หฤโหดโคตรนักเวทย์ (Mage are too Op) - ตอนที่ 12
ภายใต้แสงจากหน้าจอ โรแลนด์พิมพ์ลงบนคีย์บอร์ดอย่างรวดเร็ว หลังจากบทความเสร็จสิ้นเขาก็อัปโหลดวีดีโอแล้วโพสมันลงไป เขาหยุดพักนิ้วอยู่ครู่หนึ่ง โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นมา
เขามองไปที่เบอร์บนหน้าจอก่อนจะตัดสินใจรับสาย ไม่มีคำทักทายใดๆ เขาเพียงแค่พูดไปอย่างเรียบง่ายว่า “เป็นยังไงบ้าง”
“ไม่แย่เท่าไหร่ ฉันได้เลื่อนคลาสเป็นเซนต์ซามูไรแล้วน่ะ” ชายหนุ่มที่มีเสียงอันน่าหลงใหลพูดออกมา “แล้วนายละ? จากที่อ่านมาในบอร์ดดูเหมือนว่าอนาคตของนักเวทย์จะไม่รุ่งนี่?
โรแลนด์พูดกลับไปว่า “ฉันโอเคน่า ฉันเริ่มจับทางมันได้แล้ว”
“งั้นก็โชคดีละกัน” ชายหนุ่มพูดอย่างจริงใจ “นายไม่ได้ทำงานไม่ใช่หรอวันนี้? ไปรวมตัวกันที่ประจำหน่อยไหม ฉันโทรเรียกราฟเฟิลมาแล้ว เกมนี้มันทั้งซับซ้อนและกว้างอย่างน่าตกใจเลย คงยากที่พูดคุยรายละเอียดทั้งหมดผ่านทางโทรศัพท์น่ะ”
“ก็จริง เดี๋ยวฉันออกไปหา”
โรแลนด์วางสายโทรศัพท์ก่อนคว้าเสื้อยืดออกมาใส่ และบอกผู้ปกครองที่อยู่ในห้องนั่งเล่นก่อนจะขี่มอเตอร์ไซค์ออกไป
โรแลนด์นั้นอาศัยอยู่ในเมืองทางใต้ที่อากาศร้อนจัด แดดร้อนจัดแม้จะยังอยู่ในช่วงเช้าก็ตาม โรแลนด์พยายามหลบแดดด้วยการขี่ไปตามเงาของต้นไหม้ ทว่าเหงื่อเขาก็ยังคงไหลออกมาราวกับน้ำ
อากาศภายในเมืองค่อนข้างร้อนชื้น มีโรงงานขนาดใหญ่อยู่เล็กน้อยและเต็มไปด้วยต้นไม้ บ้านเกิดของโรแลนด์มีสภาพอากาศที่ค่อนข้างดีและฟ้าโปร่ง ทว่าเขากลับรู้สึกว่ามีกลิ่นประหลาดปะปนอยู่ในอาศัย แต่นั่นก็คงแค่คิดไปเอง
สิบนาทีหลังจากนั้น เขาก็มาถึงบาร์เครื่องดื่ม แม้ว่าจะยังไม่ใช่เวลาที่ร้านเปิดแต่ประตูก็เปิดรอไว้อยู่แล้ว โรแลนด์รีบจอดรถก่อนเดินเข้าไปด้านใน
แอร์ภายในบาร์ทำให้โรแลนด์รู้สึกได้คืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง ในบาร์นั้นตกแต่งไปด้วยโทนสีเหลืองอ่อน เขาทักทายกับพนังงานสาวสวยที่อยุ่ตรงเคาน์เตอร์ก่อนจะเดินขึ้นไปบนห้องที่ชั้นสองซึ่งมีตราแพนด้าติดอยู่ตรงหน้าประตู
เสียงเพลงเบาๆกล่อมอยู่ภายในห้อง มีชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา , ผิวขาว , ตาดำ , ปากแดง และ ฟันขาวใสนั่งอยู่บนเก้าอี้สีเหลือง เขากำลังนั่งลิ้มรสเรดบลูและแตงโมที่อยู่ตรงหน้า
โรงแลนด์นั่งลงตรงข้ามเขาก่อนหัวเราะออกมาเบาๆว่า “เรดบลูและแตงโม….นายจะโด๊ปยาตั้งแต่เช้าเลนรึไง? เมื่อคืนจัดหนักมางั้นหรอ?”
หนุ่มหล่อคนนี้ชื่อว่าชัค พวกเขาเป็นทั้งเพื่อนซี้และเพื่อนบ้านกันตั้งแต่ประถมยันมหาลัย พวกเขาไม่ใช่พี่น้องกันแต่สนิทยิ่งกว่านั้นเสียอีก พวกเขาไม่จำเป็นต้องอ้อมค้อมใส่กัน
ชัควางกระป๋องลงก่อนพูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้ว่า “ฉันไม่มีตัวเลือกนี่หว่า การแต่งงานก็เหมือนสุสานของความรัก เซ็กส์ทั้งหมดกลายเป็นภาคบังคับน่ะ หากฉันไม่ได้ทำการบ้านอย่างหนัก ฉันก็ไม่สามารถเข้าเกมได้ทันเวลานี่
ชายหนุ่มหน้าตาดีทุกคนต้องเคยมีประสบปัญหาถูกไล่ตามด้วยหญิงสาวมากมาย ชัคนั้นหน้าตาดีระดับที่ว่าเทียบได้กับดาราดังๆ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นคนที่ไม่ดื่นและไม่สูบบุหรี่ งานอดิเรกของเขาก็มีเพียงแค่เล่นเกมเท่านั้น ดังนั้นผู้หญิงหลายคนจึงเข้าหาเขาไม่หยุด
ภรรยาของชัคนั้นเป็นเพื่อนร่วมชั้นของเขาตั้งแต่สมัยมัธยมต้น แน่นอนว่าเป็นเพื่อนร่วมชั้นของโรแลนด์ด้วย เธอมีชื่อว่า เฉินหางต้าน ในบรรดาคนที่ตามจีบเขาทั้งหมด เธอเป็นคนที่งดงามและกล้าหาญมากที่สุด
เธอตามจีบชัคมาตั้งแต่ ม.ต้น เธอกระทั่งข่มขู่ครอบครัวตัวเองเพื่อให้พวกเขาส่งเธอไปเรียนมัธยมปลายที่เดียวกับชัค พอจบการศึกษาเธอก็ยื่นต่อมหาลัยที่เดียวกับชัคและอาสาซักเสื้อผ้าให้เขาอีกด้วย
เป็นธรรมดาพวกเขาจะแต่งงานกัน หลังจบออกมา
ชัคเป็นเจ้าของบาร์แห่งนี้ ทว่ากลับเป็นเฉินหางต้านที่เป็นคนดูแลกิจการทั้งหมด เธอรักสามีเธอมากถึงขนาดที่ไม่อยากให้เขาทำงานหนัก
ห้องป้ายแพนด้าคือห้องที่เขาสงวนไว้เป็นพิเศษสำหรับเขาและเพื่อนๆเท่านั้น เขาไม่เคยเปิดสำหรับสาธารณะ
“นายพูดเหมือนกับชีวิตแต่งงานมันยากซะอย่างงั้น”
โรแลนด์รู้ดีว่าชีวิตหมอนี่ค่อนข้างสะดวกสบาย มีงานง่ายๆทำ แม้บาร์จะไม่ได้ทำให้เขาร่ำรวยนัก แต่ชีวิตเขาก็ดีกว่าคนทั่วไปแน่นอน นอกจากนี้ยังมีภรรยาที่แสนดี ที่ทำให้ผู้ชายทุกคนต้องอิจฉา
“จากที่เว็บไซค์ทางการประกาศ เซนต์ซามูไรดูเหมือนจะเป็นหนึ่งในสามคลาสที่ขี้โกงนี่ นายไปทำอะไรมาถึงเปลี่ยนคลาสได้ไวขนาดนั้น?”
ชัคตอบออกมาด้วยความสับสนว่า “ตอนแรก ฉันก็คิดว่ามันน่าจะเป็นไปได้ยาก ตัวละครของฉันเป็นนักกวี ฉันไปที่โบสถ์แห่งแสงและเคารพต่อรูปปั้นของเทพธิดาด้วยความสามารถทางภาษา และทันใดนั้นฉันก็ได้รับการเปลี่ยนคลาสในทันที ฉันก็ยังรู้สึกงงๆกับมันอยู่”
“คลาสนี้เป็นยังไงบ้าง?” โรแลนด์ถามออกมาด้วยความสงสัย
ชัคหยิบแตงโมขึ้นมาชิ้นหนึ่งก่อนพูดว่า “ฉันยังไม่ได้ลองสู้กับใครเลย ทว่าอภิสิทธิ์ของคลาสนี้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว ผู้คนภายในโบสถ์แห่งแสงพากันตกใจเมื่อเห็นว่าฉันกลายเป็นเซนต์ซามูไร พวกเขามอบอาวุธ ชุดเกราะ และเงิน 20 เหรียญทองให้ฉัน โดยพวกเขาบอกฉันว่าฉันจะได้รับเงินนั้นในทุกๆเดือน
โรแลนด์ถอนหายใจออกมาอย่างสิ้นหวัง สิ่งที่พวกเขาพบเจอต่างกันมากเกินไป เขายังไม่สามารถร่ายเวทย์ได้ด้วยซ้ำ ทว่าเพื่อนของเขากลับเริ่มทำเงินได้แล้ว ที่แย่ไปกว่านั้นคือ หมอนี่ยังไม่ได้ทำอะไรเลยสักนิด หมอนี่จะโชคดีไปถึงไหน?
ระหว่างที่โรแลนด์กำลังรู้สึกแย่อยู่ ทันใดนั้นประตูห้องก็ถูกเปิดออก ชายหนุ่มสองคน คนหนึ่งอ้วนคนหนึ่งผอมก็เดินเข้ามา พวกเขาเต็มไปด้วยเหงื่อและนั่งลงโดยไม่ทักทายโรแลนด์และชัค พวกเขาจะไม่ทำอะไรทั้งสิ้นจนกว่าจะได้กินแตงโม
“วันนี้แม้งโคตรร้อนเลย เหมือนไขมันกำลังจะละลายออกมาเลย”
คนที่พูดออกมาคือชายร่างอ้วนชื่อว่า ราฟเฟิล เขาไม่สูงนัก ใบหน้าของเขาอ้วนกลมแลดูน่าขบขัน
“เพราะนายอ้วยเกินไปต่างหาก ฉันยังไม่เหงื่อออกขนาดนั้นสักหน่อย”
ชายร่างผอมตอบกลับมา เขาสูงถึง 183 เซนติเมตร เพราะว่าดูผอมเกินไป เขาเลยดูราวกลับเป็นเสาไฟฟ้า เขาถูกเพื่อนๆเรียกว่า บราซิล เพราะเขาชื่นชอบฟุตบอลทีมชาติบราซิล และมักจะใส่ชุดทีมชาติบราซิลอยู่เสมอ
เขาใช้ชื่อเดียวกันนั้นภายในเกม
โรแลนด์มองออกไปด้านนอกก่อนถามว่า “แล้วลี่หลิน กับ ฮัสเซอเรตล่ะ”
ชัคโบกแขนของเขาก่อนพูดว่า “พวกนั้นติดงานน่ะ กว่าจะว่างก็คงคืนนี้ มาพูดเกี่ยวกับตำแหน่งของพวกเราภายในเกมก่อนดีกว่า”
ราฟเฟิลและบราซิลส่ายหน้าออกมา เพราะพวกเขาไม่สามรถพูดภาษาท้องถิ่นได้ ราฟเฟิลนั้นเล่นเป็นนักรบโล่ ขณะที่บราซิลนั้นเป็นนักธนู ในพวกเขาไม่มีใครที่สามารถร่ายเวทย์ได้เลย ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เข้าใจในสิ่งที่ NPC พูด ที่พวกเขารู้ก็มีแค่พวกเขาอยู่คนละเมืองกัน
ชัคเล่าว่า “ฉันอยู่ในเมืองที่ชื่ออิสนัสน่ะ ทว่าก็ไม่รู้ที่ตั้งที่ชัดเจน แต่ว่าถ้าดูจากขนาดแล้วมันน่าจะเป็นเมืองขนาดกลาง”
โรแลนด์บอกสถานที่อยู่ของเขาแก่เพื่อนๆ เมืองเรดเมาน์เทน จากนั้นก็พูดว่า “เกมนี้กว้างมากๆ ดูเหมือนพวกเราจะแยกกันหมดเลย ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือพวกเราควรทำงานด้วยตัวเองกันไปก่อนและค่อยวางแผนอื่นกันเมื่อเราเริ่มชินกับเกมนี้”
ชัคพยักหน้าและพูดว่า “น่าจะเป็นสิ่งเดียวที่พวกเราทำได้ในตอนนี้ล่ะนะ”