หฤโหดโคตรนักเวทย์ (Mage are too Op) - ตอนที่ 162
ตอนที่ 162 : มอบทรัพย์สิน
มันเป็นไปได้ที่จะพูดกับสัตว์เวทย์ผ่านจิตใจ
ทว่าการสื่อสารทางจิตนั้นต้องเสียพลังจิตในการใช้ ดังนั้นมันจะสะดวกกว่าหากเขาพูดกันใกล้ๆ
“อําพันขาว?” โรแลนด์ยังคงรู้สึกประหลาดใจ “ทําไมเธอถึงเปลี่ยนสีกันล่ะ?”
“ข้าก็ไม่มั่นใจเช่นกัน” อําพันขาวปีนไปตามตัวโรแลนด์จนมาถึงไหล่ของเขาและกระพริบตาปริบๆ “ขนใหม่ของข้าเป็นสีฟ้าและขนเก่านั้นร่วงลงไปหมดแล้ว ความรู้ของข้านั้นส่วนมากจะมาจากท่าน ข้าเองก็ไม่มั่นใจว่า ท่านจะรู้หรือไม่”
พูดกันตามตรง สัตว์เวทย์นั้นเป็นเหมือนกับร่างแยกของผู้ใช้เวทย์ เพราะชิ้นส่วนของวิญญาณของผู้ใช้เวทย์ผสานเข้ากับมัน ความรู้ของมันและลักษณะนิสัยจะมีความคล้ายคลึงกับผู้ใช้เวทย์
ในตอนนั้นเองวิเวียนก็พูดขัดจังหวะขึ้นมา “ข้าเคยถูกสอนมาว่าถ้าหากมีผู้ใช้เวทย์ที่มีสายเลือดพิเศษ ความพิเศษนั้นจะสามารถถูกส่งต่อไปทางวิญญาณได้ และสัตว์เวทย์ของพวกเขาจะมีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ หรือเปลี่ยนสีอย่างน้อยอย่างใดอย่างหนึ่ง ท่านรองท่านมีสายเลือดพิเศษอะไรหรือไม่?”
โรแลนด์คิดอยู่ครู่หนึ่ง “ไม่น่าจะใช่อย่างนั้นหรอก เพราะบรรพบุรุษของฉันก็ล้วนแล้วแต่เป็นคนธรรมดา”
วิเวียนพยักหน้าอย่างไม่เชื่อ ไม่ใช่ว่าเธอไม่เชื่อโรแลนด์แต่เธอกลับคิดว่าบางที่โรแลนด์อาจจะไม่รู้สายเลือดของตัวเองเสียมากกว่า
ไม่บ่อยนักที่เหล่าลูกหลานจะลืมความสําเร็จของบรรพบุรุษ
พวกเขาพูดคุยกันต่อและวิเวียนก็พูดกับอําพันสีขาวในอ้อมแขนของเธอก่อนที่เธอจากไป “ถ้าเป็นอย่างนี้ พวกเรายังจะคงเรียกมันว่าอันพันขาวต่อไปแม้ว่ามันจะเปลี่ยนสีไปแล้วก็ตาม นอกจากนี้มันยังคงเป็นเพื่อนของข้าถึงแม้ว่ามันจะเป็นสัตว์เวทย์ของท่าน ทว่าได้โปรดแจ้งให้ข้าทราบด้วยหากท่านจะพามันไปที่ไหน”
โรแลนด์พยักหน้ารับ เงื่อนไขไม่ได้ลําบากอะไร
วิเวียนดีใจขึ้นมาเมื่อเห็นโรแลนด์ยอมรับข้อเสนอของเธออย่างแน่วแน่ เธอเลยทําเค้กและไวน์ผลไม้มาเพื่อขอบคุณเขา
โรแลนด์ยังตัวเองไว้ในห้องทดลองเวทย์ ทว่าเพียงแค่สองวันให้หลังก็มีพ่อบ้านชายวัยกลางคนขออนุญาติบเขาและมอบจดหมายให้กับเขา…มันเป็นโฉนดที่ดิน
เมื่อเปิดซองจดหมายขึ้นโรแลนด์ก็พบว่ามันเป็นจดหมายจากอัลโด้
“รองประธานเมื่อถึงเวลาที่เจ้าเห็นจดหมายนี่แล้ว เจ้าก็ได้กลายเป็นประธานไปที่เรียบร้อยแล้ว และข้าก็อยู่ห่างไกลจากฮอลเลวิลเรียบร้อยแล้ว แม้พวกเราจะรู้จักกันได้ไม่นาน แต่ข้าก็ต้องขอขอบคุณเจ้าเป็นอย่างมาก และข้าก็นับเจ้าเป็นหนึ่งในเพื่อนชั่วชีวิตของข้า ทว่ามันยังมีอีกหลายสิ่งที่ข้าต้องการจะทํา ข้าไม่สามารถอยู่ประเทศนี้ได้อีกต่อไปแล้ว ข้านําผู้หญิงและข้าวของเครื่องใช้ของข้าเกือบทั้งหมดออกมา เหลือทิ้งไว้เพียงสิ่งสําคัญสําหรับเจ้า อย่างเช่นความเข้าใจเวทย์ของข้า นอกจากนี้ข้ายังซ่อนสิ่งของที่น่าสนใจไว้ในสถานที่พิเศษ ภายในคฤหาสน์ ทว่าข้าจะไม่บอกว่ามันอยู่ที่ไหน ทางที่ดีเจ้าควรหามันให้เจอภายในสามวัน ก่อนมันจะเน่าเสียไปเสียก่อน
โรแลนด์เขย่าซองจดหมาย และกุญแจสีทองแดงก็กระเด็นออกมา
เขาจากไปแล้วงั้นเหรอ?
โรแลนด์นั่งหลังพิงเก้าอี้ ราวกับสูญเสียอะไรบางอย่างไป
เขารู้ดีว่าเขาน่าจะไม่ได้พบกับอัลโด้อีกต่อไป
ที่นี่ไม่ใช่โลกแห่งความเป็นจริงที่มีทั้งเครื่องบิน, รถไฟ และเรือโดยสารซึ่งสามารถเดินทางไปหาผู้ที่อยู่ห่างไกลได้อย่างง่ายดาย
ในโลกนี้การเดินทางระยะไกลนั้นราวกับเป็นการเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย
นั่นทําให้เวทย์เคลื่อนย้ายระยะไกลทั้งหลายสําคัญเป็นอย่างมาก
น่าเสียดายที่โรแลนด์ยังไม่สามารถเรียนเวทย์ที่ซับซ้อนขนาดนั้นได้ในตอนนี้
ของขวัญที่หมดอายุได้งั้นเหรอ?
โรแลนด์หมุนกุญแจสีทองแดงเล่นอยู่พักหนึ่งก่อนเดินลงไปชั้นล่าง
เมื่อเขาเดินผ่านชั้นสอน เขาก็เห็นวิเวียนกําลังนั่งพูดคุยกับอําพันขาว วิเวียนนั้นตั้งใจที่จะคุยกับอําพันขาวในเมื่อมันสามารถพูดได้แล้ว เธอเล่าถึงสิ่งต่างๆ ในอดีต
พวกเธอทั้งคู่มองมาที่โรแลนด์อย่างสงสัย
โรแลนด์คิดอยู่ครู่หนึ่งและถามว่า “ฉันจะไปคฤหาสน์ของอัลโด้ เธอจะไปกับฉันไหม?”
“ฟังดูน่าสนใจมากสําหรับข้า”
“ไปค่ะ”
ทั้งวิเวียนและอําพันขาวต่างชื่นชอบที่จะใช้เวลากับโรแลนด์
สิบนาทีให้หลังพวกเขาก็มาถึงยังคฤหาสน์ของอัลโด้
คฤหาสน์ของอัลโด้เงียบสงบมาก เหลือเพียงทหารยามที่ยังทําหน้าที่ของพวกเขาอย่างเต็มที่
การมาถึงของโรแลนด์เหมือนกับเป็นการเติมเต็มความคาดหวังของเหล่าทหารยาม พวกเขาอาสาที่จะเปิดประตูให้โรแลนด์ ก่อนที่จะยืนตรงทําความเคารพเขา
ในขณะเดียวกันพ่อบ้านวัยกลางคนก็ออกมาจากคฤหาสน์ เขาดูเหมือนกังวลกับบางสิ่งทว่าเขาก็ยังก้มหัวทําความเคารพอย่างสุภาพและถามว่า “ท่านโรแลนด์ ท่านมาที่นี่เพื่อรับคฤหาสน์ใช่หรือไม่?”
“ใช่” โรแลนด์พยักหน้ารับและมอบโฉนดให้กับพ่อบ้าน “เก็บมันไว้กับเจ้าและจ้างคนมาเพิ่มเพื่อคืนชีพคฤหาสน์”
“ตามความประสงค์ของท่าน!” พ่อบ้านตอบกลับมาด้วยความยินดีและความตื่นเต้น เขารู้แล้วว่าเขาจะได้ทําอาชีพนี้ต่อ
“รอเดี๋ยว!” วิเวียนก็เข้าใจได้ทันทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น เธอถามพร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้าง “แล้วประธานอัลโด้นั้นไปไหนล่ะ?”
“เขาออกจากเมืองนี้ไปแล้ว” โรแลนด์ถอนหายใจและพูดว่า “เดี๋ยวฉันจะอธิบายให้ฟังทีหลัง”
วิเวียนฉลาดพอที่จะไม่ถามไปมากกว่านี้
พวกเขาไปยังห้องวิจัยในชั้นสาม โรแลนด์มองไปชั้นหนังสือซึ่งมีสมุดและภาพวาดอยู่ในชั้น เขานั่งลงบนเก้าอี้ด้วยความพึงพอใจราวกับว่าเขาพบสิ่งที่มีค่ามากที่สุดในคฤหาสนี้แล้ว
สําหรับสิ่งต่างๆ ในคฤหาสน์…อย่างพวกไวน์, แป้งสาลี และสัตว์ปีกนั้นไม่ได้สําคัญกับโรแลนด์นัก
จากนั้นโรแลนด์ก็อธิบายทุกอย่างให้วิเวียนฟัง
วิเวียนมองไปที่คฤหาสน์อันกว้างขวางผ่านหน้าต่างและพูดด้วยความตกใจว่า “คฤหาสน์ของประธานอัลโด้เป็นหนึ่งในคฤหาสน์ที่กว้างขวางที่สุดในเมืองเดลพอน ข้าไม่คิดว่าเขาจะมอบมันให้กับท่าน”
“เธอชอบมันรึเปล่าล่ะ?” โรแลนด์ยิ้ม “ฉันมอบให้เธอได้นะ”
“ไม่ค่ะ!” วิเวียนปฏิเสธโดยไม่ลังเล “ข้าเป็นเพียงนักเวทย์ฝึกหัดเท่านั้น ข้าไม่สามารถอาศัยในคฤหาสน์เช่นนี้ได้ มันไม่ใช่เรื่องของจํานวนเงินทว่าเป็นเรื่องของความเหมาะสม
โรแลนด์คิดอยู่ครู่หนึ่งและถามว่า “ทําไมเธอไม่ช่วยฉันดูแลที่นี่ล่ะ? ฉันต้องการใครสักคนที่เชื่อใจได้เพื่อดูแลคฤหาสน์ขนาดใหญ่นอยู่พอดี เธอจะอยู่ที่นี่ก็ได้นะ”
ใบหน้าของวิเวียนขึ้นเล็กน้อย “ถ้าหากมันเป็นเรื่องของงาน ข้าจะอยู่ที่นี่ก็ได้”
นั่นไม่ใช่ปัญหาสักหน่อย! หญิงสาวไม่สามารถยินดีไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว
วิเวียนมองออกไปนอกหน้าต่างและหันมามองโรแลนด์ โรแลนด์นั้นไม่ได้มองมที่ใบหน้าของเธอ ไม่อย่างงั้น เขาคงสังเกตุเห็นอะไรบางอย่าง
ละพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาหาสมบัติกับแล้ว”
วิเวียนมองไปรอบๆด้วยความตกตะลึง
โรแลนด์หลับตาลง…พลังจิตจํานวนมหาศาลของเขากลายเป็นหนวดและเคลื่อนผ่านไปตามผนังไปตามก้อนหิน เคลื่อนผ่านไปตามทุกสิ่ง
วิเวียนที่ยืนอยู่ตรงใจกลางได้แต่กลืนน้ําลายอย่างไม่รู้ตัว
ถึงแม้ว่าหนวดพลังจิตของโรแลนด์จะไม่ได้จู่โจมมาที่เธอ วิเวียนนั้นแข็งแกร่งขึ้นพอที่จะสัมผัสได้แล้วว่า พลังจิตของโรแลนด์นั้นครอบคลุมไปทั้งคฤหาสน์ราวกับรังแมงมุมขนาดยักษ์
มันช่างน่าหวาดหวั่น
ครึ่งนาทีต่อมา โรแลนด์ก็ลืมตาขึ้นมา “เจอแล้ว”