หมอยาเสน่ห์หา - ตอนที่ 23 การเปลี่ยน
ตอนที่ 23 การเปลี่ยน
“ทุกท่านไม่ต้องมากพิธี ข้ามาเพื่อต้องการหาวิธีรักษาพิษ ให้พระชายาร่วมกับพวกท่าน เพียงเท่านั้น”ชูเซียกล่าวมา
เดินเข้ามา
หมอหลวงเฉินจึงกราบทูลว่า “พวกกระหม่อมค้นหาตำรา มาทุกเล่มแล้ว แต่ก็จนปัญญาที่จะวินิจฉัยได้ว่าอาการป่วย ของพระชายามาจากพิษชนิดใดได้พะย่ะค่ะ”
หมอหลวงท่านหนึ่งดึงเก้าอี้ออกมาให้ชูเซี่ยนั่ง และเมื่อชู เซี่ยได้นั่งลงอ่านตำราสักพักหนึ่ง นางจึงบอกกับหมอหลวง ว่า”ในยามนี้การจะมานั่งค้นหาว่าเป็นยาพิษชนิดใดนั้น ข้า เกรงว่าอาจจะไม่ทันการณ์ได้นะท่านหมอ ข้าว่าให้พวก ท่านลองหาว่ามีสมุนไพรชนิดใดที่สามารถถอนสารพัดพิษ ได้จะดีกว่า”
“พระชายานิงอันกล่าวได้ถูกต้อง การมัวแต่หาชนิดของ พิษทำให้เสียเวลา เช่นนี้แล้วพวกเราลองคันหายาถอนพิษ กันจะดีกว่า ไม่ทราบว่าพระชายาเคยได้ยินเกี่ยวกับหญ้า หลินเฉ่าหรือไม่”
“ท่านหมอหลวงหมายถึงชะเอมอย่างนั้นหรือ”กับหมอ หลวงท่านนี้ ชูเซี่ยให้ความเคารพนับถือมากในสำนักหมอ หลวง ผู้คนล้วนแต่เป็นผู้อาวุโสกว่านาง เดิมที่สมัยนางยัง อยู่ในยุคของนางนั้น ก็ได้เรียนเกี่ยวหญ้าชะเอมมาบ้างว่า มีสรรพคุณในการถอนพิษได้หลากหลายชนิด แต่ว่ายาพิษ ที่พระชายาได้รับออกฤทธิ์รุนแรง นางเกรงว่าอาจจะไม่ได้ ผล
“หามิได้พะย่ะค่ะ พระชายา หญ้าหลิ่นเฉ่าที่กระหม่อม กล่าวอยู่ในตระกูลหญ้าชะเอมก็จริงอยู่ แต่หญ้าชนิดนี้ สามารถเติบโตได้ในยอดเขาที่สูงเท่านั้น กล่าวว่าในเขา หนึ่งลูกสามารถพบได้เพียงต้นสองต้นเท่านั้น เป็นของหา ยากอย่างยิ่ง หญ้าหลินเฉ่าชนิดนี้สามารถแก้ได้สารพัด พิษ”เยี่ยนพ่านกล่าวก็จะยื่นตำราเล่มหนึ่งออกมาตรงหน้า นาง เป็นตำราที่เก่าแก่มากเล่มหนึ่ง บนหน้าตำราจารึกตัว อักษรไว้เพียงสั้นๆ ตำราแพทย์เหมียวเจียง
“นี่มันตำราอะไรกันท่านหมอ”ชูเซี่ยถามอย่างสนอกสนใจ
“นี่คือตำราแพทย์เหมียวเจียงพะย่ะค่ะ เป็นตำราที่อาจารย์ ของกระหม่อมนำกลับมาจากเหมียวเจียงเมื่อนานมาแล้ว แม่ว่าสภาพตำราจะได้รับความเสียหายอย่างหนักจนตัวอักษรบางหน้าเลือนรางขาดหายไปบ้าง แล้ว แต่บางหน้าก็ยังพออ่านออกอยู่บ้าง เช่นหน้านี้ ที่มี การบันทึกเรื่องราวของหญ้าหลินเฉ่าอยู่ด้วย หญ้าหลินเฉ่า แก้ได้สารพัดพิษ ใบเรียว เป็นพืชไม้เลื้อย น้ำยางของต้น เป็นเมือกสีดำ มีจุดด่างเป็นวงกลมเล็กๆสีขาวบนใบ” เยี่ย ฟานบรรยายลักษณะของหญ้าหลินเฉ่าออกมาให้ทุก คนในที่นี้ฟัง เนื่องจากในตำราเล่มนี้ไม่มีรูปวาดของหญ้า หลิ่นเช่าบันทึกอยู่
ชูเซี่ยได้ยินดังนั้นก็ชะงักไปชั่วครู่ ก่อนปรี่ไปแย่งตำรา มาดูเอง นางรู้สึกคุ้นเคยกับลักษณะของหญ้าหลินเฉ่านี้ อย่างมาก ราวกับเคยเห็นที่ไหนมาก่อน เมื่อนางลองใช้ สมองขบคิดดูแล้วก็นึกขึ้นมาได้ ใช่แล้ว ในศตวรรษที่ 21 ของนาง นางได้มีโอกาสไปงานประชุมวิชาการทางการ แพทย์มาก่อน ภายในงานมีบุคลากรานหนึ่งที่เดินทางมา จากเหมียวเจียงบรรยายถึงสมุนไพรชนิดนี้ ซ้ำหลังจากนั้น เขายังนำรูปมาให้นางดูอีกด้วย ตอนนั้นนางลืมไปเสียสนิท ว่าหญ้าชนิดนั้นมีชื่อว่าอะไร แต่ตอนนี้นางนึกออกแล้วว่า หญ้าชนิดนั้นมันมีชื่อว่า”หานจูหลินเฉ่าแก้พิษทุกชนิด เป็น ยาลำค้าที่มีสรรพคุณเป็นเลิศ
นางถึงกับอุทานออกมา”หญ้าหลินเฉ่าชนิดนี้ ข้าเคยพบ
มันมาก่อน”เพราะครานั้นบุคลากรานนั้นนำรูปถ่ายให้นางดู
นางจึงจำภาพได้อย่างชัดเจน
เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้นต่างก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เยี่ย นพ่านรีบเอ่ยถามขึ้นอย่างตื่นเต้น”พระชายาเคยพบมาก่อน หรือ นั่นเป็นเรื่องดียิ่ง ท่านพบมันที่ไหนมาก่อนหรือ ได้เด็ด กลับมาหรือไม่”
ชูเซี่ยส่ายศีรษะ”ข้าไม่เคยพบของจริงมาก่อน เห็นก็ เพียงแต่ในรูปเท่านั้น และข้าก็ยังไม่มั่นใจอีกด้วยว่ามันจะ สามารถรักษาพิษได้จริงหรือไม่”เมื่อได้ยินนางกล่าวเช่น นั้นสายตาผิดหวังก็เข้ามาแทนที่ความดีใจเมื่อครู่ รู้จักไปก็ เปล่าประโยชน์ ไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าจะสามารถหาได้จากที่ใด พื้นดินกว้างใหญ่ จะไปหาที่ใดได้เล่า
เมื่อเยี่ยนพ่านเห็นท่าทางของเหล่าหมอหลวงทั้งหลาย ก็พยายามให้กำลังใจ”เอาเถอะ อย่างน้อยเราก็รู้มิใช่หรือ ว่ามันมีสมุนไพรชนิดนี้อยู่จริงๆ หากเป็นเช่นนั้นพวกท่านก็ ลองค้นหาตามตำราดูเถิดว่ามีภูเขาใดบ้างที่มีโอกาสที่หญ้า หลินเฉ่าจะเติบโตขึ้นได้บ้าง
ในยามนี้ทุกคนต่างจมอยู่กับกองตำราอีกครั้งหนึ่งชั่วยาม ผ่านไป สองชั่วยามผ่านไป ท้องฟ้าภายนอกเริ่มเปลี่ยนเป็น ความมืดมิดเข้ามาแทนที่ อากาศภายนอกเริ่มชื้นขึ้น คาดว่า คงมีฝนโปรยลงมาอีกไม่ช้า
จนถึงยามนี้เหล่าหมอหลวงก็มีเพียงหมั่นโถวเท่านั้นที่พอจะรองท้องเพื่อประทังชีวิตไปก่อน เนื่องด้วยตอนนี้ อาการของพระชายายังคงไม่สู้ดีนัก อ๋องเจิ้นหยวนก็เช่น กัน เพราะเรื่องนี้กระทบต่อจิตใจและความมั่นคงของบุรุษ ที่ได้ชื่อว่าเป็นเสาหลักของบ้านเมือง หากเกิดอันใดขึ้นกับ เขาแล้ว ประชาชนคงมิอาจอยู่ได้อย่างสงบสุขเป็นแน่
“พบแล้ว!”หมอหลวงเฉินดีใจจนเสียจริต ชูมือขึ้นกระโดด ราวกับว่าตนเป็นเด็กน้อยผู้หนึ่ง”ที่หุบเขาเทียนหลาง ใน ตำราเล่มนี้บันทึกไว้ว่าบนยอดเขาเทียนหลางมีหญ้าหลิน เฉ่าเติบโตอยู่บนนั้น พระชายาดูนี่สิพะยะค่ะ”
ทุกคนต่างโผกายเข้าไปล้อมรอบหมอหลวงเฉิน ชูเซี่ยจึง ถือตำราเล่มนั้นไว้พร้อมอ่านออกเสียง”หุบเขาเทียนหลา งเป็นสถานที่ที่มีพืชสมุนไพรล้ำค่ามามากมายเติบโตที่นั่น แต่ก็ยากจะเข้าถึงได้เนื่องด้วยบริเวณหุบเขามีเป็นแหล่ง ที่อยู่อาศัยของอสรพิษจำนวนมาก มีผู้คนพยายามเข้าไป ในเขตหุบเขามิน้อย แต่ก็ไม่สามารถร้อนพันจากเขตแดน อสรพิษเหล่านั้นได้ บ้างก็ได้รับพิษจากการถูกอสรพิษกัด บ้างก็นำชีวิตไปทิ้งไว้ที่นั่น แต่ต่อมามีผู้รอดชีวิตจากหุบเขา แห่งนั้นมาได้ผู้หนึ่ง เขาผู้นั้นมีชื่อว่า หานจู เป็นผู้ค้นพบ สมุนไพรหลินเฉ่า และสามารถนำหญ้าหลินเฉ่ามารักษา ชีวิตคนได้มากมายจนทุกคนพากันขนานนามเรียกหญ้าชนิดนี้ตามชื่อ ของเขาว่า”หานจูหลินเฉ่า “เพื่อเป็นเกียรติแก่คุณงามความ ดีของเขา”
ชูเซี่ยร้องออกมาอย่างดีใจ”ไม่ผิด ก็คือหญ้าหานจูหลิน เฉ่านี่ล่ะ งั้นข้าจะรีบเดินทางหุบเขาเทียนหลางเดี๋ยวนี้”พูด จบนางก็หันกายออกจากสำนักทันที
“ช้าก่อนพระชายา มิได้พะย่ะค่ะ พวกเราควรนำเรื่องนี้ ไปกราบทูลแก่องค์ฮ่องเต้เสียก่อน ให้ฮ่องเต้รับสั่งส่งคน ออกไปหุบเขาเทียนหลางเพื่อตามหาหญ้าหลินเฉ่าจะดี กว่า หุบเขาเทียนหลางมีอสรพิษมากมาย ท่านเป็นเพียง สตรีจะให้ไปสถานที่อันตรายเช่นนั้นได้อย่างไรกัน หุบเขา เทียนหลางสูงชันนัก แม้แต่ผู้มีวรยุทธสูงส่งยังลำบาก ไม่ ต้องเอ่ยถึงผู้ไม่มีวรยุทธเช่นท่าน เกรงว่าแม้แต่ครึ่งเขายัง ลำบาก”เมื่อเห็นชูเซี่ยรีบร้อนปานนั้นใต้เท้าเยี่ยนพ่านก็รีบ เอ่ยทัดทานทันที
เมื่อชูเซี่ยลองนึกตามก็เห็นด้วย นางไม่เคยไปหุบเขา เทียนหลางมาก่อนย่อมไม่อาจเข้าใจลักษณะภูมิประเทศ ของยอดเขาแห่งนั้นได้อย่าว่าแต่ลักษณะของเขาเลย แม้แต่ตั้งอยู่ที่ใดนางก็ยังไม่ทราบ นางจึงไม่ดื้อดึงอีก”เช่น นั้นก็ได้ พวกเราเอาเรื่องหญ้าหลินเฉ่าไปกราบทูลฝ่าบาท กันก่อน ให้ฝ่าบาทรับสั่งจัดหาคนไปตามหาก็แล้วกัน!”
ยามนี้เหล่าหมอหลวงพร้อมหน้ากันยื่นถวายตำราแพทย์ เหมียวเจียงให้แก่องค์ฮ่องเต้ เมื่อฮ่องเต้ทราบเรื่องราวทั้ง หมอจากใต้เท้าเยี่ยนพ่านก็เอ่ยออกมาเสียงเย็น”หุบเขา เทียนหลังมิได้ไกลจากที่นี่มากนัก เพียงแต่การจะไป หุบเขาเทียนหลางมิใช่เรื่องง่าย มีอันตรายมากมายรอ คอยพวกมาเยือนอย่างพวกเจ้า นี่มิใช่เรื่องง่าย ต่อให้คน ของเราไปถึงยอดเขาได้จริงๆ ก็ใช่ว่าจะพบหญ้าหลินเฉ่า หุบเขากว้างใหญ่ มันก็มิต่างจากงมเข็มในมหาสมุทร พวก เจ้าว่ามิใช่หรือ”
“ทูลเสด็จพ่อ หากฮ่องเต้กังวล เช่นนั้นหม่อมฉันยินดี ติดตามไปหาสมุนไพรตัวนี้ด้วยอีกคนหนึ่งเพคะ เนื่องจาก หม่อมฉันเคยเห็นมันมาก่อน จึงทราบดีว่าหญ้าชนิดนี้ ต้องตามหาในสภาพดินแบบไหน สภาพอากาศเช่นไร เพคะ”ชูเซี่ยกราบทูลขอพระราชอนุญาต
“มิได้เป็นอันขาด มันอันตรายเกินไป ภูเขาสูงถึงปานนั้น ทั้งยังมีอสรพิษมากมาย หากเกิดอะไรขึ้นกลับเจ้าเราจะ มีหน้าไปพบเหล่าบรรพบุรุษของเราได้อย่างไร”
ชูเซี่ยก็เอ่ยทูลกลับอย่างอดทนใจเย็น”เสด็จพ่อเพคะ เรื่องนี้ล่าช้ามิได้ เพราะเกี่ยวพันถึงชีวิตคน อาการของพระชายายามนี้ไม่สู้ดีนัก นางอาจทนรับพิษนานมากมิได้ ทุกวินาทีในตอนนี้ล้วนมีค่า ยิ่งฮ่องเต้ตัดสินพระทัยช้าก็จะ ยิ่งอันตรายต่อชีวิตของพระชายาเจิ้นหยวนมากขึ้นเท่านั้น นะเพคะ”
“นั่นขึ้นอยู่กับเงื่อนไขหลายข้อ ยามนี้เรามิใช่กล่าวถึงการ เย็บปักถักร้อย แต่กล่าวถึงการเดินทางขึ้นเขาฝ่าฟันความ ลำบากท่ามกลางดงอสรพิษ ระหว่างทางอันตรายยิ่งนัก เจ้ารู้หรือไม่ เจ้าเป็นเพียงสตรีในเรือนหอ คงยังไม่รู้ชัดเจน ถึงอันตรายของโลกภายนอก การเดินทางขึ้นหุบเขาเทียน หลางนั้นยากยิ่งกว่าเดินทางขึ้นสวรรค์เสียอีก”ฝ่าบาท พยายามหาเหตุผลต่างๆเพื่อหยุดสตรีหัวดื้อนางนี้
ยามนี้หลี่เฉินเย่นเข้าใจถึงเรื่องราวทั้งหมดแล้ว จึงก้าว ออกมาหน้าพระพักตร์ของฝ่าบาท กระหม่อมขออาสานำ กำลังพลขึ้นเขาเทียนหลางเพื่อตามหาหญ้าหลินเฉ่าเองพะ ยะ”
ใบหน้าขององค์ฮ่องเต้อ่อนโยนลงเล็กน้อย”อืม หากเป็น คนที่มีความสามารถเช่นเจ้า เราเชื่อว่าเจ้าต้องสามารถนำ หญ้าหลินเฉ่ากลับมาได้อย่างแน่แท้”
ใบหน้าเย็นชาของหลี่เฉินเย่นมองมาทางชูเชี่ย”เจ้าเคยพบหญ้าหลินเฉ่ามาก่อน เช่นนั้นก็ให้คนไปเชิญนักว่าด มาวาดรูปลักษณะของหญ้าหลินเฉ่าออกมาให้ข้า ข้าจะ ต้องหาเจออย่างแน่นอน”
ชูเซี่ยทราบแก่ใจดีว่าไม่อาจเถียงบุรุษสองผู้นี้ได้”สั่งคน ให้เตรียมอุปกรณ์ให้ข้า ข้าจะลงมือวาดออกมาให้ละเอียด ที่สุด กลัวว่าหากให้นักวาดมาวาดตามคำที่ข้าบอกจะออก มาไม่สมจริงเท่าใดนัก”
“เจ้าน่ะหรือจะวาดภาพ”หลี่เฉินเย่นมองใบหน้านางอย่าง ข้องใจ เขารู้จักหลิวหยิงหลงมานานหลายปี เรื่องตีพิณวาด รูปเล่นหมากรุก ศาสตร์ทั้งสี่ที่สตรีทุกคนควรรู้นางล้วนไม่ สันทัด
“ก็มิอาจเรียกได้ว่าถนัด แค่สามารถวาดออกมาเป็น เค้าโครงได้เท่านั้น “แน่นอนว่านางโกหก ฝีมือการวาดภาพ ของนางในยุคศตวรรษที่ 21 เรียกได้ว่าเทียบเท่ากับเหล่า อาจารย์ด้านศิลป์ดังๆเลยก็ว่าได้
เมื่อกระดาษและอุปกรณ์วาดเขียนถูกจัดเตรียมลงบนโต๊ะ มีนางกำนัลฝนหมึกอยู่ข้างๆ นางก็มิรอช้าจ่มปลายพู่กัน หลับตานึกถึงลักษณะของหญ้าหลินเฉ่าที่นางเคยเห็นรูป ถ่ายจากบุคคลากรเหมียวเจียงท่านนั้นและลงมือตวัดปลาย พู่กันทันที เพียงตวัดแต่งเติมแต้มหมึกลงบนผืนกระดาษไม่นาน ภาพหญ้าหลินเฉ่าก็ค่อยๆปรากฏขึ้นมา ในที่สุด
เมื่อฮ่องเต้ทอดพระเนตรเห็นก็อดเอ่ยชื่นชมมิได้ไม่เลว นึกไม่ถึงว่าลูกสะใภ้ของเราจะมีฝีมือด้านวาดเขียนเป็น เลิศ”
“เสด็จพ่อชมหม่อมฉันเกินไปแล้วเพคะฝีมือของหม่อม ฉันยังอ่อนหัดนัก มิอาจเรียกได้ว่ามีฝีมือเป็นเลิศหรอก เพคะ การวาดภาพของหม่อมฉันต้องขายหน้าเสด็จพ่อ แล้ว”ชูเซี่ยแสร้งทำเป็นเขินอาย เอ่ยออกมาอย่างถ่อมตน นั่นยิ่งทำให้ฝ่าบาทรู้สึกเอื้อเอ็นดูนางเพิ่มขึ้นอีกหลายส่วน
หลี่เฉินเย่นมองนางด้วยสายตาซับซ้อนระคนหวาดระแวง หรือว่าแท้จริงที่ผ่านมานั้นนางเพียงแค่เล่นงิ้วเท่านั้น เขา ยังจำได้ว่าเมื่อก่อนนั้นนางยามวาดรูปสุนัขตัวหนึ่งยังออก มาเป็นสุกรเสียได้
เมื่อมีรูปหญ้าหลินเฉ่า ทุกอย่างก็ดูจะง่ายได้ขึ้น รอจน หมึกแห้ง หลี่เฉินเย่นจึงจัดเก็บเข้าแขนเสื้อของตน”ลูกจะ ออกเดินทางที นับจากวันนี้ภายในเวลาสามวันให้หลัง ลูก จะต้องกลับมาที่นี่อย่างแน่นอนพะย่ะค่ะ”
แม้ชูเซี่ยจะอยากตามเขาไปด้วยมากเพียงใด แต่เมื่อฝ่า บาทมิอนุญาติ นางก็ได้แต่จนปัญญา มิสามารถทำอะไรได้ อีก
“ทูลฝ่าบาท แต่กระหม่อมเห็นว่าควรให้พระชายานิงอัน เดินทางไปด้วยพะย่ะค่ะ”ใต้เท้าเยี่ยนพ่านที่เงียบอยู่นาน ในที่สุดก็ออกความเห็นออกมา เขาเห็นควรว่าการเดิน ทางในครั้งนี้ควรให้ชูเซี่ยเดินทางไปด้วยเป็นดีที่สุด
“เพราะเหตุใด”ฮ่องเต้ไม่เข้าพระทัย
ใต้เท้าเยี่ยนพ่านจึงรีบกราบทูล”หุบเขาเทียนหลางมี อันตรายมากมายก็จริงอยู่ แต่ในเมื่อผู้ที่เดินทางไปด้วยคือ ท่านอ๋อง เช่นนั้นแล้วการพาตัวพระชายาไปด้วยย่อมมิใช่ เรื่องลำบากอันใด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือทางเรามีกระดาษรูป วาดของหญ้าหลินเฉ่าเพียงใบเดียว การจะให้ออกตามหา พลิกภูเขาทั้งลูกมิใช่เรื่องง่าย อีกทั้งท่านอ๋องก็มิทราบว่า หญ้าชนิดนี้เติบโตขึ้นในสถานที่เช่นไร มีวิธีการเก็บแบบ ใด หากเก็บพลาดหญ้าเกิดความเสียหาย ก็เกรงว่าจะมี สามารถหาหญ้าต้นที่สองในภูเขาลูกเดียวกันได้อีกแล้ว!”
“เจ้ากล่าวได้ถูกต้อง วิธีการเก็บกลับมายังเป็น ปัญหา”คราวนี้ฮ่องเต้กริ้วขึ้นมาจริงๆ ฮ่องเต้เป็นถึงโอรสสวรรค์ อยู่ใต้ฟ้าเหนือคนทั้งแผ่นดิน แต่ในโลกมีกลับ มีอีกหลายสิ่งที่เกินกำลังของโอรสสวรรค์อย่างฮ่องเต้ จึง ได้แต่สะกดกลั้นอารมณ์ของตนไว้แต่เพียงผู้เดียว มิอาจ เปิดเผยออกไปให้ผู้ใดรับรู้ได้
“ทูลเสด็จพ่อ จริงแท้แน่นอน หลินเฉ่ามีรากค่อนข้างลึก มองภายนอกอาจเห็นเพียงต้นที่มีใบเรียวสั้น แต่รากกับมี ความยาวหลายเมตร และรากของหญ้าหลินเฉ่านี้มีความ สำคัญในการปรุงยาถอนพิษเป็นอย่างมาก ดังนั้นมิอาจ ทำให้เกิดความเสียหายใดๆกับรากของมันได้ ที่ขึ้นก็แปลก ประหลาดนัก กล่าวกันว่าเสือสองตัวมิอาจอยู่ถ้ำเดียวกันได้ เช่นเดียวกันกับหญ้าหลินเฉ่าที่มีเพียงต้นเดียว เพราะฉะนั้น อนุญาติให้หม่อมฉันไปด้วยเถอะเพคะ หม่อมฉันรับรองว่า จะไม่ทำให้ท่านอ๋องเกิดความลำบากอย่างแน่นอนเพคะ”
“ลูกข้า เจ้าเห็นเป็นเช่นไร”พระเนตรของฝ่าบาทมองสบ
กับดวงตาคมเข้มของบุตรชายตน
เดิมหลี่เฉินเย่นหาได้มีแม้แต่เสี้ยวความคิดที่จะพาชูเซี่ย ไปด้วย แต่ว่าในยามนี้ชีวิตของพระชายาเจิ้นหยวนสำคัญ กว่าสิ่งใดทั้งสิ้น บุญคุณความแค้นใดๆที่เขามีต่อนางก็ควร จะวางลงเสียก่อน”เสด็จพ่อ ลูกยินดีที่จะพานางเดินทางไป กับข้า ด้วยว่านางเคยเห็นหญ้าหลินเฉามาก่อมามางiาจมช่ายเหลือช้าระหว่างทางได้
ชองแต้ไทรมเสลเล็กน้อยก่อนตรัสว่า “ ในเมื่อเจ้าเอ่ย มาเisแล้ไปเสพานางไปด้วยกันกับเจ้าเถิด แต่ระหว่าง ทาสงเจองคอนระแวดระวัง และดูแลนางให้ดี อย่าให้ง แลี้ยามชียกรของทักนันตชายนางได้ล่ะ”
Trระหรiรวมบทราม หลี่เฉินเผ่นรับปาก
ขณะเดีเยาก็มซูเซียเดินถอนหายใจออกจากห้องหนังสือ พร้อมกับปได้เทาเสี่ยนพ่านในช่วงเวลาสามวันนี้ ท่านช่วย ให้ตนรายยกให้แก่พระชายาอย่างต่อเนื่องด้วย แม้พระ อาการจะ หนักรู้แต่อย่างน้อยเราจะต้องประคอง พระมาการรงรองแต่ไช้ และชะลอไม่ให้พิษกระจายไป TITHd1″
“พระชายาโปรดาบ้าน พระทัย หม่อมฉันจะทุ่มเทสุดความ สามารถขอเงหม่อนเย็นเพื่อรักษาชีวิตของพระชายาเจ็น หยาบพระบะค่ะ ได้เท้าเสี่ยนท่านยืนยันหนักแน่น และกล่าว ต่อว่า “ขอไปทัทกระชาเยานเดินทางปลอดภัย รักษาตัวด้วยพะ ยะคะ
“ขอปใจมาn”เที่ยวตอนกลับได้เท้าเยี่ยนฟานและทันกลับไปถามหลี่เฉินเย่นว่า”เช่นนั้น พวกเราต้องกลับไป เก็บข้าวของเตรียมเดินทางตอนนี้เลยหรือไม่”
หลี่เฉินเย่นตอบกลับอย่างเฉยเมยว่า ไม่ต้องเตรียมอะไร ทั้งนั้น เราจะต้องออกเดินทางกันเดี๋ยวนี้”
“ออกเดินทางเลยมิมีปัญหา แต่ข้ายังมีบางอย่างที่ต้องซื้อ ก่อนท่านพาข้าไปตลาดหน่อยได้หรือไม่ “ชูเชี่ยขอร้องเขา
“ยามนี้เราต้องเร่งออกเดินทางขึ้นเขาเพื่อช่วยเหลือคน มิใช่ออกเดินทางเที่ยวเล่น เจ้ายังจะซื้อของอันใดอีก หาก กลัวหิวก็ค่อยออกหาผลไม้ป่ากินหากกระหายน้ำก็ดื่มน้ำ ตามลำธารเสียก็สิ้นเรื่อง หากเจ้ากลัวความลำบากถึงเพียง นั้นก็มีต้องตามมาเสียก็สิ้นเรื่อง”หลี่เฉินเย็นต่อว่านางอย่าง ไม่สบอารมณ์
ชูเซี่ยแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูด ดึงดันจะไปซื้อ ของที่ตลาดให้ได้ สุดท้ายแม้จะไม่พอใจเพียงไหนหลี่ เฉินเย็นก็พานางมายังตลาดจนได้
รถม้าจวนอ๋องจอดอยู่ริมฝั่งถนน รอนางจัดการซื้อของ ตนเองอยู่ครึ่งชั่วยามถึงจะค่อยๆเห็นร่างบอบบางเดินอุ้มห่อสัมภาระขนาดใหญ่เดินตรงมาทางนี้