หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2] - บทที่ 535 สามหมอผีตัวปลอม!
ดวงตาของราชาศักดิ์สิทธิ์แทบจะถลนออกมา!
หลัวช่าวิญญาณผู้ยิ่งใหญ่ หลัวช่าวิญญาณที่รักสะอาด จะดื่ม…ดื่ม…ฉี่ได้อย่างไร?!
ฉี่ผู้ใด?! ราชาศักดิ์สิทธิ์โมโหเดือดดาล
ของข้าไง เสี่ยวเป่ากล่าว
ราชาศักดิ์สิทธิ์บีบคอตน หากเทียบกับอาหารพิสดารรสชาติแย่จนอยากตายแล้ว น้ำถ้วยนี้เรียกได้ว่าถึงตายยิ่งกว่า ราชาศักดิ์สิทธิ์ดูอาการไม่ดีนัก
ราชาศักดิ์สิทธิ์กล่าวอย่างขุ่นเคือง ไยเจ้าไม่บอกให้เร็วกว่านี้?
ก็ท่านไม่ได้ถาม เสี่ยวเป่าแบมืออย่างไร้เดียงสา
ราชาศักดิ์สิทธิ์ยันกำแพงคลื่นเหียนอาเจียนอยู่หลายที
ความรู้สึกน่ากลัวนั้นกลับมาอีกครั้ง หากอยู่ต่อ นางเกรงว่าตนคงจะชักไปทั้งตัว
นางต้องสงบไว้ สงบไว้ สงบไว้…
เมื่อผิดแผน ราชาศักดิ์สิทธิ์จึงตัดสินใจไปจากที่นี่ก่อน นางเดินโซซัดโซเซออกมา
ราชาศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่รู้ว่าต้องใช้พลังมากเพียงใดถึงระงับอาการชักลงได้ ทว่าเดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าว ก็รู้สึกถึงสิ่งเล็กๆ ที่ตามมาด้านหลัง นางหันกลับไปอย่างเย็นชา ก็เห็นเป็นเด็กคนนั้น พลันเอ่ยด้วยโทสะมากมายที่สั่งสมมา ไยเจ้าต้องตามข้ามา?
มือเล็กของเสี่ยวเป่าไพล่ไว้ด้านหลัง เมื่อได้ยินคำพูดของนาง เขาก็เหลือบมองนางปราดหนึ่ง พร้อมกับชี้ไปที่มือของนาง ท่านเอาถ้วยข้าไป
ตอนนั้นเอง ราชาศักดิ์สิทธิ์ถึงรู้ตัวว่าตนโกรธจนขาดสติ ถือสิ่งสกปรกไว้ในมือ จึงโยนมันลงพื้นด้วยความขยะแขยง
แม้ถ้วยถูกโยนลงพื้น แต่เสี่ยวเป่าก็ไม่โกรธ เพราะเขาเป็นเด็กดีที่มีจิตใจงดงาม
เสี่ยวเป่าเดินไปหยิบถ้วย หากล้างสะอาดแล้วเก็บเข้าที่ ท่านแม่ก็คงไม่รู้หรอก!
เสี่ยวเป่าหยิบถ้วยแล้วก็เดินกลับไป
เดินไปได้ครึ่งทาง ร่างเล็กก็หยุดชะงักกะทันหัน งอตัวเล็กน้อย สูดกลั้นหายใจ ใบหน้าแดง
ราชาศักดิ์สิทธิ์เห็นท่าทางของเขาก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้น
ราชาศักดิ์สิทธิ์ยกมุมปากขึ้นอย่างเย็นชา เดินเข้าหาเด็กน้อยทีละก้าว
เสี่ยวเป่าไม่รู้ว่าอันตรายกำลังใกล้เข้ามา เขาถูกคว้าคอเสื้อด้านหลังยกขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว!
ฮ่า! ราชาศักดิ์สิทธิ์หัวเราะเยาะ แต่ไหนเลยจะรู้ว่าไม่ทันสิ้นเสียง ก็มีเสียงปู้ดดังสนั่น อากาศประหลาดถูกพ่นใส่หน้าของนางอย่างจัง
ราชาศักดิ์สิทธิ์ผงะนิ่ง วินาทีถัดมา ตุบ! นางล้มหงายหลัง ชักๆๆ กับพื้น…จนสลบไป…
เสี่ยวเป่า …
เสี่ยวเป่าเดินกลับเรือน ฉวยโอกาสที่มารดาไม่ทันสังเกตกลับไปที่ห้องของตน จากนั้นก็ปีนขึ้นเตียงเขย่าปลุกพี่ชายทั้งสอง มีคนเป็นลม!
พี่น้องที่ดีต้องร่วมทุกข์ร่วมสุข มีเรื่องตื่นเต้นก็ดูด้วยกัน เจอคนป่วยก็ช่วยกัน!
…
หลังจากราชินีแม่มดได้พบกับผู้อาวุโสใหญ่ก็ไปห้องขององค์ชายเยี่ยยาง เมื่อไปถึงวิหารกวังหมิง ราชาศักดิ์สิทธิ์ก็ถูกราชาพ่อมดพาตัวไปแล้ว
ราชินีแม่มดมองดูวิหารกวังหมิงที่พินาศย่อยยับ ก็จินตนาการได้ไม่ยากว่าเกิดการต่อสู้เช่นใดขึ้นที่นี่
เจ้าว่าอย่างไรนะ? ราชาศักดิ์สิทธิ์ถูกราชาพ่อมดพาตัวไปแล้ว? เจ้าแน่ใจหรือว่าเป็นราชาศักดิ์สิทธิ์? ราชินีแม่มดมององครักษ์ตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชา
ผู้มารายงานเป็นองครักษ์ชราที่รับใช้วังหลวงมากว่าสิบปี เขาเคยเห็นราชาศักดิ์สิทธิ์มาก่อน ทั้งยังเคยร่วมงาน จึงมั่นใจว่าตนไม่ได้จำผิด
ราชินีแม่มดกล่าวด้วยสีหน้าครุ่นคิด แต่เจ้าบอกว่าร่างกายของนางมีพลังปราณของหลัวช่าวิญญาณมิใช่หรือ?
ไม่ผิดขอรับ องครักษ์ชราพยักหน้า
ราชินีแม่มดพึมพำ ร่างกายของราชาศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีทางที่จะมีพลังปราณของหลัวช่าวิญญาณได้ เว้นเสียแต่ว่า…นางจะเป็นหลัวช่าวิญญาณ หรือหลัวช่าวิญญาณจะใช้ภาพลวงตา?
ภาพลวงตาของหลัวช่าวิญญาณไม่ด้อยไปกว่าพ่อมด สิ่งที่มันอยากให้เป็นในสายตาของมนุษย์โลกเป็นเรื่องง่ายดาย
องครักษ์ชราส่ายหน้าและกล่าวว่า แม้เหล่าข้าน้อยอาจถูกมันใช้ภาพลวงตา แต่สำหรับราชาพ่อมดนั้นเป็นไปไม่ได้ ข้าน้อยเชื่อว่านางก็คือราชาศักดิ์สิทธิ์
ราชินีแม่มดเผยยิ้มเย็นชา หากเป็นเช่นนี้ ราชาศักดิ์สิทธิ์ก็ถูกหลัวช่าวิญญาณกลืนกิน…จนกลายเป็นหลัวช่าวิญญาณไปแล้ว? น่าสนใจดีนี่
แต่นางถูกราชาพ่อมดพาหนีไป จะทำอย่างไรดีพ่ะย่ะค่ะ? องครักษ์ชราถาม
ราชาพ่อมดช่วยนางมีสิ่งใดน่าแปลกใจ? เดิมทีนางเป็นคนรักของเขา เขาจะไม่สนใจนางได้อย่างไร? สิ่งที่น่าเหลือเชื่อยิ่งกว่าก็คือ เจ้าบอกว่าเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นกับหลัวช่าวิญญาณ จนเกือบสูญเสียการควบคุมอย่างนั้นรึ?
มิใช่เกือบ ทว่าสูญเสียไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ
อาการที่ราชาศักดิ์สิทธิ์สูญเสียการควบคุม มาย้อนคิดยามนี้ก็ยังน่าตกใจ ไม่รู้ว่ากินยาผิด หรือฝึกไม่ถูกท่า ทั้งร่างจู่ๆ ก็กระตุกอย่างรุนแรง หากไม่ใช่เพราะราชาพ่อมดมาทันเวลา นางก็อาจทำร้ายตัวเองจนตายไปแล้ว
กล่าวเช่นนี้ก็เกินจริงไปสักหน่อย ทว่าทุกคนที่ได้เห็นท่าทางของราชาศักดิ์สิทธิ์ต่างก็รู้สึกว่านางอาการไม่ดีนัก
เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร? มีผู้ใดวางยานางรึ? ราชินีแม่มดไม่เข้าใจ ยาทั้งหมดล้วนถูกซื้อมาโดยคนที่นางไว้ใจ ทั้งยังได้ใช้เข็มเงินพิสูจน์ยาพิษก่อนที่จะมอบให้กับราชาศักดิ์สิทธิ์แล้ว ไม่น่ามีสิ่งใดผิดพลาด
ราชินีแม่มดคิดไม่ตกเสียที จึงเลิกคิดไป
เรื่องของราชาศักดิ์สิทธิ์เป็นเรื่องที่นางไม่คาดคิด หนึ่ง นางไม่นึกว่าราชาศักดิ์สิทธิ์จะใช้กระดูกปิดผนึกหลัวช่าวิญญาณไว้ สอง นางไม่นึกว่าหลัวช่าวิญญาณจะถูกราชาศักดิ์สิทธิ์ลวงกลอุบาย สาม ไม่นึกว่าก่อนที่หลัวช่าวิญญาณจะหลับใหลได้สะท้อนพลังกลับสู่ราชาศักดิ์สิทธิ์
เรื่องน่าตกใจเกิดขึ้นมาติดๆ เรื่องที่พลังของราชาศักดิ์สิทธิ์เกิดความผิดปกติก็ไม่ได้ยากจะยอมรับเช่นนั้นแล้ว
องค์ราชินี…ไม่กังวลหรือพ่ะย่ะค่ะ?
กังวลอันใด? กังวลว่าพวกเขาจะรื้อฟื้นความรู้สึกเก่าๆ กลับมาสานต่อความสัมพันธ์น่ะรึ? หรือกังวลว่าราชาศักดิ์สิทธิ์จะฆ่าราชาพ่อมด?
องครักษ์ชราอ้าปากอ้ำอึ้ง กลืนสิ่งที่ต้องการเอ่ยลงคอ
ว่ากันว่าในยามวิกฤต ปฏิกิริยาแรกเป็นความจริงที่สุด ในช่วงเวลาแห่งหายนะ สิ่งที่ราชินีแม่มดกังวลไม่ใช่ราชาศักดิ์สิทธิ์จะทรยศนางหรือไม่ แต่กลับเป็นความรู้สึกและชีวิตของราชาพ่อมด
ราชินีแม่มด…ไม่เคยลืมเลือนราชาพ่อมดเลย…
เอาละ ถึงแม้ราชาพ่อมดจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลัวช่าวิญญาณ แต่พวกเจ้าบอกว่าหลัวช่าวิญญาณได้รับบาดเจ็บมิใช่หรือ? เช่นนั้นก็รีบพาหลัวช่าวิญญาณกลับมาโดยเร็วที่สุด
หลัวช่าวิญญาณเป็นพันธมิตรของพวกเขา พวกเขาไม่มีทางกำจัดหลัวช่าวิญญาณ หลัวช่าวิญญาณกลายเป็นราชาศักดิ์สิทธิ์แล้ว ราชาพ่อมดก็ไม่มีทางกำจัดหลัวช่าวิญญาณเช่นกัน กระทั่งขอเพียงปกป้องหลัวช่าวิญญาณจากเงื้อมมือคนพวกนั้นได้ ราชินีแม่มดตามหลัวช่าวิญญาณกลับมา เพื่อหลัวช่าวิญญาณหรือเพื่อผู้ใดกันแน่ ใครเล่าจะรู้?
องครักษ์ชราไม่เอ่ยสิ่งใด หลังรับคำก็เริ่มแกะรอยราชาพ่อมดและราชาศักดิ์สิทธิ์
อีกด้านหนึ่ง พวกเยี่ยนจิ่วเฉาทั้งสามคนก็กำลังตามหาทั้งสองเช่นกัน
อิ่งลิ่วนั่งด้านนอกรถ ถามอย่างร้อนใจว่า คุณชาย พวกเราพลิกแผ่นดินเผ่าพ่อมดตามหาแล้วก็ยังไม่พบพวกเขา ท่านคิดว่าพวกเขาจะออกจากเมืองไปแล้วหรือไม่?
อิ่งสือซันกล่าว จริงสิ คุณชาย ท่านต้องการไปตามหานอกเมืองหรือไม่? หลัวช่าวิญญาณมีความบาดหมางกับราชาพ่อมด มันต้องฉวยโอกาสสังหารเขาเป็นแน่
อิ่งลิ่วทอดถอนใจ ราชาพ่อมดช่างโง่เขลานัก คนผู้นั้นไม่ใช่ราชาศักดิ์สิทธิ์อีกแล้ว เขาดูไม่ออกหรือ? เป็นราชาพ่อมดเสียเปล่า!
ในชีวิตมนุษย์ สิ่งที่ยากจะหลีกหนีที่สุดก็คือความรัก เขาดูไม่ออกจริงๆ หรือดูออกแล้วทว่าไม่อาจทำใจยอมรับ ก็ไม่อาจรู้ได้
เยี่ยนจิ่วเฉาเปิดม่านหน้าต่างรถ ทอดสายตามองไปบนถนนอันเงียบสงบ กลับกันก่อน อีกครู่ค่อยตามหาใหม่
ราชาศักดิ์สิทธิ์หนีไปได้ คนที่เป็นอันตรายไม่ได้มีเพียงราชาพ่อมด
หากราชาพ่อมดอยากหาที่ตาย เยี่ยนจิ่วเฉาก็ไม่ก้าวก่าย ทว่าเขาไม่อาจปล่อยให้ภรรยาและบุตรตกไปอยู่ในมือของปีศาจตนนั้นได้
แม้ราชาศักดิ์สิทธิ์จะไม่ปกติ ทว่าหากนางต้องการบี้ใครสักคนให้ตาย ก็ยังง่ายดายราวพลิกฝ่ามือ
อิ่งลิ่วขับรถม้าออกจากเผ่าพ่อมด
ด้วยความช่วยเหลือจากเหล่าผู้อาวุโสสาม พวกเขาจึงได้รับป้ายห้อยเอวของจวนสกุลเนี่ยและเดินทางออกจากเมืองได้อย่างราบรื่น
ย่ำเข้าราตรี ร้านค้าพากันปิด ผู้คนบนถนนแยกย้ายกลับบ้านเรือน รถม้าเคลื่อนไปตามถนนที่เงียบสงัด เสียงฝีเท้าม้าและล้อเกวียนดังก้องในตรอก
ยามเข้าใกล้ที่อาศัยของพ่อครัวเทพเป้า คิ้วของเยี่ยนจิ่วเฉาก็กระตุกขึ้น ช้าก่อน!
อิ่งลิ่วดึงบังเหียนหยุดรถม้า คุณชาย มีอะไรหรือขอรับ?
เยี่ยนจิ่วเฉาจ้องมอง มีพลังปราณของราชาศักดิ์สิทธิ์และหลัวช่าวิญญาณ
ทว่ากลับบางเบาจนแทบจะเลือนหายไป แม้แต่อิ่งสือซันกับอิ่งลิ่วก็ยังไม่สัมผัสถึง
ความหวาดระแวงวาบผ่านดวงตาของอิ่งสือซัน มือข้างหนึ่งปกป้องอิ่งลิ่ว อีกข้างหนึ่งจับดาบข้างเอว
เยี่ยนจิ่วเฉาลงจากรถม้า
สองคนเดินตามไปจนถึงตรอกฝั่งตะวันออก ยิ่งเดินก็ยิ่งเข้าใกล้ที่อาศัยของพ่อครัวเทพเป้ามากขึ้นทุกที หัวใจของพวกเขาจมดิ่งสู่ก้นหุบเหว
ราชาศักดิ์สิทธิ์เจออาหวั่นและคนอื่นๆ แล้วหรือ? อาหวั่นกับไข่ดำน้อยจะเป็นเช่นไรบ้าง?
ประกายหนาวเย็นวาบผ่านใบหน้าเยี่ยนจิ่วเฉา
ตุบ! ตุบ! ตุบ!
เสียงเคลื่อนไหวประหลาดดังขึ้นจากส่วนลึกของตรอก ทั้งสามเร่งฝีเท้ามาถึงหัวมุมตรอก เมื่อมองเห็นฉากเบื้องหน้าพวกเขาก็ถึงกับยืนตะลึง
เสียงตุบ ตุบ ตุบ มาจากไข่ดำทั้งสาม บนหัวสวมกระถาง มือข้างหนึ่งถือท่อนไม้ อีกข้างหนึ่งจับกระดิ่ง เดินกระโดดไปมาส่งเสียงเจื้อยแจ้ว
เยี่ยนจิ่วเฉามุมปากกระตุก ถามด้วยความเหลือเชื่อ พวก…พวกเจ้ากำลังทำสิ่งใด?
ทั้งสามหยุดลง แล้วเอ้อร์เป่าก็กล่าวว่า เรากำลังขับไล่วิญญาณร้าย! ท่านป้าผู้งดงามเป็นลมไป เรียกอย่างไรก็ไม่ตื่น
เสี่ยวเป่าชี้ไปที่นาง พวกเรากดจุดเหรินจงของนางแล้ว
อิ่งลิ่ว : นั่นมันจุดตาย!
เอ้อร์เป่าชี้ไปที่หม้อใบเล็กบนพื้น เราสาดน้ำเย็นใส่นางแล้ว
อิ่งสือซัน : นั่นมันยาสลายพลัง!
ต้าเป่าหอบขวดกองโตขึ้นมา เรายังใช้หนอนกู่กับนางด้วย!
หนอนกู่มีเยอะแยะมากมาย ไม่รู้ต้องใช้ชนิดใดถึงได้ผล ก็เลยใช้ทั้งหมดเลย!
เสี่ยวเป่าแบมือกล่าว แต่มันก็ยังไม่ได้ผล นางต้องโดนของมาแน่ๆ! เราจะขับไล่วิญญาณร้ายให้นาง!
ประเด็นสำคัญคือการร่ายรำของพวกเจ้านั้น มิใช่การร่ายรำขับไล่วิญญาณร้ายของพ่อมด แต่เป็นการร่ายรำบูชาเทพเจ้า…
แน่ใจหรือว่ากำลังช่วยชีวิตนาง มิใช่กำลังสวดศพ…
ทั้งสามมองท่อนไม้เล็กสามท่อน จากนั้นก็มองราชาศักดิ์สิทธิ์ที่หายใจรวยริน เป็นครั้งแรกในชีวิต…ที่รู้สึกว่าคู่ปรับของพวกเขาน่าสงสารจับใจ!!!
………………………