หมอยาเสน่ห์หา - ตอนที่13 การสูญเสียที่ไม่ได้ตั้งใจ
ตอนที่13การสูญเสียที่ไม่ได้ตั้งใจ
ไทเฮามองไปยังท้องน้อยของชูเซี่ยสุดท้ายก็แค่สายหน้า และถอนหายใจอย่างเบาๆว่า”ทุกคนนั่งอย่ามัวยืนกัน”
ชูเซี่ยได้ยินคำพูดนี้ก็เดินตรงไปที่หน้าเก้าอี้เตรียมตัวจะ นั่งลงโดยไม่ได้คิดขอบคุณไทเฮาก่อนเมื่อมองเห็นมีเหอ ไหว้ขอบพระทัยไทเฮาตามมารยาทพูดอย่างอ่อนน้อม ว่า”ขอบพระคุณไทเฮาเพคะ
ไทเฮาพยักหน้าอย่างพึงพอใจและพูดกับหลี่เฉินเย่ นว่า”เย็นเอ๋อตอนนี้แม่หญิงทั้งสองของจวนจิ้งโก๋วล้วนเป็น ของเจ้าแล้วคนหนึ่งเป็นพระชายาเอกอีกคนหนึ่งเป็นพระ ชายารองเจ้าต้องรักให้เท่ากันอย่ารักคนนี้และทั้งอีกคนไป ต้องมีคำว่าความสามัคคีของครอบครัวจะนำสู่ความมั่นคง เจ้าเป็นสามีต้องจัดการให้ดีๆ”
หลี่เฉินเย่นยิ้มตอบว่า”ท่านย่าพูดถูกหลานจะทำตามที่ ท่านสั่งไว้แน่นอน”
เมื่อได้ยินคำสั่งสอน
ขอปลดล็อกแล้ว
เหอจึงเดินมาข้างๆเก้าอี้และนั่งลงนางเงยหน้ามองชูเซี่ยเห็นแต่ชูเซี่ยกัม หน้าและจ้องดูเบาะจึงอดยิ้มอย่างรังเกียจไม่ได้และคิดใน ใจว่าคนที่ขาดมารยาทยังไงก็ช่วยไม่ได้
หลี่เฉินเย่นต้องนั่งข้างๆพระชายาเอกเขาเห็นชูเซี่ยลูบไป ที่ลายเย็บปักบนเบาะก็ตกตะลึงไปนางนี่ไม่รู้สิ่งใดควรทำ จริงๆแม้จะอยู่หน้าท่านย่าก็ไม่คิดจะให้เกียรติท่านหรือเขา เพิ่งอยากจะว่านางก็ได้ยินเสียงไทเฮาพูดขึ้น”หยิงหลงเจ้า สนใจกับการเย็บปักถักร้อยหรือ”
ชูเซียยังไม่ชินกับชื่อนี้เลยไม่รู้ไทเฮากำลังเรียกนางอยู่ บางทีนางอาจจะลืมไปแล้วว่าตอนนี้นางเป็นหลิวหยิงหลง เพราะในตำหนักอ๋องแม่นมกับเสี่ยวจี้ล้วนเรียกนางเป็นท่าน หญิงสาวใช้อื่นก็เรียกนางพระชายาเอกไม่เคยมีใครเรียก ชื่อหลิวหยิงหลงโดยตรงเลย
ทุกคนตกตะลึงหมดพระชายาเอกคนนี้ปกติก็ดูเป็นฉลาด อยู่ทำไมวันนี้มีแต่นั่งงุนงงอยู่นั่นทั้งๆที่ไทเฮาเรียกนางไป สองครั้งแล้วนางก็ยังไม่ได้ยินหรือว่าคู่บ่าวสาวนี้เกิดเรื่อง อะไรกันแล้วมีแต่มีเหอยกริมฝีปากยิ้มเล็กน้อยดีนางเสีย หน้าก็ดี
สีหน้าหลี่เฉินเย่นมืดลงทันทีเขาดึงแขนเสื้อของนางเบาๆ และลดเสียงลงพูดด้วยความโกรธ “ท่านย่าเรียกเจ้าอยู่
ชูเซี่ยเงยหน้าขึ้นเพิ่งนึกได้ว่าเมื่อกี้ไทเฮาเรียกหยิงหลง
และหยิงหลงนั้นคือนางเอง
นางรีบลุกขึ้นและขอโทษ”ขอโทษเพคะท่านย่าเมื่อกี้ข้า โดนการเย็บปักถักร้อยนี่ดึงดูดสายตาไปไม่ได้ตั้งใจจะ ละเมิดท่านย่าเพคะ”
ข้ออ้างแบบนี้กล้าพูดออกมาอยู่ได้ไทเฮาเริ่มไม่พอใจ ก่อนหน้านี้เคยได้ยินว่าหลิวหยิงหลงก่อเรื่องตอนที่รู้ว่าเย่น เอ๋อแต่งงานกับมี่เหออีกทั้งยังใช้การฆ่าตัวตายเพื่อข่มขู่ เย่นเอ๋อตอนนั้นนางยังคิดว่าน่าจะไม่ใช่ข่าวจริงแต่ตอนนี้ดู สภาพนี้อาจจะเป็นความจริงก็ได้เมื่อกี้เย่นเอ๋อไปประคอง พระชายารองลุกขึ้นตามความเคยชินกลับทิ้งพระชายาเอก ไว้ข้างๆและท่านก็ได้สังเกตว่าหลิวหยิงหลงรีบเดินไปด้าน ข้างแม้กฎระเบียบมารยาทก็ลืมไปถ้าไม่ใช่เพราะความ เสียใจนางไม่กล้าที่จะเสียมารยาทแบบนี้หรอก
ไทเฮาไม่พอใจกับความหึงและความตระหนี่ของชูเซี่ย พร้อมกับการที่ไม่รู้มารยาทของหลี่เฉินเย่นด้วยท่านหน้า เครียดขึ้นและพูดว่า”เย่นเอ๋อตอนนี้เจ้าได้เป็นถึงชินหวัง แล้วก่อนทำสิ่งใดต้องวิเคราะห์ให้ดีท่านพ่อของเจ้ามีลูกชายสิบกว่าคนมีแต่เจ้ากับพี่ชายใหญ่ถูกตั้งเป็นชิน หวังคนอื่นยังเป็นแค่เจ้าชายเท่านั้นข้าไม่เคยห่วงใยเจ้า ถึงแม้เจ้านิสัยจะจองหองไปหน่อยแต่อย่างน้อยยังมีท่าน แม่ของเจ้าสั่งสอนอยู่แต่พอท่านแม่ของเจ้าไปทำบุญที่ วัดเจ้าก็เปลี่ยนเป็นคนละคนเรื่องใหญ่เช่นการแต่งรับพระ ชายารองก็ไม่เคยปรึกษากับข้าและท่านพ่อของเจ้าเลยสัก นิดข้าเมตตาเจ้าจึงช่วยชักชวนท่านพ่อของเจ้าเพื่อให้เจ้า แต่งงานได้แต่เจ้าอย่าลืมนะพระชายาเอกของเจ้ายังเป็น หลิวหยิงหลงเจ้าต้องรักสองคนนี้ให้เท่ากันอย่าเอียงเข้า ข้างใคร”
หลี่เฉินเย่นถูกด่าอย่างไม่มีสาเหตุกลับไม่ได้โกรธแค่กัม หน้าตอบรับว่า”หลานจะจดจำและทำตามคำสั่งสอนของ ท่านย่า”
ไทเฮาหันมามองชูเซี่ยน้ำเสียงที่พูดยิ่งรุนแรงกว่า”เจ้าก็ เหมือนกันเจ้าเป็นพระชายาเอกซึ่งเป็นตัวแทนของตำหนัก หนิงอานนี้ชาวบ้านธรรมดายังมีภรรยาสามสี่คนได้เจ้าจะ หวังให้สามีตนเองมีแต่นางคนเดียวเท่านั้นหรืออีกทั้งผู้ที่ แต่งงานกับเย่นเอ๋อเป็นน้องสาวแท้ๆของเจ้าเป็นคนกันเอง ยังไงก็ถูกใจกันกว่าคนนอกต่อไปหากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น เจ้าสองคนยังสามารถช่วยกันได้ข้าได้ยินว่าเจ้าเคยฆ่าตัว ตายเพื่อไม่ให้เย็นเอ๋อแต่งงานพูดออกไปข้าก้รู้สึกเสียหน้า ทำแบบนี้คนอื่นจะมองเจ้าเป็นยังไงและจะมองอ๋องหนิงอานเป็นยังไงและศักดิ์ศรีของ ราชวงศ์เจ้าเอาไว้ที่ไหนครั้งนี้ข้าจะลงโทษให้เจ้ากลับไป เขียน ( กฎระเบียบในการกระทำของผู้หญิง ห้าสิบครั้ง เสร็จแล้วส่งมาให้ข้าดู”
ทุกคนเห็นไทเฮาโกรธจึงไม่กล้าพูดอะไรมีแต่มองดูชูเชี่ ยอย่างสงสารหรือหัวเราะเยาะหลานสะใภ้คนนี้ก็แค่นี้เอง
แต่ชูเซี่ยสีหน้าไม่เปลี่ยนตอบอย่างเคารพ”หลานสะใภ้รับ ทราบและจะทำตามที่เหล่าโฟเย่ว์สั่งสอนเพคะ”
คำว่าเหล่าโฟเย่ว์เป็นคำศัพท์สำหรับราชินีละครฮาเร็ม โบราณในสมัยปัจจุบันนี้แต่ตอนนี้ชูเซี่ยนึกไม่ออกว่าคำนี้มา จากซูสีไทเฮาและหมายถึงซูสีเท่านี้ซึ่งไทเฮาคนอื่นไม่เคย ใช้คำศัพท์นี้มาก่อน