หนุ่มเศรษฐีลึกลับ - ตอนที่ 554
บทที่ 554 จากมิตรกลายเป็นศัตรู
หลายปีมานี้ ระหว่างสำนักกวางหมิง สำนักจิ่วโยวและสำนักใหญ่ทั้งห้า อยู่อย่างสงบ ไม่มีความบาดหมางต่อกันมาโดยตลอด
ไม่คิดเลยว่าความสงบร่มเย็นนี้จะอยู่ได้ไม่นาน ตอนนี้กลับแตกหักสาแหรกขาดเสียแล้ว
สำนักกวางหมิงและสำนักจิ่วโยวได้เป็นพันธมิตรต่อกันอย่างเป็นทางการแล้ว กำลังเตรียมการพิชิตวงการนักบู๊
เมื่อการต่อสู้ระหว่างสำนักใหญ่ทั้งห้าสำนักกวางหมิงและสำนักจิ่วโยวเปิดฉากขึ้น ลู่เสี้ยงหยางเองก็ไม่มีทางที่จะนิ่งนอนใจอยู่แล้ว ยังไงซะเขาเองก็เป็นหนึ่งในศิษย์ของสำนักจิ่วโยว
ที่มากไปกว่านั้น ถอนนี้เขากับหนึ่งในสำนักใหญ่อย่างหลงถัง ซี่ฟางโหลว เทียนเหมินได้เกิดความบาดหมางต่อกันแล้ว สำนักใหญ่ทั้งห้ามักจะร่วมมือปรองดองกัน เขาได้มีความบาดหมางกับสามสำนักใหญ่ ก็เท่ากับว่าได้ล่วงเกินห้าสำนักใหญ่
เพราะงั้นด้วยเหตุผลสองข้อนี้ ลู่เสี้ยงหยางและสำนักใหญ่ทั้งห้าต้องตายกันไปข้าง
“ใช่สิ ยังมีอีกเรื่องที่ฉันจะบอกนาย” กงหยู่หนิงกล่าวเสริม “หลังจากที่สำนักใหญ่ทั้งห้ามเดินทางลงเขา หลับทำการตั้งถิ่นฐานตามสถานที่ต่างๆ แล้ว พวกเขาต่างก็รับสมัครศิษย์ใหม่ นายสนใจเข้าร่วมสำนักใหญ่ทั้งห้าไหมล่ะ เป็นหนึ่งเดียวกับพวกเขา”
นี่มัน
ลู่เสี้ยงหยางปฏิเสธโดยไม่ผ่านการไตร่ตรองแม้แต่น้อย “ไม่อยาก”
เอ่อ!
ลู่เสี้ยงหยางปฏิเสธเสียงแข็งแบบนี้ อยู่เหนือความคาดหมายของกงหยู่หนิงนัก
แต่สำหรับเธอ ลู่เสี้ยงหยางไม่มีความรู้สึกดีต่อสำนักใหญ่ทั้งห้า คงเป็นเพราะก่อนหน้านี้ที่สถาบันหลงเสิน ทางสถาบันไม่ให้โอกาสแก่ลู่เสี้ยงหยาง ตัดสินว่าเขาเป็นฆาตกรฆ่าข่มขืนไป๋หมิ่นหมิ่น ถึงขั้นให้จูหยู่เจินแทงดายเถียนของลู่เสี้ยงหยางจนทะลุ
เรื่องนี้ไม่ว่าเกิดขึ้นกับใคร ก็ไม่สามารถให้อภัยได้
“เฮ้อ นายไม่เข้าร่วมสำนักใหญ่ทั้งห้า เป็นการสูญเสียของพวกเขาเอง” กงหยู่หนิงถอนหายใจ พลันจับจ้องไปที่ลู่เสี้ยงหยาง “ฉันตัดสินใจเข้าร่วมกับสำนักวั่นเจี้ยนจง”
อะไรนะ?
ประโยคดังกล่าวสร้างความตื่นตระหนกให้กับลู่เสี้ยงหยาง ไม่คิดเลยว่ากงหยู่หนิงคิดอยากจะเข้าร่วมสำนักใหญ่ทั้งห้า
หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ ละก็ วันนี้สำนักใหญ่ทั้งห้าสำนักกวางหมิงและสำนักจิ่วโยวเปิดศึกขึ้น บางทีเขาอาจจะต้องเผชิญหน้ากับเธอในสนามรบ
เมื่อคิดได้อย่างนั้น ลู่เสี้ยงหยางตื่นตระหนก รีบขัดขึ้น “เธอจะเข้าร่วมสำนักใหญ่ทั้งห้าไปทำไมกัน? หากวันหนึ่งสำนักใหญ่ทั้งห้าสำนักกวางหมิงและสำนักจิ่วโยวเปิดศึกขึ้นจริงๆ ทหารตัวเล็กๆ อย่างเธอคงจะต้องอยู่แถวหน้าเพื่อรับระเบิด”
กงหยู่หนิงกล่าวอย่างไร้หนทาง “ฉันเองก็ไม่อยากที่จะรับระเบิดหรอกนะแต่ฉันปรารถนาในวิชาลับของสำนักวั่นเจี้ยนจงมาก การที่ฉันเข้าร่วมสำนักวั่นเจี้ยนจง เป็นโอกาสที่ดีที่ฉันได้เข้าใกล้วิชาลับของเขามากที่สุด”
“เฮ้อ” ลู่เสี้ยงหยางถอนหายใจอย่างไร้หนทาง เมื่อเห็นความมุ่งมั่นของกงหยู่หนิง ไม่ว่าเขาคิดจะรั้งอย่างไรก็คงจะไม่มีประโยชน์
ดังนั้นเขาจึงกล่าวถามอย่างลองเชิง “หากวันหนึ่งผมเข้าร่วมสำนักกวางหมิงหรือสำนักจิ่วโยว แล้วเราต้องเผชิญหน้าต่อกันในสนามรบ เธอจะทำยังไง?”
กงหยู่หนิงนิ่งไป ด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม “นายไม่เข้าร่วมสำนักใหญ่ทั้งห้าฉันว่าอะไรนายไม่ได้ นี่มันทางเลือกของนาย แต่หากนายกล้าเข้าร่วมสำนักมารอย่างสำนักกวางหมิงหรือสำนักจิ่วโยวละก็ ฉันไม่มีทางยอมแน่”
เอ่อ!
ลู่เสี้ยงหยางเหงื่อแตกโชก ให้ตาย เขาเป็นศิษย์ของสำนักจิ่วโยวตั้งนานแล้ว
เมื่อไม่สามารถอ่านความคิดของลู่เสี้ยงหยางออก กงหยู่หนิงจึงกล่าวเสริม “ตอนนี้สถาบันหลงเสินของเราได้สลายตัวแล้ว ตอนนี้สถาบันหลงเสินเป็นหนึ่งในที่พำนักของสำนักหลงถัง”
“อืม” ลู่เสี้ยงหยางกล่าวตอบอย่างใจลอย
กงหยู่หนิงกล่าวขึ้นอีกหน “เสว่เฟยเส่เองก็เข้าร่วมหลงถังแล้ว หากฉันเดาไม่ผิด เธอเองก็ทำเพื่อวิชาลับของหลงถังเช่นเดียวกัน”
นี่มัน……
ลู่เสี้ยงหยางไร้คำพูดอีกหน ทำไมเพื่อนรอบกายของเขา ถึงได้เข้าร่วมห้าสำนักใหญ่กันซะหมด?
หากวันหนึ่ง เขาเผชิญหน้ากับพวกเธอในสนามรบจริงๆ ละก็ เขาก็ไม่รู้จะรับมืออย่างไร
จ้าวหรูเย็นแห่งเทียนเหมิน หวังเสว่แห่งหลิวหลีกง กงหยู่หนิงแห่งว่านเจี้ยนจง เสว่เฟยเส่ของหลงถัง
พวกเธอเป็นเพื่อนที่ดีของเขาทั้งนั้น ต่อให้บอกว่าเป็นเพื่อนร่วมเป็นร่วมตายก็ไม่มากเกินไปเลยสักนิด
ในเวลาอันสั้น ความคิดของลู่เสี้ยงหยางตีกันในหัวให้วุ่น ได้แต่หวังว่าศึกของสำนักใหญ่ทั้งห้าสำนักกวางหมิงและสำนักจิ่วโยว จะมาเยือนช้ากว่านี้
หรือแม้แต่ถึงเวลานั้นศิษย์สำนักจิ่วโยวอย่างเขา จะไม่ต้องขึ้นสนามรบ
หลังจากนั้น กงหยู่หนิงมีธุระต่อเธออยู่คุยกับลู่เสี้ยงหยางเพียงไม่กี่ประโยค ก่อนที่จะออกจากโรงพยาบาลไปด้วยความเร่งรีบ
ก่อนที่กงหยู่หนิงจะไป ลู่เสี้ยงหยางเองก็เดินตามออกจากโรงพยาบาลไปติดๆ เพื่อทานอาหารเช้ารองท้อง แล้วค่อยกลับมาอยู่เฝ้าเย่สวนต่อ
หากแต่บังเอิญ เมื่อเขาเดินออกจากโรงพยาบาล เงาร่างหนึ่งก็สะกดรอยตามเขาไปในฝูงชน
ลู่เสี้ยงหยางมีเซนส์ที่ค่อนข้างดี เขารู้ได้ทันทีว่ามีคนแอบสะกดรอยตามเขาอยู่ เมื่อหันกลับไปมอง ก็พบกับขุยกาง
ลู่เสี้ยงหยางหรี่ตา ไอ้หมอนี่มันตายยากเสียจริง
ไม่คิดเลยว่าเขาตกอยู่ที่เหวหลายวัน แต่เขาก็ยังไม่ตายใจที่จะไปจากปินเหอ ดูเหมือนว่าหากไม่ฆ่าตนทิ้งเสีย เขาก็คงไม่ยอมแน่
หากเป็นแต่ก่อน ลู่เสี้ยงหยางคิดหนีเอาชีวิตรอดไปตั้งนานแล้ว แต่ตอนนี้ ความสามารถของเขาอยู่ที่นักบู๊ระดับแปดขั้นสุดท้าย พลังในร่างกายยิ่งใหญ่เท่ามหาสมุทรอันกว้างใหญ่ บวกกับวิชาลับที่เขามีอยู่ การที่เขาจะสู้กับขุยกางก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ขุยกางที่อยู่ไม่ไกลนิ่งไป หลายวันก่อนไอ้หมอนี้เห็นเขาอย่างกับหนูที่เห็นแมววิ่งอย่างไม่คิดชีวิต ทำไมตอนนี้เขาถึงดูนิ่งเฉยแบบนี้ล่ะ
หรือว่าไอ้หมอนี่รู้อยู่แล้ว ว่าไม่มีทางรอดไปได้จากเงื้อมมือของเขา จึงหน่ายที่จะวิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอด?
เมื่อคิดได้อย่างนั้น ขุยหางแสยะยิ้ม เผยใบหน้าของความอาฆาต ก่อนที่จะเดินไปทางลู่เสี้ยงหยาง
กระทั่งเดินไปประชิดลู่เสี้ยงหยาง ลู่เสี้ยงหยางก็ยังคงแน่นิ่งเฉยชา
“นี่แก ตอนนี้กลับไปที่พำนักของซี่ฟางโหลวกับฉัน ฉันก็จะทำให้แกตายอย่างไม่ต้องทรมาน” ขุยกางเอ่ยเสียงแผ่ว
ซี่ฟางโหลวได้ตั้งรกรากที่ปินเหอ ผู้นำของที่พำนักนี้คือขุยกาง
หลายวันก่อน ขัยกางบีบบังคับจนลู่เสี้ยงหยางหระโดดหน้าผา ขุยกางนั่งเฝ้าลู่เสี้ยงหยางอยู่บนเหวหลายวันแต่ก็ไร้วี่แววว่าเขาจะออกมา
หลังจากนั้นเขาจึงกลับไปที่ปินเหอ และสั่งให้ลูกน้องสืบประวัติของลู่เสี้ยงหยาง เมื่อรู้ว่าเย่สวนเป็นภรรยาของลู่เสี้ยงหยาง เขาก็สั่งคนให้จับตาดูเย่สวนเอาไว้ คิดที่จะสืบหาเบาะแสของลู่เสี้ยงหยาง
เป็นไปตามคาดผ่านไปแค่ไม่กี่วัน ลู่เสี้ยงหยางก็ปรากฏตัวขึ้นที่โรงพยาบาล
เพราะงั้นขุยกางจึงเดินทางมาที่นี่แต่เช้า เพื่อที่จะจับตัวลู่เสี้ยงหยางกลับไปสังหาร
ตอนนี้เมื่อลู่เสี้ยงหยางได้ยินประโยคของขุยกาง เขาเผยรอยยิ้มที่สมบูรณ์แบบบนใบหน้า “แกสั่งให้ฉันไปกับแก ฉันก็ไปกับแกเลย แบบนั้นเสียหน้าแย่”
ขุยกางไม่พอใจ ชายหนุ่มข่มขู่ “หากแกไม่ไปกับฉัน ฉันจะสั่งให้คนของฉัน ฆ่าผู้หญิงของแกคาเตียงซะ”
การข่มขู่แบบนี้ ลู่เสี้ยงหยางเกลียดและชิงชังเป็นที่สุด เขาเผยสายตาอาฆาต
ขุยกางหัวเราะอย่างน่ากลัว พลันเอื้อมมือตบบ่าของลู่เสี้ยงหยาง “นี่แก แกไม่มีทางเลือกอื่น ไปกับฉันตอนนี้ หากแกว่านอนสอนง่าย ผู้หญิงของแกก็จะรักษาชีวิตเอาไว้ได้”
ลู่เสี้ยงหยางไม่ตอบโต้ ความอาฆาตในสายตาของเธอมากขึ้นไปกว่าเดิม นี่หรือวิธีการของสำนักใหญ่ทั้งห้า? ที่ใช้ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งเพื่อข่มขู่เขา
“ได้ แกอย่าทำอะไรเย่สวน ผมจะไปกับคุณ” ลู่เสี้ยงหยางสูดหายใจเข้าตอบตกลงรับคำ