หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2] - บทที่ 399.2 พี่จิ่วออกโรง สังหารรอบทิศ (2)
สตรีศักดิ์สิทธิ์ทุกรุ่นต้องรับตำแหน่งผู้นำตระกูลหลาน และผู้นำตระกูลหลาน หากฝ่ายชายไม่แต่งเข้าตระกูลจะไม่แต่งเด็ดขาด! แค่คิดก็รู้ว่าซือคงอวิ๋น คุณชายรองแห่งสกุลซือคงไม่มีทางกลายมาเป็นบุตรเขยที่แต่งเข้าสกุลหลาน
เช่นนี้ คำสอนของบรรพบุรุษมาถึงสตรีศักดิ์สิทธิ์ก็นับว่ากลายเป็นเพียงคำพูดไร้น้ำหนัก
หลานเจียวกลอกตากล่าวว่า “เรื่องอันใดของเจ้า? เจ้ายังคิดว่าเจ้าเป็นผู้นำตระกูลหลานอยู่หรือ?”
“เจ้า…” นางหลานยกมือขึ้นด้วยความโกรธกำลังจะตบหน้านาง
หลานเจียวยิ้มอย่างเย็นชา “อย่าลืมว่าเด็กนั่นยังอยู่ในมือของสตรีศักดิ์สิทธิ์ เจ้าทำกับข้าอย่างไร สตรีศักดิ์สิทธิ์จะคืนให้เด็กนั่นสองเท่า พวกเจ้าก็ลองทำอะไรข้าดูสิ”
“ได้ เช่นนั้นก็ตามที่เจ้าต้องการ” เยี่ยนจิ่วเฉาเอ่ยอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว
ไม่ทันที่หลานเจียวจะตอบสนองว่าประโยคนั้นหมายความว่าอย่างไร เยี่ยนจิ่วเฉาขยับปลายนิ้ว ทำลายจุดตันเถียนของนาง ทำให้นางสูญเสียวรยุทธ์ทั้งหมด
“…!!!” หลานเจียวราวกับถูกฟ้าผ่า นี่เป็นคนบ้าอันใด?!!
หากเยี่ยนจิ่วเฉาถูกข่มขู่ เช่นนั้นก็ไม่ใช่เยี่ยนจิ่วเฉาแล้ว
เยี่ยนจิ่วเฉาเดินกลับห้องไปอย่างเฉยชา
ได้ปลดปล่อยอารมณ์ไปคำหนึ่ง นางหลานก็รู้สึกสบายขึ้นมากแล้ว
คืนนี้เยี่ยนจิ่วเฉาไม่ได้บอกเล่าแผนการของเขา ทุกคนคาดว่าเขากำลังรอให้สตรีศักดิ์สิทธิ์ลงมือ แต่สตรีศักดิ์สิทธิ์จะหาที่ซ่อนของพวกเขาได้เร็วถึงเพียงนี้ และจะลงมือจริงหรือ?
ก่อนครึ่งคืนคลื่นสงัดลมสงบ หลังผ่านค่อนคืน ภายในเรือนเกิดกลุ่มไอสังหารขนาดใหญ่พวยพุ่งไปทั่วทุกทิศทาง อิ่งสือซันและอิ่งสือลิ่วที่เฝ้าอยู่ในลานชักดาบออกมา เข้าปะทะกับบุรุษชุดดำหลายสิบคนที่กระโดดลงมาในลาน
ชิงเหยียนและเยว่โกวก็พุ่งออกไป
นักฆ่ากลุ่มนี้ ไม่เพียงแต่มีจำนวนมากเท่านั้น แต่ฝีมือยังแข็งแกร่ง และเล่นสกปรก ไม่ช้าหลายคนก็ไม่อาจรับมือไหว
ซิวหลัวล่าถอยเพื่อรักษาบาดแผล ไม่อาจต่อสู้
เยี่ยนจิ่วเฉาส่งหนูน้อยทั้งสามที่กำลังหลับใหลให้กับอาเว่ย พลันสวมหน้ากากเขี้ยวแล้วเหาะเหินออกจากห้องไป
ฝีมือของเยี่ยนจิ่วเฉาแน่นอนว่ามือสังหารใดก็ไม่อาจเทียบเทียม แต่ในชั่วพริบตา สถานการณ์กลับพลิกผัน เมื่อเห็นบุรุษชุดดำค่อยๆ ถอยออกไป ทันใดนั้นบุรุษชุดดำก็คว้าตัวอิ่งลิ่ว ลักพาตัวไปโดยไม่มีโอกาสได้อธิบาย!
ดวงตาของอิ่งสือซันเย็นเยียบลงทันใด “อิ่งลิ่ว!”
เยี่ยนจิ่วเฉาเหาะตามไป
คนผู้นั้นดูเหมือนจะเข้าใจว่าฝีมือของเขาไม่ดีเท่าเยี่ยนจิ่วเฉา แทนที่จะเผชิญหน้ากับเยี่ยนจิ่วเฉา กลับล่อให้เยี่ยนจิ่วเฉาเข้าไปในป่า
ทันทีที่เยี่ยนจิ่วเฉาเข้าไปในป่าก็พบกับดักและการซุ่มโจมตี ทว่านั่นไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาบาดเจ็บ เขาทำลายมันได้อย่างง่ายดาย และบีบให้บุรุษชุดดำเข้าไปจนมุมที่ยอดเขาหิน บุรุษชุดดำหมดหนทางให้ถอยหนี ถูกเยี่ยนจิ่วเฉาตัดคอขาด
อิ่งลิ่วตกลงมาอย่างแรง ใช้มือจับกุมคอ หอบหายใจเฮือกใหญ่
“อิ่งลิ่ว! คุณชาย! พวกท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่?” อิ่งสือซันไล่ตามมา
“ข้า…ข้าไม่เป็นไร…” อิ่งลิ่วยกมือขึ้นยันกำแพงหิน เมื่อครู่ถูกบีบคอแน่นเกินไป ยามนี้เท้าทั้งสองยังอ่อนแรง
อิ่งสือซันเข้าไปจับตัวพยุงเขาขึ้นมา
ทั้งสามคนกำลังจะกลับจวน ทว่าจู่ๆ ก็มีเสียงกู่ฉินดังมาจากป่าลึกที่ไกลๆ
เสียงนั้นยามได้ยินครั้งแรกราวกับสายลมเย็น เมื่อฟังอีกครั้งก็ช่างไพเราะจับใจ เบาๆ นุ่มๆ พันธนาการจนสุดหัวใจคน
“นี่มัน…” อิ่งลิ่วอ้าปาก ร่างกายที่ถูกอิ่งสือซันพยุงขึ้นมาได้ในที่สุด กลับอ่อนยวบลงไปอีกครั้ง ดวงตาของเขาเริ่มสูญเสียการมองเห็นระยะไกล
“แย่แล้ว วิชาเสน่ห์! อย่ามองตานาง!” อิ่งสือซันยกมือขึ้นปิดตาอิ่งลิ่ว แต่พบว่าตนเองอ่อนแรงเกินไป เขากอดอิ่งลิ่วไว้ในมือข้างหนึ่ง มืออีกข้างก็จับดาบพยุงตนเอง
เยี่ยนจิ่วเฉามองไปยังทิศของเสียงกู่ฉินโดยไม่ละสายตา สะบัดแขนเสื้อ ใช้กำลังภายในทำให้อิ่งสือซันและอิ่งลิ่วสลบไป
เสียงกู่ฉินเข้ามาใกล้มากขึ้น สตรีผู้เล่นกู่ฉินค่อยๆ เข้ามาในสายตาของเยี่ยนจิ่วเฉา
นางสวมชุดหยกด้ายทอง เรือนร่างผอมเพรียว มัดผมมวยมีเสน่ห์เย้ายวน ประทินโฉมใบหน้าสีแดง สวมผ้าคลุมหน้าพู่ประดับสีทองที่แทบไม่ได้ปิดบังใบหน้า ดวงตาพร่างพราวทั้งสองทอดสายตาหยาดเยิ้ม
นางไม่ก้าวเดิน ลอยตกลงกลางป่าด้วยสองเท้าเปล่า ราวกับมนต์เสน่ห์ใต้แสงจันทร์
นางหยุดเล่นกู่ฉิน และใช้กำลังภายในส่งกู่ฉินไปที่ต้นไม้ใหญ่
นางเดินเข้าไปหาเยี่ยนจิ่วเฉาอย่างไม่ละสายตา
เมื่อครู่นางเพียงบรรเลงเสียงกู่ฉินเท่านั้น ยังไม่ได้มองพวกเขาสองคน แต่แล้วอย่างไร? พวกเขาก็ติดกับอยู่ดี
บุรุษผู้นี้น่ะหรือ สตรีศักดิ์สิทธิ์บอกว่าเขามีกำลังภายในที่ลึกล้ำ ยากจะจัดการ
หลานเม่ยใช้ความสามารถสูงสุด มองเยี่ยนจิ่วเฉาพร้อมกับรอยยิ้มเริงร่า
ในโลกนี้มีหญิงงามอยู่ไม่น้อย ทว่างดงามเท่าหลานเม่ยนั้นหาได้น้อยนัก นางเหมือนดอกฝิ่นที่ผลิบานอย่างช้าๆ ในค่ำคืนที่มืดมิด รอยยิ้มเพียงครั้งเดียวก็ทำให้คนตราตรึง
เยี่ยนจิ่วเฉาหยุดนิ่งอยู่กับที่
เขาสวมหน้ากากไว้ หลานเม่ยมองสีหน้าของเขาไม่ชัดเจนนัก แต่ก็ไม่ยากที่จะสัมผัสว่าไอสังหารบนตัวเขากำลังจางหายไปทีละนิด
แน่นอนว่าในโลกนี้ไม่มีแมวตัวใดที่ไม่ขโมยกินและไม่มีบุรุษใดไม่เจ้าชู้
เท้างามดุจหยกอันบอบบางของหลานเม่ยเหยียบลงบนพื้นหญ้าอ่อนนุ่มทีละก้าว สายลมยามค่ำคืนพัดผ่านเสื้อผ้าและเส้นผมของนาง รอยยิ้มของนางยิ่งพราวเสน่ห์ทำให้คนหวั่นไหว
“คุณชาย~” นางเกี่ยวกวักนิ้วให้เยี่ยนจิ่วเฉา
เยี่ยนจิ่วเฉาค่อยๆ ยื่นมือไปหานาง
รอยยิ้มแห่งชัยชนะพาดผ่านดวงตาของหลานเม่ย นี่ไม่ใช่เหยื่อติดเบ็ดแล้วหรือ?
ข้อมือขาวนวลของหลานเม่ยยกขึ้นเบาๆ ไปจับมือของเยี่ยนจิ่วเฉา แต่กลับพบว่ามือนั้นหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งออกมาราวกับเล่นกล จากนั้นก็บีบคอของนาง
หลานเม่ยหยุดหายใจ ดวงตาเบิกกว้างอย่างไม่เชื่อสายตา
นางอยู่ใกล้มากจนสามารถมองเห็นดวงตาคู่หนึ่งภายใต้หน้ากาก มันเย็นชาและตื่นรู้ ไหนละร่องรอยของความลุ่มหลง?
“ไม่…เป็นไปไม่ได้…”
นางฝึกฝนวิชาเสน่ห์มาหลายปี ไม่เคยพลาด!
นางมีช่องโหว่ที่ใดหรือ? หรือแท้จริงแล้วเขาเป็นผีไม่ใช่คนกันแน่?!
แล้วยังบีบคอนางผ่านผ้าเช็ดหน้า เขาคิดว่านางสกปรกอย่างนั้นหรือ?!
หลานเม่ยที่ตระหนักถึงจุดนี้ก็พลันรู้สึกย่ำแย่
ที่ยิ่งเลวร้ายกว่านั้นคือ กระทั่งคำพูดขอความเมตตาสักประโยคก็ไม่ทันเอ่ย กลับถูกอีกฝ่ายบีบคอจนตาย
ผ้าเช็ดหน้าสีขาวผืนเมื่อครู่ เยี่ยนจิ่วเฉาก็ไม่ต้องการอีกแล้ว สตรีที่เคยถูกสัมผัสมาก่อน เขาไม่ต้องการ!
บนเนินเขาห่างออกไปสามหลี่ สตรีศักดิ์สิทธิ์ทอดสายตามองจ้องเขม็ง
ทันใดนั้นเงาดำร่างหนึ่งก็ตกลงมาเบื้องหลัง พลันคุกเข่าข้างหนึ่งคำนับนาง “เรียนท่านสตรีศักดิ์สิทธิ์ ภารกิจล้มเหลว หลานเม่ย…ตายแล้ว”
สตรีศักดิ์สิทธิ์กำมือเปล่าแน่น มุ่นคิ้วหันกลับมา “ล้มเหลวได้อย่างไร? นางลงมือไม่ทันหรือ?”
“ลงมือแล้ว แต่ก็ล้มเหลว” บุรุษชุดดำก้มหน้ากล่าว นี่เป็นตอนจบที่ไม่มีใครคาดคิด ด้วยฝีมือของหลานเม่ย อย่าว่าแต่คนธรรมดา ต่อให้เป็นคนโง่ คนบ้า ยอดฝีมือไร้เทียมทาน หรือผู้นำตระกูลซือคง ล้วนไม่อาจต้านทานวิชาเสน่ห์ของนางได้ ทว่าบุรุษผู้นี้ตั้งแต่ต้นจนจบกลับไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย
หากไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง ก็ไม่อยากเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง!
‘บุรุษทุกคนในโลกล้วนต่ำช้าเหมือนกันหมด!’
‘ผู้ใดกล่าวเช่นนั้น’
ในหัวของสตรีศักดิ์สิทธิ์ฉายภาพยามที่ตนเผชิญหน้ากับอวี๋หวั่น นางหลับตาลงระงับโทสะที่คุกรุ่นในใจ
“สตรีศักดิ์สิทธิ์ระวัง!”
เพียงชั่วครู่ เยี่ยนจิ่วเฉาก็ไล่ตามมา บุรุษชุดดำจึงเข้าใจ ด้วยความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย เหตุใดถึงไม่สังเกตเห็นเขา เขาก็คิดว่าตนเองหลบดีแล้ว ที่แท้อีกฝ่ายกลับพบตัวเขาตั้งแต่แรก เพียงแต่รอตกปลาใหญ่ ให้ตนพาเขาไปหาสตรีศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น
น่าเสียดาย เสียใจทีหลังก็สายไปแล้ว
ฝ่ามือไร้ปรานีของเยี่ยนจิ่วเฉาเห็นได้ชัดว่าต้องการปลิดชีวิตสตรีศักดิ์สิทธิ์!
ต่อให้เขารวมพลังกับสตรีศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่อาจหยุดยั้งได้!
“ภักดีต่อสตรีศักดิ์สิทธิ์ แม้ตายไม่ลังเล!” บุรุษชุดดำกัดฟันเหาะขึ้นไป กดพลังภายในทั้งหมดไว้ที่จุดตันเถียน ระเบิดตัวเองเสียงดังสนั่น
พลังของการระเบิดนี้ยิ่งใหญ่มาก
บุรุษชุดดำกอดความมุ่งมั่นที่จะตายไปกับเยี่ยนจิ่วเฉา
ทว่าเยี่ยนจิ่วเฉากลับไม่ได้รับบาดเจ็บ มีเพียงหน้ากากเขี้ยวบนใบหน้าของเขาแตกออก
สตรีศักดิ์สิทธิ์ใช้วิชาตัวเบาเหาะหนีไปในขณะที่บุรุษชุดดำกำลังหยุดยั้งเยี่ยนจิ่วเฉา วินาทีที่บุรุษชุดดำระเบิดตัวเอง นางหันกลับมามองกลางอากาศ
สวมหน้ากากเช่นนั้น ควรจะเป็นใบหน้าที่น่าเกลียด แต่ไหนเลยคนราวกับหยก บุรุษผู้มีคนเดียวในโลกไม่มีสอง
…คนผู้นี้ควรมีอยู่เพียงบนสวรรค์
…………………