หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2] - บทที่ 205.2 เด็กอ้วนผู้แสนเก่งกาจ 1 (2)
ปรมาจารย์พิษเมิ่งหมายจะรวบทั้งหมดในคราเดียว ดังนั้นเขาจึงไม่รีบร้อนที่จะไปทดสอบ
แต่ในเมื่อยามนี้ประมุขหญิงได้เอ่ยแล้ว เขาก็ไม่รีรออีกต่อไป อย่างไรเสียความสามารถของเขาในเวลานี้ก็ทำให้เขาเชื่อมั่นว่าตนเองจะสอบผ่านระดับสูงสุดที่เคยมีได้
ปรมาจารย์พิษเมิ่งเอ่ย “วันพรุ่งกระหม่อมจะไปนำแผ่นหยกมาจากวิหารพิษ”
ประมุขหญิงคลี่ยิ้มพลางยกแก้วขึ้น “ขอยินดีกับปรมาจารย์พิษอาวุโสเมิ่งล่วงหน้า”
วิหารพิษตั้งอยู่บนเขาพิษ ที่นี่มีทางเข้าทางเดียว และจุดทางเข้าก็มีหน่วยกล้าตายทองคำสองคนเฝ้าอยู่ เช่นนี้แล้วความคิดที่จะสะกดรอยตามปรมาจารย์พิษเมิ่งต่อไปจึงไม่อาจทำได้อีก จำต้องกลับไปรอฟังข่าวที่จวนเห้อเหลียนก่อน
ปรมาจารย์พิษเมิ่งเดินตามผู้รับหน้าที่พิเศษเข้าไปยังเขาพิษ
เขาพิษมีคนอยู่สามประเภท ปรมาจารย์พิษ สตรีพิษ และหน่วยกล้าตาย
แน่นอนว่าปรมาจารย์พิษในที่นี้รวมถึงปรมาจารย์พิษขั้นสูงและปรมาจารย์พิษอาวุโส เพียงแต่ปรมาจารย์พิษขั้นสูงที่มาทดสอบประจำไม่อาจมองเห็นได้ ปรมาจารย์พิษอาวุโสทั้งหมดจะนั่งอยู่ในห้องที่ว่างเปล่า ด้านหน้าของพวกเขามีแผ่นแก้วอัญมณีใสดั่งเพชรเจียระไน แก้วอัญมณีนี้มีความลึกลับในตัวเอง ด้านนอกมองเข้ามาไม่เห็น ทว่าด้านในกลับมองเห็นด้านนอกอย่างชัดเจน
ปรมาจารย์พิษอาวุโสห้าท่านนั่งอยู่บนเก้าอี้ มองออกไปยังทางเดินด้านหน้าแผ่นแก้วอัญมณีอย่างไม่ละสายตา ทางเดินนี้ดูเหมือนไม่มีสิ่งใดผิดปกติ ทว่าแท้จริงแล้วมีสัตว์พิษอยู่ทุกหนทุกแห่ง ยิ่งเข้ามาด้านใน สัตว์พิษก็ยิ่งแข็งแกร่ง บรรดาปรมาจารย์พิษขั้นสูงที่เข้ามาด้านในต้องใช้วิชาพิษที่เชี่ยวชาญเพื่อควบคุมไม่ให้พวกมันเข้ามาทำร้าย
สตรีพิษที่นำทางปรมาจารย์พิษเมิ่งได้อธิบายกติกาในการทดสอบ เมื่อเข้าไปถึงทางเดิน ทุกๆ ระยะหนึ่งจั้งนับเป็นหนึ่งระดับ ด้วยเหตุนี้ต้องเดินผ่านทั้งหมดเก้าจั้ง หากระหว่างทางไม่อาจรับมือไหว เช่นนั้นก็หมดหนทาง ต้องรับผิดชอบความเป็นความตายของตนเอง
คนที่สามารถมาถึงที่นี่ล้วนเป็นผู้ที่มีความโดดเด่นในบรรดาปรมาจารย์พิษขั้นสูง ซึ่งแต่ละคนช่างหายากยิ่ง ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นบนทางเดินนี้ไม่ค่อยคุ้มค่านัก ดังนั้นสตรีพิษจึงแนะนำให้ปรมาจารย์พิษเมิ่งทำตามกำลังของตน
ปรมาจารย์พิษเมิ่งมีความมั่นใจในศาสตร์กู่ของตนเอง เมื่อหลายร้อยปีก่อน ศาสตร์กู่เป็นที่นิยมในหนานจ้าวอยู่ระยะหนึ่ง และถือกำเนิดปรมาจารย์พิษอาวุโสระดับแปดระดับเก้ามากมาย อย่างไรก็ตามด้วยความแตกต่างของวิชากู่และศาสตร์กู่ที่ไม่มีการสืบทอดต่อมา ทำให้ปัจจุบันไม่มีผู้ใดสามารถเดินผ่านไปไกลกว่าหกจั้ง ปรมาจารย์พิษอาวุโสที่เดินถึงหกจั้งที่เก่งกาจที่สุดในราชวงศ์นี้มีอายุมากแล้ว และได้รับการถวายให้อยู่ในวิหารพิษยามแก่เฒ่า แต่อย่างไรเสียปรมาจารย์พิษเมิ่งก็มั่นใจว่าตนเองสามารถเดินไปไกลกว่าเจ็ดจั้งได้
ในความเป็นจริง เขาก็ทำได้จริงๆ
ขณะที่เขาก้าวเข้าไปยังทางเดินด้วยอารมณ์สงบไร้ความกดดัน ปรมาจารย์พิษอาวุโสหลายคนที่เฝ้ามองอยู่ด้านหลังแก้วอัญมณีก็เกิดความตื่นเต้นและรอคอย และสุดท้ายพวกเขาก็ไม่ผิดหวัง
สิ่งที่ต้องเอ่ยถึงคือก่อนหน้านี้ไม่กี่วันเขาพิษประสบเข้ากับแผ่นดินไหว ทำให้ทางเดินถูกปิดกั้น จนถึงวันนี้ก็ยังคงหาวิธีที่จะเปิดเส้นทาง ทางเดินจึงมีเพียงเจ็ดจั้งเท่านั้น
แน่นอนว่าสุดความสามารถของปรมาจารย์พิษเมิ่งแล้วเช่นกัน หากเดินต่อไปอีกก็คงไม่ไหว ศาสตร์กู่ของเขาไม่เพียงพอที่จะควบคุมหนอนพิษที่แข็งแกร่งกว่านี้ได้อีกแล้ว
แต่นี่ก็เพียงพอที่จะประหลาดใจยินดีแล้วมิใช่หรือ?
เขาเป็นปรมาจารย์พิษอาวุโสเพียงคนเดียวที่มาถึงเจ็ดจั้งได้ในราชวงศ์นี้!
เขาอายุเพียงแค่สี่สิบปี!
เขายังเยาว์นัก!
ในอนาคตต่อไปยังมีความเป็นไปได้อีกมาก!
ในนาทีนี้ ปรมาจารย์พิษเมิ่งลืมเลือนทุกสิ่งอย่าง จมอยู่กับความยินดีในชัยชนะของตนเอง เขาออกมาจากทางเดินนั้น และไม่รีบร้อนที่จะไปพบกับบรรดาปรมาจารย์พิษอาวุโส เขาไปหาที่สงบความรู้สึกตื่นเต้นในใจ
ในที่สุด เขาก็มาถึงโถงใหญ่สถานที่มอบป้ายหยก
“ขอแสดงความยินดีกับปรมาจารย์พิษอาวุโสเจ็ดจั้ง!”
เขายังไม่ทันก้าวเท้าเข้าประตู คนกลุ่มนั้นก็มาเอ่ยคำยินดีเสียแล้ว ดูสิ นี่เป็นการต้อนรับบุตรอันเป็นที่รักยิ่งแห่งสวรรค์!
ปรมาจารย์พิษเมิ่งเงยหน้าขึ้นด้วยความภาคภูมิใจ ทันใดนั้นกลิ่นนมร้อนก็ลอยมาปะทะจมูก เขาพลันมุ่นคิ้วขมวด มองไปตามทิศที่กลิ่นนั้นลอยมา ก็พบกับบุรุษผู้หนึ่งในชุดเสื้อคลุมปรมาจารย์พิษขั้นสูงนั่งยองๆ รีดนมแพะตัวอ้วนกลมอยู่ที่หัวมุมเรือน
เขาทำด้วยความชำนาญ ไม่นานก็ได้นมแพะมาชามใหญ่
ด้านข้างของเขามีเตาพกพาตั้งอยู่
เขานำนมแพะที่รีดมาใส่ลงในโถ เติมฟืนกำหนึ่งใส่ในเตา และต้มมันด้วยความอดทน
ความดูถูกดูแคลนฉายชัดในดวงตาของปรมาจารย์พิษเมิ่ง เป็นถึงปรมาจารย์พิษขั้นสูง ไม่ทำการทำงาน แต่มานั่งต้มนมแพะในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ เจ้าเป็นพี่เลี้ยงเด็กหรือ? คนประเภทนี้คงมาเป็นปรมาจารย์พิษขั้นสูงด้วยโชค การฝึกฝนในภายภาคหน้าดูท่าเกรงว่าจะหยุดอยู่แค่นี้
ปรมาจารย์พิษเมิ่งไม่มีทางเสียพลังงานที่เหลืออยู่ให้ความสนใจกับรุ่นน้องปรมาจารย์พิษขั้นสูงที่ไม่เป็นโล้เป็นพาย พลันสาวเท้าก้าวข้ามธรณีประตูไป
“ปรมาจารย์พิษอาวุโสเจ็ดจั้งเชิญสู่ที่นั่งแขกคนสำคัญ——” มีใครบางคนตะโกนออกมา
ที่นั่งแขกคนสำคัญ? ปรมาจารย์พิษเมิ่งคลี่ยิ้มผ่านดวงตา เขาสาวเท้าก้าวแหวกฝูงชนที่แน่นขนัดไปยังเก้าอี้โอ่อ่าที่ตั้งอยู่ด้านหน้าผู้คน
ไหนเลยจะรู้ว่า ก่อนที่เขาจะย่อกายนั่งในชั่วพริบตา เขาก็ถูกแขนคู่หนึ่งที่ไม่ทราบว่ายื่นมาจากที่ใดดึงร่างเขาให้ออกไป
นั่นคือสตรีพิษ
สตรีพิษกล่าวดุดัน “จะทำอันใด? นี่คือที่ที่เจ้าจะนั่งก็ได้หรือ?”
ปรมาจารย์พิษเมิ่งกำลังจะเอ่ยว่า เจ้าแหกตาดูให้ดี ข้าคือปรมาจารย์พิษเจ็ดจั้งที่พวกเจ้าเชิญมา ทันใดนั้น เงาดำร่างเล็กทั้งสามที่ดูองอาจสง่างามก็เดินเข้ามา!
ทั้งสามมีสีผิวดำคล้ำเข้ม สวมเสื้อคลุมปรมาจารย์พิษขั้นสูงขนาดเล็ก ทว่าที่หน้าอกเล็กของพวกเขามีตราสัญลักษณ์ปรมาจารย์พิษอาวุโสแขวนอยู่
ใบหน้าของสตรีพิษเปลี่ยนเป็นยิ้มแย้มด้วยความเลื่อมใสศรัทธาในทันที “ยินดีต้อนรับใต้เท้าปรมาจารย์พิษอาวุโสน้อย!”
ขมับของปรมาจารย์พิษเมิ่งเต้นตุบๆ ปะ…ปรมาจารย์พิษอาวุโสน้อย? ก็คือเจ้าไข่ดำทั้งสามนี่น่ะรึ?!
หาได้มีเพียงสตรีพิษที่เลื่อมใสศรัทธาเช่นนี้ กระทั่งปรมาจารย์พิษอาวุโสที่ผ่านโลกมามากมายก็ยังทยอยออกมาแสดงความยินดี ปรมาจารย์พิษอาวุโสเจ็ดจั้งมิใช่ว่าพวกเขาไม่เคยพบมาก่อน อย่างเช่นเมื่อครู่มีบุรุษมากถึงสี่สิบกว่าคนที่เดินผ่านมาถึงจั้งที่เจ็ด ทว่าบุรุษเหล่านั้นก้าวเดินมาอย่างยากลำบากเพียงใดมิต้องเอ่ยถึง แล้วอายุยังมากถึงเพียงนั้น
ปรมาจารย์พิษอาวุโสอายุสามขวบเจ้าเคยเห็นหรือไม่เล่า? แล้วยังเป็นเจ็ดจั้งอีกด้วย! อนาคตอันยาวไกลไร้ขีดจำกัดของพวกเขา พวกเจ้าประมาณได้หรือ?
บุรุษเหล่านั้นที่มาถึงเจ็ดจั้งได้ เพราะความสามารถของพวกเขามีเพียงเจ็ดจั้ง ทว่าไข่ดำเหล่านี้เดินมาได้เจ็ดจั้ง เพราะด้านหน้ามีเพียงเจ็ดจั้งเท่านั้น
ดังนั้นถึงแม้ว่าได้เจ็ดจั้งเท่ากัน ทว่าเปรียบเหมือนกันได้หรือ?
ความโดดเด่นของปรมาจารย์พิษเมิ่งถูกเด็กน้อยทั้งสามกลบจนมิดไม่เห็นแวว
บรรดาปรมาจารย์พิษอาวุโสมอบป้ายหยกให้กับปรมาจารย์พิษอาวุโสน้อยเจ็ดจั้งที่อายุน้อยที่สุดด้วยตนเอง ทั้งยังมอบขนมอบรสเลิศที่สวยงามที่สุดแก่พวกเขาด้วย เหล่าไข่ดำหยิบของมาแล้วก็วิ่งออกไปโดยไม่เอ่ยคำพูดใดๆ!
พวกเขาวิ่งไปถึงเรือน มาหยุดอยู่ด้านหน้าชายหนุ่มที่กำลังต้มนมแพะ และหยิบป้ายหยกกับขนมอบยัดใส่อ้อมแขนของเขา จากนั้นมือเล็กก็ม้วนไปอยู่ด้านหลัง เอียงศีรษะ มองเขาด้วยท่าทางสุดแสนน่ารัก
อาเว่ย พวกเรายอดเยี่ยมใช่หรือไม่?
…………………………………………