หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก - ตอนที่ 432-1 ล่องูออกจากถ้ำ (2)
ตอนที่ 432-1 ล่องูออกจากถ้ำ (2)
จังหวะที่ผ้าปิดหน้าถูกดึงออกไปนั้น สายตาอีกฝ่ายสั่นไหวอย่างรุนแรงทีหนึ่ง
ยังรู้จักตระหนกด้วยหรือ เฉียวเวยดึงผ้าปิดหน้าลงมาจนสุด
แต่แทบจะในชั่วพริบตาเดียวกัน อีกฝ่ายให้แขนเสื้อบังสายตาเฉียวเวยเอาไว้
เฉียวเวยรู้สึกเพียงภาพตรงหน้าวูบวาบ ชั่วจังหวะที่วูบวาบนั้น อีกฝ่ายคว้าธนูจันตร์โลหิตที่อยู่บนโต๊ะแล้วใช้วิชาตัวเบากระโดดออกไปทันที
ด้วยความเร็วของนาง กระทั่งหน้าไม้พิฆาตเทวาของจีหมิงซิวก็ยังหลบหลีกไปได้
ธนูหน้าไม้ปักเข้ากับประตู ตัวธนูดีดขึ้นลง ยังคงเห็นได้ถึงพลังความรุนแรงตอนยิงออกไป หากยิงถูกเข้ากระทั่งแผ่นโลหะก็ยังต้องทะลุเป็นรู แต่กระนั้น…ก็ดันให้นางหนีไปได้!
เฉียวเวยกัดฟัน กระชับกริชไล่ตามออกไป
ก่อนหน้านี้นางเอากริชเฟิ่นเทียนให้ฟู่เสวี่ยเยียนยืมใช้ หลังจากนั้นฟู่เสวี่ยเยียนก็เอามาคืนให้นาง จากกริชทุกเล่มที่เคยใช้มา มีเล่มนี้ที่เข้ามือนางที่สุด
วิชาตัวเบาของอีกฝ่ายไม่เป็นรองอาจารย์ตาฮั่ว ชั่วพริบตาร่างนางก็หายไปแล้ว เฉียวเวยหันมองกิ่งไม้ที่สั่นไหวแล้วไล่ตามเข้าไปยังเสี่ยวอวี่เซวียนพร้อมสายตาดุดัน
เรือนด้านหลังของเสี่ยวอวี่เซวียนมีเสียงบางอย่างดังขึ้น ตามด้วยเสียงกรีดร้องของท่านน้า “กรี๊ดดด”
สายตาเฉียวเวยพลันเปลี่ยนเป็นดุดัน เดินทะลุผ่านโถงเข้าไปก็เห็นลานด้านหลังที่เดิมทีสะอาดเรียบร้อย เวลานี้โอ่งน้ำ กระถางต้นไม้ล้มกลิ้งอยู่กับพื้น น้ำไหลนองจนกลายเป็นบ่อน้ำเล็กๆ แล้วค่อยๆ ไหลเข้าไปหาเท้าของฮองเฮาเยี่ยหลัว
ฮองเฮาเยี่ยหลัวถูกอีกฝ่ายจับตัวมาบังไว้ข้างหน้า ใช้กริชจ่อตรงลำคอ บนตัวสวมใส่เพียงเสื้อตัวกลาง ดูจากเสื้อผ้านางแล้วคงยังไม่ทันได้เข้านอน นางมองกริชที่จ่ออยู่ตรงลำคอของตน แล้วหันมองเฉียวเวยที่อยู่ห่างไปไม่ไกล ก่อนจะตะโกนบอกด้วยความกลัวว่า “เสี่ยวเวย ช่วยข้าด้วย!”
เฉียวเวยหันไปมองคนผู้นั้น อีกฝ่ายใส่ผ้าปิดหน้ากลับขึ้นอย่างเก่าแล้ว แต่นั่นไม่สำคัญอีกต่อไป เฉียวเวยเดาถึงตัวตนของนางได้แล้ว “เจ้าคิดว่าใส่ผ้าปิดหน้าแล้วข้าจะจำเจ้าไม่ได้งั้นหรือ”
อีกฝ่ายขนตาขยับเล็กน้อย ไม่ตอบอะไร แค่เพียงเอากริชจ่อใกล้คอฮองเฮาเยี่ยหลัวขึ้นอีกหนึ่งชุ่น
ซิ่วฉินยื่นศีรษะออกมามองจากด้านหลังห้องโถง ก่อนจะหดกลับไปอย่างรวดเร็ว
“ออกมาเดี๋ยวนี้นะ!” เฉียวเวยตะโกนบอก
ซิ่วฉินไม่ขยับ ทั้งยังขยับถอยหลังช้าๆ นางเพิ่งถอยไปได้หนึ่งก้าวก็ถูกคนถีบหนักๆ จากด้านหลังจนล้มหน้าขมำไปอยู่ข้างเท้าเฉียวเวย
จีหมิงซิวก้าวเข้าไปในลานด้านหลังด้วยสีหน้าราบเรียบ
เฉียวเวยเหลือบมองซิ่วฉินที่ตัวสั่นเทิ้มด้วยความกลัวแล้วเอ่ยเสียงดุว่า “เจ้านายของเจ้าเล่า”
ซิ่วฉินกัดปากไม่ตอบ
เฉียวเวยหัวเราะเสียงเย็น “ทำไม บอกไม่ได้หรือ นายของเจ้าอยู่ข้างหน้านั่นอย่างไร รีบเข้าไปทักทายสิ!”
ซิ่วฉินค่อยๆ ลุกขึ้น ออกเดินไปข้างหน้าทีละก้าว ในขณะที่ก้าวไปได้สามก้าวนั้น อยู่ๆ นางก็หันขวับมา ยกดาวกระจายในมือขึ้นแล้วเขวี้ยงไปทางเฉียวเวย
เฉียวเวยไม่ขยับกระทั่งหนังตา ใช้ฝ่ามือฟาดดาวกระจายเหล่านั้นจนกระเด็นออกไปทันที!
ในเวลานั้นเอง ฟู่เสวี่ยเยียนโยนดาวกระจายมาทางเฉียวเวยบ้าง จีหมิงซิวกางแขนออกกันเฉียวเวยไว้ในอ้อมแขน ดาวกระจายเลยเฉียวผ่านแขนของเฉียวเวยไปชนกับหินที่อยู่ห่างไปไม่ไกล พร้อมกับส่งประกายไฟแปล๊บๆ ออกมา
ฟู่เสวี่ยเยียนไม่เปิดโอกาสให้ทั้งสองได้มีเวลาหายใจ หลังจากเขวี้ยงดาวกระจายออกไป ก็ฟาดฝ่ามือไส่หลังฮองเฮาเยี่ยหลัวกระเด็นออกมา จีหมิงซิวจำต้องยื่นมืออีกข้างไปรับตัวท่านน้าไว้ แล้วอาศัยจังหวะที่จีหมิงซิวกับเฉียวเวยยังปลีกตัวออกมาไม่ได้ แตะปลายเท้าลงกับพื้นแล้วกระโดดลอยตัวออกจากเสี่ยวอวี่เซวียนไป
เฉียวเวยประคองตัวได้แล้วถึงเห็นว่าฟู่เสวี่ยเยียนหนีไปเสียแล้ว นางโมโหจนกระทืบเท้า ขยับตัวออกจากอ้อมแขนของจีหมิงซิวแล้วเอ่ยด้วยความหัวเสียว่า “วันนี้เป็นตายอย่างไรข้าก็จะจับตัวนางมาให้ได้!”
พูดจบนางก็ออกจากเสี่ยวอวี่เซวียนตามทางที่ฟู่เสวี่ยเยียนหายตัวไป
จีหมิงซิวประคองท่านน้าขึ้นมาแล้วให้ท่านน้าเข้าไปพักในห้อง จากนั้นก็เรียกองครักษ์ของบ้านตระกูลจีมาพาตัวซิ่วฉินไปมัดตัวไว้ในห้องเก็บฟืน
ใต้เท้าเจ้าสำนักได้ยินเสียงจึงสลึมสลือเดินออกมา พอเห็นว่าในบ้านชิงเหลียนกับเสี่ยวอวี่เซวียนมีอคงรักษ์เพิ่มเข้ามาหลายสิบคนอย่างน่าประหลาดก็พลันตาสว่าง เอ่ยถามด้วยความงงงวยว่า “เกิดอะไรขึ้นหรือ”
จีหมิงซิวถามเสียงขรึมว่า “ไม่ใช่เรื่องของเจ้า กลับไปนอนเสีย”
ใต้เท้าเจ้าสำนักมองพี่ชายของตนด้วยสายตาประหลาด ก่อนจะกรอกตาบนแล้วกลับห้องไป
แต่พอพี่ชายของตนไปแล้ว เขาก็ย่องออกมาอีก
องครักษ์ในเรือน “…”
ใต้เท้าเจ้าสำนักทำเป็นเดินผึ่งผาย เอ่ยข่มขู่ว่า หากกล้าบอกพี่ใหญ่ข้า ข้าจะไล่พวกเจ้าออกจากจวนให้หมด!”
เขาเดินไปถึงประตูเล็กที่เชื่อมระหว่างบ้านชิงเหลียนกับเสี่ยวอวี่เซวียน องครักษ์นายหนึ่งยกมือขวางเขาไว้ “คุณชายใหญ่สั่งไว้ ท่านต้องอยู่ในบ้านชิงเหลียนเท่านั้น ห้ามออกไปไหนเด็ดขาดขอรับ”
ยังกักบริเวณข้าเสียด้วย? จีหมิงซิวไอเจ้าคนชั่ว!
…
จีหมิงซิวออกจากบ้านตระกูลจีไปแล้ว เดิมทีคิดจะไล่ตามเฉียวเวยไป ไหนเลยจะคิดว่าชางจิวจะมาปรากฏตัวอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเช่นนี้ ซ้ำยังมาขวางทางเขาไว้เสียอีก
องครักษ์ในจวนไม่ใช่คู่ฝีมือของชางจิว เยี่ยนเฟยเจวี๋ยไล่ตามมาทัน จึงต่อสู้ติดพันอยู่กับชางจิว
อีกด้านหนึ่ง เฉียวเวยขี่ม้าออกจากบ้านตระกูลจี
ดึกดื่นค่ำคืน บนถนนไม่มีผู้คนเดินอยู่แล้ว รอบด้านมีเพียงความเงียบสงัด เหลือเพียงเสียงกุบกับๆ ของเกือกม้า ทำให้เจ้าของบ้านที่สะดุ้งตื่นพากันนึกตระหนก
เฉียวเวยไล่ตามไปสามช่วงถนน ในที่สุดก็ตามฟู่เสวี่ยเยียนทันเสียที
ฟู่เสวี่ยเยียนมือหนึ่งจับกำแพง อีกมือหนึ่งกุมท้อง กำลังหอบหายใจเบาๆ พอนางหันกลับมาเห็นเฉียวเวย เห็นว่าเฉียวเวยใช้แส้เร่งความเร็วม้าตามมา นางก็ขมวดคิ้วด้วยความทรมานแล้วเดินหน้าต่อไปทันที