หมอยาหวานใจท่านประธาน - ตอนที่ 474-475
ตอนที่ 474 ทำตัวเด่นแล้วจะยังไง
อีลั่วเสวี่ยพูดน้ำเสียงราบเรียบ “ติดตามฉันมานานขนาดนี้ หรือเจ้ายังไม่รู้ว่ามนุษย์เป็นสัตว์ที่ซับซ้อนมาก?”
พอเจอคำตอบเช่นนี้ เจ้าลูกบอลเงินถึงกับอึ้งไป เกาะอยู่ข้างเธอเงียบๆ
เมื่ออีลั่วเสวี่ยลงจากเครื่องบิน เธอสะพายกระเป๋าเดินไปข้างหน้า ทันใดนั้นสายตาก็ถูกทิศทางหนึ่งดึงไป ทางนั้นมีผู้คนออกันมากมาย ราวกับว่ามีดาราดังมากับเที่ยวบินนี้ด้วย มีคนยกมือถือขึ้นถ่ายรูปไม่หยุด
“หล่อจังเลย ดาราคนไหนหนอ ทำไมฉันถึงไม่เคยเห็น เป็นคนต่างชาติหรือ?” มีเสียงวิจารณ์เซ็งแซ่ บางคนถึงกับขวางเขาไว้เพื่อขอลายเซ็น
แต่คนเหล่านั้นถูกบอดี้การ์ดขวางไว้ อีกฝ่ายไม่พูดอะไร เดินตรงมาทางอีลั่วเสวี่ย
มุมปากอีลั่วเสวี่ยกระตุกทันทีที่เห็นคนที่ถูกคนรุมล้อม จะใครที่ไหน หนุ่มเฉวียนหมิงนั่นเอง จริงเลย เขามีบุคลิกและหน้าตาที่โดดเด่นไม่แพ้ดาราเลย
“จริงสิ เขาไม่ใช่ดารา เขาคือเฉวียนหมิงประธานแห่งเฉวียนกรุ๊ป เป็นประธานบริษัทหนุ่มที่มีความสามารถรอบด้าน! คุณพระช่วย ฉันอยากเป็นแฟนคลับเขาแล้ว” หญิงสาวที่จำเฉวียนหมิงได้พูดเสียงดังออกมา
คนเหล่านี้พากันร้องเรียกชื่อเฉวียนหมิง ทั้งยังขอลายเซ็นด้วย
จู่ๆ เฉวียนหมิงก็หยุดยืน ขณะที่คนเหล่านั้นคิดว่าเขาจะรับกระดาษจากแฟนๆ เพื่อแจกลายเซ็น คาดไม่ถึงว่าเขาจะถอดแว่นตาดำออก แล้วมองไปทางอีลั่วเสวี่ย
“ต้องขอโทษด้วย ผมไม่ว่างที่จะเซ็นให้ เพราะภรรยาผมรอผมอยู่ รบกวนพวกคุณช่วยหลีกทางหน่อย อย่าให้เธอต้องรอนาน อีกอย่างเธออาจจะนึกหึงก็ได้”
ขณะที่พูด สายตาเขามองไปทางอีลั่วเสวี่ย แววตาอ่อนโยน พอเขาทำเช่นนี้ทุกคนก็พากันสนใจ มองตามสายตาเขาไป เห็นอีลั่วเสวี่ยซึ่งอยู่ไม่ห่างนัก
พอพวกเขาเห็นหน้าตาอีลั่วเสวี่ย สาวๆ บางคนรู้สึกน้อยใจตัวเอง ฝ่ายนั้นหน้าตาสวยไม่แพ้ดาราเลย
หนุ่มรูปหล่อมักมีแฟนสวย พวกเธอหมดหวังแล้ว สู้ไปไล่ตามดาราดีกว่า อย่างน้อยพวกเขาก็ยังเป็นโสด
ถึงตอนนี้เฉวียนหมิงจึงเดินมาหาอีลั่วเสวี่ยอย่างง่ายดายท่ามกลางการแวดล้อมของบอดี้การ์ด
เขากางแขนออก กอดอีลั่วเสวี่ยซึ่งเตี้ยกว่าเขาหนึ่งศีรษะไว้แน่น ราวกับกอดสิ่งล้ำค่า คอยดูแลปกป้อง
“คิดถึงผมไหม ผมคิดถึงคุณแทบแย่”
ขณะที่อีลั่วเสวี่ยถูกเขากอด ก็ยื่นแขนออกไปกอดเอวเขาอย่างม่รู้ตัว รู้สึกมีความสุขเหลือล้น “คุณทายดูว่าฉันคิดถึงคุณไหม” เพิ่งจากกันไม่ถึงสามสัปดาห์ คงไม่ถึงกับคิดถึงจนเจ็บป่วยหรอก
“ไม่ต้องทาย คุณคิดถึงผมแน่นอน ผมรู้ดี” เฉวียนหมิงคลายมือออกจากอีลั่วเสวี่ย เปลี่ยนเป็นสองมือประสานกัน สายตาเปี่ยมด้วยความเสน่หา แววตาที่อ่อนโยนเยิ้มแทบจะหยดออกมา
คนที่ดูอยู่รอบๆ พากันใจเต้นตูมตามเมื่อเห็นฉากที่แสดงความรักอย่างหวานชื่นนี้ พากันใช้มือถือบันทึกไว้ทันที
“หวานซึ้งจริงๆ นี่ไม่ใช่การถ่ายละครนะ ทั้งหวานแหววทั้งโรแมนติค” หญิงสาวหลายคนเคลิ้มไปกับบรรยากาศเช่นนี้จนหน้าแดง ราวกับตนเองเป็นเจ้าของบทนี้
อีลั่วเสวี่ยรับรู้ถึงสายตาของคนรอบๆ ในใจวาบหวามแต่ก็รู้สึกเขิน “คริคริ คุณทำตัวอย่างนี้ โดดเด่นไปหน่อย”
“ผมชอบ” เฉวียนหมิงตอบโดยไม่ต้องคิด เขาจับมืออีลั่วเสวี่ยไว้ เดินตรงไปข้างหน้า เขาก้าวยาวๆ ไป ในสายตาคนเหล่านี้ช่างน่าดูจริงๆ
ในบริเวณสนามบิน คนที่กำลังจะออกจากสนามบินด้านนี้พากันหันมาสนใจพวกเขา แต่ไม่ได้ทำให้รปภ.แตกตื่น เพราะคนเหล่านี้ไม่ได้ก่อความวุ่นวาย
ความจริงคนเหล่านี้ต่างกลัวว่าจะทำลายบรรยากาศที่สวยงามนี้ จึงทำตัวเป็นผู้ชมที่ดี
ตอนที่ 475 งั้นก็แย่แล้ว
เฉวียนหมิงไม่คิดว่าเป็นเรื่องสำคัญ “เด่นแล้วจะเป็นยังไง คุณเป็นของผม บอกกับทุกคนได้ ไม่มีอะไรต้องปิดบัง” ก่อนนี้เขาคำนึงว่าเธออาจจะไม่รักเขา ไม่อยากทำร้ายเธอ
แต่เวลานี้ไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องนี้แล้ว หัวใจเธออยู่กับเขา เขาจึงไม่มีเหตุผลที่ต้องปิดบังอีกต่อไป จะอย่างไรก็ตามเขาต้องการให้ทั้งโลกรับรู้ว่าคนที่เขารักคือเธอ เธอเท่านั้น
พออีลั่วเสวี่ยได้ยินเช่นนี้ก็ตอบด้วยรอยยิ้มที่อ่อนหวานเปี่ยมด้วยความสุข ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
ใช่แล้ว แม้การทำอย่างนี้ออกจะน่าเกลียดไปหน่อย เหมือนการเสแสร้งในละครทีวี แต่ในใจรู้สึกปลาบปลื้มจริง ผู้หญิงคนไหนบ้างที่ไม่ชอบให้ชายที่ตนรักประกาสว่าที่เขารักคือตนเอง
รอจนทั้งคู่ออกไปแล้ว ผู้คนในห้องโถงสนามบินยังไม่อาจสงบลง คู่นี้ช่างเหมาะสมกันจริงๆ ในใจของทุกคนมีความคิดตรงกันว่าโลกนี้มีเพียงคู่นี้ที่เหมาะสมกันที่สุด
“ทำไงดี เรามารักกันดีไหม” มีหญิงสาวคนหนึ่งดึงมือเพื่อนหญิงของตัวเอง สีหน้าคาดหวัง
“ฉันก็เหมือนกัน…” ใครว่านิทานเป็นเรื่องโกหก ในทีวีเป็นแค่การแสดง มีเรื่องจริงปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกเขาแล้วไม่ใช่หรือ ช่างโรแมนติค ช่างมีความสุขเหลือเกิน
คนหนึ่งที่เดินผ่านมา “ก่อนนี้ฉันไม่เชื่อในความรัก แต่ตอนนี้เชื่อแล้ว” สีหน้าเบิกบาน แสดงถึงความเชื่อมั่นที่มาจากในใจ ทั้งยังเริ่มรักชีวิต รักโลกใบนี้
ความรักของทั้งคู่ในสนามบินถูกเผยแพร่ออกไปทางเน็ตอย่างรวดเร็ว ผสมไปกับเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นกับเฉวียนกรุ๊ป ทำให้ยอดติดตามและยอดกดไลค์สูงขึ้น
แม้แต่ราคาหุ้นที่กำลังตกลงก็มีแนวโน้มดีดสูงขึ้น
แต่ขณะนี้มีคนไม่น้อยที่กำลังสนใจเรื่องนี้ เช่นหญิงสาวที่หลงรักเฉวียนหมิงอย่างฟางจื่อชิว
หลังจากเธอขว้างมือถือทิ้งแล้ว ผู้ช่วยเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้ พอเธอเปิดดูข่าว ก็เจอภาพที่เฉวียนหมิงกับอีลั่วเสวี่ยกอดกันอย่างมีความสุขในสนามบิน รวมทั้งคำพูดของเฉวียนหมิงด้วย ฟางจื่อชิวโกรธจนกำมือถือไว้แน่น
“น่าแค้นนัก น่าแค้นนัก! นางสารเลว!” ตอนกลางวันเธอเพิ่งไปคุยเงื่อนไขต่อรองกับเฉวียนหมิง ยังให้เวลาเขาคิดหนึ่งวัน เรื่องนี้หมายความว่าอย่างไร เท่ากับตบหน้าเธอชัดๆ
เห็นได้ชัดว่าเป็นการบอกเธอทางอ้อมว่าเงื่อนไขที่เธอเสนนั้อนเป็นไปไม่ได้ ทั้งฝ่ายนั้นไม่ได้คิดจะพิจารณาแม้แต่น้อย
ในห้องเปี่ยมด้วยบรรยากาศของความโกรธแค้น ราวกับว่าถ้ามีประกายไฟเพียงเล็กน้อยทุกอย่างรอบๆ ก็จะลุกไหม้ขึ้น
“ดีมาก ดีจริงๆ ดีเป็นพิเศษ!” ฟางจื่อชิวปิดมือถือ กำไวแน่น แล้วขว้างออกไปข้างๆ คราวนี้บังเอิญตกลงบนโซฟา สุดท้ายกลิ้งลงไปบนพื้น มือถือไม่เสียหายแม้แต่น้อย
“อีลั่วเสวี่ย เฉวียนหมิง ดีมาก พวกคุณดีมาก ดูแล้วพวกคุณตัดสินใจที่จะเป็นคู่รักที่ตายพร้อมกัน งั้นฉันจะช่วยให้สมหวัง” สีหน้าฟางจื่อชิวฉายแววอำมหิต ใบหน้าบิดเบี้ยวดูน่ากลัว
อะไรที่เธอไม่ได้ คนอื่นก็อย่าหวังว่าจะได้ เฉวียนหมิงเป็นผู้ชายที่เธอต้องการมาตั้งแต่เด็ก แต่เมื่อเขาไม่ได้เป็นของเธอ แล้วจะปล่อยให้คนอื่นได้อย่างไร ยอมไม่ได้
เธอกัดฟันกรอดๆ ขณะที่ยืนขึ้นก็มองเห็นมือถือบนพื้น ทำให้ยิ่งโมโห
“แม้แต่แกก็เป็นปฏิปักษ์กับฉัน!” แล้วกระทืบเท้าลงไปหนักๆ หลายครั้ง มือถือใหม่เอี่ยมถูกเหยียบจนแตกกระจาย
ขณะที่เธอสั่งให้ผู้ช่วยเปลี่ยนมือถือเครื่องใหม่ ฟางจื่อชิวไม่ได้มองดูสีหน้าของผู้ช่วยที่พะอืดพะอมราวกับกลืนแมลงวันลงไป
แต่สำหรับคู่รักที่หวานชื่นคู่นี้ที่กำลังนั่งรถเดินทางออกจากสนามบิน ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่าหลังจากเกิดเรื่องนี้แล้ว จะยิ่งทำให้ฟางจื่อชิวเคียดแค้น ขณะนี้ฟางจื่อชิวเปลี่ยนจากความรักกลายเป็นความแค้นแล้ว