หฤโหดโคตรนักเวทย์ (Mage are too Op) - ตอนที่ 172
ตอนที่ 172 : ชายหนุ่มผู้หล่อเหลากับมังกร
มันเป็นข่าวที่น่าตกตะลึงในเดลพอลที่บาร์ดจะมาอยู่ในหอคอยเวทย์
เขาเกิดในครอบครัวตระกูลขุนนางในเมืองหลวง และเขาเองก็เป็นนักเวทย์ ทว่าเขาก็เลือกที่จะอยู่ใต้โรแลนด์งั้นเหรอ?
มันเป็นเรื่องที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก
ด้วยเหตุนี้โรแลนด์คําแนะนําของโรแลนด์จึงเป็นสิ่งที่มีค่าอย่างมาก
โรแลนด์เริ่มมีชื่อเสียงจากการเป่ากําแพงเมืองและกําแพงปราสาทด้วยบอลเพลิง เขาเป็นที่รู้กันว่านักเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในเดลพอลแม้ว่าอัลโด้จะอยู่ในเมืองก็ตาม และยิ่งดูแกร่งขึ้นในตอนที่อัลโด้จากไปแล้ว
ทว่าคนภายในเดลพอลไม่เคยรู้เลยว่าโรแลนด์แข็งแกร่งขนาดไหนพวกเขาแค่รู้ว่าโรแลนด์นั้นแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตามผู้ใช้เวทย์ก็เป็นกลุ่มคนที่แข็งแกร่งที่สุด
แม้ว่ามันจะยอดเยี่ยมที่สามารถทําลายกําแพงเมืองลงได้ ทว่ามันก็ไม่ได้ฟังดูยอดเยี่ยมเหมือนกับการเรียกอุกกาบาตเพลิงออกมาเป่าประเทศเหมือนพวกระดับตํานานหรือกึ่งเทพ
ดังนั้นผู้คนเลยมีความรู้สึกต่อโรแลนด์ที่ค่อนข้างซับซ้อน
พวกเขาคิดว่าเขานั้นแกร่ง แต่ก็เทียบไม่ได้กับตัวตนในตํานาน
ทว่าบาร์ดก็ทําให้พวกเขาสามารถตีกรอบความแข็งแกร่งของเขาได้
หากขุนนางในเมืองหลวงต้องการขอคําแนะนําจากโรแลนด์ นั่นหมายความว่าโรแลนด์นั้นแกร่งมาก
หลังจากนั้นเหล่าขุนนางจํานวนมากก็หวังว่าจะส่งลูกหลานของพวกเขาเข้าไปยังหอคอยเวทย์
โดยเฉพาะวิเวียนที่ประสบปัญหา “การถูกรบกวน” มากที่สุด เพราะเธอเป็นคนสนิทที่สุดของโรแลนด์ทั้งเธอยังเป็นผู้หญิง
ในตอนนั้นเอง วิเวียนก็พูดอย่างเศร้าๆพร้อมก้มหน้าลงบนโต๊ะทํางานของโรแลนด์ “พ่อของข้าได้รับคําขอร้องมาเป็นจํานวนมาก และบางส่วนก็ไม่ยอมแพ้ เขาทําได้เพียงมอบมันให้แก่ข้าเท่านั้นตอนนี้เมื่อข้ากลับไปยังคฤหาสน์ ข้าก็จะถูกรายล้อมด้วยคนจํานวนมากช่างน่ารําคาญเสียจริง”
“เธอไปซ่อนตัวที่คฤหาสน์ของฉันก่อนก็ได้” โรแลนด์ยิ้มออกมาและพูดว่า “ฉันไม่คิดว่าจะมีใครกล้ามารบกวนที่คฤหาสน์ของฉันหรอก”
ดวงตาของวิเวียนเบิกกว่า เธอนั่งตัวตรงในทันที พร้อมถามออกมาอย่างมีความหวังว่า
“ได้งั้นคะ?”
“แน่นอนตามสบายเลย ฉันเป็นคนขอร้องให้เธอเป็นคนดูแลคฤหาสน์อยู่แล้วด้วย” โรแลนด์พูดด้วยสีหน้าจริง
“ค่ะ ถ้างั้นข้าคงไม่มีปัญหาอะไรอีกแล้ว”
วิเวียนเก็บโต๊ะพร้อมเดินลงบันไดไปอย่างเป็นสุข
โรแลนด์เริ่มทดลองแบบจําลองเวทย์ของเวทย์หุ่นเชิดต่อให้สมบูรณ์แบบ เขาทํามันอย่างทุ่มเทจนกระทั่งวิเวียนเข้ามาพร้อมแจ้งการมาถึงของฮอร์ก
จากนั้นโรแลนด์ก็ขอให้เธอพาฮอร์กเข้ามาหาเขา
ไม่กี่นาทีต่อมา ฮอร์กก็นั่งลงตรงข้ามโรแลนด์พร้อมถอนหายใจอย่างหนัก
โรแลนด์ถามอย่างประหลาดใจ “ทําไมนายถึงมาหาฉันแทนที่จะไปวางแผนอนาคตของกิลด์นายกัน?”
“มีคนสามสิบคนในกิลด์ฉันออกไปแล้ว” ฮอร์กพูดอย่างหงุดหงิด
โรแลนด์เลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจ “เกิดอะไรขึ้น? คนในกิลด์ถูกล่อไปโดยกิลด์อื่นงั้นเหรอ?”
ฮอร์กส่ายหัว “ทั้งหมดเป็นความผิดของ F6 นายไม่รู้หรอ?”
โรแลนด์ถึงกับมึนงงไปทันที
“นายเห็นสาวมังกรในวีดีโอก่อนหน้านี้ใช่ไหม?” ฮอร์กพูดอย่างสิ้นหวัง “หลังจากนั้นผู้คนก็เริ่มพูดกันว่าค่าเสน่ห์เองก็แข็งแกร่งเช่นกัน”
เข้าใจล่ะ “หลังจากนั้นผู้เล่นกว่าสามสิบคนของกิลด์นายก็ลบตัวละครทิ้งแล้วสร้างใหม่สินะ?”
ฮอร์กพยักหน้าอย่างหนัก
“พวกเขาละทิ้งงานที่พวกเขาทําอย่างยากลําบากกว่าครึ่งปีได้ง่ายดายขนาดนั้นเชียว?” โรแลนด์คิดว่านั่นมันไม่ฉลาดเอาเสียเลย
ฮอร์กมองดูโรแลนด์อย่างเงียบๆ “นายไม่เห็นวีดีโอหลังจากนี้ใช่ไหม?”
“ไม่ ฉันยังไม่ได้ดูเลย ฉันไม่ว่างขนาดนั้น”
“ตอนนี้มีคนจํานวนมากออกมาโพสต์วีดีโอของตัวเอง ในอาชีพที่มีค่าเสน่ห์สูงอย่างกวีหรือพ่อมด สามารถตกสาวได้โดยง่าย” ท่าทางของฮอร์กคงไม่มีทางดูโง่เง่าไปมากกว่านี้ได้อีก “นายรู้ไหมว่าเกมนี้มันใหญ่มากและ ผู้เล่นส่วนใหญ่ล้วนกระจัดกระจายกันออกไป ดังนั้นผู้เล่นที่มีค่าเสน่ห์สูงสามารถไปยังเมืองเล็กๆและหมู่บ้าน เล็กๆเพื่อจีบสาวด้วยหน้าตาอันหล่อเหลาได้ มันง่ายขึ้นมาก บางคนถึงขั้นเรียนจิตวิทยาในชีวิตจริงและจีบสาวที่ร่ำรวยเพื่อที่พวกเธอจะมอบทรัพยากรต่างๆให้แก่เขา พวกเขาสามารถเลื่อนระดับได้โดยการนอนอยู่บนเตยงในทุกๆวัน ฉันได้ยินมาว่ามีผู้เล่นหญิงบางคนถูกรับไปเลี้ยงในช่วงแรกๆและทําความสําเร็จที่น่าจดจําไว้ได้”
โรแลนด์ค่อนข้างตกใจเลยทีเดียว “ฉันต้องขอยอมรับว่าในบางแง่มุมเพื่อนร่วมชาติของฉันก็ฉลาดจริงๆ”
“นายคิดว่าหมดแล้วงั้นเหรอ?” ฮอร์กยิ้มอย่างขมขึ้น “มีผู้เล่นพบโบสถ์ของเทพธิดาแห่งความรักที่ตั้งอยู่บริเวณชายแดนของฮอลวิลเล ถ้าหากนายเป็นสาวกของเทพธิดาแห่งความรับนายจะได้รับความสามารถลุ่มหลง ยิ่งค่าเสน่ห์ของนายสูงเท่าไหร่มันก็ยิ่งได้ผลมากเท่านั้น ผู้เล่นจํานวนมากต่างสนใจในลัทธินี้ ฟานลิ่วยเอง ก็กําลังหาโบสถ์แห่งนี้อยู่เช่นกัน”
โรแลนด์ได้แต่ตกตะลึง เขารู้สึกว่าใบหน้าของเขากําลังจะเป็นตะคริว
“นั่นหมายความว่า จํานวนของนักรบลดลงและจํานวนของพ่อมดกับนักกวีเพิ่มขึ้นใช่ไหม?”
ฮอร์กกล่าวอย่างเสียใจ “อ่า ฉันไม่เข้าใจเลยพวกเราสามารถได้รับสิ่งต่างๆมากมายจากการทํางานอย่างหนัก ทว่าพวกเขาต้องการประสบความสําเร็จเหมือนพวกคนหน้าตาหล่อเหลางั้นเหรอ? มีผู้เล่นที่มีค่าเสน่ห์เต็มสักกี่คนเชียวที่หล่อเหลาในความเป็นจริง?”
โรแลนด์อยากจะบอกเขาว่าชัคนั้นหล่อจริงๆ และเขานั้นยอดเยี่ยมไปอีกภายในโลกของเกม
จากนั้นฮอร์กก็พูดต่อว่า “ดังนั้นมันเป็นความผิดของ F6 เต็มๆเลยหากชัคไม่หล่อจนสามารถแย่งมังกรสาวจากนักรบที่น่าสงสารนั่นได้ก็คงไม่เกิดเรื่องขึ้นหรอก”
โรแลนด์ไม่ชอบคําพูดนั้น เขาพูดอย่างเกี้ยวกราดว่า “นักรบนั่นจะไม่ได้ครอบครองมังกรสาวหรอกต่อให้ชัคไม่ปรากฎตัวก็ตาม นายไม่เห็นเหรอว่าเธอเริ่มรําคาญแล้วในตอนนั้น? เธอถูกตามรังความมาหลายวันแล้ว บางที่เธออาจจะต้องการเตะนักรบนั่นเหมือนที่เธอเตะม้าของชัคก็ได้”
เมื่อเห็นความเกรี้ยวกราดบนใบหน้าของโรแลนด์ ฮอร์กก็รู้ทันทีว่าเขาพูดผิดไป เขาถอนหายใจและพูดว่า “กว่าสามสิบคนที่ลบตัวละครไปเมื่อสองสามวันที่ผ่านมานี้ และดูเหมือนจะมีเพิ่มอีกพวกนั้นไม่เข้าใจงไงว่าเกมนี้ เลื่อนระดับยากขนาดไหน? มันต้องใช้เวลากว่าครึ่งปีในการสร้างตัวละครใหม่ให้มาอยู่ในระดับปัจจุบัน และพวกคนที่ไม่เคยลบตัวละครก็จะก้าวไปไกลมากแล้ว
“มันก็แค่เกมอย่ากังวลนักเลย” โรแลนด์พูดปลอบใจฮอร์ก
คนกว่าครึ่งร้อยในกิลด์ลบตัวละครและสร้างตัวใหม่มันหมายถึงการสูญเสียอํานาจในการต่อสู้และทรัพยากรไปจํานวนมาก
“ฉันบ่นเสร็จแล้วล่ะ” ฮอร์กเงยหน้าขึ้นตรงและพูดขึ้นว่า “ประธานของเงาแสงจันทร์รู้ว่าฉันรู้จักนายเขาเลยฝากข้อความเอาไว้ให้ฉันมาบอกกับนาย”
โรแลนด์มีความรู้สึกแย่ๆกับมัน “ฉันไม่อยากได้ยินมันเลย”
“นายก็ไม่ควรจริงๆนั้นแหละ แต่ฉันมีหน้าที่ที่ต้องบอกนาย” ฮอร์กดูกังวล “ประธานของเงาแสงจันทร์หวังว่าชัคจะย้ายพันธะสัญญาและยอมมอบมังกรให้กับเขา เขาเสนอเงินมากกว่าพันเหรียญทองหรือสิบห้าล้านหยวนในชีวิตจริง