หมอยาหวานใจท่านประธาน - ตอนที่ 468-469
ตอนที่ 468 ข้อเรียกร้องของฟางจื่อชิว
“นายน้อย หุ้นบริษัทเราจากเมื่อวานถึงวันนี้ตกลงไปสี่จุดแล้ว” คิ้วเหล่าเกาขมวดแน่น นับตั้งแต่ที่นายน้อยเข้าบริหารเฉวียนกรุ๊ป หุ้นของบริษัทขึ้นลงไม่เกินห้าจุด ทั้งยังเป็นช่วงที่บริษัทอื่นๆ เผชิญกับจุดตกต่ำทางเศรษฐกิจด้วย
แต่ครั้งนี้เพียงแค่คืนเดียวก็ราคาลดลงมากขนาดนี้แล้ว ขืนเป็นอย่างนี้ต่อไปจะมีผลร้ายแรงมาก ต่อให้พวกเขาไม่เสียหายหนัก แต่ก็กระทบต่อการดำเนินงานและชื่อเสียงของเฉวียนกรุ๊ป
เพราะอย่างไรที่นักลงทุนในหุ้นเลือกพวกเขาเพราะเชื่อมั่นในบริษัท ถ้าขาดความเชื่อมั่นจะส่งผลร้ายแรง
สีหน้าเฉวียนหมิงสงบนิ่ง เพียงแต่ดูอ่อนล้าบ้าง บริษัทเผชิญเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ในฐานะประธานบริษัทจะไม่กังวลได้อย่างไร เขาต้องรับมือกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นระลอก ทำให้นอนไม่หลับหลายคืนแล้ว
โชคดีที่หลังจากอีลั่วเสวี่ยไปแล้วหนึ่งสัปดาห์ซึ่งตรงกับที่ธุรกิจเหล่านี้เริ่มพุ่งเป้ามาที่เขา นายท่านผู้เฒ่าไปทัศนาจรแล้ว วันถัดมาเขาจึงมีคำสั่งไม่ให้รายงานเรื่องนี้ให้นายท่านผู้เฒ่ารู้
แต่เมื่อเวลาผ่านไป นายท่านผู้เฒ่ากลับมา ย่อมต้องร้อนใจมาก
“ตอนนี้เคเอ็มคิวเป็นอย่างไรบ้าง? แบรนด์หลักนี้แยกออกไป แม้จะสังกัดเฉวียนกรุ๊ป แต่การบริหารและการดำเนินธุรกิจกัน”
เหล่าเกาเม้มริมฝีปาก “ยังนับว่าดีอยู่ครับ แต่ถ้ายังขืนเป็นอย่างนี้ต่อไป อาจจะได้รับผลกระทบ” การที่บริษัทหนึ่งประสบปัญหา เป็นไปไม่ได้ที่จะพังครืนลงไปทันที จะค่อยเป็นค่อยไปเหมือนโรคระบาด
“ตรวจสอบชัดเจนหรือยังว่าใครที่พุ่งเป้ามาที่บริษัทเรา?” ที่เขาปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามลงมือเล่นงานเฉวียนกรุ๊ป แต่กลับไม่โต้กลับอย่างรุนแรง เป็นเพราะเขาอยากรู้ว่าใครกันที่บังอาจทำเช่นนี้ คงเบื่อชีวิตแล้ว
อีกทั้งเขาเองก็อยากรู้ว่าตนเองได้ทำให้ใครไม่พอใจ ฝ่ายนั้นโจมตีอย่างรุนแรงดูแล้วเหมือนต้องการเล่นงานให้บริษัทเขาล้ม
เหล่าเกาชะงักเล็กน้อย แล้วยื่นเอกสารในมือให้ “นี่เป็นผลที่ตรวจสอบได้เช้านี้ คนที่เป็นตัวหลักในการโจมตีเรา นายน้อยอ่านดูก็จะรู้ครับ”
บางครั้งที่มองเห็นภายนอกอาจจะเป็นของปลอม สิ่งที่ตรวจสอบได้จริงจะไม่หลอกเรา
เขาเปิดเอกสารดู เป็นบริษัทแห่งหนึ่งในสังคมระดับสูง มีขนาดเล็กกว่าเฉวียนกรุ๊ปและหนานกรุ๊ป ใกล้เคียงธุรกิจของสกุลฟาง
พอเห็นผู้ที่บงการอยู่เบื้องหลังบริษัทนั้น แววตาเฉวียนหมิงหมองลงทันที “สกุลฟาง!” ตรงกับที่เขาคาดเดา พออ่านดูต่อไป ที่พอจะตรวจสอบได้ล้วนอยู่ในนี้
“นายน้อย ที่มั่วเฉินเซวียนกับไหลย่ากรุ๊ปเล่นงานเฉวียนกรุ๊ปเรา ผมพอจะเข้าใจ คงเพราะหมายตาเงินทุนมหาศาลของบริษัทเรา แต่ความสัมพันธ์ระหว่างสกุลฟางกับนายท่านผู้เฒ่า…”
ก่อนจะเอาเอกสารให้เฉวียนหมิง เหล่าเกาอ่านเอกสารเหล่านี้แล้ว เขาเองก็แปลกใจมาก แม้จะบอกว่าในแวดวงธุรกิจไม่มีเพื่อน แต่ก็ไม่น่าจะทำกับพวกเขาเช่นนี้
เฉวียนหมิงยิ้มหยัน “สกุลฟางเล่ห์เหลี่ยมจัดตลอดมา” โดยเปิดเผยนั้นในเขตเมืองเอฟเฉวียนกรุ๊ปและหนานกรุ๊ปเป็นกลุ่มธุรกิจระดับแนวหน้า ขณะที่ธุรกิจสกุลฟางดูไม่ใหญ่ไม่เล็ก เมื่อเป็นเช่นนี้จึงเลี่ยงการเป็นเป้าสายตาได้
ทันใดนั้นมือถือเหล่าเกาก็ดังขึ้น เขาเดินมาข้างๆ เพื่อรับสาย พบว่ายามประตูซึ่งทำหน้าที่รปภ.ด้วยโทรมา
“เอาละ ฉันรู้แล้ว รอถามความเห็นนายน้อยก่อน” พูดจบก็หันมาทางเฉวียนหมิง “นายน้อย คุณฟางจื่อชิวมาขอพบครับ” ผู้หญิงคนนี้มาหาในเวลานี้เพื่ออะไร
เฉวียนหมิงกลอกตาเล็กน้อย “ให้เธอเข้ามา ฉันจะลงไปพบเธอ” เขาอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้มาพบเขาเวลานี้ มีจุดมุ่งหมายอะไร
ตอนที่ 469 แต่งงานกับฉัน
“นายน้อยบอกให้เธอเข้ามา” เหล่าเกายกมือถือขึ้นพูด แล้ววางสาย
ขณะนี้ที่หน้าประตูคฤหาสน์ของเฉวียนหมิง บอดี้การ์ดซึ่งอยู่ด้านในของประตูถือมือถือฟังอยู่ แล้วผงกหัว จากนั้นจึงยิ้มให้ฟางจื่อชิว “เชิญครับคุณฟาง นายน้อยรอคุณอยู่”
“ดี” ฟางจื่อชิวยิ้ม เธอแน่ใจว่าต้องเป็นแบบนี้ ดังนั้นวันนี้จึงรีบร้อนมายื่นข้อเสนอ เธอทนรอไม่ไหว ต้องการเห็นเฉวียนหมิงยอมประนีประนอม
พอฟางจื่อชิวเข้ามาในคฤหาสน์ก็เห็นข้างในเต็มไปด้วยดอกไม้หลากสี รู้สึกจิตใจปลอดโปร่ง ดอกไม้เหล่านี้กำลังบานสะพรั่ง สวยงามมาก ใครก็ตามเมื่อเข้ามาในคฤหาสน์แห่งนี้จะรู้สึกผ่อนคลาย เธอชอบมาก
วันหน้าเธอต้องเป็นนายหญิงของที่นี่แน่นอน เธอจะปลูกดอกไม้ที่เธอชอบที่นี่ สร้างโลกและความรักที่เป็นของเธอ ยังไม่ทันทำสำเร็จเธอก็เริ่มลืมตัวแล้ว เหล่าเกายืนรอที่หน้าคฤหาสน์ พอเห็นฟางจื่อชิวมาก็เปิดประตูทันที เชิญเธอเข้าไปข้างใน “คุณฟาง เชิญครับ”
ฟางจื่อชิวเชิดหน้าขึ้น มายืนอยู่ตรงหน้าเหล่าเกาด้วยท่าทางเหมือนเป็นนายหญิงของที่นี่ เธอเดินเข้าไปด้านใน แล้วเห็นเฉวียนหมิงเดินลงมา มือข้างหนึ่งของเขาสอดในกระเป๋ากางเกง อีกข้างเกาะราวบันได
เฉวียนหมิงสวมเสื้อเชิร์ต ไม่กลัดกระดุมสองเม็ดบน มองเห็นความอิดโรยและสับสนบนตัวเขาได้ แต่ความหล่อเหลาทำให้คนที่มองไม่อยากละสายตาไปจากใบหน้าเขา จนฟางจื่อชิวตะลึงมอง
เธอยืนเหม่อมองเขาที่หน้าประตู จนลืมเปลี่ยนรองเท้า ราวกับโลกนี้เหลือเพียงเขาคนเดียวเท่านั้น
เฉวียนหมิงขมวดคิ้วเมื่อรู้สึกถึงสายตาที่ร้อนแรง ทำให้เดินเร็วขึ้น ก้าวพรวดๆ ลงมาถึงชั้นล่าง ส่วนฟางจื่อชิวเลิกเหม่อแล้ว เดินยิ้มมาที่ข้างโซฟา
“คุณฟางมาเยือน ไม่ทราบว่ามีธุระอะไร?” น้ำเสียงเฉวียนหมิงราบเรียบมาก แววตาสงบนิ่ง สายตาไม่เคยตกอยู่บนร่างเธอ ไม่สบตากับเธอ
แม้ฟางจื่อชิวจะไม่พอใจ แต่พยาบยามข่มโทสะไว้ เธอไม่สนใจว่าเฉวียนหมิงจะมองเธออย่างไร เพราะเธอรักเขา ต้องอยู่กับเขาให้ได้โดยไม่เลือกว่าต้องใช้วิธีการอะไร
ในใจเธอนึกไปเองอย่างไร้เดียงสาว่าขอเพียงได้อยู่กับเฉวียนหมิง พอเวลานานเข้า หลังจากที่มีลูกกับเขาแล้ว ก็จะกุมหัวใจเขาได้
“เฉวียนหมิง ฉันจะไม่พูดอ้อมค้อม เวลานี้เฉวียนกรุ๊ปเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่ คุณคงรู้เรื่องนี้แล้วใช่ไหม”
เฉวียนหมิงเหมือนยิ้มแต่ก็ไม่เชิง “รู้ อย่างผมจะไม่รู้ได้หรือ นี่ไม่ใช่ผลงานชั้นเยี่ยมของคุณฟางหรือ ว่าไง มารับรางวัลกับผมที่นี่หรือ”
ฟางจื่อชิวถูกเฉวียนหมิงเย้ยหยันจนหน้าเสีย เธอพูดสีหน้าจริงจัง “คุณเข้าใจผิดแล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องที่ฉันจะตัดสินใจได้ คุณเองก็รู้ อำนาจการตัดสินใจของธุรกิจสกุลฟางอยู่ในมือพี่ชายฉัน ปู่ก็ตัดสินใจได้ คงเพราะปู่ไม่พอใจเรื่องครั้งก่อน ฉันจะพยายามพูดเกลี้ยกล่อมปู่เอง”
ฟางจื่อชิวพูดจบก็ลองมองดูเฉวียนหมิงเป็นการหยั่งเชิง “แต่คุณก็รู้ ฉันไม่มีเหตุผลที่เหมาะ จึงมาสามารถพูดขอร้องปู่ให้สั่งพี่ชายฉันได้ ดังนั้นฉันมีข้อเรียกร้องให้คุณ ถ้าคุณตกลง ฉันจะช่วยอย่างเต็มที่”
“ข้อเรียกร้องอะไร?” สีหน้าเฉวียนหมิงสงบนิ่ง ไม่มีท่าทีแปลกใจหรือคาดหวัง
ฟางจื่อชิวได้ยินเช่นนั้น มีท่าทางเขินอายเล็กน้อย “ขอเพียงคุณแต่งงานกับฉัน ฉันจะพูดขอร้องให้ปู่กับพี่ชายฉันไม่เล่นงานเฉวียนกรุ๊ป แล้วสองตระกูลร่วมมือกัน กลายเป็นกลุ่มธุรกิจที่เข้มแข็งที่สุดในเมืองเอฟ”
จุดมุ่งหมายของเธอคือแต่งงานกับเฉวียนหมิง ให้เขาสลัดผู้หญิงคนนั้นทิ้งไป เป็นผู้ชายของเธอคนเดียวเท่านั้น เป็นของเธอได้เท่านั้น