CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก - ตอนที่ 144-1 ชิงสมบัติคืน (ต้น)

  1. Home
  2. หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก
  3. ตอนที่ 144-1 ชิงสมบัติคืน (ต้น)
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

เฉียว​อวี​้​ซี​ผู้​คาบ​ช้อนทอง​เติบโต​มาย​่​อม​ไม่เชื่อฟัง​แต่​โดยง่าย​ ​อย่า​พูดถึง​ถอน​หญ้า​ด้วย​ตนเอง​ ​แม้แต่​มอง​ผู้อื่น​ถอน​หญ้า​ ​นาง​ยัง​ไม่​ออยาก​จะ​มอง​!

ไม่​กิน​ก็​ไม่​กิน​สิ​ ​นาง​ไม่เชื่อ​หรอก​ว่า​แม่ม่าย​สาว​คน​นี้​จะ​กล้า​ปล่อย​ให้​นาง​หิว​ตาย​จริงๆ​!

เฉียว​อวี​้​ซีก​ลับ​ไป​ยัง​เรือน​เล็ก​อย่าง​โกรธ​เกรี้ยว​ ​ก่อนหน้านี้​ตอน​ปี้​เอ๋อร​์​แนะนำ​นาง​ไม่ได้​สนใจ​ ​ตอนนี้​จึง​ไม่รู้​ว่า​ห้อง​ไหน​เป็น​ของ​ตนเอง

งาน​ตอนเช้า​ใน​โรงงาน​ทำ​เสร็จ​ไป​พอประมาณ​แล้ว​ ​ชี​เหนียง​จึง​เตรียมตัว​กลับ​เรือน​มาทา​นอา​หาร​กลางวัน​ก่อน​ ​แต่​แล้วก็​เห็น​แม่นาง​แปลกหน้า​คน​หนึ่ง​เดิน​วน​อยู่​หน้า​ประตู​ห้อง​ของ​นาง​ ​แม่นาง​คน​นั้น​แต่งตัว​งดงาม​นัก​ ​บน​ศีรษะ​ประดับ​ปิ่น​ประณีต​ราคาแพง​ ​ชี​เหนียง​ตะลึง​อย่าง​ช่วยไม่ได้​ ​คิด​ว่านาง​เป็น​แขก​สัก​คนที​่​มาคุย​เรื่อง​ค้าขาย​กับฮู​หยิน​ ​แต่​มาคุย​เรื่อง​ค้าขาย​เหตุใด​จึง​ส่ง​แม่นาง​ที่​ยัง​ไม่​ออกเรือน​คน​หนึ่ง​มา

ชี​เหนียง​งุนงง​ ​แต่​ก็​ยัง​ก้าว​เข้าไป​ทักทาย​ ​“​แม่นาง​ ​ท่าน​มาหา​ผู้ใด​หรือ​”

เฉียว​อวี​้​ซี​มอง​สำรวจ​นาง​จาก​หัว​จรด​เท้า​ ​ชี​เหนียง​สวม​เสื้อผ้า​เรียบง่าย​ ​ผูก​ผ้ากันเปื้อน​สกปรก​ผืน​หนึ่ง​ ​ใน​ดวงตา​ของ​เฉียว​อวี​้​ซี​ฉายแวว​รังเกียจ​วูบ​หนึ่ง​ ​“​เจ้า​เป็น​ผู้ใด​”

ชี​เหนียง​ไม่ได้​มองไม่เห็น​แววตา​รังเกียจ​ใน​ดวงตา​ของ​นาง​ ​แต่​ชี​เหนียง​เป็น​บ่าว​ย่อม​ตระหนัก​ใน​ความ​เป็น​บ่าว​ ​ไม่รู้​สึก​ว่าการ​ถูก​คุณหนู​สูงศักดิ์​คน​หนึ่ง​รังเกียจ​เป็นเรื่อง​ยาก​จะ​รับได้​มากมาย​นัก​ ​นาง​คลี่​ยิ้ม​ตอบ​ว่า​ ​“​ข้า​นาม​ว่า​ชี​เหนียง​ ​เป็น​คนงาน​ใน​โรงงาน​”

“​เจ้า​ก็​คือ​ชี​เหนียง​หรอก​หรือ​”​ ​ตอน​ปี้​เอ๋อร​์​แนะนำ​ห้อง​ให้​เฉียว​อวี​้​ซีฟัง​ ​นาง​เอ่ย​ชื่อ​คนแปลกหน้า​ออกมา​เพียง​สอง​ชื่อ​ ​หนึ่ง​ใน​นั้น​ก็​คือ​ชี​เหนียง

ชี​เหนียง​ฉงน​ ​แต่​ก็​ถาม​ด้วย​สีหน้า​เป็นมิตร​ ​“​แม่นาง​รู้จัก​ข้า​หรือ​”

เฉียว​อวี​้​ซี​ไม่​ตอบ​นาง​ ​กิริยามารยาท​ที่​ได้รับ​การอบรม​มา​ของ​นาง​มี​ไว้​สำหรับ​คนที​่​มี​ฐานะ​เท่าเทียมกัน​เท่านั้น​ ​นาง​ย่อม​ไม่เห็น​บ่าว​คน​หนึ่ง​อยู่​ใน​สายตา​ ​“​ห้อง​ที่​ทั้ง​มืด​ทั้ง​เหม็น​ห้อง​นั้น​คือ​ห้อง​ไหน​”

ชี​เหนียง​ฟัง​ไม่เข้าใจ​อย่าง​สิ้นเชิง​ว่านา​งกำ​ลัง​พูด​อะไร

เฉียว​อวี​้​ซี​รำคาญ​แล้ว​ ​“​ช่างมัน​ ​ข้า​จะ​หา​เอง​!​”

ชี​เหนียง​เดิน​เข้า​ห้อง​ไป​อย่าง​สับสน​มึนงง

เฉียว​อวี​้​ซีท​ราบ​ว่า​ห้อง​นั้น​คือ​ห้อง​ของ​ชี​เหนียง​แล้ว​ ​นาง​จำได้​ว่า​ห้อง​ก่อน​ห้อง​ของ​ชี​เหนียง​คือ​ของ​ปี้​เอ๋อร​์​ ​ถัดไป​สอง​สาม​ห้อง​จึง​เป็น​ห้อง​ของ​นาง

นาง​หา​ห้อง​ของ​ตนเอง​จน​เจอ

ห้อง​ว่าง​โล่ง​ ​นอกจาก​เตียง​เก่าๆ​ ​หลัง​หนึ่ง​ ​ตู้เสื้อผ้า​เก่าๆ​ ​หลัง​หนึ่ง​ก็​ไม่มี​สิ่ง​อื่น​แล้ว

บน​เตียง​วาง​ฟูก​สะอาด​ไว้​หลาย​อัน​ ​เมื่อ​ครู่​ตอน​ตน​เข้ามา​ยัง​ไม่มี​มัน​อยู่​ ​คิด​ว่า​หลังจาก​ตนเอง​ออก​ไป​ ​ปี้​เอ๋อร​์​คง​หอบ​เอา​มา​วาง​ไว้​ที่นี่

“​สาวใช้​น่า​ตาย​ ​ไม่รู้​จัก​ปู​เตียง​สักหน่อย​ ​เกียจคร้าน​นัก​!​”

เฉียว​อวี​้​ซี​ไม่มีทาง​ปู​เตียง​เอง​ ​แต่​ใน​ห้อง​นอกจาก​เตียง​ก็​หา​ที่อื่น​นั่ง​ไม่ได้​แล้ว​ ​จะ​ให้​นั่ง​เช่นนี้​ ​นาง​ก็​รังเกียจ​ว่า​สกปรก

นาง​ลังเล​ครู่หนึ่ง​ก็​ล้วง​ผ้าเช็ดหน้า​ออกมา​จาก​อก​เสื้อ​ ​วาง​ลง​บน​โครง​เตียง​เบา​ๆ​ ​หลังจากนั้น​จึง​นั่งลง​บน​ผ้าเช็ดหน้า​ช้าๆ

ไม่ว่า​จะ​ว่า​อย่างไร​ ​นาง​ก็​เป็น​ ​‘​ลูกศิษย์​’​ ​ที่​ฝ่า​บาท​ส่ง​มา​ ​สตรี​นาง​นั้น​ได้​แต่​แอบ​กลั่นแกล้ง​เท่านั้น​ ​จะ​กล้า​ไม่​ให้​นาง​กินข้าว​จริงๆ​ ​หรือ

หาก​นาง​คิด​จะ​ทำ​เช่นนั้น​ ​ซุน​มัว​มัว​กับ​ฟาง​มัว​มัว​คง​ไม่มีทาง​อนุญาต

มิเช่นนั้น​พระ​ชายา​ที่​ต้อง​แต่งงาน​เชื่อม​สัมพันธ์​เกิด​เป็นอัน​ใด​ขึ้น​มา​ ​มัว​มัว​ทั้งสอง​ก็​คง​ไม่มี​คำอธิบาย​ไป​มอบให้​ฮ่องเต้

เมื่อ​คิด​เช่นนี้​ ​เฉียว​อวี​้​ซีก​็​มั่นใจ​ใน​พริบตา​ ​นาง​หยิบ​หนังสือ​รวม​บก​วี​เล่ม​หนึ่ง​ออกมา​จาก​ห่อ​สัมภาระ​ ​แล้ว​อ่าน​อย่าง​เพลิดเพลิน​ใน​อารมณ์​ของ​บทกวี​ นี่​สิ​จึง​จะ​เป็น​สิ่ง​ที่​คุณหนู​สูงศักดิ์​สมควร​ทำ​ ​ถอน​หญ้า​หรือ​ ​เหอะ​ ​ไว้​ชาติหน้า​ก็แล้วกัน​!

ฝั่ง​คฤหาสน์​ ​เฉียว​เวย​จัดการ​ห้องหับ​ให้​มัว​มัว​ทั้งสอง​แล้ว​ ​มัว​มัว​ทั้งสอง​พอใจ​กับ​ที่พัก​เป็น​อย่างยิ่ง

ตอน​ได้ยิน​ว่า​เป็น​แม่ม่าย​ใน​ชนบท​ ​พวก​นาง​ก็​เตรียมใจ​มา​พบ​กับ​ความยากจน​ข้นแค้น​แล้ว​ ​ไหน​เลย​จะ​รู้​ว่า​ผู้อื่น​ไม่ยาก​จน​สักนิด​ ​บ้าน​ทั้ง​ใหญ่​ทั้ง​กว้างขวาง​ ​หันไป​ทาง​ทิศ​ที่​เหมาะสม​ ​เครื่องเรือน​ครบครัน​ ​พวก​ขื่อ​คาน​ใน​ห้อง​พวก​นาง​ไม่ทัน​ดู​ ​แต่​เตียง​หลัง​นั้น​ดีกว่า​เตียง​ของ​พวก​นางใน​วัง​หลวง​มาก

ฟาง​มัว​มัว​บังเอิญ​พัก​อยู่​ที่​ห้อง​ของวั​่ง​ซู​ ​บน​เสา​เตียง​ของวั​่ง​ซูมี​นกยูง​แกะสลัก​ด้วย​ทองคำแท้​ ​บน​ชั้นวางของ​ที่​หัว​เตียง​วาง​นกยูงทอง​คำ​ที่​รูปร่าง​บิดเบี้ยว​ไว้ตัว​หนึ่ง​ ​หน้าตา​พิลึก​จน​ฟาง​มัว​มัว​ตา​เกือบ​บอด

เฉียว​เวย​เปลี่ยน​ฟูก​กับ​ผ้าห่ม​สะอาด​ให้​มัว​มัว​ทั้งสอง​คน​ ​อ่างล้างหน้า​กับ​ผ้า​ล้วน​หยิบ​ของ​ชุด​ใหม่​มา​ให้

แม้แต่​ซุน​มัว​มัว​ผู้​เงียบขรึม​ก็​เผย​สีหน้า​สบายใจ​เล็กน้อย​ออกมา​อย่าง​หา​ได้​ยาก

ฟาง​มัว​มัว​เอ่ย​อย่างเกรงใจ​ ​“ฮู​หยิน​ไม่ต้อง​วุ่นวาย​แล้ว​ ​พวก​ข้า​จัดการ​กันเอง​ก็​พอ​ ​ต้อง​มาร​บก​วนฮู​หยิน​ก็​ลำบากใจ​แย่​แล้ว​ ​หากฮู​หยิน​เกรงใจ​เช่นนี้​ ​พวก​ข้า​คง​ไม่สบายใจ​จริงๆ​”

“​ข้ามี​ญาติ​น้อย​ ​หายาก​ที่จะ​มี​แขก​มา​เยี่ยมเยือน​สัก​หน​ ​มัว​มัว​ทั้งสอง​ให้​ข้า​ได้​ต้อนรับ​ดี​ๆ​ ​เถิด​”​ ​เฉียว​เวย​คน​รูปงาม​ปาก​ก็​หวาน​ ​คนฟัง​รู้สึก​สบายใจ​อย่างยิ่ง

ฟาง​มัว​มัว​หยิบ​กล่อง​ใบ​หนึ่ง​ออกมา​จาก​ห่อ​สัมภาระ​แล้ว​มอบให้​เฉียว​เวย

เฉียว​เวย​งุนงง​ ​“​นี่​คือ​สิ่งใด​”

ฟาง​มัว​มัว​ตอบ​ว่า​ ​“​ฮ่องเต้​รับสั่ง​ว่า​จะ​รบกวนฮู​หยิน​เปล่าๆ​ ​ไม่ได้​ ​นี่​คือ​ค่าเล่าเรียน​ของ​คุณหนู​เฉียว​ ​ขอฮู​หยิน​โปรด​รับ​ไว้​”

เฉียว​เวย​ดวงตา​เป็นประกาย​ ​“​มีค่า​เล่าเรียน​ให้​เสียด​้วย​ ​ฝ่า​บาท​ช่าง​ใส่​พระทัย​จริงๆ​!​”

ปฏิกิริยา​ของ​เฉียว​เวย​ทำให้​ฟาง​มัว​มัว​อึ้ง​ไป​ชั่ววูบ​ ​คน​ทั่วไป​ยาม​พบ​เรื่อง​เช่นนี้​ไม่ใช่​ว่า​จะ​ต้อง​สำรวม​บอกปัด​ไม่​รับ​หรอก​หรือ​ ​ทำงาน​ที่​ทำได้​ให้​ราชวงศ์​ ​จะ​มีสั​กกี​่​คน​กล้า​รับเงิน​ ​ฟาง​มัว​มัว​เตรียม​คำ​เกลี้ยกล่อม​สารพัด​แบบ​หาก​นาง​ไม่​รับเอา​ไว้​แล้ว​ ​ผล​ปรากฏ​ว่านา​งก​ลับ​รับ​ไป​เสีย​อย่างนั้น​ ​ถ้อยคำ​เกลี้ยกล่อม​เหล่านั้น​ของ​ฟาง​มัว​มัว​จึง​สลาย​หาย​ไป​ใน​ท้อง​…

ฮ่องเต้​ไม่​เสียที​เป็น​ฮ่องเต้​ ​แจก​เงิน​ครั้งหนึ่ง​ก็​เป็น​ก้อนเงิน​ขาว​แวววาว​พัน​ตำลึง

เฉียว​เวย​นับ​ตั๋วเงิน​อย่าง​เริงร่า​ ​ยิ้ม​จน​มองไม่เห็น​ดวงตา

สิ่ง​ที่​เฉียว​เวย​ไม่รู้​ก็​คือ​ ​ฮ่องเต้​พระราชทาน​ให้​เพียง​หนึ่งร้อย​ตำลึง​เงิน​ ​ส่วน​เก้า​ร้อย​ตำลึง​ที่​เหลือ​ ​จี​หมิง​ซิว​เป็น​ผู้​เติม​เข้าไป

เฉียว​เวย​นับ​เสร็จ​ก็ดี​ใจเสีย​ยิ่งกว่า​ได้​กิน​อาหาร​มื้อ​ใหญ่​ ​นาง​กำลัง​ปวดหัว​ว่า​เงิน​ทำ​โรงงาน​ไม่พอ​อยู่​พอดี​ ​เถ้าแก่​หรง​ลงทุน​ก็​เป็นเรื่อง​ของ​เถ้าแก่​หรง​ ​นาง​ก็​ต้อง​ลง​สมบัติ​ของ​ตนเอง​บ้าง​ ​ของ​พระราชทาน​ที่​ฮ่องเต้​พระราชทาน​ให้​นาง​ใช้​ไป​บางส่วน​แล้ว​ ​เงิน​พัน​กว่า​ตำลึง​ที่​เหลืออยู่​ไม่พอ​สัก​เท่าใด​ ​ค่าเล่าเรียน​หน​นี้​เป็น​ฝน​ที่​ตกลง​มาถูก​เวลาจริง​ๆ

หาก​นับ​รวม​ค่าเล่าเรียน​ครั้งนี้​ด้วย…

อา​ฮ่า​ ​นาง​มองเห็น​ชัยชนะ​โปรยยิ้ม​ให้​นาง​แล้ว​!

เฉียว​เวย​ได้เงิน​ก็​อารมณ์ดี​ขึ้น​เป็น​เท่าตัว​ ​นาง​ฮัม​เพลง​เดิน​ไป​ยัง​ห้องครัว​ ​ในเมื่อ​รับ​ค่าเล่าเรียน​แพง​อักโข​เช่นนี้​มา​แล้ว​ ​นาง​ก็​ต้อง​ดูแล​ผู้อื่น​ให้​ดี​หน่อย​ใช่​หรือไม่​ ​เงิน​หนึ่ง​พัน​ตำลึง​นี้​นอกจาก​ค่าเล่าเรียน​ของ​คุณหนู​ใหญ่​เฉียว​ก็​น่าจะ​รวม​ค่า​กิน​ค่า​อยู่​ของ​พวกเขา​ด้วย

อาหาร​ต้อง​ดี​!

ปัจจุบันนี้​เฉียว​เวย​ไม่ได้​เข้า​เมือง​ทุกวัน​ ​อาหาร​ล้วน​ซื้อ​มาจาก​หลัว​หย่ง​จื้อ​ ​หลัว​หย่ง​จื้อ​นำ​กุ้ง​ไป​ส่ง​ให้​หรง​จี้​ทุก​เช้า​ ​ตอน​ตกค่ำ​ก็​ไป​ส่ง​อีก​เที่ยว​หนึ่ง​ ​เพื่อให้​แน่ใจ​ว่า​หรง​จี้​จะ​มี​วัตถุดิบ​สด​ใหม่​ทั้งวัน​ตลอด​ยี่สิบ​สี่​ชั่วโมง​ ​ทุกวัน​ตอนเช้า​เมื่อ​ไป​ส่ง​กุ้ง​เสร็จ​ ​หลัว​หย่ง​จื้อ​ก็​จะ​ถือโอกาส​ซื้อ​เนื้อ​กับ​ผัก​มา​ให้​บน​ภูเขา​ ​วันนี้​สิ่ง​ที่​เขา​ซื้อ​มามี​ไข่เค็ม​ ​เนื้อสันใน​ ​ปลา​ไน​และ​เนื้อ​แพะ​หนึ่ง​ชั่ง

เฉียว​เวย​ทำ​แกง​วุ้นเส้น​เนื้อ​แพะ​ที่​เด็ก​ๆ​ ​ชอบ​ที่สุด​ ​แล้วก็​ทำ​เนื้อสันใน​เปรี้ยวหวาน​ ​ส่วน​ปลา​ไน​ทำ​น้ำ​แดง​เพราะ​รสชาติ​ค่อนข้าง​เข้มข้น​ ​นาง​ค้นพบ​ว่า​เด็ก​ๆ​ ​ไม่​ชอบ​อาหารส​ชาติ​จืดชืด​เกินไป​นัก​ ​หลังจากนั้น​จึง​หยิบ​เห็ด​ที่เก็บ​มาจาก​บน​ภูเขา​ด้วย​ตนเอง​ออกมา​จาก​ตู้​ ​เห็ด​กระเพาะ​แพะ​กิน​หมด​ไป​แล้ว​ ​ยัง​เหลือ​เห็ด​สน​กับ​เห็ด​นางรม​ขาว​เล็กน้อย​ ​เฉียว​เวย​ค่อนข้าง​ชอบ​เห็ด​นางรม​ขาว​ ​มัน​อ่อนนุ่ม​และ​มีกลิ่นหอม​เป็น​เอกลักษณ์​ของ​เห็ด​อยู่​จางๆ​ ​เป็น​กลิ่น​อ่อน​ๆ​ ​ไม่​ฉุน​จัด

เฉียว​เวย​ล้าง​เห็ด​สน​กับ​เห็ด​นางรม​ขาว​จน​สะอาด​แล้ว​ฉีก​เป็น​เส้น​ๆ​ ​ผัด​ไฟแรง​กับ​ต้นหอม​ยักษ์

กลิ่นหอม​ของ​น้ำมัน​ลอย​ออกจาก​หน้าต่าง​ไป​อย่างรวดเร็ว​ยิ่ง​ ​ลอย​ไป​ๆ​ ​ลอย​เข้าไป​ใน​เรือน​หลัง​เล็ก

เฉียว​อวี​้​ซีนั​่​งอ​่าน​หนังสือ​รวม​บทกวี​อยู่​บน​เตียง​ด้วย​ท่าทาง​อัน​งามสง่า​อย่างยิ่ง​ ​ทว่า​นั่ง​สง่า​อยู่​ได้​ไม่นาน​ก็ได้​กลิ่นหอม​ของ​ต้นหอม​ที่​หอม​จรุงใจ​ ​ดอก​หอม​ผ่าน​น้ำมัน​ร้อน​ส่งกลิ่น​หอมฉุย​ ​เฉียว​อวี​้​ซีกลื​นน​้ำ​ลาย​เสียงดัง

โครก​!

ท้องร้อง​แล้ว

เฉียว​อวี​้​ซี​ขยับตัว​ ​แล้ว​อ่านหนังสือ​ต่อ

นาง​ต้อง​ตั้งสมาธิ​เอาไว้​ ​นาง​เป็นคุณ​หนู​ตระกูล​ขุนนาง​ ​มิใช่​หญิง​ชาวบ้าน​ชนบท​ ​นาง​มีกิริยา​มารยาท​กับ​ความ​เป็น​กุลสตรี​ที่​ต้อง​รักษา​ ​แม้​สภาพแวดล้อม​จะ​เลวร้าย​ต่ำ​ตม​อีก​เท่าใด​ ​นาง​ก็​จะ​ยังคง​เป็น​ดอกบัว​ขาว​พิสุทธิ์​ไม่​แปดเปื้อน​โคลน

กลิ่น​ดอก​หอม​เริ่ม​หอม​ขึ้น​ทุกที

ท้อง​ของ​ดอกบัว​ขาว​ก็​ร้อง​ดัง​ขึ้น​ตาม​ไป​ด้วย

เฉียว​อวี​้​ซี​ตั้งสมาธิ​ ​จาก​ที่​ก่อนหน้านี้​อ่าน​อยู่​ใน​ใจ​ก็​เปลี่ยน​มา​เป็น​อ่าน​ออกเสียง​ ​เสียง​ของ​นาง​รื่นหู​ยิ​่​นนัก​ ​ท่อง​คำ​ชัดเจน​ ​อ่าน​บทกวี​ไพเราะ​ยิ่งกว่า​คณะ​ละคร​ขับร้อง​ ​เป็นยอด​หญิง​สม​ดัง​ชื่อเสียง

เมื่อ​นาง​ได้​จม​จ่อ​อยู่​ใน​โลก​ที่​ตนเอง​สูงส่ง​กว่า​ผู้อื่น​หนึ่ง​ขั้น​ ​อารมณ์​ก็​ค่อยๆ​ ​สงบ​ลง

เฉียว​เวย​ผัด​เห็ด​ ​แล้ว​หั่น​พริก​ซอย​ลง​ไป​เล็กน้อย​ ​จากนั้น​ตอก​ไข่​สอง​สาม​ฟอง​ ​ทำ​ไข่เจียว​พริกหยวก​จาน​โต​ ​ตรงกลาง​จาน​ใบ​โต​ดู​นุ่ม​ฟู​เหมือน​จะ​คั้น​น้ำ​ออกมา​ได้​ ​ส่วน​ตรง​ขอบ​ไหม้​เกรียม​นิดๆ​ ​ไข่เจียว​พริกหยวก​เช่นนี้​อร่อย​ที่สุด

กลิ่นหอม​ของ​พริกหยวก​ ​กลิ่นหอม​ของ​ไข่​ที่​ถูก​ทอด​จน​เกรียม​ ​ลอย​เข้ามา​ใน​เรือน​หลัง​เล็ก​อย่าง​ช้าๆ​

“​นาวา​ล่อง​เอื่อย​เฉื่อย​ ​ ​ ​ ​ ​ธาร​ระเรื่อย​เคลื่อน​ริน​ไหล

ตกค่ำ​นอน​ตา​ใส​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ดวงหทัย​เฝ้า​หม่นหมอง​ ​

​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​เมรัย​ดื่ม​หมด​แล้ว​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​จึง​มิ​แคล้ว​เดินเที่ยว​ท่อง

ใจ​ข้า​ใช่​คันฉ่อง​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ส่อง​สุข​โศก​ล้วน​เฉยชา​ ​ ​

​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​พี่น้อง​ทั้ง​ใกล้​ไกล​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​มิมี​ใคร​ให้​พึ่ง​…​พา

เยี่ยม​….​เยือน​ร่ำ​โศกา​ ​ ​ ​ ​ ​กลับ​ก่น​….​ด่า​ให้​ช้ำ​…​ใจ​…​”

เฉียว​อวี​้​ซีท​่​อง​ต่อ​ไม่ได้​แล้ว

กลิ่นหอม​นั่น​เหมือนกับ​มียา​พิษ​ ​ทำให้​รูขุมขน​ทั่ว​ร่าง​ของ​นาง​หิวโหย

“​ทน​อีกหน่อย​ ​เดี๋ยว​นาง​ทำ​เสร็จ​แล้วก็​ต้อง​มาเรียก​ข้า​”

เฉียว​อวี​้​ซีพึม​พำ​บอก​ตนเอง​ ​แล้ว​เปิด​ห่อ​สัมภาระ​ ​หยิบ​สี่​สมบัติ​ประจำ​ห้อง​อักษร​ออกมา

จะ​ว่า​ไป​แล้วก็​น่าขำ​ ​ทั้งๆ​ ​ที่​รู้​ว่า​มาช​นบท​เพื่อ​ร่ำเรียน​วิชา​เกษตร​ ​แต่กลับ​มิ​พก​เครื่องมือ​ทำนา​มา​ ​แต่​ดัน​พก​พู่กัน​ ​หมึก​ ​กระดาษ​กับ​แท่น​ฝน​หมึก​มา​ ​ของ​เช่นนี้​มีประโยชน์​อะไร​ใน​ชนบท​เล่า​ ​ราวกับว่า​มี​แต่​ทำ​เช่นนี้​จึง​จะ​ขับ​เน้น​ว่า​ตนเอง​ทรง​ภูมิ​มีความรู้​ ​แตกต่าง​จาก​ผู้อื่น

เฉียว​อวี​้​ซี​วาง​กระดาษ​ ​พู่กัน​ ​หมึก​กับ​แท่น​ฝน​ไว้​บน​ไม้กระดาน​เตียง​ ​ตนเอง​เปิด​กล่อง​หมึก​ออกมา​ฝน​ ​แล้ว​ยก​พู่กัน​ ​เริ่ม​คัด​ ​‘​ซือ​จิง​[1]​’

“​อา​กุ้ย​ ​กลับมา​แล้ว​หรือ​ ​เจ้า​ดม​สิ​ ฮู​หยิน​เจียว​ไข่​อีกแล้ว​ ​ไข่​ที่นาง​เจียว​หอม​ยิ่งนัก​”

“​ถ้าอย่างนั้น​เจ้า​เจียว​ให้​ข้า​บ้าง​สัก​จาน​สิ​”

“​ได้​ ​โอ๊ะ​ ​ห้องครัว​เล็ก​ไม่มี​พริกหยวก​แล้ว​”

“​จง​เกอร์​ชอบ​กิน​กุย​ช่าย​ ​เจ้า​ทำ​ไข่เจียว​กุย​ช่าย​สัก​จาน​ก็ได้​”

“​ได้​”

เสียง​ของ​สอง​สามีภรรยา​ดัง​ขึ้น​ใน​เรือน

เฉียว​อวี​้​ซีคัด​ ​‘​ซือ​จิง​’​ ​อย่าง​สุขุม​นิ่ง​สงบ​ ​“​ใจ​ข้า​ใช่​ก้อนหิน​ ​มิก​ลอก​กลิ้ง​ลื่นไถล​ ​ใจ​ข้า​ใช่​เสื่อ​ฟาง​ ​มิ​อาจม​้​วน​เป็น​ไข่เจียว​”

เฉียว​อวี​้​ซี​ตกใจ​ ​เปลี่ยน​กระดาษ​อีก​แผ่น​หนึ่ง​ด้วย​ความอับ​อาย​ ​“​ใจ​ข้า​ใช่​ก้อนหิน​ ​มิก​ลอก​กลิ้ง​ลื่นไถล​ ​ใจ​ข้า​ใช่​เสื่อ​ฟาง​ ​มิ​อาจม​้​วน​ตามแต่​ใจ​ ​กิริยา​งามสง่า​ ​มิ​ปราชัย​แก่​กุย​ช่าย​”

กุย​ช่าย​ ​กุย​ช่าย​โผล่​มาจาก​ไหน​!

เฉียว​อวี​้​ซี​โกรธ​จน​ขว้าง​พู่กัน​ลงพื้น​อย่างแรง​!

ไม่​คัด​แล้ว​!

เฉียว​อวี​้​ซี​เริ่ม​ถือ​ตำรา​ซือ​จิง​ขึ้น​มา​อ่าน​ใหม่​ ​อา​กุ้ย​ที่อยู่​ใน​เรือน​เล็ก​แค่น​เสียง​หยัน​อย่างดูแคลน​ ​นาง​จึง​หน้าแดง​ ​ไม่กล้า​อ่าน​ออกเสียง​แล้ว​เปลี่ยน​มา​อ่าน​เงียบๆ​ ​ใน​ใจ

ใจ​ข้า​ใช่​ก้อนหิน​ ​มิก​ลอก​กลิ้ง​…​ไข่เจียว​เหตุใด​จึง​หอม​เช่นนี้​ ​ใจ​ข้า​ใช่​เสื่อ​ฟาง​ ​มิ​อาจ​…​ผู้หญิง​คน​นั้น​จะ​มาเรียก​ข้า​ไป​กินข้าว​เมื่อใด​กัน​ ​กิริยา​งามสง่า​ ​มิ​ปราชัย​…​หาก​นาง​ไม่​มาเรีย​กอีก​ข้า​จะ​หิว​ตาย​แล้ว​…

ยาม​เฉียว​เวย​ทำอาหาร​ ​กลิ่นหอม​นั่น​ธรรมดา​เสียที​่​ไหน​ ​พวก​คนงาน​ที่​ออกมา​จาก​โรงงาน​แต่ละคน​หิว​จน​ท้องร้อง​โครกคราก​ ​อยาก​จะ​วิ่ง​กลับบ้าน​ไป​กิน​ไข่​สัก​สอง​คำ​ประเดี๋ยวนี้​!

พวกเขา​ตัดสินใจ​แล้ว​ว่า​อาหาร​เที่ยงวัน​นี้​จะ​กิน​ไข่เจียว​!​ ​แล้วก็​จะ​ใส่​พริกหยวก​ลง​ไป​ด้วย​!

เฉียว​เวย​ทำ​ไข่เจียว​พริกหยวก​เสร็จ​ ​ก็​ทำ​น้ำแกง​ไข่เยี่ยวม้า​กับ​แตงกวา​ที่​รสชาติ​จืด​อีก​หนึ่ง​ชาม

ก่อน​ทำอาหาร​นาง​ถาม​มัว​มัว​ทั้งสอง​แล้ว​ว่า​ชอบ​ทานอาหาร​รสชาติ​ใด​ ​ฟาง​มัว​มัว​ตอบ​ว่า​แล้วแต่​นาง​ ​นาง​จึง​ปรุงรส​ตามปกติ​ที่​ทาน​ใน​บ้าน​ ​ปลา​ไน​น้ำ​แดง​กับ​ไข่เจียว​พริกหยวก​เผ็ด​เล็กน้อย​ ​เนื้อสันใน​มีรส​เปรี้ยว​และ​หวาน​ ​เห็ด​ผัด​ต้นหอม​ติด​หวาน​นิดๆ​ ​รสชาติ​หลัก​คือ​รสเค็ม​ ​นาง​ยัง​นำ​เนื้อ​รมควัน​ที่​ตนเอง​ทำ​ไว้​มานึ​่​งบ​นข​้า​วอีก​เล็กน้อย​ ​เนื้อ​รมควัน​หวาน​เค็ม​ผสม​กัน​พอดี​ ​รสชาติ​อร่อย​ยิ่งนัก

ปรุงอาหาร​ร้อน​หลาย​จาน​แล้ว​ ​นาง​จึง​ทำ​หน่อไม้​ภูเขา​เย็น​คลุก​ซี​อิ๋ว​อีก​จาน​หนึ่ง​ ​หยดน้ำ​มัน​งา​ลง​ไป​เล็กน้อย​ ​กลิ่นหอม​นั่น​ช่าง​ ​จิ​๊​ๆ​!

ตัว​เฉียว​เวย​เอง​ยัง​เกือบจะ​น้ำลายไหล

เฉียว​อวี​้​ซีที​่​อยู่​ภายใน​ห้อง​ตัว​เอน​ซ้าย​เอน​ขวา​ ​ใกล้​จะ​นั่ง​ไม่อยู่​แล้ว​…

จง​เกอร์​กับ​เจ้า​ซาลาเปา​น้อย​ทั้งสอง​คนเลิก​เรียน​กลับมา​ ​พวกเขา​ได้กลิ่น​หอม​ของ​อาหาร​จาก​บน​ภูเขา​ตั้งแต่​ยังอยู่​ที่​ตีนเขา​ ​ท้องน้อย​ๆ​ ​หิว​จน​เกือบจะ​แบน​ไป​ติดกับ​แผ่น​หลัง​ ​พวกเขา​สับ​ขาวิ​่ง​ขึ้น​ภูเขา

จง​เกอร์​เข้ามา​ใน​เรือน​หลัง​เล็ก​ ​“​ท่าน​พ่อ​!​ ​ท่าน​แม่​!​ ​ข้า​กลับมา​แล้ว​!​”

จิ​่​งอ​วิ​๋​นกับวั​่ง​ซู​เข้าไป​ใน​คฤหาสน์​ ​แล้ว​วิ่ง​ตรง​ไป​ที่​ห้องครัว​ ​“​ท่าน​แม่​!​ ​ท่าน​แม่​!​”

เฉียว​เวย​เพิ่ง​ทำอาหาร​เสร็จ​ ​กำลัง​ถอด​ผ้ากันเปื้อน​ ​เมื่อ​เห็น​เด็กน้อย​สอง​คน​ ​ดวงตา​ก็​ฉายแวว​อ่อนโยน​ ​ลูบ​ศีรษะ​น้อย​ๆ​ ​ของ​ทั้งคู่​ ​“​รีบ​ไป​ล้างมือ​ ​วันนี้​ที่​บ้าน​มี​แขก​มาทา​นอา​หาร​ด้วยกัน​”

“​ผู้ใด​มา​หรือ​”​ วั​่ง​ซู​ถาม​อย่าง​สงสัย​ใคร่รู้

เฉียว​เวย​ตอบ​เสียงอ่อน​โยน​ ​“​คุณยาย​สอง​คน​ ​คุณยาย​ฟาง​ ​คุณยาย​ซุน​”

วั​่ง​ซู​กะพริบตา​ ​“​พวก​นาง​ก็​เป็น​ท่าน​ยาย​ของ​ข้า​กับ​พี่ชาย​เหมือนกัน​หรือ​”

เฉียว​เวย​ยิ้ม​ ​“​พวก​นาง​เหมือนกับ​ยาย​จ้าว​ ​ยาย​อู๋​ใน​หมู่บ้าน​”

บอก​เช่นนี้วั​่ง​ซู​ก็​เข้าใจ​แล้ว​ ​พวก​นาง​ไม่ใช่​ท่าน​ยาย​จริงๆ​ ​แต่​นาง​ก็​ต้อง​ทำตัว​ดี​กับ​ท่าน​ยาย​สอง​คน​นี้​ ​เพราะ​นาง​ชอบ​ให้​มี​แขก​มาที​่​บ้าน

เฉียว​เวย​คิด​อะไร​ขึ้น​มา​ได้​ก็​บอกว่า​ ​“​ไปหา​ท่าน​ตา​เถอะ​”

“​เข้าใจ​แล้ว​ ​ท่าน​แม่​!​”​ ​เจ้า​ซาลาเปา​น้อย​ทั้งสอง​คน​ขานรับ​ ​ท่าน​ตา​ชอบ​นอน​ยิ่งนัก​ ​นอน​ทุกวัน​ไม่ยอม​ตื่น​ ​ท่าน​แม่​บอก​พวกเขา​ว่า​ให้​เรียก​ทุกวัน​ ​ไม่แน่​ว่าวัน​ใด​ท่าน​ตา​อาจจะ​ตื่นขึ้น​มา

ทั้งสอง​คน​ล้างมือ​เสร็จ​ก็​ไปร​้​อง​เรียก​ท่าน​ตา​ๆ​ ​อย่างสนิทสนม​ใน​ห้อง​ของ​เฉียว​เจิง​ ​จากนั้น​ก็​ไป​นอน​อยู่​ตรง​หัว​เตียง​เล่น​กัน​ครู่หนึ่ง​ ​จนกระทั่ง​เฉียว​เวย​เรียก​พวกเขา​มานั​่ง​ที่​โต๊ะ​ ​พวกเขา​จึง​ก้าว​ขา​สั้น​ๆ​ ​วิ่ง​ออก​ไป

อาหาร​จัด​ขึ้น​โต๊ะ​เรียบร้อย​แล้ว​ ​ถ้วยชาม​ที่​ใช้​ค่อนข้าง​เรียบง่าย​ ​เป็น​กระเบื้อง​ลายคราม​ที่​ซื้อ​มาจาก​ใน​ตลาด​ ​ไม่​อาจ​นำ​ไป​เทียบ​กับ​ถ้วย​ชา​ที่​ใช้​ใน​พระราชวัง​ ​แต่​อาหาร​ดู​หน้าตา​ไม่เลว​ ​กลิ่น​ก็​หอม​จรุงใจ​นัก

ฟาง​มัว​มัว​พยักหน้า​อย่างชื่นชม​ ​“​เหล่า​ซุน​ ​เจ้า​ดู​สิ​”

ซุน​มัว​มัว​มอง​แวบ​หนึ่ง​ ​ใบหน้า​เฉยชา​คล้าย​ไม่​ถูกใจ​อะไร​มากมาย​นัก

เจ้า​ซาลาเปา​น้อย​ทั้งสอง​ก้าว​ขา​สั้น​ๆ​ ​วิ่ง​เข้ามา

มัว​มัว​ทั้งสอง​คน​ล้วน​เป็น​คนสนิท​ของ​จี​หมิง​ซิว​ ​ก่อน​มา​พวก​นาง​ทราบ​จาก​ปาก​จี​หมิง​ซิว​แล้ว​ว่าที่​นี่​มีลูก​น้อย​ทั้งสอง​คน​ของ​เขา​อยู่​ ​พวก​นาง​ไม่​เอ่ยปาก​พูด​ ​แต่​ใน​ใจ​คาดหวัง​อย่างยิ่ง​ว่า​ตน​จะ​ได้​พบ​เด็ก​ๆ

ลูกสาว​เหมือน​มารดา​ ​คิ้ว​เข้ม​ตาโต​ ​แก้ม​ชมพู​ระเรื่อ​ ​จมูก​น้อย​ๆ​ ​กับ​ปาก​น้อย​ๆ​ ​กระจุ๋มกระจิ๋ม​ราวกับ​ถูก​สลัก​อย่างประณีต​ ​งดงาม​ยิ่งนัก

ลูกชาย​เหมือน​บิดา​ ​คิ้ว​ตา​สุขุม​เย็นชา​ ​สง่างาม​ประหนึ่ง​หยก​ ​ร่างกาย​น้อย​ๆ​ ​ยืน​อยู่​ตรงนั้น​ ​ไม่ได้​เอ่ย​คำ​ใด​ก็​มีกลิ่น​อาย​ความสูง​ศักดิ์​แผ่ออก​มา

ดวงตา​ของ​ฟาง​มัว​มัว​วาววับ​ ​ใช้​ข้อศอก​ถอง​ซุน​มัว​มัว​ ​“​เหล่า​ซุน​ ​เจ้า​ดู​สิ​!​”

ซุน​มัว​มัว​ยังคง​ทำ​หน้า​เฉยชา

วั​่ง​ซู​เอียง​หัว​ถาม​ ​“​พวก​ท่าน​ ​ผู้ใด​คือ​ท่าน​ยาย​ฟาง​ ​ผู้ใด​คือ​ท่าน​ยาย​ซุน​หรือ​เจ้า​คะ​”

ฟาง​มัว​มัว​ยิ้มแย้ม​ตอบ​ ​“​คง​รับคำ​เรียกขาน​ว่า​ท่าน​ยาย​จาก​เจ้านาย​ตัว​น้อย​มิได้​หรอก​เจ้าค่ะ​ ​คุณหนู​เรียก​ข้าว​่า​ฟาง​มัว​มัว​ก็​พอแล้ว​”

วั​่ง​ซู​เมิน​ประโยค​แรก​ทันที​ ​ดวงตา​ยิ้ม​โค้ง​ ​เรียก​เสียงหวาน​จ๋อย​ ​“​ท่าน​ยาย​ฟาง​!​”​ ​แล้ว​หันไป​มอง​ซุน​มัว​มัว​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​ ​“​ท่าน​ยาย​ซุน​!

ซุน​มัว​มัว​หันไป​มอง​เด็ก​ทั้งสอง​คน​แวบ​หนึ่ง

ฟาง​มัว​มัว​ยิ้ม​รับ​ ​“​เป็น​เด็กดี​จริง​เชียว​!​ ​มา​ ​มัว​มัว​…​ท่าน​ยาย​ฟาง​กับ​ท่าน​ยาย​ซุน​นำ​ของ​เล็กน้อย​มา​ให้​พวก​เจ้า​”

พูด​พลาง​ ​ฟาง​มัว​มัว​ก็​หยิบ​กล่อง​ลวดลาย​งดงาม​สอง​ใบ​ออกมา​จาก​ใน​ห้อง​ ​“​พวก​นี้​เป็น​ขนมจาก​เมืองหลวง​”

อันที่จริง​เป็น​ขนมจาก​วัง​หลวง

ก่อน​ออกเดินทาง​ขอให้​พ่อครัว​ที่​รู้จัก​กัน​ใน​ห้องเครื่อง​ทำให้​เป็นพิเศษ

เด็กน้อย​ทั้งสอง​คน​หันไป​มอง​เฉียว​เวย​ที่​ยก​ข้าว​ออกมา

เฉียว​เวย​ยิ้มละไม​ ​“​ในเมื่อ​เป็นน้ำ​ใจ​จาก​ท่าน​ยาย​ทั้งสอง​ก็​รับ​ไว้​เถิด​”

เจ้า​ซาลาเปา​น้อย​ทั้งสอง​คนรับ​กล่อง​ลวดลาย​งดงาม​มาค​นละ​ใบ​แล้ว​เอ่ย​ขอบคุณ

เฉียว​เวย​เห็น​สีหน้า​ของ​ฟาง​มัว​มัว​ก็​ทราบ​แล้ว​ว่า​ทั้งสอง​คน​รู้​ว่า​จิ​่​งอ​วิ​๋​นกับวั​่ง​ซู​เป็น​ลูก​ของ​หมิง​ซิว​ ​ส่วน​ฟาง​มัว​มัว​ก็​มองออก​ว่า​เฉียว​เวย​ทราบ​ว่า​พวก​นาง​รู้​ว่า​จิ​่​งอ​วิ​๋​นกับวั​่ง​ซู​เป็น​เลือดเนื้อ​ของ​ใต้เท้า​ ​ทุกคน​ต่าง​รู้อยู่​ใน​ใจ​แต่​ไม่​พูด​ ​ผู้ใด​ก็​ไม่​พูด​อะไร​ทั้งสิ้น

ทุกคน​เริ่ม​กินข้าว

มัว​มัว​ทั้งสอง​คน​ล้วน​เป็น​คนที​่​ทำงาน​ใน​วัง​หลวง​จน​มีตำ​แหน่ง​ ​มิเช่นนั้น​ฮ่องเต้​ก็​คง​ไม่ไว้วางใจ​ ​ส่ง​มา​จับตาดู​ว่าที่​พระ​ชายา​เผ่าซ​ยง​หนีว​์​กราบ​อาจารย์​เล่าเรียน​วิชา​ ​ภายใน​วัง​มีธรรม​เนียม​มากมาย​ ​เจ้านาย​คือ​สวรรค์​ ​คน​เป็น​บ่าว​แทบจะ​ก้ม​ศีรษะ​จรด​เอว​กระโปรง​อยู่​ตลอดเวลา​ ​มิเช่นนั้น​หาก​พลาด​สัก​หน​ ​ก็​คง​ไม่ได้​เห็น​ดวงตะวัน​ของ​วันพรุ่งง​นี้

เรียก​ได้​ว่า​อยู่​มา​จน​มีตำ​แหน่ง​ใน​วันนี้​ได้​ ​มัว​มัว​ทั้งสอง​ผ่าน​อันตราย​ที่​คน​ทั่วไป​มิ​อาจ​จินตนาการ​ได้มา​แล้ว​ ​แน่นอน​ว่า​พวก​นาง​ก็ได้​เห็น​สิ่งของ​ที่​คน​ทั่วไป​ไม่มี​วาสนา​จะ​ได้​เห็นด้วย​ ​ตัวอย่างเช่น​อาหาร​ ​ฮ่องเต้​เสวย​พระ​กระยาหาร​หนึ่ง​มื้อ​ต้อง​มี​อาหาร​หนึ่งร้อย​แปด​อย่าง​ ​ฮองเฮา​เก้า​สิบ​แปด​อย่าง​ ​รัชทายาท​หกสิบ​หก​อย่าง​ ​แต่ละ​อย่าง​พวก​นาง​ทั้งสอง​คน​ล้วน​ได้​ชิม​มา​หมด​แล้ว

อาหาร​ที่​เฉียว​เวย​ทำ​ ​พูดถึง​หน้าตา​เทียบ​กับ​ของ​ใน​วัง​ไม่ได้​ ​กลิ่นหอม​ยัง​พอ​ไป​วัด​ไป​วา​ ​ส่วน​รสชาติ​พูด​กัน​จริงๆ​ ​แล้วก็​ล้ำเลิศ​สู้​ห้องเครื่อง​ไม่ได้​ ​แต่​ไม่รู้​เพราะเหตุใด​ ​แม่นาม​ฟาง​กิน​เข้าไป​แล้ว​กลับ​คิดถึง​ไข่เจียว​ที่​บ้าน​สมัย​เด็ก​ ​ไข่เจียว​ฟอง​นั้น​ด้าน​ข้าง​เกรียม​ ​ตรงกลาง​นุ่ม​เหมือนเช่น​นี้​ ​พริกหยวก​เผ็ด​นิดหน่อย​แต่​อร่อย​ยิ่งนัก

รสชาติ​เช่นนี้​ ​เหมือน​รสชาติ​ของ​บ้าน​อยู่​หน่อย​ๆ

ซุน​มัว​มัว​เป็น​คน​เฉา​โจว​ ​นาง​ไม่​ชอบ​อาหาร​อย่าง​ใน​เมืองหลวง​สัก​เท่าใด​ ​แต่​เนื้อ​รมควัน​ที่​เฉียว​เวย​นึ่ง​ไว้​ ​เค็ม​ๆ​ ​หอม​ๆ​ ​ติด​รส​หวาน​เล็กน้อย​ ​ถูกปาก​นาง​อย่าง​จัง

“​ท่าน​ยาย​ฟาง​ ​ท่าน​ยาย​ซุน​ ​อาหาร​ที่มา​รดา​ของ​ข้า​ทำ​อร่อย​หรือไม่​เจ้า​คะ​”​ วั​่ง​ซู​ถาม​เสียงหวาน

ฟาง​มัว​มัว​ตอบ​ ​“​อร่อย​ ​อร่อย​ยิ่งนัก​!​”

วั​่ง​ซู​หัวเราะ​คิกคัก​ ​“​ข้า​ก็​คิด​ว่า​อร่อย​มาก​!​”

คน​ทั้ง​โต๊ะ​กิน​อย่าง​เอร็ดอร่อย​ ​อีก​ด้าน​หนึ่ง​เฉียว​อวี​้​ซี​หิว​จน​เกือบ​คลั่ง​แล้ว

อา​กุ้ย​ ​ชี​เหนียง​กับ​ปี้​เอ๋อร​์​ล้วน​นั่ง​ทานอาหาร​กัน​แล้ว​ ​เหตุ​ไฉน​ผู้หญิง​คน​นั้น​ยัง​ทำอาหาร​ไม่เสร็จ​อีก​เล่า

นาง​ทำ​น้ำแกง​ทอง​น้ำแกง​เงิน​หรือ​อย่างไร​จึง​นาน​เช่นนี้​!

“​ขอบคุณ​เจ้า​มาก​นะ​ชี​เหนียง​ ​เดิมที​สมควร​เป็น​ข้า​ทำอาหาร​”​ ​ปี้​เอ๋อร​์​ยิ้ม​บอก

ชี​เหนียง​หยอก​เล่น​ ​“​เมื่อวาน​อา​กุ้ย​บ่น​กับข้าว​่า​อาหาร​ที่​เจ้า​ทำไม​่​อร่อย​”

อา​กุ้ย​หน้าบึ้ง​ ​“​ข้า​บอกว่า​ไม่อร่อย​ที่ไหน​ ​ข้า​เพียง​บอกว่า​ไม่อร่อย​เท่า​ไข่​ที่​เจ้า​ทำ​เท่านั้น​”

ชี​เหนียง​ตอบ​ว่า​ ​“​เจ้า​ยัง​บ่น​ปลา​ด้วย​ชัดๆ​”

ปี้​เอ๋อร​์​ใจกว้าง​ ​ฝีมือ​ทำครัว​โดน​คน​รังเกียจ​รัง​งอน​ก็​ไม่​โกรธ​ ​คีบ​ท้อง​ปลา​ชิ้น​หนึ่ง​ให้​จง​เกอร์​ ​แล้ว​คลี่​ยิ้ม​ ​“​ข้า​ทำปลา​ไม่เก่ง​เท่าใด​นัก​หรอก​ ​แต่​ข้า​ปรุง​เนื้อไก่​ได้​ไม่เลว​ ​หนหน้า​พวกเรา​ไป​เก็บ​เห็ด​บน​ภูเขา​มาสั​กหน​่อย​ ​ข้า​จะ​ทำ​ไก่​ตุ๋น​เห็ด​หม้อ​หนึ่ง​ให้​พวก​เจ้า​!​”

ไก่​ตุ๋น​เห็ด…

เฉียว​อวี​้​ซีกลื​นน​้ำ​ลาย​เสียงดัง

สถานที่​โกโรโกโส​เช่นนี้​ ​บ่าว​รับใช้​ก็​ยัง​ได้​กิน​เนื้อไก่​หรือ

“​เนื้อ​รมควัน​เสร็จ​แล้ว​ ​ข้า​จะ​ไปดู​ซัก​หน่อย​”​ ​ชี​เหนียง​ลุกขึ้น

“​ข้า​ไป​เอง​ๆ​!​”​ ​ปี้​เอ๋อร​์​จับ​นาง​ไว้​ ​แล้ว​โฉบ​เข้าไป​ใน​ห้องครัว​เล็ก​อย่างว่องไว​ประหนึ่ง​นก​นางแอ่น​ ​แล้ว​ยก​เนื้อ​รมควัน​ที่​นึ่ง​เสร็จ​แล้ว​ออกมา​ ​ร้อน​จน​นิ้วมือ​แดง​เล็กน้อย​จึง​รีบ​ยกขึ้น​กุม​ใบ​หู​ ​แล้ว​นำ​ซี​อิ๋ว​ที่​เฉียว​เวย​ปรุง​ด้วย​ตนเอง​ราด​บน​เนื้อ​รมควัน​ ​จากนั้น​ยก​จาน​เดิน​ออกมา​ ​“​เนื้อ​รมควัน​หอมฉุย​มา​แล้ว​!​”

เนื้อ​ ​รมควัน

โครกคราก​!

โครกคราก​!

โครกคราก​!

เฉียว​อวี​้​ซีกุ​มท​้​อง

“ฮู​หยิน​บอกว่า​เนื้อ​รมควัน​ต้อง​กิน​คู่​กับ​ผักกาด​หอม​จึง​จะ​อร่อย​ ​แต่​เมืองหลวง​เหมือน​จะ​ไม่มี​ผักกาด​หอม​ ​บ้าน​พวก​เจ้า​มี​หรือไม่​”​ ​ปี้​เอ๋อร​์​ถาม

อา​กุ้ย​ไม่รู้​จัก​พวก​ผัก​จึง​หันไป​มอง​ชี​เหนียง​ ​ชี​เหนียง​ตอบ​ว่า​ ​“​ข้า​ไม่เคย​ได้ยิน​ว่า​มี​ผัก​ชนิด​นี้​ ​หรือว่า​จะ​…​เป็น​ชื่อ​อื่น​ของ​ผัก​อะไร​สัก​อย่าง​”

 

​ ​[1]ซือ​จิง ​ตำรา​รวม​บทกวี​ที่​เก่าแก่​ที่สุด​ของ​จีน

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 144-1 ชิงสมบัติคืน (ต้น)"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์