CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก - ตอนที่ 452 คืนดี (5)

  1. Home
  2. หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก
  3. ตอนที่ 452 คืนดี (5)
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ตอนที่ 452 คืนดี (5)

ครึ่งชั่วยามหลังจากนั้น คนกลุ่มหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นบนเนินดินลูกน้อยลูกหนึ่งบนทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ของเขาอูเปี๋ย

เรียงลำดับจากซ้ายไปขวา คือเฉียวเวย เยี่ยนเฟยเจวี๋ย ใต้เท้าเจ้าสำนัก อาต๋าเอ่อร์และเสี่ยวไป๋กับจูเอ๋อร์

สือชีอยู่ที่โรงเตี๊ยม

สี่มนุษย์สองเดรัจฉานประหนึ่งสัตว์ยักษ์ที่ซุ่มซ่อนอยู่ในเงามืด เบิ่งดวงตาแสนอันตรายจับจ้องกระโจมหลายหลังที่ตั้งอยู่ใต้ผืนนภายามรัตติกาลอย่างไม่วางตา กระโจมตรงที่แห่งนี้เพิ่งจะตั้งขึ้นมาไม่นาน ดูท่าทางแล้วคงเป็นพวกคนเลี้ยงสัตว์ที่เพิ่งย้ายมา

แต่ละปีชนเผ่าเร่ร่อนที่ทำอาชีพเลี้ยงสัตว์บนทุ่งหญ้าจะย้ายหลักแหล่งไปหลายที่ตามแต่ฤดูกาล ด้วยเหตุนี้การที่มีกระโจมใหม่มาตั้งแถบนี้จึงไม่ใช่เรื่องที่ทำให้คนแปลกใจอะไร หากไม่ใช่ว่าใต้เท้าเจ้าสำนักพาพวกเขามายังที่แห่งนี้ ต่อให้พวกเขาเดินทางผ่านก็คงคิดไม่ถึงว่าด้านในจะมีคนเยี่ยหลัวที่พวกเขาต้องการตัวพักอยู่

“เจ้าแน่ใจหรือว่าเป็นที่นี่” เฉียวเวยถาม

ใต้เท้าเจ้าสักแค่นเสียงดังเหอะตอบว่า “ข้าต้องแน่ใจสิ! ไม่แน่ใจข้าจะพาเจ้ามาทำอะไร”

เขาหยุดชะงัก สายตากวาดมองรอบหนึ่ง แล้วหันไปมองเจ้าตัวน้อยทั้งสองบนพื้นอย่างรังเกียจ “เหตุใดจึงมีแค่สองตัว อีกตัวหนึ่งเล่า”

ทุกคนมุมปากกระตุก นี่เกือบจะผ่านไปคืนหนึ่งแล้ว ท่านเพิ่งจะสังเกตเห็นหรือ สายตาช่างไม่มีผู้ใดเทียบได้จริงๆ!

หลังจากต้าไป๋ถูกโยนลงไปในคูเมือง จวบจนกระทั่งเดินทางจากมาก็ยังไม่พบร่องรอยของมัน โอกาสที่มันยังรอดมีไม่มาก ก่อนเดินทางออกจากเมืองผู เฉียวเวยจึงไหว้วานให้เจ้าเมืองผูงมศพของต้าไป๋ขึ้นมาจากแม่น้ำ ไม่ว่าอย่างไรต้าไป๋ก็เป็นพรรคพวกของพวกเขา หากเป็นก็ต้องเห็นตัวเพียงพอน หากตายก็ต้องเห็นศพ

ตอนนี้ยังไม่ได้ข่าวคราวประการใด

บางทีการไม่ได้ข่าวก็คือข่าวดีแล้ว

“กระโจมมากมายขนาดนี้ หลังไหนถึงเป็นของเจ้าหมอนั่นเล่า” เยี่ยนเฟยเจวี๋ยถามอย่างสับสน

ใต้เท้าเจ้าสำนักชี้กระโจมที่สามทางฝั่งขวามือ “หลังนั้น เขาบาดเจ็บหนักมาก สตรีนางนั้นกับชางจิวจึงออกไปซื้อยาให้เขา คืนนี้คงไม่กลับมา พวกเราเพียงต้องรีบจัดการเจ้าหมอนั่นให้เสร็จก่อนฟ้าสางก็พอ”

เยี่ยนเฟยเจวี๋ยมองมาอย่างแปลกใจ “เหตุใดท่านจึงรู้ว่าพวกเขาไปซื้อยา”

ใต้เท้าเจ้าสำนักยกมุมปากขึ้นอย่างหยิ่งยโส “ข้าย่อมมีวิธีของข้า”

“วิธีอันใด” เยี่ยนเฟยเจวี๋ยเป็นตายก็ไม่เข้าใจ

เฉียวเวยกลอกตาใส่ใต้เท้าเจ้าสำนัก ไม่พบหน้ากันไม่กี่วัน เจ้าหมอนี่ไปเรียนวิธียั่วให้คนอยากรู้มาหรืออย่างไร

“ไม่ใช่ว่าซื้อตัวตระกูลอวี้มาแล้วให้ตระกูลอวี้ช่วยสืบข่าวให้หรือไร”

ใต้เท้าเจ้าสำนักขมวดคิ้วน้อยๆ อันหล่อเหลาอย่างไม่พอใจ “แม้แต่เรื่องนี้เจ้าก็รู้หรือ”

เฉียวเวยยิ้มน้อยๆ “เดายากนักหรือไร”

ตระกูลอวี้เป็นเจ้าถิ่นของเขาอูเปี๋ย คนนอกคนใดจะหลบซ่อนจากสายตาของพวกเขาได้

ใต้เท้าเจ้าสำนักเบ้ปาก “ข้ายกผลสองภพให้เชียวนะ จะขอแค่ข้อมูลของพวกเจ้าคงไม่ได้ใช่หรือไม่เล่า นั่นออกจะไม่คุ้มเกินไปแล้ว!”

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าแลกผลสองภพไปกี่ผลกันแน่” เฉียวเวยถามเสียงเย็นยะเยือก

ใต้เท้าเจ้าสำนักกระแอม “…สองผล”

เฉียวเวยฟาดฝ่ามือลงบนกะโหลกของเขา เจ้าเด็กล้างผลาญคนนี้! แค่ข่าวกระจิดกระจ้อยกลับใช้ผลสองภพไปตั้งสองผล! รู้หรือไม่ว่าผลสองภพที่บ้านถูกคนเยี่ยหลัวพวกนั้นขโมยไปจนเกลี้ยงแล้ว แม้แต่สองผลนี้ในมือเขา เขาก็ยังเอาไปผลาญข้างนอกจนหมดอีก!

ใต้เท้าเจ้าสำนักถูกตบจนเกือบสมองกระจาย เขาหันไปมองพี่สะใภ้บ้านตนเองอย่างเคืองแค้น

เฉียวเวยว่าอย่างไม่สบอารมณ์ “มองอะไร”

ใต้เท้าเจ้าสำนักผินหน้าหนีอย่างคับแค้น!

ต่อจากนั้นเฉียวเวยก็ให้ใต้เท้าเจ้าสำนักเอากู่ขับขานราตรีออกมา แต่ละคน (ตัว) แบ่งกันคนละตัว แมลงกู่ชนิดนี้ขอเพียงสัมผัสถูกผิวหนังของคนก็จะเข้าไปในตัวคนผู้นั้นได้ทันที พวกเขามีคนมากขนาดนี้ ต้องมีสักคนที่ขว้างโดนสิ

หลังจากแบ่งแมลงกู่กันแล้ว พวกเขาก็ให้อาต๋าเอ่อร์เป็นคนนำ เริ่มลอบเข้าไปในกระโจม

ตอนนี้เลยเที่ยงคืนแล้ว คนเลี้ยงสัตว์ทั้งหลายต่างเข้าสู่ห้วงนิทรา ไม่มีผู้ใดรู้ตัวว่าพวกเขาลอบเข้ามาใกล้ มีครอบครัวของคนเลี้ยงสัตว์ที่เลี้ยงสุนัขไว้ มันหูตั้งขึ้นมาอย่างระแวดระวัง แต่ไม่ทันที่สุนัขตัวนั้นจะได้เห่าก็ถูกเสี่ยวไป๋ขู่จนหดหัวกลับไปในรังสุนัข

คืนดึกคนสงัด แม้แต่สายลมก็หยุดพัด รอบด้านเงียบจนเหลือแต่เสียงลมหายใจของพวกเขา

อาต๋าเอ่อร์ส่งสัญญาณมือ เพื่อปลอดภัยไว้ก่อนพวกเขาจึงจะรมยาสลบคนเลี้ยงสัตว์เหล่านี้เป็นอย่างแรก

เยี่ยนเฟยเจวี๋ยล้วงควันยาสลบหลายแท่งออกมาจากในอกเสื้ออย่างคล่องแคล่วชำนาญ เขาแบ่งกับอาต๋าเอ่อร์คนละสามแท่ง แยกย้ายกันไปรมกระโจมของคนเลี้ยงสัตว์ทั้งหลาย

ทำเรื่องเหล่านี้เสร็จสิ้นแล้ว ทั้งสองคนก็กลับไปที่ประตูของกระโจมหลังที่สาม

ถึงจะบอกว่าอยู่หน้าประตู แต่ความจริงยังห่างอยู่อีกสิบก้าว

ในหมู่พวกเขามีเพียงเฉียวเวยที่เคยประมือกับเขามาก่อน ประสบการณ์ที่ถูกเล่นงานจนน่าอนาถในวันนั้นยังประหนึ่งเห็นอยู่ตรงหน้า เพียงนึกถึงก็ทำให้คนขนลุกซู่

เฉียวเวยยืนนิ่งไม่ขยับ

ใต้เท้าเจ้าสำนักบุ้ยปากใส่นาง เข้าไปสิ ยืนนิ่งทำอะไรอยู่

เฉียวเวยเหลือบมองเขา เจ้าก็เข้าไปสิ เหลือบมองข้าทำอะไร ไม่ใช่ข้าที่อยากจะวิ่งมายัดแมลงกู่ใส่ร่างเขาสักหน่อย!

ใต้เท้าเจ้าสำนักหรี่ตามองอย่างกรุ่นโกรธ เขากัดฟันกรอดแล้วหันไปมองอาต๋าเอ่อร์

อาต๋าเอ่อร์สูดลมหายใจลึกเฮือกหนึ่ง แล้วหันไปมองเยี่ยนเฟยเจวี๋ย

เยี่ยนเฟยเจวี๋ยจยกมือกุมหน้าผาก หันไปมองด้านข้าง…

เสี่ยวไป๋กับจูเอ๋อร์สลายตัวไวปานสายฟ้าแลบ!

เยี่ยนเฟยเจวี๋ย “…”

ทำตัวไร้คุณธรรมน้ำมิตรเช่นนี้จะดีจริงหรือ

เฉียวเวยยักคิ้วหลิ่วตา หนก่อนเขาล้มป่วยจนกำลังภายในเหลือเพียงห้าส่วน แล้วยังถูกธนูจันทร์โลหิตยิงไปหนึ่งหน คิดว่าตอนนี้กำลังภายในคงไม่ถึงสองส่วนแล้ว เจ้าเข้าไปจะต้องจัดการเขาในกระบวนท่าเดียวได้แน่

ใต้เท้าเจ้าสำนักเห็นด้วยอย่างที่สุด จอมยุทธ์เยี่ยนผู้กล้า! จอมยุทธ์เยี่ยนยอดเยี่ยมที่สุด! จอมยุทธ์เยี่ยนรีบบุกเข้าไปเร็ว!

เยี่ยนเฟยเจวี๋ยไม่มีที่ให้ระบายโทสะหนนี้ เหตุใดข้าต้องมาพบกับพวกไม่เอาไหนอย่างพวกเจ้าสองคนด้วย

สุดท้ายเพราะไม่เคยเห็นพลังของว่าที่ราชันอสูรกับตาตนเอง เยี่ยนเฟยเจวี๋ยจึงปลอบตนเองว่าบางทีอาจเป็นเพราะใครบางคนอ่อนแอเกินไป ไม่ใช่เพราะว่าที่ราชันอสูรคนนั้นแข็งแกร่งเกินไปหรอก

พอคิดเช่นนี้ เขาก็ตัดสินใจสวมถุงมือ หยิบกู่ขับขานราตรีออกมาแล้วเดินเข้าไปในกระโจม

พวกเขาแลกสายตากันเสร็จก็ตามเข้าไปอย่างเด็ดเดี่ยว

ว่าที่ราชันอสูรคนนั้นบาดเจ็บหนักจริงๆ มิเช่นนั้นด้วยกำลังภายในของเขา ต่อให้ซุ่มซ่อนดีอีกเท่าใด ก็คงถูกอีกฝ่ายล่วงรู้นานแล้ว

ทุกคนเริ่มคิดในแง่ดีเหมือนกับเยี่ยนเฟยเจวี๋ยอย่างห้ามไม่ได้ ในเมื่อบาดเจ็บหนักถึงเพียงนี้ บางทีคืนนี้พวกเขาอาจจะทำสำเร็จจริงๆ ก็ได้

ทว่าความคิดนี้แตกสลายไปทันทีที่ก้าวเท้าก้าวที่สาม

ฟู่!

ฟู่!

ฟู่!

เสียงลมหายใจหนักหน่วงและรุนแรงพัดออกมาจากด้านในกระโจมอย่างต่อเนื่อง ในค่ำคืนที่เงียบสงบจนไม่มีแม้แต่สายลม มันฟังดูใกล้และชัดเจนเป็นพิเศษจนราวกับว่า…ลมหายใจนี้ดังอยู่ข้างหู

ในใจของทุกคนเคร่งเครียดอย่างไร้สาหตุ ต่อจากนั้นความหนาวยะเยือกก็พุ่งจากใต้เท้าลามขึ้นไปถึงกระหม่อมของทุกคน

ก้าวเท้าของเยี่ยนเฟยเจวี๋ยหยุดชะงัก เขากลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เสียงลมหายใจยังคงดังลอยมาครั้งแล้วครั้งเล่า เสียงแต่ละหนเหมือนดังอยู่ริมหู จนเขาไม่กล้าแม้แต่จะหันมองด้านหลัง ด้วยกลัวว่าคนผู้นั้นจะยืนอยู่ด้านหลังของตนเอง

ความรู้สึกเช่นนี้…น่ากลัวเกินไปแล้วจริงๆ

เขาเพิ่งจะยืนอยู่หน้ากระโจมของอีกฝ่ายเท่านั้น ไม่รู้จริงๆ ว่าหากต่อกรกับเขาซึ่งหน้าจะน่าหวาดกลัวถึงเพียงใด

เวลานี้เขาพลันนับถือความกล้าของเฉียวเวยแล้ว นางกล้ามาเป็นหนที่สอง ไม่กล้าก็คงโง่!

ไม่ว่าอย่างไรก็มาแล้ว จะหนีเตลิดไปเช่นนี้ไม่ได้!

เยี่ยนเฟยเจวี๋ยบังคับให้ตัวเองสงบสติ เขาพลิกมือหยิบใบมีดบางเฉียบแผ่นหนึ่งออกมากรีดประตูกระโจมอย่างเงียบเชียบ

เขาแหวกม่านประตู ลังเลครู่หนึ่งก็ทำใจกล้ามุดเข้าไป

ทุกคนเห็นเขาเข้าไปแล้วก็รวบรวมความกล้าเดินเข้าไปด้วย

กระโจมหลังไม่ใหญ่ มองเข้าไปครั้งเดียวก็เห็นบุรุษที่นอนอยู่บนพรมหนา เขาสวมอาภรณ์สีดำทั้งตัว สวมหน้ากากสีดำ บนร่างห่มผ้าห่มผ้าฝ้ายอยู่ครึ่งตัว ภายในห้องจุดเตาถ่านจึงไม่ทำให้คนรู้สึกหนาว แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดสันหลังของทุกคนจึงขนลุกซู่พร้อมกันโดยไม่ได้นัด

สมควรขว้างแมลงกู่ได้แล้ว

แต่ดันไม่มีใครกล้าโยนออกไปสักคน

คนทั้งกลุ่มยืนอึ้งงันอยู่เช่นนั้น

ทันใดนั้นเองบุรุษบนเตียงก็ลืมตาขึ้น

หัวใจของทุกคนเต้นกระตุกจังหวะหนึ่งพร้อมกัน!

บุรุษคนนั้นมองมาทางด้านนี้ หน้ากากบดบังมิดชิดจนแม้แต่ดวงตาทั้งสองข้างก็ยังเห็นไม่ชัด เห็นเพียงประกายตาดุจอสูรสองดวงผ่านจุดที่มีการแกะสลักน้อยนิดบนหน้ากาก

อากาศราวกับถูกแช่แข็ง

ชั่วพริบตาต่อมา…

เสี่ยวไป๋ก็กินแมลงกู่เข้าไป

จูเอ๋อร์บีบแมลงกู่จนตาย

เยี่ยนเฟยเจวี๋ยโยนแมลงกู่ใส่ร่างของอาต๋าเอ่อร์

อาต๋าเอ่อร์โยนแมลงกู่…ใส่ร่างของตนเอง

เฉียวเวยก้าวไปข้างหน้าก้าวเล็กๆ “พวกเจ้าเหตุใดจึงไม่ได้เรื่องเช่นนี้ ไม่ใช่แค่นักรบมรณะคนเดียวหรอกหรือ เขาไม่ใช่ราชันอสูรจริงๆ สักหน่อย! แล้วเขาก็ยังบาดเจ็บอยู่ด้วย! พวกเราคนมากขนาดนี้ร่วมมือกันยังจะขว้างใส่เขาไม่สำเร็จอีกหรือ ยังเป็นลูกผู้ชายกันอยู่หรือไม่ เป็นลูกผู้ชายก็ตามข้าไปลุยด้วยกัน!”

ใต้เท้าเจ้าสำนักถูกพี่สะใภ้ของตนเองปลุกขวัญกำลังใจจนฮึกเหิม เขายืดอกก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง แล้วเอ่ยอย่างไม่กลัวเกรง “พูดถูกต้องแล้ว! ลุยด้วยกัน! เขาร้ายกาจอีกเท่าใดก็เป็นเรื่องในอดีตเท่านั้น! ตอนนี้เขาบาดเจ็บหนัก! ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเราสักนิด! ข้านับหนึ่ง สอง สาม ทุกคนก็ขว้างแมลงกู่ในมือออกไป! ต้องมีสักตัวที่ขว้างถูกเขา! หนึ่ง สอง สาม!”

มีเพียงเขาคนเดียวที่ขว้างออกไป

เมื่อเขาหันหลังกลับมามอง

เวรเอ๊ย คนเล่า หนีไปกันหมดแล้วหรือ

คนทั้งกลุ่มวิ่งเตลิดตึงตังหายเข้าไปในรัตติกาล คนที่วิ่งเร็วที่สุด หนีมาไกลที่สุดในหมู่พวกเขาก็คือเฉียวเวย…

——————————————–

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 452 คืนดี (5)"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์