หฤโหดโคตรนักเวทย์ (Mage are too Op) - ตอนที่ 24
เวลากลางคืนภายในป่านั้นเงียบสงบ
สภาพแวดล้อมโดยรอบดูน่าหวาดหวั่น เต็มไปด้วยเศษกระดูก และโทเท็มไปทุกที่ กลิ่นของร่างที่เน่านั้นน่าขยะแขยงเป็นอย่างมาก
ทว่า โรแลนด์ก็ไม่ได้กลัวขนาดนั้น
เขาเจอกับพลั่วหลายอันภายในรังของโทรลล์ อุปกรณ์พวกนี้น่าจะเป็นของชาวนาที่ถูกจับและถูกกินโดยพวกโทรลล์
โรแลนด์ขุดหลุมลึกด้วยพลั่วในมือและเคลื่อนย้ายกระดูกเหล่านั้นด้วยแขนเวทย์อย่างระมัดระวังก่อนจะฝังกระดูกทั้งหมดไว้ด้วยกัน
เขาขุดหลุมเล็กๆและปักไม้กางเขนจากแท่งไม้เล็กที่เคยใช้ทำโทเทมมาก่อน
“ฉันไม่รู้จักชื่อพวกนาย ทว่าในเมื่อพวกนายทั้งหมดล้วนเป็นเหยื่อ ดังนั้นมันก็น่าจะไม่มีปัญหาที่พวกนายจะอยู่ด้วยกัน”
โรแลนถอนหายใจออกอย่างหนักหน่วง
หลังจากใช้เวลาร่วมเดือนอยู่ที่นี่ เขาไม่สามารถทำเหมือน NPC ภายในเกมเป็นเพียงกลุ่มข้อมูลได้ เขาคิดว่า NPC นั้นแทบไม่ต่างจากคนจริงๆ
นี่เขายังอยู่ในเกมจริงๆรึเปล่า
มันเป็นความรู้สึกที่ค่อนข้างขัดแย้งกัน
ในตอนนี้ก็ดึกเป็นอย่างมากแล้ว การฝังศพทำให้เขาเสียเวลาไปพอสมควร เขาเริ่มต้นเดินทางกลับไปยังเมืองเรดเมาน์เทน
เมื่อคิดถึงระยะทาง เขาก็อดพึมพำออกมาไม่ได้ว่า “ฉันหวังว่าฉันน่าจะเทเลพอร์ตได้…ฉันต้องหาเวทย์เกี่ยวกับมิติและเวลาให้ได้ มันจะมีประโยชน์ทั้งในการต่อสู้และการเดินทาง”
เพราะการเดินทางที่ยาวนาน ทำให้โรแลนด์ตัดสินใจเลือกสกิลที่เขาควรจะเชี่ยวชาญออกมา
ทางฝั่งของเบทต้าเขานั้นมาถึงเมืองเรดเมาน์เทนในตอนเช้า
ตลาดนั้นจบลงเรียบร้อยแล้ว เขาพบคู่ชายและหญิงชราอยู่ข้างๆทะเลสาบ
ด้วยแสงสีแดงยามเช้ากระทบเข้ากับทะเลสาบ คู่ชายและหญิงชราต่างจ้องมองไปยังเส้นขอบฟ้าจากข้างบ้านไม้ของพวกเขา
เบทต้าเดินเข้าไปใกล้พวกเขาและพูดออกมาอย่างสบายๆว่า “ผมพบสิ่งที่คุณต้องการแล้ว หลานชายของพวกคุณนั้นตายแล้ว”
“หลานชายของพวกข้ายังไม่ตาย!” หญิงชรากระทืบเท้าออกมาพร้อมตะโกนว่า “เจ้าหนุ่มเจ้าหมายความว่าอะไรกันแน่! แกพูดว่าหลานของพวกข้าตายไปแล้วงั้นหรอ? ข้าจะทุบเจ้า…”
นี่คงเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวที่ระบบตั้งไว้…เบทต้าคิดออกมาและนำหัวกะโหลกออกมาให้หญิงชรา
หญิงชราตัวแข็งไปทันที ทว่าสายตาที่มึนงงของเธอกลับเปร่งประกายออกมา
เธอรับหัวกะโหลกนั่นมาก่อนกอดมันอย่างแน่นด้วยความอ่อนโยน
“ดีแล้วที่เจ้ากลับมา” แสงสีรุ้งเปล่งประกรายออกมาจากตาของหญิงชรา เธอนำหัวกะโหลกมายื่นตรงหน้าของสามีของเธอและพูดว่า “ดูนี่สิ หลานชายของพวกเรากลับมาแล้ว!”
ชายชราเองก็ยิ้มอย่างมีความสุขด้วยเช่นเดียวกัน
เขาลูบเส้นผมที่แห้งเหี่ยวของหลานชายพร้อมพูดว่า “ข้าไม่ทำโทษเจ้าหรอกที่เจ้าหนีไป ไปกินข้าวเช้ากันเถอะ…”
พวกเขาทั้งสองเดินเข้าไปในบ้านพร้อมหัวกะโหลก
เบทต้ารู้สึกประหลาดที่ได้เห็นสิ่งเหล่านี้
ทว่าเขาก็ไม่สามารถบอกได้แน่ชัดว่า มันแปลกตรงไหน
NPC ภายในเกมนี้ล้วนเหมือนจริง ทว่าการแสดงออกของพวกเขาก็แปลกเกินไป ไม่ใช่ว่าปกติพวกเขาควรร้องไห้เมื่อเห็นหัวกะโหลกของหลานชายหรอ?
อาจจะมีบางอย่างผิดพลาดที่ข้อมูลในการแสดงอารมณ์…มันไม่สมเหตุสมผลเกินไป
ด้วยความคิดเหล่านั้นทำให้เขาถอยออกไปและเดินดูรอบๆบ้าน
เขาควรจะไปหาภารกิจอื่นได้แล้ว ทว่าเสียงในใจของเขากลับบอกให้เขาหยุดและมองดูสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับชายและหญิงชรา
เสียงหัวเราะอย่างยินดีดังออกมาจากภายในบ้าน แตกต่างจากบรรยากาศที่เศร้าหมองก่อนหน้าโดยสิ้นเชิง
คงจะต้องมีอะไรผิดปกติในข้อมูลแน่ๆ
เบทต้าพึมพำออกมาอีกครั้งและพยายามจะจากไป ทว่าขาของเขากลับไม่เคลื่อนไหว ราวกับถูกตอกไว้กับพื้น
เขายังคงรู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆแต่เขาก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ ชายและหญิงชราก็เดินออกมาจากบ้าน
พวกเขาทั้งคู่นั้นดูมีความสุข ชายชราไปขายอาหารที่ตลาด และหญิงชราก็ไปเก็บฟืนจำนวนมาก
พวกเขาต่างใช้ชีวิตราวปกติ หลังจากนั้นก็มีควันลอยมาจากทางห้องครัวเมื่อถึงตอนเย็น มันราวกับพฤติกรรมทั่วไปของ NPC คนอื่นๆในเกมนี้ ชีวิตของพวกเขาต่างเหมือนกันทั้งหมดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เบทต้าพบว่าไม่มีอะไรผิดปกติหลังจากสังเกตมาทั้งวัน ทว่าเขากลับยิ่งรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นเรื่อยๆ
ไม่นานนักโรแลนด์ก็กลับมาถึง
ด้วยความที่เป็นนักเวทย์เขาไม่แข็งแรงเท่าเบทต้าคนที่มีอาชีพลับ เขาต้องพักถึงสองครั้งก่อนจะกลับมาถึงก่อนพระอาทิตย์ตกดิน
โรแลนด์ยิ้มออกมาเมื่อเห็นเบทต้า “นายมันไม่ส่งเควสอีกหรอ? ฉันคิดมาระหว่างทางว่าการบอกพวกเขาว่าหลานชายของพวกเขานั้นตายไปแล้วดูจะรุนแรงเกินไป ทางที่ดีพวกเราควรเก็บเป็นความลับจากพวกเขา…”
โรแลนด์ตกตะลึกไปทันที ที่เขาสังเกตเห็นไฟกำลังลุกไหม้บ้านที่อยู่ข้างทะเลสาบ…พระอาทิตย์ยักไม่ตกเต็มที่ จากมุมมองของเขา เขาเห็นเปลวเพลิงอยู่ทางด้านขวาไม่ไกลจากพระอาทิตย์
“นั่นบ้านของเจมส์นี่!”
โรแลนด์ตะโกนออกมาพร้อมวิ่งไปด้านหน้า ด้วยความที่เขาฝึกเวทย์อยู่ใกล้ๆทะเลสาบ ทำให้เขารู้จักและพยักหน้าทักทายคู่สามีภรรยาอยู่ตลอดเมื่อได้เจอกัน”
เบทต้าหน้าซีดไปทันทีที่เห็นบ้านไฟไหม้
โรแลนด์ตรงไปยังบ้านหลังนั้น ก่อนจะยิงวงแหวนน้ำแข็งไปยังเปลวไฟที่อยู่ในบ้าน ทว่าเขาก็ยอมแพ้ไปด้วยความผิดหวังหลังจากลองสังเกตุดีๆ
เปลวเพลิงนั้นใหญ่เกินไปมันเผาแม้กระทั่งบ้านไม้ ใครก็ตามที่อยู่ภายในบ้านคงตายไปหมดแล้ว
เบทต้าก็มาถึงแล้วเช่นกัน ใบหน้าของเขาซีดลงเรื่อยๆ ร่างกายของเขาสั่นไปทั้งตัว
ท้ายที่สุด เขาก็กัดฟัดพูดออกมาว่า “พี่โรแลนด์…หัวกะโหลกที่พวกเราพบเกี่ยวข้องกับหลายชายของคู่สามีภรรยาคู่นี้”
อะไรนะ!
ใจของโรแลนด์เย็นยะเยือกไปในทันที
เขาราวกับถูกแช่แข็ง จนไม่สามารถขยับได้
เปลวเพลิงดึงดูดชาวบ้านมามากมาย พวกเขาต่างมุ่งมั่นที่จะดับไฟ ทว่าพวกเขาก็ต้องส่ายหน้าออกมาและยอมแพ้เมื่อพวกเขาเห็นบ้านที่เต็มไปด้วยสีแดงจากเปลวเพลิง
บางคนพึมพำออกมาว่า “ทำไมบ้านของเจมส์ถึงไฟไหม้ล่ะ? ใครมาถึงคนแรก?”
“คุณโรแลนด์และขุนนางคนหนึ่งน่ะ”
“เกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่”
“ใครพอจะรู้บ้าง?”
ในที่สุดฟอลเคิลก็มาถึงเขาหันไปถามโรแลนด์ว่า “เกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่โรแลนด์?”
เบทต้าที่กำลังสั่นและหน้าซีดอย่างน่ากลัว เขาหันหน้าหนี และไม่กล้ามองไปยังกลุ่มชาวบ้าน
“ผมพบกะโหลกของแซมและนำมันมาให้กับคู่สามีภรรยาเจมส์” โรแลนด์ตอบอย่างใจเย็นพร้อมถอนหายใจออกมา
ชาวบ้านคนอื่นๆต่างจ้องมองมาที่โรแลนด์และเบทต้าอย่างเงียบๆ และสลายตัวไปในที่สุด
เปลวเพลิงยังคงไม่มอบดับลงจนกระทั่งรุ่งเช้ามาถึง
ไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่เลยนอกจากเถ้าถ่านและเปลวควัน
“ภารกิจเสร็จสิ้น EXP +37 , ชื่อเสียงในเมืองเรดเมาน์เทน -10”
การแจ้งเตือนปรากฎขึ้นมาอยู่หน้าสายตาของโรแลนด์