หมอยาหวานใจท่านประธาน - ตอนที่ 328-329
ตอนที่ 328 ฝานเจียวเจียว
เพราะปัญหานี้เอง สกุลฝานมีความทะเยอทะยานใหญ่นัก แม่ตนเองไม่รู้เรื่องนี้ แต่เขารู้ ถ้าไม่มีจุดมุ่งหมายใดๆ ก่อนหน้านี้เขาคงรับเธอเป็นลูกบุญธรรมไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องรอจนเดี๋ยวนี้
นอกจากนี้แล้วยายหนูฝานเจียวเจียวอะไรก็ดีหรอก แต่เขาไม่รู้ว่าทำไมตนเองจึงไม่ชอบเด็กคนนี้ เมื่อก่อนเขารู้สึกผิดต่อลูกสาวที่เสียชีวิตตั้งแต่เล็กตลอดเวลา จึงไม่รับลูกสาวบุญธรรม
แต่หลังจากที่เขาได้พบอีลั่วเสวี่ย จึงตระหนักว่าเรื่องนี้ต้องอาศัยบุญวาสนา พอเห็นก็ถูกชะตา ต่างมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน ไม่เช่นนั้นแค่เรียกว่าพ่อบุญธรรมหรือเรียกพ่ออย่างขอไปที จะมีประโยชน์อะไร
“ย่ารอง ไม่ต้องติดใจเรื่องนี้หรอกค่ะ จะทำให้อาอวิ๋นลำบากใจค่ะ หนูเรียกว่าอาอวิ๋น ทั้งยังเป็นหลานสาวของย่ารอง ไม่ต่างกันหรอกค่ะ” ฝานเจียวเจียวยิ้ม ท่าทางเหมือนไม่ใส่ใจ ยิ้มอย่างสนิทสนม แต่ความรู้สึกเสียดายที่วาบขึ้นในดวงตาไม่อาจรอดพ้นจากสายตาของอวิ๋นเซินได้
เด็กคนนี้แววตาเจ้าเล่ห์นัก ไม่เหมาะจะเป็นด็กในตระกูลอวิ๋น กลับเป็นอีลั่วเสวี่ยนั่น แววตาใสบริสุทธิ์ ในนั้นยังแสดงให้เห็นว่ามองคนทะลุปรุโปร่ง
แม้จะดูเพียงรูปถ่าย แต่เขารู้สึกเหมือนคนมายืนอยู่ตรงหน้า นี่คือสาเหตุที่คนอย่างเขาอวิ๋นเซินอยากพบอีลั่วเสวี่ย
แม่เฒ่าถอนหายใจด้วยความเสียดาย เรื่องที่ลูกชายตัวเองได้รับบาดเจ็บ นางรู้บ้างเล็กน้อย และไม่อยากเพราะเรื่องนี้ทำให้ทุกคนไม่สบายใจ ก่อนหน้านี้เพราะจะให้เขาแต่งงานใหม่ กลับทำให้เขาไม่ยอมกลับบ้านถึงหนึ่งปี
“เป็นเจียวเจียวที่รู้ความ ย่ารองอย่างฉันมีหลานอย่างนี้ก็พอใจแล้วละ”
อวิ๋นเซินกลอกตา “เรื่องนี้ไม่แน่หรอก อยากได้หลานสาว ก็ไม่เห็นยาก ผ่านไปสักพักจะมีหลานสาวมาหาเธอหรอก” เขาลากหางเสียงยาว ดูอารมณ์ดีมาก
แม่เฒ่ากับฝานเจียวเจียวแปลกใจ ความเป็นไปได้อย่างหนึ่งผุดขึ้นในใจ แล้วหันไปมองอวิ๋นเว่ยทันที หรือว่าเขามีภรรยาแล้วได้ลูกแล้ว น่าจะเป็นเด็กทารก?
“ลูกแม่ พ่อแกล้อเล่นใช่ไหม?”
“เปล่าครับ เมื่อกี้ผมพูดเรื่องนี้กับพ่อแล้ว แม่ ผมกลับไปเมือง F คราวนี้เจอเด็กที่ฉลาดรู้จักเหตุผล ผมรับเธอเป็นลูกสาวบุญธรรม อีกระยะหนึ่งเธอปิดเทอม ผมจะส่งคนไปรับมาเยี่ยมพ่อกับแม่ครับ”
แม่เฒ่าแปลกใจ สีหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อ “ลูกสาวบุญธรรม รับแล้ว? แม่ยังคิดว่าลูก…” พูดไม่ได้ว่าชอบหรือไม่ ในใจรู้สึกสับสน
ฝานเจียวเจียวตกใจมาก จากนั้นก็เก็บงำความไม่พอใจในดวงตา เม้มริมฝีปากแน่น จู่ๆ ก็มีก้างขวางคอ น่าแค้นจริง!
“แม่ คิดไปไกลแล้ว ผมจะมีเวลาและความพยายามหรือ” อวิ๋นเว่ยกระอักกระอ่วน ก่อนหน้านี้ยังบอกให้เขารับลูกบุญธรรม ชายหรือหญิงก็ได้ พอใจทั้งสิ้น ทำไมแม่ตนเองช่างวุ่นวายนัก?
สีหน้าแม่เฒ่าสงบลง “ลูกแม่ แน่ใจแล้วนะ ตรวจสอบนิสัยใจคอหรือยัง มุ่งหวังอะไรในสกุลอวิ๋นเราหรือเปล่า?”
มุ่งหวังอะไรหรือ? ด้วยฝีมือและความสามารถของเธอ ไม่รู้ว่ากลุ่มอิทธิพลมากเท่าไรที่อยากดึงเธอมาเป็นพวก ใช้เวลามานานหรอก จะมีฐานะสูงกว่าสกุลอวิ๋นของพวกเขา แล้วจะมุ่งหวังอะไรจากตระกูลอวิ๋น
แน่นอนว่าเรื่องนี้อวิ๋นเว่ยไม่คิดจะพูด ลั่วเสวี่ยเคยบอกเขาว่า ที่เธอรู้จักบำเพ็ญเพียรนั้น ไม่เปิดเผยออกไปจะดีกว่า
“แม่ เรื่องนี้แม่ไม่ต้องกังวล ลั่วเสวี่ยไม่ใช่คนอย่างที่แม่คิด ผมรับประกัน ถ้าแม่พบเธอ แม่ต้องชอบเธอแน่นอน ตอนนี้อย่าเพิ่งมองเธออย่างมีอคติครับ”
อวิ๋นเว่ยในฐานะลูกชายย่อมฟังออกว่าคำพูดมารดามีความหมายอะไร จึงรีบแก้ตัวแทนอีลั่วเสวี่ย
ตอนที่ 329 ช่วยตรวจสอบคนให้หน่อย
อวิ๋นเซินเห็นเช่นนั้นจึงพูดว่า “ยายเฒ่า ก่อนนี้เธอบอกเองว่าต้องคุ้นเคยกันก่อนจึงจะรู้ว่าเป็นคนยังไง วันนี้ไม่เหมือนที่พูดเลย”
แม่เฒ่าถลึงตาใส่สามี “พ่อลูกสองคนนี้เริ่มเถียงแทนเธอแล้ว ฉันแปลกใจนักว่าเธอเป็นลูกบ้านไหน?” แม่เฒ่าคิดทันทีว่าน่าจะเป็นคนในแวดวงเดียวกัน
“แม่ เธอไม่ใช่คนของเราที่นี่ เธออยู่ที่เมือง F ชื่ออีลั่วเสวี่ย เป็นเด็กกำพร้าไม่มีพ่อแม่” พ่อแม่บุญธรรมตายไปแล้ว เท่ากับไม่มีพ่อแม่นั่นเอง สกุลอีไม่นับว่าเป็นครอบครัวเธอ
พอแม่เฒ่าได้ยินเช่นนี้ก็คลายความกังวลลงไม่น้อย เด็กที่ไม่มีพ่อแม่ ก็ไม่ต้องกลัวว่าพ่อแม่เด็กจะมาวุ่นวาย
“อีลั่วเสวี่ย ลั่วเสวี่ย…” นึกถึงที่เคยอุ้มหลานสาวตอนเด็ก แม่เฒ่าคิดถึงหลาน ชื่อก็คล้ายกัน น่าจะเป็นบุญวาสนา หลายปีมานี้ลูกชายไม่ได้แต่งงานใหม่ เวลานี้จะพาลูกสาวบุญธรรมมา นี่คงเป็นชะตาลิขิตไว้แล้ว
ฝานเจียวเจียวกลอกตา “งั้นหนูต้องแสดงความยินดีกับอาอวิ๋นและปู่รองด้วยค่ะ ยังต้องยินดีที่จากนี้ตัวเองจะมีน้องสาว!” น้ำเสียงเธอเบิกบานใจ พยายามทำให้บรรยากาศดีขึ้น
“น้องสาว? ไม่หรอก ลั่วเสวี่ยอายุมากกว่าเธอ วันหลังเจียวเจียวต้องเรียกเธอว่าพี่จึงจะถูก” พออวิ๋นเว่ยได้ยินคนเอ่ยชื่ออีลั่วเสวี่ย ก็ลืมเรื่องอื่นหมด อยากอวดลูกสาว
สีหน้าฝานเจียวเจียวแข็งทื่อ “งั้นหรือค่ะ พี่สาวก็ดีออก จริงด้วยย่ารอง วันหลังจะมีคนอยู่เป็นเพื่อนย่ารองเพิ่มอีกคนแล้ว”
แม่เฒ่าพยักหน้า “เจียวเจียวช่างเข้าใจอะไรดี” แม่เฒ่าพูดพลางตีหลังมือหลานสาวเบาๆ สีหน้าเปี่ยมด้วยความเอ็นดู
“จริงสิแม่ ผมอยากกินกับข้าวฝีมือแม่” บรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความยินดีปรีดา อวิ๋นเว่ย รู้สึกท้องหิวขึ้นมา จึงพูดขึ้น
อวิ๋นเว่ยกลับมาจากริมขอบของความตายทำให้เขาเข้าใจเรื่องหนึ่ง เขาเป็นหนี้พ่อแม่มากเหลือเกิน ต้องช่วงชิงโอกาสที่พวกท่านยังมีชีวิตอยู่บนโลก กตัญญูต่อพวกท่านให้มาก
ขอเพียงให้พวกท่านมีความสุข จะให้เขาทำอะไรก็ได้
พอแม่เฒ่าได้ยินก็รู้สึกเบิกบานใจ คำพูดประโยคหนึ่งที่แม่ทุกคนอยากฟังก็คือลูกๆ ชอบกินกับข้าวที่ตนเองทำ
“จริงหรือ งั้นแม่จะไปทำเดี๋ยวนี้เลย พอดีทันมื้อเที่ยง แม่จะไปบอกป้าจางว่าไม่ต้องทำกับข้าวมื้อนี้” แม่เฒ่าพูดพลางลุกขึ้นเดินออกไป
ฝานเจียวเจียวเห็นเช่นนั้นก็ตามออกไปทันที “ย่ารอง หนูมาช่วยแล้ว ค่อยๆ เดิน ระวังบันได…”
หลังจากกินอาหารเสร็จ เดิมฝานเจียวเจียวเตรียมจะเป็นเพื่อนแม่เฒ่าไปเดินเล่นย่อยอาหาร แต่คิดไม่ถึงว่าอวิ๋นเว่ยจะเดินเป็นเพื่อนเอง เธอจึงต้องเลิกล้มความคิดนี้
“เจียวเจียวคงมาอยู่ที่นี่ระยะหนึ่งแล้ว เกรงว่าปู่หนูรวมทั้งพ่อแม่จะคิดถึง ช่วงนี้ฉันอยู่บ้าน ฉันจะดูแลย่ารองของเธอเอง เธอไปพักผ่อนเถอะ” อวิ๋นเว่ยยิ้มแล้วพูด
ฝานเจียวเจียวย่อมเข้าใจความหมายในคำพูดนี้ นั่นคือตอนนี้ไม่ต้องให้เธออยู่เป็นเพื่อนแม่เฒ่าแล้ว เธอเคยได้ยินคำพูดทำนองนี้ไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้ง จนชินชาแล้ว แต่วันนี้กลับรู้สึกแปลกๆ
“พอดีหนูกำลังจะลาย่ารองพอดี เช้านี้แม่โทรมา ขอให้หนูเป็นเพื่อนไปท่องเที่ยวค่ะ”
แม่เฒ่ายิ้มแล้วพูดว่า “งั้นก็รีบกลับไปเถอะ ทุกครั้งที่ให้หลานอยู่ที่นี่ พ่อแม่หนูคงโมโหอาอย่างฉันแน่” แม่เฒ่ายิ้มร่า
ฝานเจียวเจียวจึงบอกลาคนในตระกูลอวิ๋นในสภาพเช่นนี้ แล้วออกไปจากบ้าน
พออยู่บนรถเธอหยิบมือถือออกมา แล้วโทรศัพท์ “ช่วยฉันตรวจสอบคนคนหนึ่งหน่อย อีลั่วเสวี่ย คนเมือง F ขอข้อมูลทั้งหมดของหล่อน” เธออยากรู้นักว่าเธอเป็นใครกันแน่ อวิ๋นเว่ยถึงได้ชื่นชม