หนุ่มเศรษฐีลึกลับ - ตอนที่ 533
บทที่ 533 ไล่ล่า
เมื่อเห็นว่าขุยกางกำลังจะตามเขาทัน ลู่เสี้ยงหยางไม่ลังเล เขาหยิบยาจู้หลิงออกมา ยัดเข้าปาก
แม้ว่ายาจู้หลิงจะยาระดับหนึ่ง แต่ในการฟื้นฟูพลังนั้นมีอิทธิฤทธิ์อย่างน่ามหัศจรรย์ เพียงแค่พริบตายาจู้หลิงก็จะฟื้นฟูให้พลังในร่างกายถึงขีดสุด
ยาจู้หลิงนั้นใช้ได้ผลดีกับนักเวทย์ด้วยเช่นเดียวกัน สามารถทำให้พลังของนักเวทย์พุ่งปรี๊ดขึ้นขีดสุด
เพียงแต่พลังของแต่ละคนนั้นมีไม่เท่านั้นแค่นั้น
ตอนนี้ลู่เสี้ยงหยางมีความสามารถที่ไม่ธรรมดา ยาจู้หลิงเพียงหนึ่งเม็ดไม่สามารถช่วยเขาได้ เขาต้องทานเข้าไปเป็นกอบเป็นกำ
นักบู๊ระดับเก้าจัดอยู่ในปรมาจารย์ยอดฝีมือ จึงต้องใช้จำนวนที่มากมายจนน่ากลัว
หากยัดเข้าไปทีเดียวก็คงไม่พออุดร่องฟันด้วยซ้ำ
ระดับยอดฝีมือไม่มีทางที่จะพกยาจู้หลิงมากมายขนาดนั้นในคราวเดียว เพราะงั้นนักบู๊ระดับเก้าขึ้นไปจึงไม่ค่อยได้ใช้ยาจู้หลิงเท่าไหร่นัก
ขุยกางที่วิ่งไล่อยู่เขาข้างหลัง เห็นว่าลู่เสี้ยงหยางยัดยาจู้หลิงเข้าไปในปาก ความเร็วเริ่มขึ้นอย่างกะทันหัน ทิ้งระยะห่างจากเขาไปไกลกว่าเดิม
ขุยกางเพียงแค่หัวเราะแห้ง ลู่เสี้ยงหยางใช้ยาเพื่อเพิ่มความเร็ว นี่มันต่างอะไรกับการดื่มยาพิษเพื่อดับกระหายกัน?
เขาไม่เชื่อว่าในตัวของลู่เสี้ยงหยางจะมียามากมายถึงขนาดนั้น หากยาจู้หลิงของเขาใช้จนหมด ก็ถึงเวลาที่ตนล่าเขา เพื่อสังหารเขาให้สิ้นซาก
น่าเสียดายที่ขุยกางคิดไปเองอยู่ฝ่ายเดียว ความคิดที่ใสซื่อ
หลังจากนั้น ลู่เสี้ยงหยางจัดยาจู้หลิงเข้าปาก ในทุกๆ นาที
หลังจากที่ผ่านไปสิบนาที ลู่เสี้ยงหยางก็มาถึงหน้าป่าทึบชานเมือง
ขุยกางที่อยู่หน้าถอดสีไปตั้งนานแล้ว ไม่เคยเลยว่าในตัวของลู่เสี้ยงหยางจะพกยาจู้หลิงมากมายขนาดนี้
ไอ้หมอนี่มันกินเข้าไปในคำเดียว เป็นกอบเป็นกำ ยังไงซะก็ต้องสิบเม็ดขึ้น
เมื่อไตร่ตรองดูให้ดี ลู่เสี้ยงหยางได้ทานยาจู้หลิงเข้าไปเป็นร้อยเม็ดแล้ว
ให้ตาย! ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้
เขาใช้วิชาในการไล่ล่าลู่เสี้ยงหยางมาตลอด ค่อนข้างเสียพลังงานไปมาก
ตอนนี้ปราณในร่างของเขาได้ใช้ไป1/5แล้ว
หากไล่ล่าลู่เสี้ยงหยางแบบนี้ต่อไป คงไม่ถึงชั่วโมง ปราณของเขาก็จะอ่อนแอ ถึงตอนนั้นมีแต่จะต้องมองดูลู่เสี้ยงหยางหนีไปต่อหน้าต่อตา ทันใดนั้น เขาไม่ลังเลที่จะเด็ดใบไม้ข้างทาง ดีดออกไป ใบไม้พุ่งไปที่แผ่นหลังของลู่เสี้ยงหยาง
ซวบซวบ!
ใบไม้ที่พลิ้วไหวในคราแรก ภายใต้การห่อหุ้มของปราณ คมกริบราวกับใบมีด เกิดเสียงดังเกรี้ยวกราดกลางเวหา
อากาศเสมือนกับว่าถูกตัดจนขาด ทิ้งรอยแผลเป็นสีขาวเอาไว้ที่หางใบไม้
ลู่เสี้ยงหยางเกิดขนลุกซู่ที่แผ่นหลัง ความหนาวเหน็บทิ่มแทงเข้าสู่ร่างกายผ่านรูขุมขนที่ขยายออก
เขารู้สึกได้ถึงอันตรายที่คืบคลานเข้ามา
ไม่หันไปหันกลับไปมอง อะไรกันแน่ที่พุ่งเข้ามาที่แผ่นหลังของเขา ฝีเท้าของเขาก็เสียหลักไปทางด้านข้าง ก่อนที่จะวิ่งไปข้างหน้าโดยไม่คิดชีวิต
ซวบ!
ใบไม้ใบหนึ่งพุ่งผ่านหัวไหล่ของลู่เสี้ยงหยางไป ตัวใบไม้ใบนั้นไม่ได้ถูกตัวลู่เสี้ยงหยาง แต่ด้านข้างใบไม้ภายใต้การห่อหุ้มของปราณคมกริบราวใบมีดเฉียดผ่านหัวไหล่ของลู่เสี้ยงหยางไป กรีดเสื้อผ้าของเขาจนฉีกขาด
ดีที่รอยแผลไม่ลึกมาก เลือดไหลซิบออกจากผิวหนังเพียงแค่ไม่กี่หยดเท่านั้น
ลู่เสี้ยงหยางสูดหายใจเข้า นี่หรือความสามารถของนักบู๊ระดับเก้า? เพียงแค่เด็ดใบไม้ข้างทางก็ใช้เป็นอาวุธได้งั้นหรือ
ขณะที่ลู่เสี้ยงหยางฝึกวิชาบู๊ เขาค่อนข้างให้ความสำคัญกับการฝึกกล้ามเนื้อร่างกาย
กล้ามเนื้อของร่างกายของเขาแข็งแกร่งมาก แต่ไม่คิดเลยว่าปราณที่ปกคลุมใบไม้ก็สามารถทำร้ายเนื้อหนังของเขาได้แล้ว
ซู๊ด!
ลู่เสี้ยงหยางสูดหายใจเข้า ดีที่เมื่อสักครู่เขาไหวพริบดี หลบการโจมตีของใบไม้ได้
หากใบไม้นั้นถูกร่างของเขา ต้องบาดเจ็บสาหัสแน่ แม้แต่เสียชีวิตเลยก็ว่าได้
ขุยกางที่อยู่ข้างหลัง เมื่อเห็นลู่เสี้ยงหยางหลบการโจมตีของเขาได้อย่างง่ายดาย จึงนึกโกรธ
ดูเหมือนว่า การที่เขาไม่ฆ่าลู่เสี้ยงหยางซะ ตั้งแต่สองหมัดแรก เป็นความผิดพลาดของเขาเอง
ไม่คิดเลยว่านักบู๊ระดับแปดตัวเล็กๆ อย่างเขา จะทำให้เขายุ่งยากได้ถึงปานนี้ สิ่งนี้แสดงให้เขาเห็นแล้วว่าศักยภาพของเขาแข็งแกร่งจริงๆ
ยิ่งเป็นแบบนั้น ก็ยิ่งทำให้ขุยกางมั่นใจเข้าไปอีก วันนี้เขาจะต้องสังหารลู่เสี้ยงหยางซะ
เหอะ ในที่เขาใช้ความคิด ขุยกางเอื้อมมือออกไปรูดใบไม่หลายใบ
เขาไม่เชื่อว่าลู่เสี้ยงหยางหลบได้หนึ่งครั้ง แล้วจะหลบได้เป็นครั้งที่สอง หลบได้หนึ่งใบ แล้วจะหลบได้เป็นกอบเป็นกำ
พลังปราณดุเดือด!
ปราณแผ่ซ่านแทรกเข้าสู่ใบไม้
ใบไม้ที่มีสีเขียวในคราแรกมีออร่าขึ้นมา ความคมกริบที่ไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าหมุนเวียนอยู่ภายใน
ซวบซวบซวบ!
เสียงที่แสบแก้วหูดังสะท้อน ใบไม้นับไม่ถ้วนแปรเปลี่ยนเป็นยมทูตที่โหดร้าย พุ่งไปที่แผ่นหลังของลู่เสี้ยงหยาง
คราวนี้ใบไม้นับไม่ถ้วนโจมตีที่แผ่นหลังของลู่เสี้ยงหยาง
แย่แล้ว!
ลู่เสี้ยงหยางรู้สึกถึงอันตราย ในสถานการณ์แบบนี้ แผ่นหลังของเขาเหงื่อแตกโชก ความเย็นยะเยือกปกคลุมไปทั่วแผ่นหลัง เสมือนกับว่าสายลมขั้วโลกเหนือพัดผ่านแผ่นหลังของเขา
ร่างของเขาหมอบไปข้างหน้า อย่างไม่ล่าช้า เหมือนกับว่าถูกพลังงานอันมหาศาลกดทับ
ลอยออกไปไกลหลายเมตร ร่างของลู่เสี้ยงหยางร่วงลงกับพื้น เกลือกกลิ้งบนพื้น
เขากลิ้งออกไปไกลหลายเมตร ก่อนที่จะลุกขึ้นออกตัววิ่งอีกครั้ง
ใบไม้ก่อนหน้านี้ ตอนนี้ร่างของเขากลิ้งไถลไปกับพื้น บินผ่านเหนือหัวของเขาไป
ลู่เสี้ยงหยางหลบการโจมตีของขุยกางได้อีกครั้งอย่างหวุดหวิด
ขุยกางโกรธจนกัดฟันแน่น ไม่คิดเลยลู่เสี้ยงหยางเพื่อหลบการโจมตีของเขา ถึงกับใช้วิธีที่อันตรายถึงชีวิตแบบนี้
ท่าทีของลู่เสี้ยงหยางเมื่อสักครู่ดูไม่ได้จริงๆ นั่นแหละ ราวกับสุนัขที่จมลงไปในกองอึ
“ฮ่าฮ่า ไอ้ไร้ประโยชน์เอ๊ย ไม่โดน ไม่โดน” น้ำเสียงที่ได้ใจของลู่เสี้ยงหยางดังแพร่กระจาย
ขุยกางใบหน้าเขียวปั้ดอย่างโกรธแค้น “นี่แก มีความเป็นลูกผู้ชายหน่อยจะได้ไหม หยุดแล้วมาสู้กับฉันซะ”
ลู่เสี้ยงหยางหัวเราะอย่างเย็นชา “เลิกพร่ำอะไรที่ไร้ประโยชน์ได้แล้ว อยากจะฆ่าผมก็ต้องตามผมให้ตามก่อน คุณช้าเกินไป เหมือนกับเต่าเลย”
ประโยคนี้ ทำให้ขุยกางโกรธจัดอีกหน
อันที่จริงความเร็วของเขาไม่ช้าเลยสักนิด ต้องโทษไอ้ลู่เสี้ยงหยางที่ว่องไวอย่างกับอะไรดี
แต่ก็เป็นเหตุเป็นผล ลู่เสี้ยงหยางเป็นนักบู๊ระดับแปด ร่างกายแข็งแกร่ง มีความเชี่ยวชาญด้านวิชาเวทย์ แถมยังฝีเท้าแตะพื้น ใช้พลังธาตุดินที่การหนีเอาตัวรอดอย่างต่อเนื่อง
บอกได้ว่า ลู่เสี้ยงหยางครอบครองพรสวรรค์จากธรรมชาติ
เวลาผ่านไปห้านาทีอย่างรวดเร็ว
เพราะขุยกางและลู่เสี้ยงหยางมีความรวดเร็วกันทั้งคู่ ตอนนี้ทั้งคู่ได้มาถึงกลางป่าทึบเป็นที่เรียบร้อย
ทันใดนั้นลู่เสี้ยงหยางหยุดฝีเท้าลง ร่างกายเสมือนกับถูกตอกตะปูกับพื้นดิน
ตอนนี้สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าของเขา คือหุบเขาลึกสุดลูกหูลูกตา