หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2] - บทที่ 332 ต้าเป่าผู้ยิ่งใหญ่
เพื่อนำตราประทับฮองเฮากลับคืนมา ผลกลับถูกยึดตราหยกสืบบัลลังก์ไป นับว่าได้ไม่คุ้มเสียอย่างยิ่ง
หากเป็นคนอื่นแตะต้องตราหยก คงถูกองค์ประมุขสั่งลากไปตัดหัวนานแล้ว แต่นี่เป็นต้าเป่า เหลนของเขา
นี่อาจเป็นอย่างที่ฮองเฮากล่าวไว้ เขาผ่านวัยที่จิตใจแข็งแกร่งที่สุดมาแล้ว หรือบางทีเด็กคนนี้อาจเป็นสิ่งที่อันตรายที่สุด แต่อย่างไรองค์ประมุขก็ไม่ได้จัดการกับเขาอย่างโหดร้าย
“ต้าเป่าเด็กดี สิ่งนี้ไม่สนุกหรอก ข้าให้เจ้าเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นดีหรือไม่?” องค์ประมุขหว่านล้อมอย่างแผ่วเบา และหยิบคันธนูสีทองขนาดเล็กที่งดงามวิจิตรออกมา คันธนูและลูกธนูนี้ทำจากทองคำบริสุทธิ์ ทั้งละเอียดอ่อนและประณีต แม้จะเป็นของประดับตกแต่ง แต่สายธนูเป็นของจริง สามารถใช้ยิงได้
ของที่งดงามเช่นนี้ องค์ประมุขยังไม่อาจตัดใจมอบให้หนานกงหลีในวัยเยาว์ได้ ยามนี้มอบให้ต้าเป่าอย่างไม่คิดราคา ไหนเลยจะรู้ว่าต้าเป่ากลับไม่ต้องการ มือข้างหนึ่งของต้าเป่าจับตราหยกไว้แน่น ส่วนมืออีกข้างก็ผลักมือองค์ประมุขออกไป ไม่เหลือที่ว่างใดๆ สำหรับการเจรจา
องค์ประมุขพยายามหาของเล่นชิ้นอื่นมามากมาย แต่ต้าเป่าก็ไม่สนใจ
หากนี่เป็นเสี่ยวเป่ากับเอ้อร์เป่า บางทีอาจถามพวกเขาได้ว่าชอบสิ่งใด แต่ต้าเป่ายังพูดไม่ได้ ไม่สามารถสื่อสารกับเขาได้เหมือนปกติ
ทั้งองค์ประมุขก็ไม่อาจใช้ไม้แข็ง
ดวงตาไร้เดียงสาของต้าเป่าดึงดูดเขาจนถอนตัวไม่ขึ้น ความคิดทั้งหมดมลายหายไปเป็นเสียงทอดถอนใจอย่างหมดหนทาง
“หวังเต๋อฉวน”
ขันทีหวังเดินเข้ามา “ฝ่าบาท”
องค์ประมุขออกคำสั่ง “ไปเรียกอวิ๋นเฟยมา”
“พ่ะย่ะค่ะ” ขันทีหวังมองต้าเป่าที่ถือตราหยกไว้ในมือ พลางเอ่ยในใจ สิ่งหนึ่งย่อมข่มอีกสิ่ง ในที่สุดองค์ประมุขก็ได้พบกับคนที่สามารถรักษาเขาได้
ขันทีหวังถูฝ่ามือชรา และจากไปอย่างเริงร่า
อวิ๋นเฟยมาพร้อมกับเอ้อร์เป่าและเสี่ยวเป่า ทั้งสองพอใจกับของเล่นชิ้นใหม่มาก แต่หลังจากเห็นคันธนูสีทอง ของเล่นชิ้นใหม่ก็ไม่อาจเข้าตาพวกเขาอีกเลย
แน่นอนทั้งสองไม่โวยวาย ไม่ร้องไห้ ไม่งอแง เพียงแต่เบิกตากลมโตมององค์ประมุขอย่างไร้เดียงสาและออดอ้อน
ท้ายที่สุดอวิ๋นเฟยก็ไม่ได้โน้มน้าวให้ต้าเป่ามอบตราหยกคืน องค์ประมุขยังถูกยึดธนูทองไปอีก…
อีกด้านหนึ่ง ขันทีพาหมอหลวงไปพบฮองเฮาที่ถูกต้าเป่าดึงผมจนหัวโกร๋น
ฮองเฮาอยู่ในวังหลวงมาหลายปี ไม่เคยได้รับบาดเจ็บหนักถึงเช่นนี้กระทั่งปลายเล็บ ยามนี้กลับหัวล้านไปครึ่งหนึ่ง
หมอหลวงอาจหาญมองดู ก็ถึงกับตกใจแทบเข่าทรุด
มิใช่อาการบาดเจ็บของนางไร้ทางรักษา แต่นางเป็นฮองเฮา เป็นที่โปรดปรานขององค์ประมุข ผู้ใดกล้าทำร้ายนางเช่นนี้กัน? หรือจะบอกว่านางเป็นโรคซับซ้อน ถึงหัวล้านในชั่วข้ามคืน?
หมอหลวงรีบจับชีพจรของฮองเฮา
ชีพจรไม่มีความผิดปกติ!
มีเพียงโทสะกระทบจิตใจ โกรธกริ้วไม่เบา
“ท่านหมอหลวง อาการบาดเจ็บของฮองเฮาเป็นอย่างไรบ้าง? ร้ายแรงหรือไม่?” ขันทีถามด้วยความกังวล
ฮองเฮาก็มองเขาด้วยความกังวล แต่ก็ละอายที่จะเอ่ยถามว่า ผมของนางจะยาวออกมาได้หรือไม่
คนอายุปูนนี้ ยังมีผมก็นับว่าดีแล้ว ทำไมหรือ หัวล้านแล้วยังหมายให้เติบโตแข็งแรงราวกับหนุ่มสาวหรือ?
หมอหลวงไม่กล้าเอ่ยสิ่งที่อยู่ในใจ เพียงกล่าวว่า “ฮองเฮาโปรดวางพระทัย พระอาการไม่ร้ายแรง กระหม่อมจะจ่ายยาขี้ผึ้งป้องกันการติดเชื้อแก่ฮองเฮา จากนั้นใช้น้ำขิงและเหอโส่วอู[1] มาทำเป็นยากระตุ้นการเติบโตของพระเกศา”
เรื่องมาถึงตอนนี้ก็ได้แต่ปล่อยให้เป็นเช่นนี้แล้ว ฮองเฮามิอาจเอามีดแทงคอหรือสับหัวหมอหลวงเพียงเพราะผมนางไม่อาจยาวขึ้นมาอีกได้”ส่งหมอหลวง” ฮองเฮารับสั่งด้วยน้ำเสียงเมตตา
“พ่ะย่ะค่ะ” ขันทีส่งหมอหลวงออกไปด้วยความนอบน้อม
หมอหลวงลอบถอนใจ สมกับเป็นฮองเฮา ขนาดเป็นเช่นนี้แล้วก็ยังรักษามารยาทอย่างถึงที่สุด
ยามที่ฮองเฮายังทรงพระเยาว์ก็เป็นดรุณีผู้สดใสงดงาม แต่เมื่อผ่านวันเวลาใบหน้าก็ค่อยๆ สูญเสียความงามในอดีตไป และจู่ๆ ก็กลายเป็นหัวล้านในชั่วพริบตา ทำให้นางยิ่งดูแก่ลงไปอีกสิบกว่าปี
“เอาออกไป!”
ฮองเฮาโยนกระจกทองเหลืองในมือทิ้ง
เหล่านางข้าหลวงรีบนำกระจกในห้องทั้งหมดของนางออกไป
ฮองเฮาเจ็บใจจุกอก แต่จุกอกแล้วจะทำอย่างไรได้? ผมของนางมิได้ถูกข้ารับใช้คนใดดึง แล้วก็ไม่ใช่ฝีมือของอวิ๋นเฟย แต่เป็นเด็กที่อายุไม่ถึงสามขวบ
เด็กน้อยขนาดนั้นจะไปรู้เรื่องอะไร?
หรือว่านางจะลงโทษเขาได้เพราะโกรธเขาจริงๆ?
เขาเป็นทายาทขององค์ประมุข เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขขององค์หญิงน้อยกับเชื้อพระวงศ์แห่งต้าโจว ร่างกายของเขามีเลือดสูงส่งบริสุทธิ์ไหลเวียนอยู่ภายในไม่ต้องกล่าวถึง ต่อให้เป็นเด็กที่จับมาจากข้างถนน นางก็ไม่อาจลงโทษเขาได้อยู่ดี
เป็นถึงฮองเฮา หากไม่อาจทนกับเด็กสามขวบได้ ยังจะเป็นมารดาแผ่นดินได้อย่างไร?
หากเปลี่ยนเป็นอวิ๋นเฟยจะทำอย่างไร?
นางก็คงหยิบเด็กนั่นขึ้นมา แล้วตีอย่างแรง
นางไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรกับนาง
บางครั้งก็ไม่ใช่จะทำอะไรได้ง่ายๆ…
มิใช่ว่าฮองเฮาไม่สงสัยว่าอวิ๋นเฟยเป็นคนเสี้ยมสอน แต่ถึงสงสัยนางก็ไม่อาจพูดออกไป เป็นองค์ประมุขที่พูดได้ แต่ดูจากท่าทีของเขาแล้ว ไม่เคยสงสัยในตัวอวิ๋นเฟยเลยแม้แต่น้อย
หัวใจของฮองเฮายิ่งคับแน่น
นางทายาขี้ผึ้ง และใช้ผ้าปิดหน้าคลุมผม รอข่าวตราประทับฮองเฮาอยู่ในตำหนักจงกงเงียบๆ
ไม่นานขันทีหวังก็ส่งตราประทับกลับมา
ทันทีที่เห็นตราประทับ ฮองเฮาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในที่สุดองค์ประมุขก็มิได้สับสนเลอะเลือนจนปล่อยให้เด็กคนนั้นนำสิ่งสำคัญเช่นนี้ไป
สิ่งที่ฮองเฮาไม่รู้ก็คือ องค์ประมุขไม่ยอมให้ต้าเป่าเอาตราประทับฮองเฮาไป แต่ตราหยกสืบบัลลังก์กลับถูกต้าเป่ายึดไปแทน
องค์ประมุขพยายามใช้ความสามารถทั้งหมดที่มี ‘หลอกเอา’ ตราหยกจากมือของต้าเป่า แต่ต้าเป่าไม่สนใจ กอดตราหยกไว้แน่น
“แย่งมาเลยสิ” อวิ๋นเฟยเอ่ย
“เช่นนั้น…เจ้าจะทำรึ?” องค์ประมุขกล่าว
อวิ๋นเฟยหัวเราะเยาะ “หม่อมฉันไม่ทำหรอกเพคะ! แล้วก็ไม่ใช่หม่อมฉันที่ออกปากเต็มที่ว่าจะให้ของกับต้าเป่า!”
ในความคิดของอวิ๋นเฟย นี่ไม่ใช่ความผิดของต้าเป่า หากฮองเฮาไม่ทำเกินตัวเพื่อเอาหน้าแต่แรก ไม่หยิบตราประทับฮองเฮามาอวด ก็คงไม่ถูกต้าเป่าเอาตราประทับไป จนเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดภายหลังขึ้น
เด็กน้อยถึงเพียงนี้ จะเข้าใจได้อย่างไรว่านี่คือตราหยกสืบทอดบัลลังก์? เขารู้สึกชอบก็หยิบมาเท่านั้น อีกอย่างองค์ประมุขก็ตรัสแล้วว่า ขอเพียงปล่อยตราประทับฮองเฮา สิ่งของในห้องทรงอักษรทั้งหมดเขาเลือกไปได้
นี่มิใช่เลือกแล้วหรือ?
ใช่ถามว่าท่านจะให้หรือไม่!
อวิ๋นเฟยไม่ได้สนใจตราหยกแม้แต่น้อย ยิ่งไม่ไปคิดถึงมูลค่าของมัน ในสายตาของนาง นี่เป็นสิ่งที่ทำให้ต้าเป่าพึงพอใจ นางให้คำแนะนำองค์ประมุขได้ แต่จะให้นางแย่งของรักของต้าเป่า นางไม่ยินดี
ตราหยกสืบทอดบัลลังก์มีความสำคัญยิ่ง หากทำหายไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ทั้งราชวงศ์จะกลายเป็นสิ่งน่าขัน
องค์ประมุขกระแอมในลำคอ ตัดสินใจยื้อแย่งตราหยกมา
เขายื่นมือออกไปหยิบตราหยกในอ้อมแขนของต้าเป่า
ทันทีที่เขาขยับ ดวงตาของต้าเป่าก็เป็นสีแดง
ต้าเป่ามองเขาด้วยความน้อยใจจนดวงใจของเขาแทบแตกสลาย!
อวิ๋นเฟยหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาซับน้ำตา “พวกเขาสามคนไม่ได้เติบโตมาข้างกายอาหวั่นและจิ่วเฉา ต้องทุกข์ทรมานมากมาย ในวันที่หนาวเหน็บถูกผลักเข้าไป…”
ไม่ต้องพูดแล้ว ข้าไม่แย่งแล้ว พอใจหรือยัง? !
องค์ประมุขชักมือกลับ!
อวิ๋นเฟยเก็บผ้าเช็ดหน้าแล้วรีบกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ฝ่าบาท รอให้ต้าเป่าหลับก็คงจะยอมปล่อยมือแล้ว!”
องค์ประมุขเหลือบมองนางด้วยสายตาเยือกเย็น “…”
ตกลง เจ้าอยู่ฝั่งใดกันแน่?
แต่อย่างไรนี่ก็เป็นวิธีที่ดีอีกวิธีหนึ่ง ไม่ว่าต้าเป่าจะชื่นชอบมันเพียงใด มีหรือจะสามารถกอดมันไว้ยามหลับใหล? รอให้เขาหลับและปล่อยมือ ค่อยหยิบตราหยกมา แน่นอนเพื่อไม่ให้ต้าเป่าร้องไห้งอแง องค์ประมุขจึงสั่งให้ช่างแกะสลักทำของปลอมขึ้นมาแทน
องค์ประมุขที่สร้างตราหยกปลอม ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันไม่เคยมีมาก่อน
องค์ประมุขพาต้าเป่ากลับไปที่ห้องบรรทมของตนเอง คอยดูแลเขาทุกย่างก้าว หลังจากอาบน้ำล้างตัวก็จับตามองเขาไม่กะพริบตา เด็กเล็กเช่นนี้เล่นทั้งวัน ตามหลักมักเคลิ้มหลับเสียมาก แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงคือองค์ประมุขทำให้ตนเองเข้าสู่นิทราไป ทว่าต้าเป่ายังตื่นตาสว่าง
ในเช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อองค์ประมุขตื่นจากหลับฝัน ต้าเป่าก็นั่งไขว่ห้างเล่นกับตราหยกอยู่ข้างๆ เขา
เจ้า เจ้าเด็กคนนี้!
องค์ประมุขแทบอกแตกตาย!
อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าอกแตกตายอยู่หลังจากนั้น
ต้าเป่าได้สร้างมิตรภาพที่ดีกับองค์ประมุขอยู่ก่อนแล้ว มายามนี้องค์ประมุขยังได้มอบสิ่งที่งดงามเพียงนี้ให้แก่เขา ต้าเป่าจึงยิ่งชอบเขามากกว่าเดิม ต้าเป่าติดตามเขาไปทุกที่ กระทั่งน้องชายทั้งสองก็ลืมไปแล้ว
องค์ประมุขเสด็จไปห้องทรงอักษร เขาก็ไปห้องทรงอักษร
องค์ประมุขเสด็จไปสวน เขาก็ไปที่สวนด้วย
ด้านหลังขององค์ประมุขมีหางน้อยสีดำเมี่ยมเพิ่มขึ้นมา
ท้ายที่สุด เมื่อถึงเวลาไปว่าราชการ ต้าเป่าก็ยังคงติดตามเขาไม่ลดละ
“ต้าเป่าไปหาอวิ๋นเฟยดีหรือไม่?”
เมื่อใดก็ตามที่เขากล่าววาจาเช่นนี้ ต้าเป่าจะมองเขาด้วยแววตาสลดราวกับถูกทอดทิ้ง
แววตานั้นมีพลังรุนแรงยิ่งนัก องค์ประมุขสูดหายใจ “ติดค้างเจ้าแล้ว มาเถอะมา”
สีหน้าต้าเป่าแปรเปลี่ยนในฉับพลัน เดินตามไปอย่างเริงร่า!
ด้วยเหตุนี้ วันนี้ขุนนางทั้งฝ่ายบู๊ฝ่ายบุ๋นแห่งหนานจ้าวจึงได้เห็นฉากในตำนานขององค์ประมุขที่พาไข่ดำน้อยมาว่าราชการด้วย องค์ประมุขสาวเท้าก้าวเดินไปข้างหน้า ไข่ดำน้อยก็กอดตราหยกรีบเดินตามหลัง
องค์ประมุขก้าวขึ้นบันได ไข่ดำน้อยก็ปีนขึ้นไปทีละขั้น
องค์ประมุขประทับบนบัลลังก์มังกร สั่งขันทีหวังยกเก้าอี้เล็กมาให้เด็กน้อย
ต้าเป่ามองไปที่เก้าอี้ตัวเล็ก สลับกับเก้าอี้สีทองขององค์ประมุข จากนั้นก็เดินเข้าไปหาพร้อมกับตราหยกในอ้อมแขน และหย่อนก้นนั่งลงบนบัลลังก์มังกร!
ขุนนางทั้งบู๊บุ๋นต่างก็ตกใจเฮือก!
ที่แท้วันนี้ฝ่าบาทก็มาสละบัลลังก์? ! !
องค์ประมุขสะดุ้งตื่นตกใจ!
ไม่ๆๆ พวกเจ้าคิดมากแล้ว! ข้าไม่ได้มาสละบัลลังก์! ข้าไม่ได้คิด! ! ! ไม่คิดเลยจริงๆ! ! !
…………………………………………
[1] เหอโส่วอู เป็นสมุนไพรจีนที่มีสรรพคุณทำให้ผมขาวกลับเป็นดำ