หฤโหดโคตรนักเวทย์ (Mage are too Op) - ตอนที่ 168
ตอนที่ 168 : อีกครั้ง
ชื่อไอดีของโรแลนด์เป็นสีทองซึ่งเป็นการยืนยันว่าเขานั้นเป็นตัวจริง
มีเพียงแค่เก้าคนเท่านั้นที่ได้การรับรองเช่นนี้ และโรแลนด์เองก็เป็นคนที่เก้าทั้งยังเป็นผู้เล่นจริงๆที่ได้รับเกรียตินี้
เขาค่อนข้างตกใจพอสมควรเมื่อเห็นชื่อของเขาเปลี่ยนสีไป
จากนั้น…การตอบกลับของเขาก็ถูกดันให้อยู่ในระดับท็อป”
“เชี่ย! นักเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดโรแลนด์มาแล้ว!”
“โรแลนด์นายรู้จักพ่อรูปหล่อคนนั้นด้วยงั้นเหรอ?”
“ดูเหมือนนักเวทย์จะเป็นคนที่มักจะรู้อะไรสําคัญๆอยู่เสมอจริงๆสินะ”
เมื่อเห็นเหล่าผู้เล่นเดาสุ่มไปเรื่อย โรแลนด์ก็ตบไปว่า “หมอนั่นคือชัคผู้ก่อตั้ง F6″
ครึ่งนาทีต่อมาเขาก็ได้รับการตอบกลับจํานวนมหาศาล
“แสดงว่าหัวหน้าของ F6 เป็นเซ ไรสินะ ไม่แปลกใจเลยว่าทําไมเขาถึงสร้างกิลด์ได้ง่ายดายมีคนเคยบอกฉันว่าเซนต์ซามูไรมีตําแหน่งที่สูงมาก”
“ไม่ใช่สูงมาก แต่โคตรสูงต่างหาก พวกเขาราวกับเป็นเด็กที่ถูกดูแลโดยเทพธิดาแห่งแสง”
“พวกเขาก็เหมือนลูกของ CEO ที่จะถูกส่งไปยังตําแหน่งล่างสุดเพื่อเรียนรู้ประสบการณ์ในสังคมนักบวชและผู้ทรงศีลทั้งหลายจะต้องแสดงความเคารพให้แก่เขาอย่างแน่นอน”
เมื่ออ่านการตอบกลับเหล่านี้ บนใบหน้าของโรแลนด์ก็มีรอยยิ้มผุดขึ้นมา
ชัคเป็นพวกหมาป่าเดียวดาย แม้ว่าเขาจะเล่นเกมกับเพื่อน ๆ หลายคน แต่เขาชอบที่จะสํารวจเกมด้วยตัวเองเว้นแต่เพื่อนของเขาขอให้เขาเข้าร่วมภารกิจ โรแลนด์ไม่คิดว่ามันไม่เหมาะสมใน MMORPGs อื่น ๆ แต่เนื่องจากเกมนี้สมจริงมาก โรแลนด์จึงหวังว่าชัคจะมีไหล่กว้างและทําหน้าที่ของหัวหน้ากิลด์ได้
เพราะแบบนั้นเขาจําเป็นต้องมีชื่อเสียง!
หัวหน้ากิลด์มีหน้าที่อยู่หลักแค่สองอย่างเท่านั้นคือบริหารกิลด์และโด่งดัง
F6 เป็นกิลด์ของครอบครัวและผองเพื่อน และมีคนในกิลด์น้อยมาก ดังนั้นมันแทบจะไม่ต้องควบคุมดูแลด้วยซ้ำนั่นหมายความว่าหน้าที่เดียวของชัคก็คือกลายเป็นที่รู้จัก
เมื่อหัวหน้ากิลด์มีชื่อเสียงกิลด์เองก็จะมีชื่อเสียงตามไปด้วย
F6 นั้นมีชื่อเสียงเพียงเพราะเป็นเพียงกิลด์เดียวในปัจจุบัน ทว่าโรแลนด์คิดว่ามันยังไม่พอ
กิลด์แรกที่ถูกสร้างขึ้นกับกิลด์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดนั้นต่างกัน
เพราะแบบนี้…ชัคถึงจําเป็นต้องกลายเป็นคนดัง
นอกจากนี้ชคยังเป็นเซนต์ซามูไรผู้ทรงอิทธพลและหล่อเหลาทั้งยังเป็นอัศวินมังกร มันคงน่าเสียดายเกินไปหากปล่อยให้ชิคใช้ชีวิตไปวันๆ
หลังจากนั้นเขาก็ทักไปหาชัคผ่านทางกิลด์
“อัศวินมังกรฉายานั่นดูเท่ดีนะจริงไหม?”
“ออกไปซะ! ตอนนี้ฉันกําลังหงุดหงิดอยู่ แค่ฉันเจอเจ้าหญิงมังกรนั่นฉันก็มีปัญหาหนักอยู่แล้ว พวกมังกรเพลิงบอกว่าพวกเขาจะมาจัดการสั่งสอนฉันอยู่เนี่ย”
“ก็นายลักพาตัวเจ้าหญิงของพวกเขามานี่หว่า ต้องการให้ช่วยอะไรไหม?”
จากนั้น ลี่หลิน, ฮัสเซอเรต และเพื่อนคนอื่นๆต่างก็ออกมาบอกว่าพวกเขาจะช่วยเขาเช่นกัน
ทว่าชัคกลับเงียบหายไปและไม่ได้ตอบกลับข้อความกิลด์จนกระทั่งสองชั่วโมงต่อมา
ชัคก็พูดขึ้นมา “ไม่เป็นไรแล้ว โป๊ปกล่าวแล้วว่าเขาจะสนับสนุนฉัน นอกจากนี้เทพธิดาก็ได้ส่งสารมาแล้วว่าเธออนุมัติให้ก่อสงครามครูเสดขึ้นได้หากพวกมังกรเพลิงต้องการจะมีปัญหา”
โรแลนด์อ้าปากค้าง “เชี่ย เทพธิดาแห่งแสงแม่งโคตรเอ็นดูนายเลยไม่ใช่รึไง?”
การทําสงครามราวกับเป็นเรื่องธรรมดาๆสําหรับเทพธิดา
ชัคก็กล่าวต่อว่า “เธอเอ็นดูเซนต์ซามูไรทั้งหมดนั่นแหละ จริงๆมันก็รู้สึกดีใช้ได้เลยที่มีคนใหญ่คนโตคอยสนับสนุนดีจริงๆที่เลือกมาเป็นเซนต์ซามูไร”
โรแลนด์ก็พูดต่อไปว่า “หาไม่มีอะไรแล้วงั้นฉันขอตัวก่อน เออใช่ฉันช่วยเพิ่มความนิยมให้นายด้วยนะไม่ต้องขอบคุณฉันหรอก”
ชค: “???”
โรแลนด์หัวเราะพร้อมปิดแชทกิลด์ลง
วันต่อมาก็มีนักเวทย์ทั้งหมดแปดคนจากปีสีเงินเข้าร่วมกับหอคอยเวทย์
หลังจากที่พวกเขาเริ่มฝึกฝนพร้อมพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องต่างๆกับพวกนักเวทย์ฝึกหัดก็ทําให้เหล่านักเวทย์ฝึกหัดเติบโตไปได้อย่างรวดเร็ว
หอคอยเวทย์มีชีวิตมีชาวเพิ่มมากขึ้น
เหล่านักเวทย์ฝึกหัดนั้นต่างยึดถือในเรื่องลําดับ ดังนั้นจึงมีเพียงไม่กี่คนที่กล้าคุยกับโรแลนด์ไม่รวมวิเวียนดังนั้นโรแลนด์จึงใช้เวลาจํานวนมากไปกับการศึกษาเวทย์ของเขา
ถึงแม้ว่าเขาจะชอบทําอะไรคนเดียว ทว่าเขาก็คิดว่ามันน่าเบื่อหากทําอะไรด้วยตัวคนเดียวนานมากเกินไป
ในขณะที่เหล่าผู้เล่นนั้นไม่สนใจเรื่องลําดับชั้นพวกเขานั้นกล้าที่พูดกับทุกคนเมื่อพวกเขาต้องการฝึกฝนเวทย์
และโรแลนด์ก็เป็นหนึ่งในคนที่พวกเขาพูดคุยด้วย
โรแลนด์สนุกกับการได้พูดเรื่องไร้สาระกับคนอื่นระหว่างที่เขาพัก เพราะถึงยังไงพวกเขาเองก็เป็นคนประเภทเดียวกัน
พวกเขารู้ทันกันและกันและยังมีพวกมีมที่รู้กันโดยเหล่าผู้เล่นเท่านั้นด้วย
เช่นวิเวียนนั้นจะถูกตั้งฉายาว่า “เลขา” โดยเหล่าผู้เล่น เธอเองก็ไม่เข้าใจว่ามันหมายความว่ายังไงแต่เธอก็รับมันไว้และคิดว่ามันน่าจะเป็นชื่อเล่น
เธอไม่รู้ความหมายของคําๆนี้
ห้าวันต่อมาแขกที่คาดไม่ถึงก็มายังเดลพอล
ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าเพื่อนเก่าของโรแลนด์จะมาหา
บาร์ดมายังหอคอยเวทย์อีกครั้งพร้อมของรางวัลจากสาขาใหญ่
บาร์ดนั้นไม่ได้ใกล้เคียงกับที่มาในครั้งที่แล้วเลยแม้แต่น้อย
เมื่อเขาเข้ามาใกล้หอคอยเวทย์ เขาก็กล่าวกับผู้ติดตามของเขาว่า “พวกเจ้ารอข้าอยู่ที่นี่สักพักข้าจะเข้าไปมอบของรางวัลที่ด้านใน
ทายาทของตระกูลขุนนางถึงสองคนที่มาพร้อมกับบาร์ดต่างรู้สึกแปลกใจเมื่อได้ยินดังนั้น
ทว่าก่อนที่พวกเขาจะเข้ามายังเมืองเดลพอล บาร์ดได้เดือนพวกเขาไว้ว่าอย่าทําอะไรโดยพลการดังนั้นพวกเขาเลยเลือกที่จะเชื่อฟังคําพูดของบาร์ด
ตระกูลของพวกเขาไม่ได้ยอดเยี่ยมเท่ากับบาร์ดดังนั้นพวกเขาจึงทําได้แค่รับฟังเท่านั้น
ทว่าพวกเขาก็ยังสงสัยอยู่ดีแม้ว่าจะยอมทําตามคําสั่งก็ตาม
บาร์ดนั้นดูเหมือนจะกลัวขึ้นมาเมื่อเห็นหอคอยเวทย์ซึ่งมันดูไม่น่าหวั่นเกรงเลยแม้แต่น้อย
หอคอยเวทมนตร์ทั้งสี่แห่งในเมืองหลวงของฮอลเลวิลนั้นสูงและงดงามกว่าที่นี่ แต่เขากลับรู้สึกว่าหอคอยเวทมนตร์แห่งนี้ทําให้เขากดดันมากกว่าหอคอยเวทมนตร์เหล่านั้นเสียอีก
เขายื่นบัตรให้กับพวกทหารที่เฝ้าทางเข้า ทหารนับมันไว้ด้วยความหวาดกลัวก่อนรีบวิ่งขึ้นบันไดไป
ก่อนที่ทหารยามจะไปแจ้งโรแลนด์ ก็มีผู้เล่นนักเวทย์สองคนออกมาดูการแสดง
แม้ว่าผู้เล่นจะไม่ได้มีพรสวรรค์มากไปกว่าพวกนักเวทย์ฝึกหัด แต่พวกเขาก็ไม่สามารถตายได้ดังนั้นจึงสามารถทดลองได้ทุกรูปแบบ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงก้าวหน้าได้เร็วกว่า NPC มาก
ผู้เล่นนักเวทย์สองคนลงไปที่ชั้นล่างมีระดับสองและระดับสามตามลําดับ ในสายตาของ NPC พวกเขาทั้งสองถือว่าเป็นนักเวทย์ที่ทรงพลัง
บาร์ดไม่รู้ว่าสองคนนั้นเป็นผู้เล่น แต่เขารู้สึกได้ว่าพวกเขามีความแข็งแกร่งด้านเวทมนตร์ระดับเดียวกับเขาทําให้เขาตกใจเป็นอย่างมาก
โรแลนด์นั้นสอนเก่งถึงเพียงนี้เลยงั้นเหรอ? เขาปั้นนักเวทย์ที่แท้จริงได้รวดเร็วขนาดนี้เลย?
จากนั้นเขาก็เริ่มกังวลมากขึ้น
เมื่อตอนที่เขากลับไปยังเมืองหลวง บาร์ดเองก็ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเมืองเดลพอลเช่นกัน
หลังจากที่เขารู้ว่ากลุ่มของโรแลนด์ฆ่าเจ้าเมืองเดลพอนด้วยคนอ่อนแอเพียงไม่กี่ร้อยคน กรามของเขาก็แทบจะตกกระแทกพื้น
นั่นมันอุกอาจมากบาร์ดไม่เคยรู้สึกสับสนมากขนาดนี้มาก่อน