หนุ่มเศรษฐีลึกลับ - ตอนที่ 544
บทที่544 พลังจิตล็อก
ทีแรกลู่เสี้ยงหยางคิดว่า เขาจะต้องตายในเงื้อมมือของจอมมารหญิงที่ฆ่าคนไม่กะพริบตา แต่เห็นได้ชัด ว่าจู๋หวินไม่คิดที่จะหาลู่เสี้ยงหยาง ดาบสีเงินเพียงแค่จี้อยู่ที่ลำคอของลู่เสี้ยงหยางเท่านั้น ก่อนที่จะเก็บเข้าฝัก
ลู่เสี้ยงหยางประหลาดใจ กล่าวถามจู๋หวิน “ไม่ฆ่าผมแล้วงั้นหรือ?”
จู๋หวินกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “นายอยากตายอย่างนั้นหรือ? ฉันจะทำตามคำขอก็ได้”
เธอกล่าวพลางยกดาบขึ้นมาจ่อที่ลำคอของลู่เสี้ยงหยางอีกครั้ง จากทีท่าของเธอ คงคิดที่จะฟันหัวของลู่เสี้ยงหยางให้ขาดในดาบเดียว
ลู่เสี้ยงหยางปฏิเสธ “หยุดหยุดหยุด เลิกล้อเล่นเถอะครับ ตอนนี้สถานการณ์คับขัน เราต้องรีบไปจากที่นี่ ไม่เช่นนั้น ไอ้หมาบ้าเทียนเหมินนั่น จะตามเราทันจงได้”
“เหอะ” จู๋หวินไม่พอใจ พลันเก็บดาบเข้าฝัก
ลู่เสี้ยงหยางถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาไม่เข้าใจ เมื่อสักครู่จู๋หวินถูกยากำหนัด ทำไมตอนนี้เธอถึงไม่เป็นอะไรเลย เขาไม่ได้ถอนพิษให้เธอนี่นา?
ไม่รู้เลยยังไงซะจู๋หวินก็เป็นยอดฝีมือ แม้ว่าพลังของเธอในตอนนี้จะถูกปิดผนึก แต่ร่างกายของเธอแข็งแกร่ง ยาแบบนี้อยู่ในร่างกายเธอได้ไม่นานก็จะสลายไปเอง
ต่อจากนั้น ลู่เสี้ยงหยางและจู๋หวินย้ายที่พำนัก หลังจากที่ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ทั้งคู่ก็กลับมาที่แคมป์ในกลางป่าอีกครั้ง
ลู่เสี้ยงหยางสังเกตรอบด้าน ส่วนจู๋หวินพุ่งเขาไปในแคมป์เพื่อเปิดผนึกทันที
หลังจากที่ลู่เสี้ยงหยางตรวจตราโดยรอบ พบว่าไร้อันตรายใดๆ ในขณะที่เขาคิดที่จะขอคำแนะนำทางด้านวิชาต่างๆ เขาเงิบไป ผู้หญิงคนนี้จะขยันเกินไปแล้ว ไม่ยอมเสียเวลาสักวินาทีเดียวเลย
ลู่เสี้ยงหยางหวั่นวิตก เขารู้ดีว่าหากจู๋หวินฟื้นฟูพลังขึ้นมาเมื่อไหร่ เธอก็จะมีทีท่าสูงส่ง ถึงตอนนั้นทั้งคู่ก็จะอยู่กันคนละภพ ไร้ความสัมพันธ์ใดๆ ต่อกันอีก
ผมจะแข็งแกร่ง ผมจะต้องแข็งแกร่งให้ได้!
ลู่เสี้ยงหยางกำหมัดแน่นอีกครั้ง ครั้งนี้เขาได้เห็นความเก่งกาจของจู๋หวินและรองเจ้าสำนักเทียนเหมินกับตา ถึงได้รู้ว่าตัวเขานั้นอ่อนแอและตัวเล็กแค่ไหน
สักวัน มีแต่เขาต้องตามก้าวของจู๋หวินทัน เขาถึงจะมีสิทธิ์ได้เป็นเพื่อนกับเธอ หรือแม้แต่ตอบสนองความต้องการของเขาได้
ทำให้จู๋หวินเป็นผู้หญิงของเขา
เวลาหมุนเปลี่ยน สามชั่วโมงผ่าน ใกล้พลบค่ำ ดวงตะวันแขวนอยู่บนทิศตะวันตก
แสงสีแดงอ่อนทอดยาวลงมา ม่านสีแดงขั้นกลางระหว่างท้องฟ้าและพื้นดิน
ดวงตะวันค่อยๆ คล้อยไปในทิศตะวันตก ทิวทัศน์เช่นนี้ ช่างแสนสง่า เพียงแต่หลังอาทิตย์ตกดิน ความมืดมิดที่ไร้จุดสิ้นสุดก็คืบคลานเข้ามา
ลู่เสี้ยงหยางและจู๋หวินอยู่ที่กลางป่า ในตอนนี้ลู่เสี้ยงหยางกำลังไตร่ตรองอะไรบางอย่าง จะหาสถานที่แบบไหนในการผ่านคืนนี้ไปให้ได้ คงจะนอนกลางป่านี่ทั้งคืนไม่ได้อยู่แล้ว
คิดไปคิดมา ลู่เสี้ยงหยางก็หากระท่อมเก่าหลังหนึ่ง
กระท่อมหลังนี้ซ่อนอยู่ที่พุ่มหญ้าหนาอย่างไร้ที่สิ้นสุด หากไม่สังเกตดูให้ดี ก็ยากที่จะพบเจอได้
ลู่เสี้ยงหยางกลับไปยังทางเดิม เพื่อพาจู๋หวินมาที่กระท่อม
ได้เวลาอาหารอีกครั้ง ลู่เสี้ยงหยางนำกระต่ายที่ย่างเสร็จแล้วในถ้ำเมื่อเช้านี้ออกมาจากอก ผ่าครึ่งแบ่งให้จู๋หวิน
ลู่เสี้ยงหยางยังคงสวาปามราวกับอดอยากเช่นเคย ส่วนจู๋หวินยังคงทานไปเพียงน้อยนิดเช่นเคย
ลู่เสี้ยงหยางหน้าหนา เก็บเนื้อกระต่ายย่างที่จู๋หวินทานเหลือเอาไว้มาทานต่อเช่นเคย
จู๋หวินแสร้งเปิดผนึก แต่ใบหน้าที่งามสง่าของเธอกลับแดงก่ำขึ้นมา อย่างไม่รู้ตัว
ในหัวใจราวกับมีเจ้ากวางน้อยวิ่งชน
บอกตามตรง ต่อหน้าลู่เสี้ยงหยาง เธอแสร้งนิ่งเฉยมาโดยตลอด แต่หลังจากที่ผ่านเรื่องนั้นในถ้ำ ความรู้สึกที่ประหลาดกับลู่เสี้ยงหยางได้ก่อตัวขึ้น
หลายปีมานี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอทำอะไรแบบนั้นกับผู้ชาย
ลู่เสี้ยงหยางที่นั่งอยู่อีกด้าน เมื่อเห็นใบหน้าที่แดงก่ำขึ้นมากะทันหัน เขาไม่เข้าใจ หรืออาจจะเป็นเพราะการเปิดผนึก?
เขาหัวเราะออกมา พิงกับกระท่อม เตรียมพักผ่อน แต่ไม่รู้เพราะอะไร เขามีรางสังหรณ์ที่ไม่ดี
ทีแรก ลู่เสี้ยงหยางไม่ได้ใส่ใจ อาจจะเป็นเพราะช่วงนี้เขาสมาธิไม่ดี ถึงได้มีความรู้สึกกังวลว้าวุ่นราวกับออกศึก
เวลาผ่านไป ความรู้สึกนี้กลับหนักมากกว่าเก่า ท้ายที่สุด ลู่เสี้ยงหยางกระสับกระส่าย เสมือนกับอันตรายอยู่ภายหลังของเขา
ผิดปกติ สถานการณ์ของคืนนี้ผิดปกติ ลู่เสี้ยงหยางมั่นใจ
ในขณะเดียวกัน จู๋หวินที่กำลังเปิดผนึกอยู่ๆ ได้สติ เธอลืมตาขึ้น ดวงตาที่ราวกับสายน้ำในฤดูใบไม้ผลิเต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่ผิดหรอก เธอเองก็รู้สึกถึงความผิดปกติได้เช่นเดียวกัน
ลู่เสี้ยงหยางกล่าวขมวดคิ้วแน่นพลางเอ่ยถาม “คุณได้พบอะไรหรือมีความคิดอะไรรึเปล่า”
จู๋หวินกล่าว “ไม่รู้ทำไม ฉันรู้สึกว่าที่นี่ไม่ปลอดภัย”
ทันใดนั้น รูม่านตาของลู่เสี้ยงหยางขยายกว้าง ดวงตาจ้องเขม็งที่กระโปรงยาวของจู๋หวิน
ด้านล่างของกระโปรงเธอแหว่งเป็นวงกว้าง คงจะเป็นเพราะเมื่อสักครู่ในป่า ไปเกี่ยวกับกิ่งไม้เข้า
ในอดีตลู่เสี้ยงหยางเคยได้ยินเคล็ดวิชาลับอย่างหนึ่ง ขอเพียงแค่ในมือมีของบุคคลนั้นอยู่ ก็สามารถใช้เคล็ดวิชานั้น หาของของบุคคลนั้นได้
กระโปรงยาวที่แหว่งไปถือว่าเป็นของจู๋หวิน บนนั้นมีกลิ่นอายของเธอติดอยู่
หากรองเจ้าสำนักเทียนเหมินใช้เคล็ดวิชานี้ จะต้องตามตัวเธอจนพบผ่านชิ้นส่วนของชุดกระโปรงนั่นแน่
ในขณะเดียวกัน จู๋หวินเองก็เพิ่งจะรู้ตัว ว่าชายกระโปรงของเธอแหว่งไป
คนรอบรู้อย่างเธอ หญิงสาวรู้จักเคล็ดวิชาที่ลู่เสี้ยงหยางนึกคิดอยู่แล้ว
อันที่จริงหากฝึกวิชานั้นได้สำเร็จ ไม่เพียงแต่การติดตามได้หมื่นลี้ แถมยังสังหารได้ถึงหมื่นลี้อีกต่างหาก
เพียงแต่หากต้องการไปให้ถึงระดับนั้น ต้องมีความสามารถระดับพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน
“ไม่ได้ ฉันจะสวมกระโปรงตัวนี้ต่อไปไม่ได้ ที่นี่ก็อยู่ไม่ได้แล้ว เราต้องออกไปจากที่นี่โดยเร็ว” จู๋หวินนึกถึงปัญหาเร่งด่วน สั่งให้ลู่เสี้ยงหยางกลับหลังหัน เธอหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่ที่เธอมักพกติดตัวมาด้วยในกระเป๋าออกมาเปลี่ยน ก่อนที่เธอคิดจะเผาชุดเก่าทิ้งเสีย หากแต่ลู่เสี้ยงหยางหันกลับไปรั้งเธอเอาไว้ “รอเดี๋ยว ชุดกระโปรงตัวนี้จะเป็นประโยชน์ต่อแผนการของผม
จู๋หวินขมวดคิ้วอย่างสงสัย “นายคิดจะทำอะไร?”
ลู่เสี้ยงหยางหัวเราะออกมา “ตอนนี้ รองเจ้าสำนักเทียนเหมินต้องใช้ชุดของคุณในการหาตำแหน่งของเรา เราสามารถใช้แผนซ้อนแผน ในเขาลูกนี้มีสัตว์ป่ามากมาย เราสามารถใช้ชุดกระโปรงมัดไว้กับตัวสัตว์ป่า ให้สัตว์ป่าพวกนี้จัดการกับรองเจ้าสำนักเทียนเหมิน”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น จู๋หวินเห็นด้วย
ลู่เสี้ยงหยางเอื้อมแขนออกไป รับกระโปรงตัวนั้นมาจากมือจู๋หวิน ในขณะที่เขาคิดว่ามุ่งออกไปหาสัตว์ป่า รูม่านตาของเขาขยายกว้างกะทันหัน เขารู้สึกได้อย่างชัดเจน ถึงพลังจิตล็อกเป้าหมายที่กระโปรงในมือของเขา
พลังจิตที่แข็งแกร่ง เสมือนกับมือที่มองไม่เห็นได้คว้ากระโปรงตัวนี้เอาไว้ ดูเหมือนว่ารองเจ้าสำนักเทียนเหมินอยู่ไม่ไกลนี่แล้ว
“ไม่ได้ ไม่ทันแล้ว เราต้องไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด” ลู่เสี้ยงหยางหันกลับไปกล่าวกับจู๋หวิน