หนุ่มเศรษฐีลึกลับ - ตอนที่ 546
บทที่ 546 ผมกลับมาแล้ว
ไม่นาน ลู่เสี้ยงหยางรับรู้ได้ถึงอันตรายที่คืบคลานใกล้เข้ามาอย่างหนัก
แต่ในสถานการณ์แบบนี้ เขาไม่กล้าหันกลับไปมอง เพราะหากเขาหันกลับไป แผนการทั้งหมดก็จะพังทลายลง
รู้ว่าความตายกำลังคืบคลานเข้ามา แต่ต้องทนรับความรู้สึกนั้นเอาไว้ ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถทนได้ไหว ดีที่ลู่เสี้ยงหยางจิตแข็งมากพอ ที่จะเผชิญหน้ากับมันได้
ปัง!ในขณะที่ลู่เสี้ยงหยางตกอยู่ในห้วงแห่งความคิด พลังอันกล้าแกร่งพุ่งเข้ามาทางไหล่ของเขา
ลู่เสี้ยงหยางรู้สึกเหมือนถูกกระทิงพุ่งเข้าชน
แรงกระแทกที่น่ากลัว แล่นเข้าผ่านร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว จนรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งเนื้อและกระดูก
เสมือนกับถูกค้อนโบราณทุบเข้าอย่างจัง
ร่างของลู่เสี้ยงหยางเสมือนกับใบไม้ ที่ลอยขึ้นกลางอากาศ พุ่งออกไปไกลหลายเมตรก่อนที่จะกระแทกกับพื้น กระอักเลือดสีแดงสด ใบหน้าขาวซีด
แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บในท่าเดียว ลู่เสี้ยงหยางกลับรู้สึกสะใจ
เมื่อสักครู่เขารู้สึกว่าบริเวณไหล่ของเขาถูกรองเจ้าสำนักเทียนเหมินต่อยเข้าหนึ่งหมัด
นี่ต่างหากที่เป็นสิ่งที่เขาต้องการ
ในตอนนี้เอง รองเจ้าสำนักเทียนเหมินที่ยืนอยู่ที่ห่างออกไปมีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที ใบหน้าของเขาแข็งทื่อ
เมื่อสักครู่ที่เขาปล่อยหมัดออกไป กำปั้นของเขา ถูกเข็มเล่มเล็กทิ่มแทง ปักเข้ากับกำปั้นของเขา
อันที่จริงบาดแผลแค่นี้สำหรับเขา ไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่จะต้องใส่ใจ แต่เขากลับค้นพบอย่างน่าตกใจ บริเวณที่ถูกทิ่มแทงกลายเป็นสีม่วงดำ พลังงานกลุ่มไปดำรางๆ ซึมเข้าสู่ผิวหนัง
ทันใดนั้น กำปั้นของเขาค่อยๆ รู้สึกด้านชา กระทั่งท่อนไม่สามารถรับรู้ความรู้สึกใดๆ ราวกับว่าไม่ใช่แขนของเขา
แย่แล้ว มีพิษ!
รองเจ้าสำนักเทียนเหมินไหวตัวทัน รีบเอื้อมมือจี้จุด เพื่อสกัดชีพจร
แต่ต่อให้เป็นอย่างนั้น พิษพวกนั้นก็ยังคงไหลเวียนเข้าสู่หัวใจไม่หยุด แต่สารพิษที่ปิดผนึกอยู่ในแขนของเขาเริ่มกัดเซาะแขนของเขาไม่หยุด กล้ามเนื้อเส้นเอ็นและกระดูก
จากสถานการณ์แบบนี้ หากไม่รีดพิษออกจากลำแขน ทั้งแขนของเขาก็จะใช้การไม่ได้
รองเจ้าสำนักเทียนเหมินตื่นตระหนก เขาเป็นนักบู๊ระดับปรมาจารย์ โดยทั่วไปแล้ว พิษยาธรรมไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ไม่คิดเลยว่าใต้หล้าจะมีพิษแบบนี้อยู่ด้วย ทำให้เขาละอายใจนัก
แน่นอนว่าสำหรับคนธรรมดา ไม่มีทางที่จะมียาพิษชนิดนี้ ที่สามารถใช้ต่อกรกับนักบู๊ระดับปรมาจารย์ได้ แต่สำหรับลู่เสี้ยงหยางแล้วก็แค่เรื่องเล็กน้อย
ตอนนี้วิชาแพทย์ของลู่เสี้ยงหยางนั้นเลิศล้ำ การที่เขาคิดที่จะวิจัยยาพิษชนิดหนึ่งไม่ใช่เรื่องยากอะไร
ลู่เสี้ยงหยางที่ถูกต่อยจนปลิวออกไปไกล ตอนนี้เขานอนกระอักเลือดที่พื้น เมื่อสักครู่แม้ว่าจะวางยาพิษรองเจ้าสำนักเทียนเหมินจนสำเร็จ แต่ตัวเขาเองก็ต้องจ่ายด้วยราคาแพง อวัยวะเครื่องในของเขาได้รับการกระทบอย่างหนัก
หากไม่ใช่เพราะเขาอมยาดีเอาไว้ในปากอยู่ก่อนแล้ว วินาทีที่เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาก็กลืนยาลงไปในท้อง เขาก็คงสิ้นใจไปนานแล้ว
พลังของนักบู๊ระดับปรมาจารย์นี่มันน่ากลัวเสียจริง
ลู่เสี้ยงหยางลอบคิดในใจ พลันยันกายลุกขึ้นจากพื้นอย่างยากเย็น หยิบยาดีออกมาจากกระเป๋ายัดเข้าปาก แล้วกลืนลงท้องไปอย่างรวดเร็ว
เปรี๊ยง!
ฤทธิ์ยาที่แข็งแกร่งแตกตัว เสมือนกับคลื่นที่ปั่นป่วน แผ่ซ่านออกไปทั่วร่างกาย
ฤทธิ์ยาบ้างก็ซ่อมแซมบาดแผลของเขา บ้างก็ซ่อมแซมกำลังของเขา
รองเจ้าสำนักเทียนเหมินอาศัยพลังของเขา ในการรีดพิษที่ลำแขนออก พลางจ้องเขม็งลู่เสี้ยงหยางนิ่ง เขารู้แล้ว ว่าบุคคลนี้ไม่ใช่นางบ้านั่น แต่เป็นไอ้เด็กเปรตที่ทำลายแผนการของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า
“ไอ้เด็กเปรต แกกล้ามากนะ ที่ทำลายแผนการของฉันครั้งแล้วครั้งเล่า คอยดูฉันจะดึงวิญญาณของแกอกมาเอาไปเผาในเพลิงมารเป็นร้อยปี เพื่อให้แกตายทั้งเป็น” รองเจ้าสำนักเทียนเหมินโกรธจัดจนควันออกจมูก จับจ้องลู่สี้ยงหยางกล่าวอย่างชัดเจน
ในที่สุดลู่เสี้ยงหยางก็หันกลับไป ยักไหล่อย่างไม่แยแส ฉีกยิ้มกว้าง เผยให้เห็น ฟันขาวที่เรียงตัวกันสวยงาม ยิ้มอย่างสดใส “ตาแก่ ถอนพิษของผมให้ได้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
รองเจ้าสำนักเทียนเหมินโกรธจัด แขนข้างหนึ่งของเขากลายเป็นสีดำ กลิ่นเหม็นหึ่งลอยออกมาจากลำแขน ราวกับว่าแขนของเขาได้เน่าไปเสียแล้ว
“ไม่ได้ จะอยู่ที่นี่นานไม่ได้ ตอนนี้ต้องรีดสารพิษในแขนออกไปก่อน ไม่อยากนั้นต้องเสีแขนไปข้างหนึ่งแน่” รองเจ้าสำนักเทียนเหมินแม้ว่าจะไม่ยอม ตกหลุมพรางไอ้หมอนี่จนได้ แต่ เรื่องนี้ได้เกิดขึ้นแล้ว เขาจ้องลู่เสี้ยงหยางอย่างโหดเหี้ยมอำมหิต ก่อนที่จะหายเข้าไปในป่า
ให้ตาย ตาแก่นี้ไปได้เสียที
ลู่เสี้ยงหยางถอนหายใจอย่างโล่งอก หัวใจที่ตกวูบกลับเข้าสู่ที่เดิม
เขาเปียกโชกไปทั้งตัว ไม่ต้องสงสัยก็คงจะเป็นน้ำเหงื่ออย่างแน่นอน
มนุษย์มีแต่การที่เผชิญหน้ากับความตาย ถึงจะรู้ว่าความตายนั้นน่ากลัวขนาดไหน ช่างเป็นการทรมานจิตใจมนุษย์อย่างโหดร้าย
ซู๊ดซู๊ด!
เขาสูดหายใจหลายที ลู่เสี้ยงหยางกลับหลังหันมุ่งไปทางป่าทึบ
หลังแยกจาก ลู่เสี้ยงหยางได้นัดแนะสถานที่นัดพับเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว เพราะงั้นลู่เสี้ยงหยางงจึงได้พบกับจู๋หวินครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น
เป็นถ้ำที่พวกเขาเคยอยู่ก่อนหน้านี้ ถ้ำที่เกิดเรื่องราวอันหอมหวานขึ้น สำหรับลู่เสี้ยงหยาง ที่นี่เป็นสถานที่ที่พวกเขาอาลัย
จู๋หวินที่เต็มไปด้วยความในใจ ใบหน้าคร่ำเครียดนั่งอยู่บนโขดหิน วินาทีที่ลู่เสี้ยงหยางงปรากฏตัวขึ้น เธอก็ลุกขึ้นจากโขดหิน พร้อมกล่าวอย่างยินดี “กลับมาแล้วหรือ”
บอกตามตรง การที่ลู่เสี้ยงหยางแยกจากเธอ ไปหลอกล่อรองเจ้าสำนักเทียนเหมินเพียงลำพัง เรื่องนี้ เธอรู้สึกเสียใจ
เธอหวังว่าเธอจะทำเรื่องนี้ด้วยตนเอง
หากลู่เสี้ยงหยางเป็นอะไรไปละก็ เธอจะต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต
ยังดี ที่ลู่เสี้ยงหยางกลับมาอย่างสมบูรณ์ เธอคลายกังวลได้เสียที
การที่ลู่เสี้ยงหยางรอดพ้นมาได้ ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง รู้สึกโลกใบนี้นั้นช่างงดงาม เขารีบมาที่ข้างจู๋หวิน หัวเราะอย่างอารมณ์ดี “เสี่ยวหวินหวินของผม ผมกลับมาแล้ว ผมยังไม่ตาย”
เขากล่าวพลางโผลเข้ากอดจู๋หวิน โอบรัดเธอแน่น
ภายใต้ความตื่นเต้นที่มากเกินไปหรือความเศร้าที่มากเกินไป เรามักจะทำอะไรที่เกินความคาดหมาย
เอ๋?
จู๋หวินที่ถูกลู่เสี้ยงกอดรัดแน่น เธอมึนงง ใบหน้างามสง่าแดงก่ำ ก่อนที่ดวงตาที่ราวกับสายน้ำในฤดูใบไม้ผลิเป็นประกาย
ไอ้หมอนี่จะกล้าดีเกินไปแล้ว