสายฟ้าแลบ!
นี่คือมุดดินสายฟ้าแลบ!
สำหรับนักบู๊ นักบู๊ทุกระดับจะมีทักษะที่โดดเด่น
ทักษะที่โดดเด่นของนักบู๊ระดับเก้าคือมุดดินสายฟ้าแลบ
ส่วนระดับปรมาจารย์ยอดฝีมือ ทักษะที่โดดเด่นของพวกเขาคือการเหาะเหินเดินอากาศ
เปรี๊ยง!
ในตอนนี้ ขุยกางมาหยุดอยู่ที่ด้านหลังของลู่เสี้ยงหยาง ไร้ความลังเลแต่อย่างใด เขาง้างแขนขึ้นเหวี่ยงหมัดไปที่ลู่เสี้ยงหยาง
หมัดที่ปราศจากลูกเล่นใดๆ อาศัยความแข็งแกร่งของร่างกายในการเหวี่ยงออกไป
แต่ลู่เสี้ยงหยางกลับรู้สึกถึงพลังอันมหาศาล
เสียงดังกึกก้องเต็มแก้วหู ดุจดั่งสายฟ้าที่ผ่าลงมาที่แก้วหูของเขา
พร้อมกับพลังอันมหาศาลที่ราวกับภูเขาลูกใหญ่ ตกลงจากฟ้าทับร่างของเขา
ลู่เสี้ยงหยางตกตะลึง นี่หรือพลังความสามารถของนักบู๊ระดับเก้า?
เหอะ!
เขาคำรามในใจ ก่อนที่จะกระตุ้นวิชานรกอมตะในร่างกาย
เปรี๊ยง!
เสียงสายฟ้าดังกึกก้องขึ้นจากร่างของเขา
ซวบซวบ!
ปราณทั้งหมดแผ่ออกมาจากดานเถียนไปที่ลำแขนของเขา
ลู่เสี้ยงหยางกำหมัดแน่น เหวี่ยงกำปั้นไปที่ขุยกาง
ปัง หมัดกระทบหมัด
ลู่เสี้ยงหยางรู้สึกเจ็บปวดที่กำปั้น ราวกับกระทบกับหินขนาดใหญ่
พลังที่น่ากลัว ไหลผ่านเข้าสู่กำปั้นของเขาแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย
ไม่มีที่ว่างสำหรับการต่อต้าน ร่างกายของเขาราวกับว่าวที่สายขาด ลอยออกไปกระแทกบนซากปรักหักพัง.
เปรี๊ยง!
กำแพงที่ผุพังเป็นรูขนาดใหญ่ ร่างของลู่เสี้ยงหยางมุดออกจากหลุมนั้น กระแทกกับพื้น
อัก!
ลู่เสี้ยงงหยางกระอักเลือดสีแดงสด ใบหน้าขาวซีด ลมหายใจถี่รัว
กำปั้นเมื่อสักครู่ แทบจะทำให้ปราณของเขาบาดเจ็บสาหัสไปด้วย พลังอันมหาศาลนั้นเสมือนกับว่าทำให้อวัยวะในร่างของเขาอยู่ผิดที่
นี่คือความแข็งแกร่งของนักบู๊ระดับเก้า
นักบู๊ที่ระดับต่ำกว่าเก้า ต่อให้กล้าแกร่งสักเพียงใด ก็มีแต่จะถูกบดขยี้
ซู๊ด!
ลู่เสี้ยงหยางสูดหายใจเข้า มือทั้งสองข้างยันกับพื้น ก่อนที่จะลุกขึ้นอย่างช้าๆ
ขุยกางเหลือบมองลู่เสี้ยงหยาง ด้วยสีหน้าโหดเหี้ยมที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยาม ปริปากอย่างช้าๆ “แกกล้ามากนะ ที่กล้าท้าทายสำนักซี่ฟางโหลว วันนี้ฉันจะแบกหัวของแกเอาไปแขวนไว้ที่หน้าเมืองปินเหอ เพื่อนป่าวประกาศแก่ทั่วหล้าให้รับรู้ส่าแกล่วงเกินสำนักซี่ฟางโหลว”
ซวบ!
จบประโยค เขาก้าวออกไปข้างหน้า ประชิดตัวลู่เสี้ยงหยางด้วยวิชามุดดินสายฟ้าแลบ