หมอยาหวานใจท่านประธาน - ตอนที่ 408-409
ตอนที่ 408 ที่ผมรักก็คือคุณ
เฉวียนหมิงไม่ตอบที่เธอถาม แต่ดึงมือเธอ แล้วชี้มาที่ริมฝีปากตนเอง “ความรู้สึกที่นี่ไม่มีทางผิดหรอก” ทีแรกเขาเองก็จำไม่ได้ แต่ความอบอุ่นจากริมฝีปากทำให้เขาฉุกคิดขึ้นได้
ภายหลังเขาไปที่บริษัท พบว่าวันนั้นในเวลานั้นเหล่าเกาอยู่ที่บริษัท ไม่มีเวลาจะมาดูแลเขาได้ น่าจะหลังจากเขากลับมาแล้วจึงรับช่วงต่อจากอีลั่วเสวี่ย ที่เหล่าเกาไม่บอกเขา คงคิดว่าให้พวเขาสองคนรู้จักกันและกัน ไม่จำเป็นต้องให้คนรอบข้างบอก
เมื่อเป็นเช่นนี้ก็อธิบายได้ว่าทำไมอีลั่วเสวี่ยจึงหน้าแดงทันที แย่จริงๆ ทำไมความรู้สึกเขาจึงช่างไวนัก อาศัยแค่จูบเดียวก็รู้แล้ว แต่ปัญหาก็คือตอนนั้นพวกเขาสองคนสัมผัสกันเบาๆ เท่านั้น
เธอไม่รู้ว่าบางครั้งถ้าผู้ชายคนหนึ่งอยากจดจำความรู้สึกหนึ่งไว้ ก็จะจำเข้ากระดูก ขอเพียงเรื่องเดียวกันเกิดขึ้นอีกครั้ง ก็จะกระตุ้นความทรงจำนั้นขึ้นมา
“เฉวียนหมิง คิดไม่ถึงว่าคุณจะร้ายกาจอย่างนี้” อีลั่วเสวี่ยทำตาขวางใส่เขา ในใจทั้งวาบหวามและเขินอาย ยังรู้สึกอบอุ่น ราวกับได้ดื่มเหล้าดอกท้อจอกใหญ่ รอบๆ อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้
เฉวียนหมิงเชิดมุมปากขึ้น ดึงอีลั่วเสวี่ยแรงๆ เข้ามาหา จดริมฝีปากลงไป ไม่รอให้เธอทันตั้งตัวก็ถูกรุกโจมตีแล้ว ลิ้นที่ว่องไวของเขากวาดไปทั่วปากเธอ
ผ่านไปครู่หนึ่ง รอจนทั้งสองคนหายใจไม่ทั่วท้องแล้ว เฉวียนหมิงจึงคลายมือออกจากเธอ ถ้าไม่ใช่เพราะเขาคิดว่าข้างนอกมีสองคนที่พร้อมจะเคาะประตูห้องแล้วเดินเข้ามาได้ตลอดเวลา เขาคงไม่อยากปล่อยมือจริงๆ ยินดีที่จะอยู่อย่างนี้ชั่วนาตาปี
ใบหน้าอีลั่วเสวี่ยแดงเรื่อทันที ดวงตาดูเลื่อนลอย ริมฝีปากหยาดเยิ้มจนแทบหยดลงมา จนเห็นแล้วยากที่จะหักห้ามใจไม่ให้ลองชิม แล้วเฉวียนหมิงก็ทำแล้ว
เขายืดตัวขึ้น เล็งที่ริมฝีปากเธอ ยื่นลิ้นออกไปตวัดรอบหนึ่ง
“อาเสวี่ย ที่ผมรักก็คือคุณ คุณเท่านั้น ถ้าคุณไม่ได้มา บางทีภายหลังผมอาจพบว่าตัวเองไม่ได้รักอีลั่วเสวี่ย เพราะในใจเธอไม่มีผม ส่วนในใจคุณต้องมีผมแน่นอน ใช่ไหม?”
หลังจากเฉวียนหมิงถามแล้วก็รอด้วยความคาดหวัง ที่จริงก่อนหน้านี้เขารู้แล้วว่าอีลั่วเสวี่ยชอบหนานหลิวเฟิงไม่ใช่ตนเอง ตอนนั้นเขานึกชอบเธอ แต่ความรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณสำคัญกว่า
ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าเผชิญหน้ากับตัวเอง ย่อมปล่อยพื้นที่ว่างให้เธอ แต่อีลั่วเสวี่ยคนต่อมาค่อยๆ เดินมาหาเขา แล้วเขาพบว่าตนเองเริ่มหลงรักผู้หญิงคนนี้ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเมื่อเขารักเธอแล้ว แต่เธอกลับเป็นอีลั่วเสวี่ยคนใหม่
หัวใจอีลั่วเสวี่ยเต้นแรงขึ้นเมื่อได้ฟังคำสารภาพรักจากเฉวียนหมิง ที่ต่างจากเมื่อก่อนก็คือ เวลานี้เธอได้รับการบอกรักจากเฉวียนหมิงที่มีต่อวิญญาณของเธออย่างแท้จริง
เธอไม่ใส่ใจแล้วว่าเฉวียนหมิงรักใบหน้านี้หรือรักตนเอง แต่บัดนี้เธอมีคำตอบแล้ว
“คุณว่าไงล่ะ?” อีลั่วเสวี่ยย้อนถาม คำพูดอย่างนั้นจะหลุดออกจากปากผู้หญิงได้อย่างไร
แต่ถึงเธอจะไม่พูด เฉวียนหมิงก็ฟังความหมายในคำพูดเธอออก เขาตื่นเต้นจนกอดเธอไว้ในอ้อมอก “อาเสวี่ย อย่าจากผมไปได้ไหม คุณคงไม่กลับไปใช่ไหม?”
เธอมาจากอีกโลกหนึ่ง ยังรู้จักการบำเพ็ญเพียร จะป็นเหมือนในนิยายหรือในละครทีวีไหม ที่บำเพ็ญเพียรถึงจุดสูงสุดแล้วก็จะเหาะไปที่อีกโลกหนึ่ง
เขาตอบเองโดยไม่รอให้อีลั่วเสวี่ยตอบ “ถ้าจะไป คุณรอให้ผมตายก่อนได้ไหม ผมคงไม่ทำให้คุณเสียเวลานานหรอก ผม…”
เขายังไม่ทันพูดจบก็ถูกอีลั่วเสวี่ยผลักออกไป เธอจับคางเขาไว้แล้วก้มลงจูบ
ตาย เธอจะปล่อยให้ผู้ชายตรงหน้าคนนี้ตายได้หรือ มีหมอปีศาจอย่างเธออยู่ จะให้เขาตายไม่ได้เด็ดขาด เธอต้องพยายามทุกวิธีเพื่อรักษาเขาให้หาย ต้องทำได้แน่
ตอนที่ 409 อีลั่วเสวี่ยรุกกลับ
เฉวียนหมิงผงะเมื่อถูกรุกกลับ จากนั้นก็ยอมรับการวางอำนาจของอีลั่วเสวี่ยอย่างพึงพอใจ บางครั้งการเปลี่ยนบทบาทบ้างก็ให้ความรู้สึกที่ไม่เลวเลย
ทั่วหล้าที่เขาอยากมอบความรักให้อย่างไม่มีเงื่อนไขและไม่มีขอบเขตก็คือเธอคนเดียวเท่านั้น ไม่ว่าเธอจะทำอะไร ขอเพียงเธอพอใจ เขาย่อมคิดหาวิธีให้ได้
“ในห้องทำไมเงียบไปแล้ว ผ่านไปนานขนาดนี้ ไม่รู้ว่าสองคนนั้นคุยกันเป็นยังไงบ้าง ผมจะไปดูหน่อยครับ” เฟิงฉี่อยู่ข้างนอก ร้อนใจเหมือนถูกไฟเผา เขาทนไม่ไหวแล้ว เดินไปที่หน้าห้องของเฉวียนหมิง
หมิงเย่ตกใจจนเกือบพ่นน้ำชาออกมา “อย่า…” แต่สายไปแล้ว เฟิงฉี่เคาะประตูพร้อมกับเปิดประตูออก เขาเป็นผู้บำเพ็ญเพียรเวลาเดินมักว่องไวเป็นพิเศษ
“เจ้าลูกคนนี้ ช่างวู่วามจริงๆ” หมิงเย่ถอนหายใจอย่างจนปัญญา
พอเปิดประตูเฟิงฉี่ถึงกับตาค้าง หน้าแดงทันที ดวงตาเบิกกว้าง แววตาเต็มไปด้วยความนับถือ
ที่เขาเห็นก็คือมือข้างหนึ่งของอีลั่วเสวี่ยยันที่ข้างตัวเฉวียนหมิงไว้ มืออีกข้างจับคางเขา รุกอย่างดุเดือด ภาพที่น่าตื่นเต้นนี้ทำให้เฟิงฉี่ถึงกับทำอะไรไม่ถูก
ในใจคิดว่า “โอ้โห เจ๊ฉันร้ายกาจจริงๆ ฝ่ายนั้นเป็นคนมีเสน่ห์ เป็นหนุ่มรูปหล่อ จนทำให้ฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายรุกจูบใส่…คงไม่มีใครกล้าทำอย่างเธออีกแลว”
อีลั่วเสวี่ยรู้สึกได้ว่ามีคนมองอยู่ จำเป็นต้องปล่อยมือออก หันมาเห็นเฟิงฉี่ ก็ทำตาเขียวใส่ “ไม่รู้จักเคาะประตูหรือไง เข้าใจไหมที่ต้องเคารพความเป็นส่วนตัวของคนอื่น?”
อีลั่วเสวี่ยท่าทางไม่พอใจ ส่วนเฉวัยนหมิงกลับมีท่าทางเหมือนได้กินขนมหวานแล้ว สีหน้าดูอ่อนหวาน กลับไม่โมโหที่พวกเขาถูกเฟิงฉี่รบกวน น่าแปลกจริง
เฟิงฉี่มีสีหน้าเหมือนถูกปรักปรำ เขาชี้ไปที่ประตู “เมื่อกี้ผมเคาะประตูแล้ว พวกคุณไม่ได้ยินหรือ อีกอย่าง ผมกลัวว่าพวกคุณคุยปรับความเข้าใจกันไม่ได้ อาจจะมีการลงไม้ลงมือกัน ก็เลยเข้ามาไกล่เกลี่ย”
ลูกบอลเงิน “เขาเคาะประตูแล้ว แต่พวกเจ้ากำลังเคลิบเคลิ้มเกินไปต่างหาก”
เคลิบเคลิ้มเกินไป…เคลิบเคลิ้ม..หรือ อีลั่วเสวี่ยเขินอายทันที แย่จริง เธอกลายเหมือนผู้หญิงใจถึงไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ต้องโทษที่เฉวียนหมิงหล่อและมีเสน่ห์เกินไป
“ลงไม้ลงมือหรือ ฉันกลัวว่าเราสองคนจะไม่ทะเลาะกัน แต่เป็นคุณที่จะโดนเล่นงาน” อีลั่วเสวี่ยยืนตัวตรงขึ้น กำหมัดแน่น จนมีเสียงดังขึ้น เฟิงฉี่ได้ยินก็กลัวจนตัวสั่น รีบหันมามองเฉวียนหมิงด้วยสายตาอ้อนวอน
“พี่เขย ผมไม่ได้ตั้งใจ คุณบอกให้พี่สาวยกโทษให้ผมเถอะ”
เฉวียนหมิงยิ้มอย่างเย็นชา สีหน้าสงบนิ่ง “เรื่องที่นายปิดบังฉัน ยังไม่ได้ให้อภัย อาเสวี่ย เล่นงานให้เต็มที่เลย”
เฟิงฉี่ได้ยินเช่นนั้นก็รีบก้าวพรวดออกไปจากห้องพร้อมกับปิดประตู แล้วตะโกน “พ่อจ๋าช่วยด้วย ตายแน่แล้ว”
อีลั่วเสวี่ยสั่นหัวอย่างจนใจเมื่อเห็นท่าทางเหมือนเด็กของเฟิงฉี่ ทั้งสองสบตากันแล้วยิ้ม เฉวียนหมิงสวมเสื้อคลุมและกางเกง ทั้งคู่เดินออกมาจากห้อง
พอดีนายท่านผู้เฒ่าถึงตอนนี้อดใจไม่ไหวมาเคาะประตูแล้ว จึงให้เขาเข้ามา
“เป็นไง เป็นไงบ้าง อาการดีขึ้นบ้างไหม?” นายท่านผู้เฒ่าเดินมาตรงหน้าเฉวียนหมิง มองสำรวจหลานชาย แล้วพบว่าเฉวียนหมิงมีท่าทางไม่ต่างจากก่อนที่จะหมดสติ จึงคลายความกังวลลงทันที
นายท่านผู้เฒ่ามองหมิงเย่ “ต้องขอบคุณหมอหมิงมาก แทงเข็มได้ผลดีจริงๆ วันหลังคงต้องรบกวนอีก ต้องเตรียมอะไรบ้างขอให้บอก จะได้เตรียมให้”
“ปู่ครับ ที่จริง…” ขณะที่เฉวียนหมิงจะบอกว่าความจริงว่าอีลั่วเสวี่ยเป็นคนแทงเข็ม แต่ถูกเธอหยิกที่ฝ่ามือ
“ที่จริงอะไรหรือ?” นายท่านผู้เฒ่าเอียงคอ มองดูมือของทั้งสองที่กุมกันอยู่ แม้ว่าสีหน้าจะไม่ดีนัก แต่ไม่ได้โมโหเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว