หนุ่มเศรษฐีลึกลับ - ตอนที่ 553
บทที่ 553 กำลังจะเกิดเรื่องใหญ่
เมื่อเห็นชิวรั่วหานแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมา ลู่เสี้ยงหยางยกมือขึ้น ลูปศีรษะของเธอ กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ผมกลับมาแล้วนี่ไง?”
แม้ว่าจะเป็นอย่างนั้น แต่ชิวรั่วหานกลับปล่อยโฮด้วยความเสียใจหนักกว่าเก่า จนบริเวณอกของลู่เสี้ยงหยางเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาของชิวรั่วหาน
“พี่เขย ไอ้คนใจร้าย หายตัวไปแบบไม่บอกไม่กล่าวตั้งหลายวัน พี่รู้ไหม? ว่าฉันเป็นห่วงพี่มากขนาดไหน”
เธอกล่าว ทั้งๆ ที่ยังโมโห พลันทุบกำปั้นลงบนอกของลู่เสี้ยงหยาง
ลู่เสี้ยงหยางรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก ปล่อยให้ชิวรั่วหานทุบตนเองอยู่อย่างนั้น ยังไงซะก็ไม่ได้เจ็บสักหน่อย ถือซะว่าเป็นการง้องอนเท่านั้น
เวลาผ่านไปสักพัก ชิวรั่วหานถึงได้ผละออกจากร่างของลู่เสี้ยงหยาง พลันแหงนหน้าขึ้นมองลู่เสี้ยงหยาง ด้วยสายตาที่เป็นกังวลและทุกข์ทรมานปะปนอยู่
ลู่เสี้ยงหยางเอื้อมมือปาดน้ำตาที่รอบดวงตาของชิวรั่วหาน พลันกล่าวด้วยรอยยิ้ม “หลายวันมานี้ต้องขอบคุณเธอมากที่คอยดูแลเย่สวน”
ชิวรั่วหานถอนหายใจยาว ดึงตัวเองกลับเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริงอีกครั้ง ไม่ว่าอย่างไร ลู่เสี้ยงหยางก็เป็นพี่เขยของเธอ ต่อให้เธอชอบเขามากแค่ไหน ก็ไม่สามารถข้ามเส้นได้
“ครอบครัวเดียวกันทั้งนั้น การที่ฉันดูแลพี่สาวของฉัน เป็นเรื่องที่สมควรอยู่แล้ว ไม่ต้องเกรงใจหรอก” ชิวรั่วหานกล่าวกับลู่เสี้ยงหยาง
ลู่เสี้ยงหยางพยักหน้ารับ ทันใดนั้นเขาคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงกล่าวกับชิวรั่วหาน “หลายวันมานี้พี่สาวของเธอไม่ตื่นขึ้นมาเลยหรือ?”
ชิวรั่วหานพยักหน้า “ใช่ หลายวันมานี้เธอเป็นแบบนี้ตลอดเลย หลายวันก่อนผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจแล้ว พวกเขาเองก็ไร้หนทาง ตามที่พวกเขาบอก สถานการณ์ของพี่สาวฉัน เป็นเคสเดียวในโลก ทางผู้เชี่ยวชาญได้ทำการแจ้งบุคคลที่มีชื่อเสียงทั่วโลก เพื่อหารือเรื่องนี้แล้ว หวังว่าวิชาแพทย์จากทั่วทุกมุมโลกจะร่วมมือกันเอาชนะปัญหานี้ไปได้”
ลู่เสี้ยงหยางฝืนยิ้มออกมา แต่ในใจกลับไร้ความมั่นใจ ยังไงซะแม้แต่วิชาแพทย์ของเขายังตรวจหาสาเหตุไม่ได้ ว่าเย่สวนเป็นอะไรกันแน่
แต่ลู่เสี้ยงหยางยังคงไม่ตายใจ เขาเดินมายังข้างเตียงของเย่สวน ทำการตรวจเช็กร่างกายของเธออีกครั้ง
แต่ก็ไม่พบอะไรทั้งสิ้น เพิ่มความสงสัยให้กับลู่เสี้ยงหยางเข้าไปมากกว่าเก่า ว่าเรื่องนี้เต็มไปได้ความประหลาด
ชิวชั่วหานค่อนข้างเข้าใจในความรู้สึกของคน เมื่อเห็นอาการของลู่เสี้ยงหยาง เธอจึงรีบเข้าไปปลอบ เย่สวนเพียงแค่ตื่นขึ้นมาไม่ได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น แต่ร่างกายของเธอในด้านอื่นๆ ปกติดี ไม่มีอันตรายถึงชีวิตหรอก
ลู่เสี้ยงหยางพยักหน้า คงต้องปลอบใจตนเองแบบนี้แล้ว
เวลาผ่านไป เพียงแค่ชั่วพริบตาก็ฟ้ามืดเสียแล้ว
หลายวันมานี้ ชิวรั่วหานรับหน้าที่ดูแลเย่สวนที่โรงพยาบาลตลอด เธออ่อนเพลียมาก
ลู่เสี้ยงหยางเห็นว่าเวลาดึกมากแล้ว จึงส่งชิวรั่วหานกลับบ้าน หลังจากนั้นจึงกลับไปที่โรงพยาบาลเพื่ออยู่เฝ้าเย่สวน
ไม่นาน เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
เมื่อลู่เสี้ยงหยางหยิบขึ้นมาดู ก็พบว่าเป็นสายจากกงหยู่หนิง
ลู่เสี้ยงหยางจึงกดรับสาย กงหยู่หนิงกล่าว “ให้ตาย ในที่สุดนายก็รับสายฉันสักที หลายวันมานี้นายไปอยู่ที่ไหนมา? เราหานายไม่เจอเลย”
ลู่เสี้ยงหยางหัวเราะแห้ง ก่อนกล่าว “เรื่องนี้ยาวน่ะ เธอโทรหาฉันมีธุระอะไร?”
กงหยู่หนิงตอบกลับ “เรื่องใหญ่ เราออกมาเจอกันหน่อย”
“ได้” ลู่เสี้ยงหยางพยักหน้า “ผมยังอยู่ที่โรงพยาบาล เธอมาที่นี่แล้วกัน”
หลังวางสาย รออยู่ได้ครึ่งชั่วโมงกงหยู่หนิงก็สาวฝีเท้า เดินเข้ามาในห้องพักฟื้นของเย่สวน
เมื่อเห็นเย่สวนยังคงหลับใหลไม่ได้สติ นอนอยู่บนเตียง เธอจึงถอนหายใจออกมาอย่างไร้หนทาง ช่วงอายุที่งดงามของเย่สวนกลับต้องมาเผชิญกับโรคประหลาดเสียแล้ว อนาคตเธอคงจะไม่เป็นแบบนี้ไปทั้งชีวิตหรอกใช่ไหม
เธอส่ายหน้า สลัดเอาความคิดที่ไม่ควรมีออกไป กงหยู่หนิงนั่งลงที่ข้างลู่เสี้ยงหยาง สายตาของกงหยู่หนิงตกอยู่ที่ลู่เสี้ยงหยาง ก่อนกล่าวขึ้น “หลายวันมานี้นายมันยังไงกันแน่?”
ลู่เสี้ยงหยางอธิบาย “ถูกศัตรูไล่ฆ่า แล้วก็เกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อย จึงเสียเวลาไป”
เมื่อได้ยินประโยคของลู่เสี้ยงหยาง กงหยู่หนิงเป็นกังวลขึ้นมา มือทั้งสองข้างกำเอาไว้แน่น ดีที่ลู่เสี้ยงหยางกลับมาได้อย่างปลอดภัย
ในเวลานี้ สายตาของลู่เสี้ยงหยางเองก็ตกไปอยู่ที่กงหยู่หนิงเช่นเดียวกัน พร้อมกล่าวถาม “เธอบอกว่ามีเรื่องใหญ่อะไรนี่? ไหนลองบอกฉันมาสิ”
กงหยู่หนิงพยักหน้า “สำนักใหญ่ทั้งห้า นายคงไม่แปลกตาแน่ ก่อนหน้านี้ คนที่สำนักใหญ่ทั้งห้าซ่อนตัวอยู่ตามเขา คนของพวกเขาโดยปกติไม่ค่อยออกมาให้เห็น”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ลู่เสี้ยงหยางพยักหน้า นี่เป็นเรื่อง
ไม่ว่าจะเป็นสำนักใหญ่ทั้งห้า หรือสำนักกวางหมิง คนของจิ่วโยว พวกเขาน้อยนักที่จะออกมาให้เห็น
ก่อนหน้านี้เพราะเรื่องการก่อตั้งสถาบันหลงเสิน คนของสำนักใหญ่ทั้งห้าจะปรากฏตัวขึ้น
นอกจากนี้ น้อยนักที่จะได้เห็นเงาร่างของพวกเขา
แต่ตอนนี้ คนของสำนักใหญ่ทั้งห้าเข้าๆ ออกๆ ก่อตั้งที่พำนักขึ้นยังสังคม
กงหยู่หนิงกล่าวเสริม “ฉันเดาว่า ช่วงนี้ในโลกของนักบู๊อาจจะเกิดเรื่องใหญ่ที่เราไม่คาดคิดขึ้น”
ลู่เสี้ยงหยางขมวดคิ้วแน่น กระทั่งตอนนี้ เขาถึงได้มีความเข้าใจต่อสำนักใหญ่ทั้งห้าขึ้นมาบ้าง
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่า คนของสำนักใหญ่ทั้งห้าต่างก็เป็นคนบริสุทธิ์ คู่ควรแก่การเคารพนับถือ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นพวกขี้โกง พวกเขาประกาศตนว่าเป็นสำนักแห่งความยุติธรรม สูงส่ง แต่กลับมองชีวิตคนเหมือนกับผักปลา สิ่งนี้ทำให้ลู่เสี้ยงหยางไม่ชอบใจนัก
บัดนี้สำนักใหญ่ทั้งห้าร่วมมือกันมาการเคลื่อนไหวที่โจ่งแจ้งขนาดนี้ ไม่รู้ว่าพวกเขาคิดจะทำอะไรกันแน่? คิดที่จะวางแผนการชั่วร้ายอะไรหรือไม่?
เมื่อเห็นลู่เสี้ยงหยางที่นิ่งเงียบไม่พูดจา กงหยู่หนิงจึงกล่าวถาม “นายกำลังคิดอะไรอยู่?”
ลู่เสี้ยงหยางส่ายหน้า “เปล่านี่”
หลังจากนั้น ทั้งคู่คุยกันเรื่องสำนักใหญ่ทั้งห้า
ไม่นาน กงหยู่หนิงก็มีสายเรียกเข้า จึงออกไปโรงพยาบาลไปอย่างเร่งรีบ
ในโรงพยาบาล เหลือเพียงแค่ลู่เสี้ยงหยางที่นั่งเฝ้าเย่สวนเพียงผู้เดียวอีกครั้ง
คืนนี้ ลู่เสี้ยงหยางจิตใจว้าวุ่น ระหว่างนี้เขาคิดอยู่หลายเรื่องในหัว
สำนักใหญ่ทั้งห้าเดินทางลงจากเขาพร้อมกัน พวกเขาคิดจะทำอะไรกันแน่?
ก่อนหน้านี้ จ้าวหรูเย็นถูกคนของเทียนเหมินพาตัวไป ลู่เสี้ยงหยางเห็นรองเจ้าสำนักเทียนเหมินเข้าสู่วิชามารกับตา ตอนนี้เขายากที่จะเชื่อ ว่าสำนักเทียนเหมินเป็นสำนักแบบไหนกันแน่ คนของสำนักเทียนเหมินทั้งน้อยใหญ่ เป็นพวกมารร้ายอะไรกันแน่?
หญิงสาวอย่างที่ใสซื่ออย่างจ้าวหรูเย็นถูกคนของเทียนเหมินพาตัวไป ไม่รู้ว่าจะถูกพวกเขาจะฝึกฝนเธอให้กลายเป็นยังไงกันแน่
เฮ้อ
ลู่เสี้ยงหยางรู้สึกสลด คงต้องโทษตัวเขาเองที่แข็งแกร่งไม่มากพอ หากเขาแข็งแกร่งมากพอ เขาก็จะบุกไปที่สำนักเทียนเหมิน ปล่อยจ้าวหรูเย็นออกมาจาก
เช้าวันที่สอง
กงหยู่หนิงทาที่โรงพยาบาลด้วยความเร่งรีบอีกครั้ง พลันนำข่าวใหญ่มาบอกลู่เสี้ยงหยาง
สำนักมารอย่างสำนักกวางหมิงและสำนักจิ่วโยวได้เป็นพันธมิตรต่อกันแล้ว ไม่นานจะมีการกลับมาอีกครั้ง เพื่อพิชิตวงการนักบู๊
การที่สำนักใหญ่ทั้งห้ารีบลงจากเขา ก็เกี่ยวพันกับความลับนี้เช่นเดียวกัน
เมื่อได้ยินข่าวนี้ ลู่เสี้ยงหยางตกใจอย่างมาก พูดไม่ออกอยู่นาน สำนักมารอย่างสำนักกวางหมิงและสำนักจิ่วโยว ร่วมมือกัน เพื่อพิชิตวงการนักบู๊อย่างนั้นหรือ