หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2] - บทที่ 394 ขึ้นขั้นระดับพลังใหม่
นั่นไม่ใช่ไก่ไม่ใช่หญ้า แต่เป็นราชาซิวหลัวที่มีพลังทำลายฟ้าดิน จากคำพูดของหลานเจียวระดับพลังของราชาซิวหลัวคนนี้ค่อนข้างสูง อย่างน้อยก็ดีกว่าราชาซิวหลัวมือใหม่ที่เพิ่งผ่านขั้นของพวกเขา เช่นนั้นแล้วเหตุใดเขาถึงถูกคนเหวี่ยงลงมาได้ละ?
การตกนั้นรุนแรงยิ่ง พื้นดินยุบเป็นหลุมกว้างน่าสะพรึงกลัว
หินทรายกระเด็นกระดอน หลายคนยกแขนเสื้อขึ้นบังศีรษะตนเอง
ภายในหลุม ไร้การเคลื่อนไหว
หลายคนยกมือบังหน้าพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ได้แต่มองดูกันไปมา การคาดเดาเช่นเดียวกันก็ปรากฏขึ้นในใจของพวกเขา เมื่อครู่เยี่ยนจิ่วเฉาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว จนพวกเขาดูแทบไม่ออก คงไม่ใช่เยี่ยนจิ่วเฉาเหวี่ยงราชาซิวหลัวตกลงไปเป็นหลุมลึก ทว่ากลับเป็นราชาซิวหลัวที่โยนเยี่ยนจิ่วเฉาลงมามากกว่ากระมัง?
หลายคนตื่นตกใจกับการคาดเดาของตนเองจนใจเต้นระส่ำ หมายจะเดินไปที่หลุมใหญ่
“อาหวั่นเจ้ารออยู่ที่นี่!” ชิงเหยียนคว้าตัวอวี๋หวั่นได้ทันเวลา เขากังวลว่าอวี๋หวั่นจะไม่สามารถทนดูเยี่ยนจิ่วเฉาที่ระเบิดกลายเป็นเศษเนื้อเศษเลือดได้ “ข้าจะไปดูกับอิ่งสือซัน ส่วนอิ่งลิ่ว เยว่โกว พวกเจ้าดูแลอาหวั่น”
หากคนที่เกิดเรื่องเป็นเยี่ยนจิ่วเฉาจริง ด้วยความแข็งแกร่งของราชาซิวหลัว เกรงว่าชั่วเวลาเพียงแวบเดียวพวกเขาทั้งหมดคงสลายกลายเป็นฝุ่นผง
ชิงเหยียนปล่อยข้อมืออวี๋หวั่น ตั้งใจจะใช้วิชาตัวเบาพุ่งเข้าไปกับอิ่งลิ่ว แต่ไหนเลยจะรู้ว่าทันทีที่ยกเท้าขึ้น คนทั้งสองในหลุมนั้นก็บินออกมา
ครั้งนี้ทั้งสองมองเห็นชัดเจนว่าเป็นเยี่ยนจิ่วเฉาที่จับคอของราชาซิวหลัวไว้อย่างแน่นหนา ราชาซิวหลัวถูกเหวี่ยงจนล้มลงครั้งหนึ่งแล้ว สภาพจึงดูกระเซอะกระเซิงไม่เรียบร้อยอยู่เล็กน้อย ทว่าเยี่ยนจิ่วเฉาไม่ได้เป็นเช่นนั้น กลับยังคงหล่อเหลาเช่นเคย
ความหลงตัวเองไม่ใช่ลักษณะของอ๋องเผ่าปีศาจ แต่เป็นของคุณชายเอง
เยี่ยนจิ่วเฉาไม่ได้ฆ่าราชาซิวหลัวได้ในทันที หนึ่งคือราชาซิวหลัวแข็งแกร่ง ในช่วงระยะเวลาหนึ่งไม่อาจฆ่าให้ตายได้ สองคือเขายังมีความคิดของตนเอง
ราชาซิวหลัวของหลานเจียวไม่ใช่ราชาซิวหลัวธรรมดา เขาได้ใช้ยาชั้นสูงในกระบวนการการต่อสู้ และยังสามารถรักษาความคิดของตนเองได้ในระดับสูงสุด ยามมองแวบแรกไม่ต่างจากยอดฝีมือทั่วไป
อย่างไรก็ตามด้วยเหตุนี้ เขาจึงประหลาดใจกับสถานการณ์ของตนเอง
แม้อีกฝ่ายสวมหน้ากากอสูรเขี้ยว แต่เขาสามารถสัมผัสได้ถึงความเยาว์ที่ผิดปกติ ยอดฝีมือในวัยนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลยแม้แต่น้อย อีกฝ่ายเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียวก็สามารถกดคุมเขาจนไร้แรงจะสู้กลับได้อย่างไร?
บุรุษชุดดำไม่เชื่อในความชั่วร้าย ยามนี้เยี่ยนจิ่วเฉาอยู่ด้านบน คว้าคอเสื้อของเขาแล้วยกขึ้นไปในอากาศด้วยท่วงท่าที่กดคุมไว้อย่างสิ้นเชิง แต่นี่ก็เป็นท่าที่ง่ายต่อการลอบโจมตีที่สุดเช่นกัน เขายกมือขึ้นตบไปที่หน้าอกของเยี่ยนจิ่วเฉาด้วยฝ่ามือ
“จิ่วเฉา——” ชิงเหยียนที่สังเกตเห็นฉากนี้สีหน้าแปรเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
อิ่งสือซันและอิ่งลิ่วก็เช่นกัน อิ่งสือซันรีบยิงอาวุธลับออกไป ทว่ากำลังภายในของเยี่ยนจิ่วเฉาแข็งแกร่งเกินไปอาวุธลับก็ไม่สามารถฝ่าการปิดผนึกของเขาเข้าไปได้
ฝ่ามือนั้นในที่สุดก็ถูกตบลงบนร่างของเยี่ยนจิ่วเฉา
บุรุษชุดดำยิ้มอย่างมีชัย
ทว่าไม่ถึงหนึ่งวินาที เขาก็ต้องหัวเราะไม่ออก
พลังภายในที่เขาได้เจาะเข้าไปในร่างกายของเยี่ยนจิ่วเฉา เพียงแค่ผ่านเข้าไปในเส้นเอ็นและหลอดเลือด ก็ถูกเยี่ยนจิ่วเฉาส่งกลับไปหาเขาทั้งหมด
บุรุษชุดดำรู้สึกเจ็บหน้าอกและกระอักเลือดออกมา!
เป็นไปได้อย่างไร?
เหตุใดกระบวนท่าของตนถึงไม่อาจทำอะไรเขาได้แม้แต่น้อย?
ชิงเหยียนตระหนักได้ถึงบางสิ่ง จึงกล่าวด้วยความคิด “ข้านึกออกแล้ว ตอนนั้นที่วังอ๋องเผ่าปีศาจ อ๋องเผ่าปีศาจก็เคยควบคุมซิวหลัวด้วยวิธีนี้มาก่อน หรือกำลังภายในของอ๋องเผ่าปีศาจใช้ควบคุมซิวหลัวโดยเฉพาะ?”
หากนี่นับว่าไม่ใช่ความจริง ก็แปดเก้าส่วนไม่ไกลจากสิบแล้ว ถึงอย่างไร ราชาซิวหลัวของนางหลานก็ถูกลวงอย่างโหดเหี้ยม น่าสังเวชจริงๆ แล้ว
อ๋องเผ่าปีศาจตัวปลอม คุณชายตัวจริงเริ่มการแสดงของตนเอง
ราชาซิวหลัวของนางหลานขึ้นฟ้าลงดิน ถูกทารุณอย่างน่าอเนจอนาถ
ตั้งแต่ต้นจนจบ เยี่ยนจิ่วเฉาไม่ได้ออกแรงอย่างจริงจัง เพียงแค่ขยับนิ้วเท่านั้น ก็จับราชาซิวหลัวแห่งสกุลหลานกด! กด! กด!…หัวลงไปในพื้นดิน
พวกเขาล้วนเป็นพวกฆ่าคนโดยไม่กะพริบตา แต่เมื่อเผชิญหน้ากับราชาซิวหลัวที่ถูกคุณชายของพวกเขา (จิ่วเฉา) ทำร้ายอย่างอนาถ หลายคนก็อดไม่ได้ที่จะก้มลงมองเบื้องล่าง
“โอ้…” ชิงเหยียนปิดตาของเขา
เยว่โกวยกมือสองข้างประกบ “อมิตาภพุทธ!”
อิ่งลิ่วหายใจเฮือกส่ายหน้า อย่าๆๆ…อย่าตีอีกเลย มันๆๆ…มันน่าอนาถเกินไปแล้ว!
เขาเป็นถึงหน่วยกล้าตาย เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกอยากช่วยพยุงศัตรูขึ้นมาและดูแลเขาสักหน่อย…
อวี๋หวั่นกระแอมในลำคอ “พอ…พอแล้วละ…เขาไม่ได้กลั่นแกล้งซิวหลัวโหดร้ายถึงเพียงนี้…ท่านแก้แค้นมากเป็นสิบเท่าร้อยเท่าแล้ว…”
อวี๋หวั่นแค่พึมพำกับตนเอง เสียงของเธอไม่ได้ดัง แต่ด้วยพลังหูของเยี่ยนจิ่วเฉา เขายังคงได้ยินทุกคำพูด
เยี่ยนจิ่วเฉาถอนกำลังภายในกลับ ปัดแขนเสื้อกว้าง หยิบผ้าเช็ดหน้าสีขาวสะอาดออกมาเช็ดมือ จากนั้นจึงฮึดฮัดคล้ายไม่สนใจใยดี “ไม่พอจะหยิกเขาหรือ หืม?”
คำพูดนี้ทำไมฟังดูแปลกๆ?
ดวงตาของอวี๋หวั่นกลอกไปมา จู่ๆ บุรุษผู้นี้ก็มีแรงฮึด เอาชนะราชาซิวหลัว คงไม่ใช่เพียงเพราะคำพูดที่ว่า ‘ข้างกายของนางมีราชาซิวหลัวที่เก่งกาจ พวกเจ้าต้องระวัง อย่าให้ถูกจับได้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้น ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเราในยามนี้ ยังไม่พอจะหยิกเขาเลยด้วยซ้ำ’ ของเธอหรอกกระมัง?
อวี๋หวั่นมองไปยังสามีที่มีสีหน้าหยิ่งผยอง จากนั้นก็มองไปที่ราชาซิวหลัวของนางหลานที่ถูกสามีของเธอปักหัวลงไปในหลุม จู่ๆ ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร…
จวนสกุลหลานใหญ่เกินกว่าจะประมาณได้ ฝั่งนี้อยู่ห่างไกลจากเรือนหลักมาก ยามที่การต่อสู้เกือบจะสิ้นสุดลง ฝั่งหลานเจียวก็เพิ่งทราบข่าวและรีบร้อนเดินทางมา
อารมณ์ของหลานเจียวไม่ดีนัก อย่างแรกราชันสัตว์พิษตัวใหม่ยอมอดตายดีกว่ากินอาหาร อย่างที่สองฟ้ามืดเช่นนี้แล้ว ยังไม่เห็นผู้ดูแลเยว่กลับมา นางกำลังสงสัยว่ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่ ก็ได้ยินรายงานจากข้ารับใช้ ว่ามีคนตีกันใกล้ประตูทิศตะวันตกของจวนสกุลหลาน
“ตีก็ตีไปสิ เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ ก็สมควรต้องรายงานข้ารึ?” หลานเจียวคิดว่าเป็นความขัดแย้งระหว่างข้ารับใช้ในจวน
แต่ไหนเลยข้ารับใช้กลับพูดว่า “ไม่ ไม่ใช่เจ้าค่ะท่านผู้นำตระกูล มีคนมาพังกำแพงจวนของเรา!”
“อะไรนะ?” หลานเจียวตบโต๊ะ ในเวลานี้ผู้ใดกล้าทำลายกำแพงจวนสกุลหลาน? ไปกินหัวใจหมีดีเสือดาวมาหรือ?
เมื่อหลานเจียวทราบข่าว ก็ยังไม่รู้ว่าราชาซิวหลัวได้รับบาดเจ็บจากแขกไม่ได้รับเชิญที่พังกำแพงจวน เมื่อไปที่เกิดเหตุอย่างรีบร้อน ก็เห็นซากปรักหักพังและราชาซิวหลัวที่จมปักอยู่ในพื้น
หลานเจียวตกตะลึง!
นี่มันเรื่องอะไรกัน?
ใครทำให้ราชาซิวหลัวเป็นเช่นนี้?!
อวี๋หวั่นสองแขนกอดอก มองหลานเจียวอย่างสงบนิ่ง “ไม่พบกันนาน ผู้นำตระกูลหลาน ยินดีที่ได้พบนะ”
เสียงนี้มัน?!
ดวงตาหลานเจียวเย็นเยียบ เหลือบมองมาที่อวี๋หวั่น
“เป็นเจ้า?” หลานเจียวตกใจมาก
“เป็นข้า” อวี๋หวั่นคลี่ยิ้มงาม “คิดไม่ถึงละสิ ว่าข้าจะมาเยี่ยมถึงที่ด้วยตัวเอง”
ทำลายกำแพงของนาง แล้วยังทำให้ยอดฝีมือของนางบาดเจ็บ นี่เรียกว่ามาเยี่ยมหรือ? เด็กหญิงผู้นี้กล่าววาจาไร้ยางอายอย่างจริงจังเช่นนี้ออกมาได้อย่างไร!
สายตาเย็นชาของหลานเจียวกวาดมองกลุ่มคนของอวี๋หวั่น ยอดฝีมือไร้น้ำยาสองคน หน่วยกล้าตายหนึ่งคน ครึ่งหน่วยกล้าตายหนึ่งคน แล้วก็…
เมื่อสายตาตกกระทบบุรุษที่สวมหน้ากากอสูรเขี้ยว หลานเจียวก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
บุรุษผู้นี้เป็นใคร? จะว่าเป็นหน่วยกล้าตายก็ไม่ใช่ หรือจะบอกว่าเป็นยอดฝีมือทั่วไปก็ไม่คล้ายนัก
หลานเจียวมองระดับพลังของเขาไม่ออก แต่หลานเจียวสามารถมองเห็นของคนอื่นๆ ได้ นางมั่นใจได้ว่าคนเหล่านั้นไม่สามารถทำร้ายราชาซิวหลัวของนางได้ หากเป็นเช่นนี้ ดูเหมือนว่าฆาตกรจะเป็นคนที่อยู่ตรงหน้านาง
อวี๋หวั่นก้าวไปข้างหน้าบดบังสายตาของหลานเจียว “ผู้นำตระกูลหลาน เจ้าก็อายุมากแล้ว เลิกเอาแต่มองสามีของข้าได้หรือยัง?”
“เจ้า…” หลานเจียวสำลักด้วยความโกรธ
อวี๋หวั่นเลิกคิ้วมองนางอย่างเหยียดหยาม “อย่างไรเจ้าก็เป็นคนที่เคยมีอาญา ข้าไม่อาจวางใจได้”
เดิมทีอวี๋หวั่นตั้งใจจะตอกกลับนาง แต่ไหนเลยเยี่ยนจิ่วเฉากลับได้ยินความในใจของเธอ เขาคิ้วขมวดหล่อเหลาเล็กน้อย “ทั้งชรา ทั้งอัปลักษณ์ ข้าจะชอบได้อย่างไร?”
หลานเจียวโกรธแทบล้มคว่ำ!
แม้ว่าหลานเจียวจะอายุไม่น้อยแล้ว แต่นางก็ขยันขันแข็งในการฝึกวรยุทธ์และให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาความอ่อนเยาว์ ไม่ว่าใครเห็นนางก็ไม่รู้สึกถึงร่องรอยการผ่านวันเวลาบนใบหน้าของนาง ชรา? อัปลักษณ์? เป็นครั้งแรกที่ได้ยินคนกล่าวเช่นนี้!
อวี๋หวั่นเลิกคิ้วถามในใจว่า เจ้ายังแปลกใจอีกหรือ? คนที่เป็นดั่งเทพธิดาเช่นข้า สามีข้ายังไม่ชมว่าสวยสักประโยค แล้วสตรีใจดำเช่นเจ้า ไม่ใช่ทั้งชราทั้งอัปลักษณ์ เช่นนั้นเป็นอะไร?
“กลับเข้าเรื่อง” อวี๋หวั่นพูดอย่างเฉยเมย มีสามีที่เก่งกาจเช่นนี้หนุนหลัง เอวเล็กๆ ของอวี๋หวั่นก็เริ่มเหยียดตรงมากขึ้น “ที่พวกข้ามาในครั้งนี้เพื่อนำราชันสัตว์พิษที่ผู้นำตระกูลหลานพรากไปกลับคืนมา อ่านสถานการณ์ให้ออก มอบราชันสัตว์พิษมา ไม่เช่นนั้น——”
“ไม่เช่นนั้นเจ้าจะทำอย่างไร?” หลานเจียวเยาะเย้ยขัดคำพูดอวี๋หวั่น “เจ้าคงไม่คิดว่าเชิญยอดฝีมืออะไรนี่มา แล้วจวนสกุลหลานทั้งหมดจะหวาดกลัวเจ้าจริงๆ หรอกนะ? ไม่ผิด พวกเจ้าเอาชนะราชาซิวหลัวได้ทำให้ข้าประหลาดใจ แต่ก็ยังห่างไกลที่จะทำให้ข้ากลัว”
อวี๋หวั่นแตะคาง สตรีผู้นี้หมายความว่าอย่างไร? หรือนอกจากราชาซิวหลัวแล้วยังมียอดฝีมือที่ร้ายกาจกว่านี้ในจวนสกุลหลาน?
………………………