CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก - ตอนที่ 139-1 บิดากับบุตรสาว การต่อสู้ ณ หอหลิงจือ

  1. Home
  2. หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก
  3. ตอนที่ 139-1 บิดากับบุตรสาว การต่อสู้ ณ หอหลิงจือ
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

เดือน​เจ็ด​ ​วันที่​สิบสอง​ ​วันดาว​คุณธรรม​เป็น​วันดี​ฤกษ์​มงคล​ ​เหมาะกับ​การ​จัดงาน​เลี้ยง​ ​แต่งงาน​ ​สู่ขอ​ ​หมั้น​หมาย​ ​บวงสรวง​ ​ขอพร

จวน​เอินปั​๋​ววุ​่​นวาย​ตั้งแต่​เช้า​กับ​การ​ปัดกวาด​จวน​ ​ปลูก​ดอกไม้​พันธุ์ไม้​ ​ประดับ​โคม​และ​แถบ​ผ้า​หลาก​สี​ ​จวนปั​๋ว​ไม่ได้​ครึกครื้น​เช่นนี้​มานาน​แล้ว​ ​บ่าว​รับใช้​ทั้งหลาย​เต็มไปด้วย​ความคึกคัก

หญิง​รับใช้​เฒ่า​ใน​ห้องครัว​ยก​เข่ง​วัตถุดิบ​สด​ใหม่​บน​รถ​ลงมา​ทีละ​ใบ​ ​เมื่อ​เงยหน้า​ขึ้น​ก็​เห็น​หญิง​รับใช้​วัยกลางคน​สวม​เสื้อคลุม​สีเขียว​อ่อน​คน​หนึ่ง​ ​เสื้อผ้า​ของ​นาง​งดงาม​ ​เส้น​ผม​แปรง​จน​มันเงา​ ​ปักปิ่น​เงิน​ฝัง​ลายทอง​เล่ม​หนึ่ง​ ​บน​ใบ​หู​ประดับ​ต่างหู​ทอง​ ​มือ​ที่​ยกขึ้น​แตะ​เครื่องประดับ​บน​เรือน​ผม​ ​เผย​ให้​เห็น​กำไลทอง​แวววาว​บน​ข้อมือ

หญิง​รับใช้​เฒ่า​มอง​อย่าง​ตกตะลึง​ใน​ความงาม​ครู่หนึ่ง​ก็​รีบ​วาง​เข่ง​ลง​ ​แล้ว​ก้าว​เข้าไป​ทักทาย​ ​“​พี่​หลิน​!​”

หลิน​มามา​ยิ้ม​เรียบๆ​ ​“ฮู​หยิน​รอง​ให้​ข้ามา​ดู​ว่า​ฝั่ง​พวก​เจ้า​เตรียมการ​เป็น​เช่นไร​แล้ว​ ​แขก​ที่​เชิญ​มา​ใน​งานเลี้ยง​วันนี้​ล้วน​เป็น​คน​สูงศักดิ์​ใน​เมืองหลวง​ ​ห้าม​มีสิ​่ง​ใด​ผิดพลาด​”

หญิง​รับใช้​เฒ่า​เอ่ย​ประจบ​ ​“​โธ่​ ​ท่าน​วางใจ​เถิด​ ​งานเลี้ยง​ฉลอง​ของ​ท่าน​โหว​ ​พวกเรา​ย่อม​ไม่กล้า​เลินเล่อ​!​ ​ใส่ใจ​กัน​ทุกคน​!​ ​ไม่มี​สิ่งใด​ผิดพลาด​แน่นอน​!​”

หลิน​มามา​ยัง​ไม่​วางใจ​ ​นาง​มอง​รถ​ขน​วัตถุดิบ​กับ​เข่ง​วัตถุดิบ​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​ ​“​นี่​คือ​วัตถุดิบ​ของ​วันนี้​หรือ​”

“​เจ้าค่ะ​!​”​ ​หญิง​รับใช้​เฒ่า​เปิด​เข่ง​ทีละ​ใบ​ ​“​เข่ง​นี้​คือ​ปลา​เป็น​ๆ​ ​เข่ง​นี้​คือ​ไก่​ ​เข่ง​นี้​คือ​เนื้อหมู​สด​ ​เพิ่ง​เชือด​แล้ว​ส่ง​มาจาก​ตลาด​ ​แล้วยัง​มีนี​่​ ​ท่าน​ดู​ ​ล้วน​เป็น​อาหารทะเล​ที่​ขนมา​จาก​ทางใต้​!​”

หลิน​มามา​ไม่สน​ใจ​เนื้อไก่​ ​เป็ด​ ​ปลา​ ​พวก​นั้น​ที่​ได้​กินใน​ยาม​ปกติ​ ​แต่​เป่า​ฮื้อ​ ​ปลิงทะเล​ ​หูฉลาม​ ​กระเพาะปลา​ ​ปู​และ​กุ้ง​ทะเล​ ​หอย​สารพัด​ชนิด​กับ​ปลาหมึก​พบ​เจอ​ได้​ค่อนข้าง​น้อย​ ​หลิน​มามา​จึง​ดู​อย่างละเอียด

หญิง​รับใช้​เฒ่า​เขี่ย​ปูทะเล​ที่​ทั้ง​อ้วน​ทั้ง​เนื้อ​แน่น​สอง​สาม​ตัว​ ​แล้ว​ยิ้ม​ตาหยี​เอ่ย​ว่า​ ​“​ยัง​เป็นอยู่​ทั้งนั้น​ ​ท่าน​วางใจ​เถิด​!​”

“​แล้ว​นี่​คือ​สิ่งใด​”​ ​หลิน​มามา​ถามถึง​เนื้อที่​วาง​แยก​อยู่​ต่างหาก​เข่ง​หนึ่ง​ ​สีเนื้อ​เหมือน​จะ​ต่าง​จาก​เนื้อหมู

หญิง​รับใช้​เฒ่า​ตอบ​ว่า​ ​“​นี่​คือ​เนื้อ​ลา​!​”

เนื้อ​ลา​เป็น​ของดี​ ​ไม่ใช่​กล่าว​กัน​ว่า​บน​สวรรค์​มี​เนื้อ​มังกร​ ​บน​พสุธา​มี​เนื้อ​ลา​หรือ​ไร

ในที่สุด​หลิน​มามาก​็​ขานตอบ​อย่าง​พึงพอใจ​แล้ว​เข้าไป​ใน​ห้องครัว​ ​ตรวจสอบ​วัตถุดิบ​สำหรับ​ปรุงอาหาร​ทีละ​อย่าง​จน​ครบ​ ​แล้ว​กำชับ​เรื่อง​ความสะอาด​ของ​บริเวณ​รอบด้าน​อย่าง​ใส่ใจ​ ​จากนั้น​ยัง​กำชับกำชา​อีกว่า​ ​“​…​เก็บ​กิริยาท่าทาง​ไม่​เรียบร้อย​พวก​นั้น​ของ​พวก​เจ้า​เสีย​ ​แขก​ที่มา​ใน​จวน​เหล่านี้​ล้วนแต่​ไม่ธรรมดา​ ​หาก​รับใช้​ดี​ ​ท่าน​โหว​มีหน้ามีตา​ ​พวกเรา​ก็​มีเกียรติ​ไป​ด้วย​ ​อีก​อย่าง​พวกเรา​ล้วน​เป็น​บ่าว​ของ​จวน​โหว​แล้ว​ ​ย่อม​ต้อง​ทำงาน​อย่าง​ใน​จวน​โหว​ ​อย่า​ทำตัว​เป็น​คน​ต้อยต่ำ​ไม่เคย​เห็น​โลก​ ​ทุกคน​จง​กระตือรือร้น​สิบสอง​ส่วน​ ​ผู้ใด​กล้า​เกียจคร้าน​ ​ข้า​จะ​ถลก​หนัง​มัน​ผู้​นั้น​!​”

ทุกคน​ขานรับ​อย่างนอบน้อม

หลิน​มามาก​ลับ​เรือน​หลัก​อย่าง​พึงพอใจ​ ​หลังจาก​หวัง​มามา​ตาย​ ​นาง​ก็​เป็นใหญ่​แต่เพียง​ผู้เดียว​ ​มีหน้ามีตา​เหลือล้น​อย่างแท้จริง​!

ใน​เรือน​หลัก​ ​สวี​ซื่อ​กำลัง​ตรวจสอบ​เรื่อง​คณะ​ละคร​กับ​ตานจ​วี​๋

ตานจ​วี​๋​ยิ้ม​ ​“​เวที​สร้าง​เสร็จ​แล้ว​เจ้าค่ะ​ ​อยู่​ใน​สวน​ปี้​กุ้ย​ ​ต้น​กุ้​ยสี​่​ฤดู​ที่​พวกเรา​ปลูก​ไว้​กำลัง​บานสะพรั่ง​ ​เล่น​ละคร​ที่นั่น​ ​รับรอง​ว่า​พวกฮู​หยิน​กับ​คุณหนู​จะ​ต้อง​ชอบ​!​”

“​อืม​”​ ​สวี​ซื่อ​จิบ​น้ำชา​คำ​หนึ่ง​อย่าง​เนิบ​ช้า​ ​“​จำไว้​ต้อง​บอก​คณะ​ละคร​ว่า​อย่า​เล่น​ละคร​เศร้าโศก​ ​ต้อง​เล่น​บทละคร​รื่นเริง​ ​นี่​เป็นการ​ฉลอง​ที่นาย​ท่าน​ได้​แต่งตั้ง​เป็น​โหว​ ​ไม่ใช่​งาน​อย่าง​อื่น​”

ตานจ​วี​๋ย​ยิ้มน้อย​ๆ​ ​ตอบ​ว่า​ ​“​บ่าว​กำชับ​หัวหน้า​คณะ​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

สวี​ซื่อ​วาง​ถ้วย​ชาลง​ ​“​บอกอี​กหน​”

“​เจ้าค่ะ​!​”​ ​ตานจ​วี​๋​ขานรับ

“​ซิ่ง​จู๋​!​”​ ​สวี​ซื่อ​ตะโกนเรียก​ทาง​ประตู

ซิ่ง​จู๋​หอบ​เสื้อผ้า​หลาย​ชุด​เดิน​เข้ามา​คำนับ​ ​“ฮู​หยิน​”

สวี​ซื่อ​ถาม​อย่าง​วางอำนาจ​ ​“​เสื้อผ้า​ของ​นายท่า​นกับ​คุณหนู​ใหญ่​ทำ​เรียบร้อย​แล้ว​หรือ​”

ซิ่ง​จู๋​หอบ​เสื้อผ้า​เดิน​มา​ข้างหน้า​ ​“​ตอบฮู​หยิน​ ​ทำ​เรียบร้อย​แล้ว​เจ้าค่ะ​ ​ร้าน​ปัก​ผ้า​เพิ่ง​ให้​คน​ส่ง​มา​ ​เชิญฮู​หยิน​ตรวจดู​”

เสื้อผ้า​ชุด​บนสุด​เป็น​ของ​เฉียว​เย​่ว​์​ซาน​ ​ทำ​จาก​ผ้าไหม​กลิ่นสุคนธ์​อัน​ล้ำค่า​ ​หรูหรา​งดงาม​ ​ฝี​เข็ม​ละเอียด​ประณีต​ ​รูปแบบ​ชุด​ก็​ทันสมัย​เหมาะสม​ทั้ง​ยัง​ไม่​เสีย​ความสุขุม​ ​สวี​ซื่อ​พึงพอใจ​ยิ่งนัก​ ​แล้ว​เมื่อ​หันไป​ดูกระ​โปรง​สีขาว​พิสุทธิ์​ตัว​นั้น​ที่อยู่​ด้านล่าง​ ​เนื้อผ้า​ที่​ทำ​จาก​ไหม​น้ำแข็ง​ราวกับ​ก้อน​เมฆ​ ​เบา​จน​เหมือน​ไร้​น้ำหนัก​ ​แขน​เสื้อ​กับ​ชายกระโปรง​ปัก​ลายเมฆ​หลาก​สี​ดู​เสมือนหนึ่ง​มีชีวิต​ ​เมื่อ​ขยับ​ไหว​เบา​ๆ​ ​ก็​เป็นประกาย​หลาก​สี​ ​ประหนึ่ง​เทพธิดา​แห่ง​อาทิตย์​อัสดง​ผู้​เหยียบย่าง​มากั​บสา​ยลม

กระโปรง​ชุด​นี้​หาก​สวม​อยู่​บน​ร่าง​ของ​บุตรสาว​ ​จะ​ต้อง​ทำให้​บุตรสาว​งาม​จน​ทุกคน​ตะลึง​แน่นอน

สวี​ซื่อ​ลูบ​กระโปรง​แล้ว​คลี่​ยิ้ม​ ​“​ลูก​ข้า​ต้อง​ทน​ก้มหน้า​มานาน​ ​ถึง​เวลา​ได้​เชิดหน้า​แล้ว​”

ไม่ใช่​เพียง​ซี​เอ๋อร​์​ของ​นาง​จะ​ได้​ล้างอาย​ที่​ถูก​อัครมหาเสนาบดี​ถอนหมั้น​ ​แม้แต่​นาง​กับ​นายท่า​นร​อง​ก็​จะ​ตัดขาด​กับ​ ​‘​ชื่อเสียง​ฉาวโฉ่​’​ ​ที่​เคย​เข้า​คุก​ ​นับจาก​วันนี้​เป็นต้นไป​ ​นาง​อยาก​ดูซิ​ว่า​ผู้ใด​ยัง​จะ​กล้า​ไม่เห็น​พวกเขา​อยู่​ใน​สายตา​อีก

เทียบ​กับ​การ​ได้รับแต่งตั้ง​เป็น​โหว​ ​สวี​ซื่อ​สนใจ​ว่า​สามี​ของ​นาง​ก้าว​ไป​ถึง​ความสำเร็จ​ที่สามี​ของ​เสิ่น​ซื่อ​ก้าว​ไป​ไม่​ถึง​มากกว่า​ ​พี่ใหญ่​ร้ายกาจ​อีก​เท่าใด​ก็ได้​รับ​สืบทอด​ตำแหน่งปั​๋ว​เท่านั้น​ ​แต่​สามี​ของ​นาง​กลับ​อาศัย​ความสามารถ​ของ​ตน​จนได้​รับ​แต่งตั้ง​จาก​ฮ่องเต้​ให้​เป็น​หย่ง​เอิน​โหว

นับจากนี้​ ​จะ​ไม่มี​ผู้ใด​กล้า​พูดว่า​นาง​เทียบ​เสิ่น​ซื่อ​ไม่ได้​แล้ว​!

…

 

วันเดียวกัน​นั้น​บน​ภูเขา​ก็​ครึกครื้น​อย่างยิ่ง​เช่นกัน​ ​เฉียว​เวย​พาลู​กก​ลับ​มา​ใน​หมู่บ้าน​ ​ข่าว​ที่​บิดา​แท้ๆ​ ​ของ​นาง​มาหา​กระจาย​ออก​ไป​อย่าง​เงียบๆ​ ​ทั้ง​หมู่บ้าน​ซี​หนิว​ต่าง​รู้​แล้ว​ว่า​บิดา​กับ​บุตรสาว​ได้​กลับ​อยู่​พร้อมหน้า​กัน

พอได้​ยิน​ว่า​บิดา​ของ​เฉียว​เวย​ตกระกำลำบาก​เร่ร่อน​อยู่​ข้างนอก​มาสิ​บก​ว่า​ปีก​ว่า​จะ​ตามหา​นาง​พบ​ ​ชาวบ้าน​ทั้งหลาย​ต่าง​ก็​สงสาร​มาก​ทีเดียว

แล้ว​เฉียว​เวย​ยัง​มา​เป็น​อีสุกอีใส​จน​เกือบ​จบชีวิต​อีก​ ​ชาวบ้าน​ทั้งหลาย​ยิ่ง​รู้สึก​ว่า​บิดา​กับ​บุตรสาว​คู่​นี้​ช่าง​มีชีวิต​ลำบาก​นัก

อา​กุ้ย​ทำงาน​ฝีมือ​ได้​เล็กน้อย​ ​เขา​กับ​หลัว​หย่ง​จื้อ​จึง​นำ​ไม้​ที่​เหลือ​จาก​โรงงาน​มาต​่อ​เป็น​ตู้​สมุนไพร​ ​วาง​ไว้​ใน​ห้อง​ของ​เฉียว​เจิง

ปี้​เอ๋อร​์​ไป​ตลาด​ซื้อ​ฟูก​กับ​เสื้อผ้า​ใหม่เอี่ยม

เสื้อ​ตัว​นั้น​เป็น​เสื้อผ้า​ไหมฝู​่โฉว​ ​สีน้ำเงิน​เข้ม​ ​แขน​เสื้อ​แคบ​ ​ทำงาน​สะดวก​ ​นี่​เป็น​เนื้อผ้า​ที่​แพง​ที่สุด​ที่จะ​ซื้อ​ได้​จาก​ตัวเมือง​ ​แม้​เทียบ​กับ​ร้าน​ผ้า​ใน​เมืองหลวง​จะ​ไม่มีค่า​ให้​เอ่ยถึง​ ​แต่​สำหรับ​เฉียว​เจิง​ผู้​ไม่ได้​สวม​เสื้อผ้า​ใหม่​มา​ไม่รู้​กี่​ปี​แล้วก็​ยัง​ล้ำค่า​อย่างยิ่ง

เฉียว​เจิง​ดีใจ​มาก

เฉียว​เจิง​เดิมที​ก็​รูปโฉม​หล่อเหลา​อยู่​แล้ว​ ​เมื่อ​เปลี่ยน​มาสวม​เสื้อผ้า​สะอาด​เข้ากับ​รูปลักษณ์​ก็​ดู​เด็ก​ลง​อีก​สิบ​ปี​ ​ท่าน​ป้า​ท่าน​น้า​ทั้งหลาย​ใน​หมู่บ้าน​ต่าง​เคลิบเคลิ้ม​จน​เหม่อลอย​ ​แม้แต่​ป้า​หลัว​มอง​หน​เดียว​ก็​ไม่กล้า​มอง​อีก​ ​ดวง​หน้า​แก่​ชรา​แดงก่ำ

“​ท่าน​ตา​ ​ท่าน​งาม​นัก​!​”​ วั​่ง​ซู​เงยหน้า​ขึ้น​ ​กะพริบตา​ปริบๆ​ ​ชม​อย่าง​ตกตะลึง​ใน​ความงาม

นี่​ไม่ใช่​คำ​โกหก​ ​นาง​รู้สึก​ว่า​ท่าน​ตารู​ปงา​มมาก​จริงๆ​ ​งาม​จน​เกือบจะ​เท่ากับ​ท่าน​ลุง​หมิง​แล้ว​!

เฉียว​เจิง​ผู้​ถูก​เรียกว่า​ท่าน​ตาดี​ใจ​เป็น​ที่สุด​ ​เขา​ย่อ​ตัว​ลงมา​หยิก​ใบหน้า​น้อย​ๆ​ ​ของวั​่ง​ซู​ ​แล้ว​หันไป​มอง​จิ​่​งอ​วิ​๋น​ผู้​เยือกเย็น​สุขุม​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​ ​“​จิ​่​งอ​วิ​๋น​ ​ท่าน​ตา​สวม​เสื้อ​ตัว​นี้​แล้ว​หล่อเหลา​หรือไม่​”

​จิ​่​งอ​วิ​๋​นพ​ยัก​หน้า​ ​“​หล่อเหลา​ขอรับ​”

“​ท่าน​แม่​ของ​พวก​เจ้า​ซื้อ​มา​ ​ท่าน​ตาก​็​รู้สึก​ว่า​หล่อเหลา​เช่นกัน​”​ ​เฉียว​เจิง​ก้มหน้า​มอง​เสื้อ​ตัวใหม่​ ​ดวงตา​ฉาย​ความปิติยินดี​อย่าง​ปิดไม่มิด​ ​เสื้อผ้า​ที่​ลูกสาว​ซื้อ​ให้​ ​สวมใส่​สบาย​นัก​!​ ​“​ข้า​จะ​ไป​ให้ท่าน​แม่​ของ​พวก​เจ้า​ดู​”

พูด​จบ​ ​เฉียว​เจิง​ก็​เดิน​ไป​ห้อง​ของ​เฉียว​เวย​เหมือน​จะ​อวด​สมบัติ

เฉียว​เวย​กำลัง​ทวน​เงินค่าจ้าง​ของ​คนงาน​อยู่​กับ​ชี​เหนียง​ ​“​คิด​ตามวัน​ ​หนึ่ง​วัน​สามสิบ​อี​แปะ​ ​ทำ​เต็ม​หนึ่ง​เดือน​ก็​คือ​หนึ่ง​ตำลึง​ ​หาก​มี​ผู้ใด​จะ​ไม่ทำงาน​แล้ว​ต้อง​แจ้ง​ล่วงหน้า​ ​จะ​ได้​ไม่​ทำให้​ปริมาณ​การผลิต​ลดลง​ ​ส่วน​เงินเดือน​ก็​ยัง​ให้​เขา​ตามเดิม​”

ชี​เหนียง​กล่าวว่า​ ​“​ไม่มี​ผู้ใด​ไม่​ทำ​หรอก​เจ้าค่ะ​ ​ปี​ภัยแล้ง​ ​แม้แต่​ข้าว​ทุกคน​ก็​ยัง​ไม่มี​จะ​กิน​ ​มี​งาน​ที่​หาเงิน​ได้​สัก​งาน​ก็​ต้อง​ขอบคุณ​ฟ้า​ขอบคุณ​ดิน​แล้ว​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​พวกเขา​ล้วน​ติดค้าง​เงินอยู่​ ​หาก​จะ​ไป​ก็​ต้อง​คืนเงิน​ก่อน​ถึง​จะ​ไป​ได้​”

ชี​เหนียง​ฉลาด​ ​สุขุม​ ​จิตใจ​ดีแต่​ไม่ดี​จน​เป็น​แม่พระ​ ​อ่อนโยน​แต่​ไม่​อ่อนแอ​ ​อ่อน​นอก​แข็ง​ใน​ ​ทำงาน​พิถีพิถัน​ ​อยู่​กับ​ผู้ใด​ก็​ทำงาน​ด้วยกัน​ได้​ ​ความสามารถ​ใน​การคบ​หา​ผู้คน​กับ​เสน่ห์​ส่วนตัว​ล้วน​เหนือกว่า​มาตรฐาน​อย่างมาก​ ​หาก​อยู่​ใน​ยุคปัจจุบัน​ ​เหมาะ​จะ​เป็น​พนักงาน​ฝ่าย​บุคคล​ดีเด่น​เหลือเกิน

แต่​โรงงาน​ใน​ช่วง​ตั้งต้น​คง​ต้อง​ลำบาก​พนักงาน​ฝ่าย​บุคคล​ทำงาน​ควบ​หลาย​ตำแหน่ง​หน่อย​แล้ว

“ยัย​หนู​!​”​ ​หมอ​พเนจร​ฉีก​ยิ้ม​ ​ปรากฏตัว​ตรง​ประตู

เฉียว​เวย​กุม​หน้าผาก

ชี​เหนียง​ลุกขึ้น​ยืน​ ​แย้มยิ้ม​คำนับ​ ​“​นายท่าน​ ​ท่าน​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​แล้ว​หรือ​เจ้า​คะ​ ​เหมาะ​ยิ่งนัก​ ​ดู​มีชีวิตชีวา​อย่างยิ่ง​!​”

“​ลูกสาว​ซื้อ​ให้​!​”​ ​เฉียว​เจิง​ยิ้ม​อย่าง​ภาคภูมิใจ​อย่างยิ่ง

เฉียว​เวย​อ้าปากค้าง​ ​“​ข้า​ซื้อ​ตั้งแต่​เมื่อ​…​”

ชี​เหนียง​กระแอม​ ​แล้ว​เอ่ย​อย่าง​อ่อนโยน​ ​“ฮู​หยิน​ตาแหลม​ยิ่ง​ ​ตอน​ผ่าน​ร้าน​ผ้า​ระหว่างทาง​กลับ​จาก​เมืองหลวง​นาง​ก็​ถูกใจ​ชุด​นี้​เข้า​ ​แต่​ที่​ตัว​ไม่ได้​พก​เงิน​มา​จึง​กลับมา​บ้าน​แล้ว​ให้​ปี้​เอ๋อร​์​ออก​ไป​อีก​รอบ​”

เฉียว​เวย​ตวัด​สายตา​มาป​ระ​หนึ่ง​คม​มีด

ชี​เหนียง​รู้สึก​เก้อ​กระดาก​ ​จึง​หยิบ​สมุดบัญชี​แล้ว​เอ่ย​ยิ้ม​ๆ​ ​“​วันนี้​จัดงาน​เลี้ยง​ต้อนรับ​นายท่าน​ ​พร้อมกับ​ฉลอง​ที่​เจ้านาย​หาย​จาก​โรค​ภัย​ ​ข้า​จะ​ไปดู​สักหน่อย​ว่า​มีเรื่อง​ใด​ให้​ช่วย​งาน​หรือไม่​”

ชี​เหนียง​ออกจาก​ห้อง​ ​เฉียว​เจิง​เดิน​มาตรง​หน้า​ลูกสาว​แล้ว​หมุนตัว​โอ้อวด​หลาย​รอบ

เฉียว​เวย​ไม่​มอง​เขา​ ​ก้มหน้า​คิดบัญชี

แต่เดิม​ก็​ไม่ใช่​เสื้อ​ที่นาง​ซื้อ​ ​ชี​เหนียง​ตัดสินใจ​เอง​โดยพลการ​ให้​ปี้​เอ๋อร​์​เลือก​มาชุด​หนึ่ง

เฉียว​เจิง​ไม่รู้​ว่า​ลูกสาว​ไม่สน​ใจ​เขา​ ​สิ่งใด​ที่​เขา​ไม่ต้องการ​เห็น​ ​เขา​ล้วน​มองไม่เห็น​ทั้งสิ้น​ ​เขา​ยิ้ม​พลาง​เกาะ​อยู่​กับ​โต๊ะ​ ​แล้ว​มอง​ลูกสาว​อย่าง​ประจบ​ ​“ยัย​หนู​ ​เจ้า​ดู​ ​ข้า​สวม​แล้ว​หล่อเหลา​หรือไม่​”

“​อืม​ ​หล่อเหลา​ยิ่ง​”​ ​เฉียว​เวย​ไม่​เงยหน้า​ขึ้น​มาสัก​นิด

เฉียว​เจิง​เอ่ย​อีกว่า​ ​“​เจ้า​ยัง​ไม่ได้​ดู​เลย​”

เฉียว​เวย​เงยหน้า​ขึ้น​อย่าง​จนปัญญา​ ​แล้ว​ตวัด​สายตา​ดู​แวบ​หนึ่ง​ ​“​ตอนนี้​ข้า​ดูแล​้ว​”

เฉียว​เจิง​คิด​ครู่หนึ่ง​ก็​ล้วง​เหรียญทองแดง​หลาย​เหรียญ​ออกมา​จาก​อก​เสื้อ​ ​“​ให้​เจ้า​”

เฉียว​เวย​มอง​เขา​อย่างประหลาดใจ​ ​“​ให้เงิน​ข้า​ทำ​อัน​ใด​”​ ​แล้วยัง​ให้​มาน้อย​เช่นนี้​ ​นาง​ท่าทาง​เหมือน​ขาดแคลน​เงิน​จำนวน​เท่านี้​หรือ

เฉียว​เจิง​ตอบ​เสียง​เบา​ ​“​นี่​เป็น​ค่ารักษา​ที่​ข้า​หามา​ได้​เมื่อวาน​ ​หมู่บ้าน​พวก​เจ้า​มี​เด็ก​คน​หนึ่ง​ชื่อ​เอ้อร​์​โก่​วจื​่อ​ ​เขา​เป็น​อีสุกอีใส​เหมือนกัน​ ​ใกล้​จะ​ตาย​อยู่​แล้ว​ ​แต่​ข้า​รักษา​จน​หาย​ดี​ ​มารดา​ของ​เขา​จึง​ให้​ข้ามา​สิบ​อี​แปะ​”

สิบ​อี​แปะ​ยัง​ไม่พอ​ค่า​ตรวจ​ของ​หมอ​ใน​ตัวเมือง​เสียด​้วย​ซ้ำ​ ​แต่​สำหรับ​บ้าน​ของ​เอ้อร​์​โก่​วจื​่อ​ ​เกรง​ว่า​คง​เป็น​เงินเก็บ​ทั้งหมด​แล้ว

เฉียว​เวย​จับ​พู่กัน​ ​เขียน​บัญชี​อีก​หนึ่ง​รายงาน​ ​“​ในเมื่อ​มอบให้​ท่าน​ ​ถ้าเช่นนั้น​ท่าน​ก็​เก็บ​ไว้​สิ​ ​ไม่จำเป็น​ต้อง​มอบให้​ข้า​”

เฉียว​เจิง​จึง​บอกอ​ย่าง​เต็มไปด้วย​เหตุผล​ ​“​ข้า​เป็น​พ่อ​ของ​เจ้า​ ​ข้า​ต้อง​เลี้ยงดู​เจ้า​สิ​ ​เงิน​ของ​ข้า​ย่อม​ต้อง​มอบให้​เจ้า​”

เฉียว​เวย​บีบ​นิ้วมือ​ ​“​ข้า​จะ​ไป​ห้องครัว​ทำอาหาร​”

ใน​ห้องครัว​ปี้​เอ๋อร​์​กับ​ป้า​หลัว​เพิ่ง​ล้าง​ผัก​เสร็จ​ ​ชี​เหนียง​นวดแป้ง​อยู่​บน​โต๊ะ​ ​เมื่อ​เห็น​นาง​เข้ามา​ก็​แย้มยิ้ม​เอ่ย​ทักทาย

ป้า​หลัว​เช็ดมือ​กับ​ผ้ากันเปื้อน​ ​“​อาการป่วย​ของ​เจ้า​ยัง​ไม่​หาย​ดี​เสียหน่อย​ ​เข้ามา​ใน​ห้องครัว​ทำไม​ ​รีบ​กลับ​ไป​พัก​ที่​ห้อง​”

เฉียว​เวย​จึง​ตอบ​ว่า​ ​“​ข้า​หาย​ดี​แล้ว​ ​หาก​นั่ง​อยู่​ใน​ห้อง​ต่อ​คง​ขึ้นรา​กัน​พอดี​”

นาง​เป็น​คนที​่​อยู่​ว่าง​ไม่ได้​ ​หาก​ไม่​ป่วย​จน​ไม่​รับรู้​เรื่องราว​ก็​จะ​ต้องหา​งาน​อะไร​ทำเล​็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​

ป้า​หลัว​กลับ​คิด​ว่านาง​ต้องการ​ตอบแทน​บุญคุณ​บิดา​ด้วย​ตนเอง​จึง​ไม่​สะดวก​พูด​อะไร​อีก​ ​นาง​ชี้​ไก่​เป็น​ๆ​ ​ใน​ตะกร้า​แล้ว​ว่า​ ​“​ถ้าเช่นนั้น​เจ้า​เชือด​ไก่​ก็แล้วกัน​”

ไก่​ตัว​นี้​เป็น​แม่​ไก่​จาก​บ้าน​ของ​ป้า​หลัว​ ​แม้แต่​ตอน​วันเกิด​ของ​หลัว​หย่ง​จื้อ​ ​ป้า​หลัว​ยัง​ตัดใจ​เชือด​ไม่​ลง​ ​แต่​วันนี้​กลับ​หิ้ว​มัน​ขึ้น​เขา​มาด​้วย

เฉียว​เวย​ขยับ​มีด​ว่องไว​ยิ่งนัก​ ​เชือด​คอ​ ​รีด​เลือด​ ​ถอน​คน​ ​ควัก​เครื่องใน​ ​เฮือก​เดียว​ก็​เสร็จ

นอกจาก​ไก่​เป็น​ๆ​ ​ป้า​หลัว​ยัง​ไปหา​เป็ด​เป็น​ๆ​ ​ตัว​หนึ่ง​จาก​บ้าน​สกุล​จ้าว​มาด​้วย​ ​เฉียว​เวย​จัดการ​เป็ด​จน​เรียบร้อย​ดุจ​เดียวกัน

ชนบท​กินข้าว​ไม่​พิถีพิถัน​เท่าใด​นัก​ ​ไก่​ ​เป็ด​ ​ปลา​ ​หมู​ได้​กิน​ครบ​ก็​ถือว่า​หรูหรา​อย่างยิ่ง​แล้ว​ ​ปลา​ไน​เป็น​ๆ​ ​สอง​ตัว​ ​หมูสามชั้น​อย่างดี​หนึ่ง​ชั่ง​กว่า​ ​แล้ว​เมื่อ​รวม​กับ​เห็ด​กระเพาะ​แพะ​หนึ่ง​ชั่ง​ที่​จิ​่​งอ​วิ​๋​นกับวั​่ง​ซู​เก็บ​มา​ ​กับ​กระต่ายป่า​ที่​เฉียว​เวย​ล่ามา​ได้ตัว​หนึ่ง​ ​แล้วก็​งู​อะไร​สัก​อย่างที่​เสี่ยว​ไป๋​จับ​มา​ ​รวมไปถึง​ผลไม้​สีแดง​ลูก​โต​ที่​จู​เอ๋อร​์​เด็ด​มา​อีก​หลาย​ลูก​ ​มือเย็น​อัน​พรั่งพร้อม​มื้อ​หนึ่ง​ก็​ออกจาก​เตา

มื้อ​เย็น​จัด​โต๊ะ​อยู่​ใน​ห้องโถง

เฉียว​เจิง​มอง​อาหาร​หอมฉุย​เต็มโต๊ะ​ ​แล้ว​อ้า​ปาก​หุบ​ไม่​ลง​อย่าง​ตกตะลึง​ ​“​นี่​…​นี่ยัย​หนู​เป็น​คน​ทำ​หมด​เลย​หรือ​”

ป้า​หลัว​เอ่ย​อย่าง​ภาคภูมิใจ​ ​“​ใช่​น่ะ​สิ​ ​อาหาร​ที่​เสี่ยว​เฉียว​ทำชื่อ​เสียง​เลื่องลือ​ไป​ทั่ว​แปด​หมู่บ้าน​สิบ​ลี้​!​”

เฉียว​เจิง​เร่ร่อน​มาสิ​บก​ว่า​ปี​ ​จดจำ​รสชาติ​อาหาร​ที่​ผ่าน​การปรุง​ไม่ได้​มานาน​แล้ว​ ​อาหาร​เหล่านี้​แม้​หน้าตา​จะ​ดู​คุ้นเคย​ ​แต่​เรียกชื่อ​ไม่​ถูก

ป้า​หลัว​แนะนำ​อาหาร​ที่​เฉียว​เวย​ทำ​อย่าง​ภาคภูมิใจ​ทีละ​อย่าง​จน​ครบ​ ​ไก่​ผัด​เกาลัด​ ​เป็ด​ย่าง​ ​ปลา​ไน​ราด​น้ำเต้า​ซี่​ ​เนื้อ​น้ำ​แดง​ใส่​หู​หลัว​ปัว​ ​น้ำแกง​ลูกชิ้น​เนื้อ​กับ​เห็ด​กระเพาะ​แพะ​ ​เนื้อ​กระต่าย​หมา​ล่า​ ​เนื้อ​งู​ผัด​แห้ง​ ​ผักกาด​ขาว​ผัด​ ​ยำ​แตงกวา​ ​“​….​โชคดี​ที่​ใช้​โต๊ะ​ของ​เสี่ยว​เฉียว​ ​หาก​เป็น​โต๊ะ​บ้าน​ข้า​คง​วาง​ไม่​หมด​!​”

เฉียว​เจิง​ตาโต​อ้าปากค้าง

“​ท่าน​ตา​ๆ​!​ ​เห็ด​กระเพาะ​แพะ​ ​ข้า​กับ​พี่ชาย​เป็น​คน​ขึ้น​เขา​ไป​เก็บ​!​”​ วั​่ง​ซูบ​อก​อย่างกระตือรือร้น

เฉียว​เจิง​ลูบ​ศีรษะ​น้อย​ๆ​ ​ของ​ทั้งสอง​คน​อย่าง​รักใคร่​ ​“วั​่ง​ซู​กับ​พี่ชาย​เก่งกาจ​จริงๆ​”

วั​่ง​ซู​เอ่ย​ต่อว่า​ ​“​ท่าน​แม่​เป็น​คน​จับ​กระต่าย​!​ ​ท่าน​แม่​มี​กรง​อยู่​อัน​หนึ่ง​ ​มักจะ​มี​กระต่าย​มุด​เข้าไป​!​ ​เสี่ยว​ไป๋​เป็น​คน​จับ​งู​ ​เสี่ยว​ไป๋​ร้ายกาจ​มาก​ ​มัน​เลี้ยง​งู​น้อย​ไว้​เยอะแยะ​ ​แต่​ยัง​ไม่​โต​ ​งู​ตัว​นี้​มัน​จับ​มาจาก​บน​เขา​!​”

ดวงตา​คมกริบ​ดั่ง​ใบ​มีด​ของ​เฉียว​เวย​ตวัด​ฉับ​มาหา​!

เลี้ยง​งู​อีกแล้ว​!

กรงเล็บ​น้อย​ของ​เสี่ยว​ไป๋​ยกขึ้น​กุม​หัว

วั​่ง​ซู​หัวเราะ​คิกคัก​บอกว่า​ ​“​จู​เอ๋อร​์​เป็น​คน​เก็บ​ผลไม้​มา​!​”

จู​เอ๋อร​์​ยืด​อก​เล็ก​ๆ​ ​ของ​มัน​อย่าง​หยิ่งยโส

เฉียว​เวย​ให้​จิ​่​งอ​วิ​๋น​เชิญ​ซิ่ว​ไฉ​เฒ่า​มาด​้วย​ ​ซิ่ว​ไฉ​เฒ่า​นั่ง​ติดกับ​หมอ​พเนจร​ ​หลัว​หย่ง​จื้อ​ ​ชุ่ย​อวิ​๋​นกับ​ป้า​หลัว​นั่ง​ด้วยกัน​ ​เด็กน้อย​สอง​คน​นั่ง​อีก​ด้าน​หนึ่ง​ ​เมื่อ​เรียก​พวก​ชี​เหนียง​มา​ ​ชี​เหนียง​ก็​กระอักกระอ่วน​ไม่กล้า​นั่ง​ร่วมโต๊ะ

เฉียว​เวย​ยิ้มน้อย​ๆ​ ​บอกว่า​ ​“​แค่​อาหาร​มื้อ​เดียว​เท่านั้น​ ​ไม่ใช่​คนอื่น​คน​ไกล​เสียหน่อย​ ​เรียก​อา​กุ้​ยกับ​จง​เกอร์​ ​แล้วก็​เสี่ยว​เว​่​ยมา​ด้วย​เถิด​”

ปี้​เอ๋อร​์​จึง​ตอบ​ว่า​ ​“​เสี่ยว​เว​่​ยก​ลับ​ไป​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

เฉียว​เวย​ร้อง​เอ๋​คำ​หนึ่ง​แล้ว​ถาม​อย่าง​ฉงน​ ​“​วันนี้​เหตุใด​จึง​กลับ​เร็ว​เช่นนี้​ ​ปกติ​ไม่ใช่​กินข้าว​เย็น​ก่อน​แล้ว​ค่อย​กลับ​หรือ​”

ปี้​เอ๋อร​์​ตอบ​อย่าง​ไม่​ค่อย​แน่ใจ​นัก​ ​“​ดูเหมือนว่า​…​พี่สาว​ที่​บ้าน​ของ​เขา​จะ​ป่วย​ ​เขา​รีบ​กลับ​ไปดู​แล​พี่สาว​”

อีก​ด้าน​หนึ่ง​ชี​เหนียง​ปฏิเสธ​ไม่ได้​ ​จึง​เรียก​อา​กุ้​ยกับ​จง​เกอร์​มา

จง​เกอร์​เล่น​กับ​เด็กน้อย​สอง​คน​อย่าง​เบิกบานใจ

ชี​เหนียง​กับ​อา​กุ้​ยก​็​นั่งลง​ด้วย

ทุกคน​ล้วน​มอง​เฉียว​เจิง​ ​รอ​ให้​เขา​ขยับ​ตะเกียบ​ ​เขา​เป็น​บุรุษ​ใน​บ้าน​เจ้านาย​ ​หาก​เขา​ไม่​กิน​ ​ผู้ใด​ก็​ไม่กล้า​กิน​ก่อน

เฉียว​เจิง​มอง​อาหาร​เต็มโต๊ะ​ ​นิ่ง​ตะลึง​อยู่​เนิ่นนาน​ ​ในที่สุด​ก็​หยิบ​ตะเกียบ​ขึ้น​มาคีบ​เนื้อไก่​ชิ้น​หนึ่ง​วาง​ใส่​ชาม​ของ​ลูกสาว​ ​แล้ว​คีบ​เนื้อ​น้ำ​แดง​สอง​ชิ้น​วาง​ใน​ชาม​ของ​จิ​่​งอ​วิ​๋​นกับวั​่ง​ซู

จิ​่​งอ​วิ​๋​นกับวั​่ง​ซูต​อบ​ว่า​ ​“​ขอบคุณ​ท่าน​ตา​!​”

เฉียว​เจิง​น้ำตา​รื้น​ขอบตา​เล็กน้อย

“​ท่าน​ตา​ ​อาหาร​ที่​ท่าน​แม่​ทำ​อร่อย​ยิ่งนัก​ ​ให้ท่าน​ชิม​ลูกชิ้น​เนื้อ​”​ ​มือ​น้อย​อัน​อ่อนเยาว์​ของวั​่ง​ซูตัก​น้ำแกง​ลูกชิ้น​เนื้อ​ใส่​เห็ด​ให้​เฉียว​เจิง​ ​“​ข้า​กับ​พี่ชาย​ชอบ​ที่สุด​”

เฉียว​เจิง​กิน​เห็ด​กระเพาะ​แพะ​คำ​เล็ก​ๆ​ ​รสชาติ​ยอดเยี่ยม​จริง​ดัง​ว่า​ ​อร่อย​เหมือนกับ​อาหาร​ที่​ชิง​เหยา​ทำไม​่​มี​ผิด

ป้า​หลัว​เห็น​หมอ​พเนจร​ใกล้​จะ​ร้องไห้​แล้วจึง​คลี่​ยิ้ม​หยิบ​ตะเกียบ​ขึ้น​มา​ ​“​พ่อ​ของ​เสี่ยว​เวย​ ​พวกเรา​คนชนบท​ไม่​พิถีพิถัน​อะไร​นัก​ ​กฎเกณฑ์​อะไร​ก็​ไม่มี​ ​ท่าน​อย่า​เก็บ​มา​ใส่ใจ​เลย​นะ​”

เฉียว​เจิง​พูด​อย่าง​ซาบซึ้ง​ ​“​เป็น​เช่นนี้​ดียิ่ง​นัก​”​ ​ทั้ง​ครอบครัว​ได้​กินข้าว​ร่วมโต๊ะ​ย่อม​ครึกครื้น​กว่า​กิน​อย่าง​เดียวดาย​มาก​นัก

ป้า​หลัว​เอ่ย​กับ​ทุกคน​ว่า​ ​“​ทุกคน​รีบ​กิน​เถิด​”

ทุกคน​จึง​ลงมือ

ฝีมือ​ทำอาหาร​ของ​เฉียว​เวย​ยอดเยี่ยม​ ​ดี​เสีย​ยิ่งกว่า​ชี​เหนียง​กับ​ปี้​เอ๋อร​์​ ​ทุกคน​บน​โต๊ะ​จึง​กิน​อย่าง​เอร็ดอร่อย

ระหว่าง​นั้น​เด็กน้อย​ทั้งสอง​คน​ก็​คีบ​อาหาร​ให้ท่าน​ตา​อย่างเอาใจใส่​ ​ทำให้​หมอ​พเนจร​ซาบซึ้ง​ยกใหญ่

หลังจาก​กินข้าว​เสร็จ​ ​หัวหน้า​หมู่บ้าน​ก็​มาหา

เฉียว​เวย​เชิญ​หัวหน้า​หมู่บ้าน​เข้ามา​ใน​ห้อง​ ​“​หัวหน้า​หมู่บ้าน​”

หัวหน้า​หมู่บ้าน​วาง​แป้ง​หนัก​สิบ​ชั่ง​ ​น้ำมันงา​ห้า​ชั่ง​ใน​มือ​ลง​บน​โต๊ะ​ ​“​บิดา​ของ​เจ้า​กลับมา​แล้ว​ ​ข้า​ไม่มี​ของดี​ๆ​ ​มาร​่วม​ฉลอง​ ​มี​แต่​ข้าวของ​เล็กน้อย​เท่านี้​ ​อย่า​รังเกียจ​เลย​นะ​”

เฉียว​เวย​มอง​แป้ง​กับ​น้ำมัน​สอง​กระปุก​ใหญ่​ ​แล้ว​ตอบ​ว่า​ ​“​หัวหน้า​หมู่บ้าน​ท่าน​มีน้ำใจ​เกินไป​แล้ว​ ​หิ้ว​ข้าวของ​มามาก​มาย​เช่นนี้​ ​จะ​กิน​หมด​ได้​อย่างไรเล่า​”

“​กิน​หมด​สิ​ๆ​!​”​ ​หัวหน้า​หมู่บ้าน​ยิ้มแย้ม​ ​“​เจ้า​เคย​ให้​ใบชา​แล้วก็​ปลา​กับ​ข้า​ ​ข้า​ไม่​หา​โอกาส​มอบ​ของ​คืนให้​เจ้า​สักหน่อย​ ​วันหน้า​ยัง​จะ​มีหน้า​มา​ขอ​ข้าว​บ้าน​เจ้า​กิน​อีก​ได้​อย่างไร​”

เฉียว​เวย​หัวเราะ​ออกมา​อย่าง​อด​ไม่อยู่​ ​ตรงไปตรงมา​ถึงขั้น​นี้​ ​เรียก​ได้​ว่า​เป็น​คน​คบ​ได้​คน​หนึ่ง

หัวหน้า​หมู่บ้าน​ทักทาย​หมอ​พเนจร​ต่อ​ ​หมอ​พเนจร​พอ​จะ​ตระหนัก​ได้​แล้ว​ว่า​ตน​สติ​ไม่ดี​ ​เมื่อ​อยู่​ต่อหน้า​คนนอก​จึง​แสร้งทำ​เป็นปกติ​เป็นพิเศษ​ ​หัวหน้า​หมู่บ้าน​จึง​ไม่รู้สึกตัว​ว่า​อีก​ฝ่าย​เป็น​คนบ้า​ที่​ออก​อาการ​เป็นช่วงๆ​ ​คน​หนึ่ง​ ​แล้วยัง​ชื่นชม​อีก​ฝ่าย​ว่า​มี​การศึกษา​ ​รอบรู้​ ​มารยาท​เพียบพร้อม​ ​ไม่​เสียที​เป็น​นายท่าน​จาก​ตระกูล​ใหญ่

เรื่อง​นอกเหนือจาก​นั้น​หัวหน้า​หมู่บ้าน​ไม่​ถามถึง​ ​แม้​เขา​สงสัย​ใคร่รู้​พอสมควร​ว่า​บิดา​กับ​บุตรสาว​คู่​นี้​มาจาก​ตระกูล​ใหญ่​ตระกูล​ใด​ ​แล้ว​ตกต่ำ​มาถึง​ตรงนี้​ได้​เช่นไร

หัวหน้า​หมู่บ้าน​จากไป​ได้​ไม่นาน​ ​ชาวบ้าน​ทั้งหลาย​ก็​ทยอย​นำ​ของ​มาม​อบ​ให้​ ​ท่าน​น้า​ตระกูล​จาง​นำ​ไข่ไก่​มา​ให้​ตะกร้า​หนึ่ง​ ​สะใภ้​ตระกูล​เหอ​นำ​ฟักทอง​มา​ให้​สอง​ลูก​ ​บ้าน​ของ​สวีต​้า​จ้วง​นำ​เข่ง​ที่​พ่อตา​สาน​มา​ให้​หลาย​ใบ​ ​(​เพราะ​ช่วงนี้​ล่าสัตว์​ได้​ไม่ดี​นัก​จึง​ไม่มี​รายได้​นาน​แล้ว​)​ ​ครอบครัว​ตระกูล​จ้าว​ก็​นำ​ขนม​แป้งข้าวโพด​ที่​ตนเอง​อบมา​ให้​หลาย​ชิ้น​ ​แล้วยัง​มี​คนที​่​ทำงาน​ใน​โรงงาน​ต่าง​ก็​ทยอย​กัน​นำ​สิ่งของ​ที่​บ้าน​ตน​ปลูก​มาม​อบ​ให้​เช่นกัน​ ​บน​พื้น​จึง​มี​ข้าวของ​กอง​เต็มไปหมด

แม้​จะ​ไม่ใช่​ข้าวของ​มีค่า​อะไร​ ​แต่​ทุกคน​ล้วน​นำ​ของ​ที่​ดีที​่​สุด​ออกมา​มอบให้​ ​เฉียว​เวย​จดบันทึก​ไว้​ทุกราย​การ

ฝั่ง​จวน​เอินปั​๋​วก​็​ได้รับ​ข้าวของ​มากมาย​เช่นเดียวกัน​ ​แขก​สูงศักดิ์​ที่มา​เยี่ยมเยือน​แทบจะ​เหยียบ​ธรณีประตู​บ้าน​ตระกูล​เฉียว​จน​แบน​ราบ​ ​แต่ละคน​ล้วน​นำ​ของขวัญ​ล้ำค่า​มาม​อบ​ให้​ ​ไม่ใช่​แก้วแหวน​งิน​ทอง​ก็​เป็น​ของโบราณ​หรือ​ภาพ​อักษร​ ​ด้วย​กลัว​ว่า​ของขวัญ​จะ​ล้ำค่า​ไม่พอ​ ​แสดง​ความนับถือ​และ​ความใส่ใจ​ที่​ตนเอง​มีต​่อ​หย่ง​เอิน​โหว​ที่​เพิ่ง​ได้​ตำแหน่ง​มามาด​ๆ​ ​คน​นี้​ไม่​มาก​พอ

หย่ง​เอิน​โหว​ช่วย​องค์​ชาย​รอง​แห่ง​เผ่าซ​ยง​หนีว​์​ไว้​ ​ย่อม​เป็น​ขุนนาง​ผู้สร้าง​ความชอบ​ของ​ราชวงศ์​ต้า​เหลียง​ ​แม้​เป็น​โหวด​้ว​ยกัน​ ​น้ำหนัก​ความสำคัญ​ของ​เขา​ก็​มากกว่า​เล็กน้อย

เฉียว​เย​่ว​์​ซาน​ยิ้ม​แก้ม​แทบ​ปริ​รับคำ​แสดงความยินดี​จาก​คน​ทั้งหลาย​ ​ด้านหลัง​ฉาก​กัน​ลม​สวี​ซื่อ​กับ​บุตรสาว​ก็​ถูก​คุณหนู​และ​สตรี​สูงศักดิ์​ทั้งหลาย​รุมล้อม​ดั่ง​ดาวล้อมเดือน

องค์​ชาย​รอง​แห่ง​เผ่าซ​ยง​หนีซ​์​ยัง​ป่วย​อยู่​จึง​ไม่​สะดวก​ออกมา​จาก​วัง​ ​แต่​เขา​ก็​ส่ง​ทูต​เดินทาง​มาก​ล่าว​ขอบคุณ​ ​แล้ว​มอบ​เหยี่ยว​ไห่​ตง​ชิง​สีดำ​ที่​หายาก​อย่างยิ่ง​ให้​คู่​หนึ่ง

เหยี่ยว​ไห่​ตง​ชิง​ตัว​หนึ่ง​ขาย​ใน​ตลาด​ได้​หนึ่ง​พัน​ตำลึง​เงิน​ ​หาก​เป็น​คู่​ตัวผู้​กับ​ตัวเมีย​ยิ่ง​ยาก​จะ​ประเมินค่า

ทุกคน​อิจฉา​แทบ​แย่​ ​ตระกูล​เฉียว​ช่าง​โชคดี​อะไร​เช่นนี้​หนอ​ที่​ผูกมิตร​กับ​องค์​ชาย​รอง​แห่ง​เผ่าซ​ยง​หนีว​์​ได้​ ​ฮ่องเต้​ใส่​พระทัย​ความสัมพันธ์​กับ​เผ่าซ​ยง​หนีว​์​เช่นนี้​ ​พระองค์​ย่อม​โปรดปราน​ตระกูล​เฉียว​เป็นพิเศษ​แน่

รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ของ​เฉียว​เย​่ว​์​ซาน​ไม่​เลือนหาย​ตั้งแต่​เริ่ม​จวบ​จวบจน​บัดนี้​ ​สวี​ซื่อ​กับ​บุตรสาว​ไม่ได้​มีหน้ามีตา​มานาน​แล้ว​ ​ไม่ต้อง​พูดว่า​พวก​นาง​กระหยิ่ม​ยิ้มย่อง​มาก​เท่าใด

“​ช่วย​คนป่วย​รักษา​คนเจ็บ​ก็​เป็น​หน้าที่​ของ​หมอ​หลวง​อยู่​แล้ว​ ​กลายเป็น​คุณ​งาม​ความชอบ​อัน​ยอดเยี่ยม​ตั้งแต่​เมื่อใด​”​ ​มี​คน​อิจฉาตาร้อน​แค่น​เสียง​เอ่ย​อย่างดูแคลน

สหาย​เตือน​นาง​ว่า​ ​“​ชู่​ ​เจ้า​เบา​เสียง​หน่อย​ ​ตระกูล​เฉียว​ใน​ตอนนี้​ไม่ใช่​ตระกูล​เฉียว​ก่อนหน้านี้​แล้ว​ ​ล่วงเกิน​ไม่ได้​”

…

 

ค่ำคืน​อัน​ครึกครื้น​ผ่าน​ไป​ ​เด็ก​ๆ​ ​อาบน้ำ​เข้านอน​แล้ว​ ​พวกเขา​นอนหลับ​อยู่​บน​เตียง​สีทอง​อร่าม​ของวั​่ง​ซู

เฉียว​เจิง​นั่ง​อยู่​หน้า​เตียง​ของ​ทั้งสอง​คน​ครู่หนึ่ง​ก็​เดิน​เข้ามา​ใน​ห้อง​ของ​เฉียว​เวย

เฉียว​เวย​กำลัง​พลิก​แถบ​กระดาษ​ข้อความ​ของ​หมิง​ซิว​ ​นาง​อยากรู้​ว่า​ตนเอง​ทำ​อะไร​ลง​ไป​กัน​แน่​ ​เหตุ​ไฉน​หมิง​ซิว​จึง​โมโห​เช่นนั้น

นาง​หยิบ​แถบ​กระดาษ​ข้อความ​ของ​หมิง​ซิว​ออกมา​กาง​ทีละ​แผ่น

‘​ยุ่ง​อะไร​อยู่​หรือ​หัวหน้าพรรค​เฉียว​ ​กวาดล้าง​สำนัก​เรียบร้อย​แล้ว​หรือยัง​’

นาง​ตอบ​ว่า​ ​‘​กำลัง​กวาดล้าง​อยู่​ ​ท่าน​ทำ​อะไร​อยู่​หรือ​ ​คุณชาย​หมิง​’

‘​วันพรุ่งนี้​เข้า​เมืองหลวง​มาสั​กหน​ ​ข้า​จะ​ส่ง​คน​ไปรับ​เจ้า​’

นาง​ตอบ​ว่า​ ​‘​ทำไม​’

‘​คืน​วันพรุ่งนี้​มี​เทศกาล​โคมไฟ​ ​เจ้า​ดื่มเหล้า​มา​ใช่​หรือไม่​’

คืน​นั้น​นาง​ดื่ม​มากเกินไป​ ​จำ​เรื่อง​เทศกาล​โคมไฟ​ไม่ได้​อย่าง​สิ้นเชิง​ ​วัน​ต่อมา​ก็​เข้าไป​ใน​ตัวเมือง​หารือ​เรื่อง​โรงงาน​ไข่​กับ​เถ้าแก่​หรง​ ​พบ​กับ​หัวหน้า​ชุย​ที่มา​เร่ง​สินค้า​ ​แล้วยัง​ลงมือ​วางกับดัก​สวี​ซื่อ​อีก​ ​พอก​ลับ​มาถึง​หมู่บ้าน​ก็​ค่ำ​แล้ว

เขา​บอกว่า​จะ​ส่ง​คน​มารั​บนาง​ ​เขา​คง​ส่ง​คน​มา​จริงๆ​ ​แต่​น่าเสียดาย​นาง​ไม่​ปรากฏตัว​เสียที​ ​ผู้อื่น​ทน​รอ​ไม่ไหว​จึง​กลับ​ไปรา​ยงาน

สิ่ง​ที่​เฉียว​เวย​ไม่ทราบ​ก็​คือ​มี​จุด​หนึ่ง​ที่นาง​เดา​ผิด​ ​วันนั้น​จี​หมิง​ซิว​ไม่ได้​ส่ง​คน​มารั​บนาง​ ​แต่​มาร​ออยู​่​บน​เขา​ด้วย​ตนเอง​ทั้งวัน

วันนั้น​คือ​เทศกาล​ชี​ซี​[1]

เฉียว​เวย​เคาะ​กะโหลก​ ​ใช้ชีวิต​มาส​อง​ชาติ​ไม่เคย​เที่ยว​เทศกาล​ชี​ซีกับ​ผู้อื่น​มาก​่อน​ ​ลำบาก​นัก​กว่า​จะ​มี​หนุ่ม​หล่อ​ต้องการ​มา​เที่ยว​เทศกาล​กับ​ตนเอง​ ​แต่​ตน​กลับ​ลืม​เสีย​เช่นนี้​!

มิน่า​หมิง​ซิว​ถึง​หน้าบูด​จมูก​เบี้ยว​ ​ตา​ค้อนควัก​ใส่​ตนเอง​ ​หาก​เป็น​นาง​ที่​ถูก​ปล่อย​ให้​รอเก้อ​ ​นาง​ก็​คง​โกรธ​เหมือนกัน​ ​แต่​นาง​ไม่ได้ตั้งใจ​จริงๆ​ ​เป็น​เพราะ​ดื่ม​มาก​ไป​แท้ๆ…

“ยัย​หนู​”

เสียง​ของ​เฉียว​เจิง​ขัด​ความคิด​ของ​เฉียว​เวย

เฉียว​เวย​เก็บ​กระดาษ​ข้อความ​เข้าไป​ใน​กล่อง​บุ​ผ้าไหม​แล้ว​ใส่กุญแจ​ ​นาง​ปรับ​สีหน้า​กลับมา​เป็นปกติ​แล้ว​มอง​เฉียว​เจิง​ ​ถาม​อย่าง​มีมา​รยาท​และ​เหินห่าง​ ​“​ดึก​เช่นนี้​แล้ว​มาหา​ข้ามี​เรื่อง​อัน​ใด​หรือ​”

เฉียว​เจิง​อ้า​ปาก​ ​“​บิดา​ของ​จิ​่​งอ​วิ​๋​นกับวั​่ง​ซู​…​”

“​อย่า​ถามถึง​บิดา​ของ​เด็ก​ๆ​”​ ​ตอนนี้​นาง​ยัง​คิดไม่ออก​ว่า​จะ​บอกอ​ย่าง​ไร

เฉียว​เจิง​ยิ้ม​ ​“​ถ้าอย่างนั้น​ข้า​ก็​จะ​ไม่​พูด​ ​เจ้า​รีบ​พักผ่อน​หน่อย​เถิด​”​ ​กล่าว​จบ​ก็​หมุนตัว​ออกจาก​ห้อง​ ​แต่​แล้ว​จู่ๆ​ ​ก็​เลี้ยว​กลับมา​ ​“​ข้า​อาจจะ​…​”

“​อาจจะ​อะไร​”​ ​เฉียว​เวย​ถาม

“​…​ไม่มี​อะไร​”​ ​เฉียว​เจิง​ยิ้ม​อย่าง​อ่อนโยน​ ​“​เจ้า​นอน​เถิด​”

เฉียว​เวย​พยักหน้า

เฉียว​เจิง​ปิดประตู

ลูกสาว​ไม่​ชอบ​เขา​ ​เขา​สัมผัส​ได้

…

 

 

​ ​[1]ชี​ซี ​คือ​เทศกาล​แห่ง​ความรัก​ของ​คนจีน​ใน​วันที่​เจ็ด​เดือน​เจ็ด​ ​ตาม​ตำนาน​วันนี้​เป็น​วันที่​หนุ่ม​เลี้ยง​วัว​กับ​สาว​ทอผ้า​คู่รัก​ที่​ถูก​พรากจากกัน​จะ​ได้​พบ​หน้า​กัน​ใน​รอบ​หนึ่ง​ปี

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 139-1 บิดากับบุตรสาว การต่อสู้ ณ หอหลิงจือ"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์