หมอยาหวานใจท่านประธาน - ตอนที่ 243
ต่อไปผมทำให้คุณเอง
“คุณล่ะ อยากกินอะไร” เฉวียนหมิงถามอีลั่วเสวี่ยกลับ มาถึงที่นี่ ทุกอย่างตามใจเธอ ขอให้เธอชอบก็พอ
อีลั่วเสวี่ยยิ้มอย่างหยอกเย้า “คุณถามฉัน คุณจะเข้าครัวทำให้ฉันกินเหรอ” โจ๊กข้าวฟ่างเมื่อเช้าไม่เลวเลย ไม่รู้ว่าถ้าเขาทำอย่างอื่นจะเป็นยังไง อยากรู้จริงๆ
“ให้ผมทำมื้อเย็น?” เฉวียนหมิงชี้ที่ตัวเอง ใบหน้าเรียบเฉย แววตาอึ้งงัน
“หรือที่ฉันเข้าใจไม่ใช่ว่าคุณจะทำมื้อเย็น”
ดวงตาดำขลับราวกับหินออบซิเดียนของเฉวียนหมิงฉายแววหม่นวูบหนึ่ง เขาเผยอริมฝีปากเล็กน้อย “งั้นผมจะลองดู คุณรอก็แล้วกัน” มีคำพูดว่าถ้าอยากกุมหัวใจใครสักคน ก่อนอื่นต้องกุมกระเพาะอาหารของคนนั้นก่อน
ถ้าเขาทำอาหารเก่ง ถึงตอนนั้นพวกเขาสองคนก็จะได้เข้าครัวทำอาหารอร่อยๆ ด้วยกัน แค่คิดถึงภาพนั้น มุมปากของเฉวียนหมิงก็ยกขึ้น รอยยิ้มบนใบหน้ายิ่งน่ามองขึ้นทุกที
“งั้นคุณจะทำอะไร ต้องให้ฉันช่วยไหม” อีลั่วเสวี่ยยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ มีคนทำอาหารก็ดีเลย งั้นฉันจะดูว่าฝีมือเขาเป็นยังไง บอสใหญ่แห่งเฉวียนกรุ๊ปทำอาหารเก่ง คงตื่นเต้นน่าดู
“ไม่ต้องหรอก คุณรอผมที่นี่ก็พอ กินมื้อเย็นเสร็จแล้ว ผมไปดูดาวเป็นเพื่อนคุณ” ดูดาวชายทะเลไม่เหมือนที่เห็นตามที่ทั่วๆ ไป เขาพูดพลางกดอีลั่วเสวี่ยนั่งลงบนโซฟา ส่วนตัวเองไปเข้าครัว
แต่พอเข้าไป เฉวียนหมิงก็ชักทำอะไรไม่ถูก เมื่อตอนกลางวันถึงจะทำอาหารด้วยกัน แต่เขาเป็นแค่ลูกมือ อีลั่วเสวี่ยสั่งอะไรเขาก็ทำตามนั้น ตอนนี้ก็เกิดไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากอะไรดี
‘แม่คุณ คุณเชื่อว่าเขาจะทำอาหารได้เหรอ สู้เชื่อว่าผมทำได้ยังจะดีกว่า’ ลูกบอลเงินซุกอยู่ที่มุมโซฟา ขดตัวเหมือนกับเป็นแมว
อีลั่วเสวี่ยชำเลืองมองลูกบอลเงิน ‘นายทำเป็น? นายมีมือ มีประสาทรับรสหรือไง พอเถอะ เป็นร้านค้าอัจฉริยะของนายให้ดีก็พอแล้ว’
‘ชิ อย่าดูถูกเทคโนโลยีขั้นสูงจากต่างดาวอย่างเราเชียว เราไม่ต้องกินอาหาร ไม่เหมือนมนุษย์อย่างพวกคุณที่ต้องการอาหาร เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม แถมยังเกิดแก่เจ็บตายด้วย’
‘หึ พูดอย่างกับเทคโนโลยีขั้นสูงอย่างพวกนายมีอายุยืนยาวชั่วนิรันดร์ ยังไงสุดท้ายก็ต้องถูกโละทิ้งตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยี’ เห็นลูกบอลเงินทำท่าดูถูกดูแคลนแบบนี้ อีลั่วเสวี่ยก็อดตอบโต้ไม่ได้
เฉวียนหมิงไม่รู้เรื่องที่สองคนนี้ปะทะคารมกันอยู่ข้างนอก ยังดีที่เขาเคยเห็นอีลั่วเสวี่ยจุดเตา จึงลองทำตาม ตอนที่เขาหมุนลูกบิดปิดเปิดเตาแก๊ส เพราะหมุนแรงเกินไป เปลวไฟจึงพุ่งขึ้นสูง
เขาตกใจจนรีบวางหม้อลงบนเตา มีควันขาวลอยขึ้นจากในหม้ออย่างรวดเร็ว เขาเติมน้ำลงไปทันที จากนั้นจึงค่อยๆ ปรับกำลังไฟ แค่เรื่องพวกนี้ก็ทำให้เขาเหงื่อแตกแล้ว
เฉวียนหมิงเอ๊ย นายกลัวเสียหน้าจนต้องลำบากแบบนี้ ทำเป็นแต่โจ๊กก็ยอมรับเถอะ ทำไมต้องอวดเก่งด้วย!
จริงสิ งั้นทำสปาเกตตีดีกว่า ไม่ยากเกินไป วัตถุดิบก็มี
พอคิดจะทำก็ลงมือเลย เขาพยายามทบทวนว่าสปาเกตตีที่เคยกินใส่อะไรบ้าง จากนั้นจึงค้นตู้เย็น
ผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมง หลังจากที่อีลั่วเสวี่ยเถียงจนเหนื่อยก็เริ่มนั่งสัปหงก อยู่ๆ ก็ได้กลิ่นหอมฉุยโชยมาจากในครัว จึงรู้สึกหิวขึ้นมา
“รอนานไหม ผมทำสปาเกตตี มื้อเย็นไม่กินของมันๆ มาก ถึงจะดีต่อสุขภาพ ผมเลยเพิ่มผักกาดขาวลงไปนิดหน่อย ลองชิมดูสิ”
เฉวียนหมิงวางจานลงตรงหน้าเธอ เฝ้ามองอย่างคาดหวัง
อีลั่วเสวี่ยถูกสายตาแบบนี้จ้องจนใบหูร้อนผ่าว เธอกลืนน้ำลายแล้วเหลือบตาขึ้นมองเขา “แล้วของคุณล่ะ นั่งลงกินด้วยกันสิ”
“อ้อ อยู่ในครัว” เฉวียนหมิงพูดแล้ววิ่งไปที่ห้องครัว ถอดผ้ากันเปื้อนออก แล้วยกสปาเกตตีมานั่งลงตรงข้ามอีลั่วเสวี่ย