หฤโหดโคตรนักเวทย์ (Mage are too Op) - ตอนที่ 50
โรแลนด์รู้สึกว่าตนเองนั้นล้ำเส้นเกินไป
เมื่อตอนที่เขาสัมผัสได้ถึงพลังจิตของวิเวียน มันเหมือนกับกำลังคลอเคลียกับมือของเขา ทว่าในตอนนี้เมื่อเขาลองแผ่พลังจิตออกไปรัดตัวเธอ ไม่ใช่ว่าเขากำลังกอดเธออยู่หรอเหรอ?
นอกจากนี้เธอก็เกือบจะเปลือยเพราะพลังจิตของเขา
บรรยากาศน่าอึดอัดมากขึ้นเรื่อยๆ และใบหน้าของวิเวียนก็แดงขึ้นเรื่อยๆ
โรแลนด์ทำได้เพียงแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาค่อยๆพูดออกมาว่า “ฉันต้องการจัดการธุระส่วนตัวอีกสักพัก เธอกลับไปที่ห้องพักก่อนก็ได้”
วิเวียนพยักหน้าและหนีไปเหมือนกระต่ายน้อย
โรแลนด์รู้สึกโล่งใจ เขาไม่ใช่มือใหม่ เขาเคยมีแฟนในสมัยอยู่มหาลัย
ต่อมาพวกเขาเลิกรากันด้วยดีเนื่องจากทำงานต่างที่กันหลังจากเรียนจบ เห็นได้ชัดว่าวิเวียนยังคงเป็นเด็กสาวไร้เดียงสาอยู่ แตกต่างจากแฟนเก่าของเขา
เขาไม่ได้มองเธอเพื่อเรื่องอย่างว่า
หลังจากนั้นไม่นาน โรแลนด์ก็เดินไปเปิดหน้าต่าง
ลมพัดเข้ามา เขาอยู่บนชั้นแปดซึ่งสูงจากพื้นประมาณสี่สิบเมตร
หอคอยเวทมนตร์เป็นอาคารที่สูงที่สุดในเมือง เขายืนอยู่ตรงหน้าต่างเพื่อรับลมและมองไปยังทิวทัศน์ทั่วทั้งเมือง
เมื่อจ้องมองไปที่คนเดินถนนที่ราวกับมด โรแลนด์หันกลับมาสนใจในพลังจิตอีกครั้ง
เขาแบ่งลูกบอลน้ำในจิตสำนึกของเขาออกเป็นหนวดขนาดเล็กและยาวหลายๆอันก่อนที่เขาจะขยายออกไปทุกทิศทาง
หนวดพลังจิตเหล่านั้นสามารถทะลุผ่านสิ่งของได้อย่างง่ายดายและกระจายตัวอย่างรวดเร็ว
ในไม่ช้ารอบตัวเขาก็อยู่ในรัศมีทรงกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 130 เมตร
โรแลนด์สามารถมองเห็นทุกสิ่งที่อยู่ในระยะของหนวดพลังจิต
เขาสามารถรับรู้ทั้งความตื่นตกใจของนักเวทย์ฝึกหัดและโครงสร้างของหอคอยเวทมนตร์ แน่นอนหนวดจิตของเขาไม่ได้ไปมัดใครอีก
อย่างไรก็ตามความรู้สึกที่น่าอัศจรรย์นี้ก็อยู่ได้ไม่นานนัก เมื่อทุกอย่างมืดลงต่อหน้าต่อตาของโรแลนด์
โรแลนด์ถูกขับออกจากภวังค์ จากนั้นเขาก็ปวดหัวเป็นอย่างมากราวกับมันจะระเบิดออกมา เขาตัวสั่นและเกือบล้มลง แต่โชคดีที่เขาจับกำแพงได้ทันเวลา
“มันไม่สมเหตุสมผล” โรแลนด์ครางด้วยความเจ็บปวดและหอบหายใจออกมา ความเจ็บปวดทำให้เหงื่อของเขาไหลออกจากหน้าผากและแก้มของเขา “ความเจ็บปวดลดลงถึงหนึ่งในสิบไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงยังเจ็บขนาดนี้”
ราวกับนิ้วเข้าไปปั่นอยู่ในหัวของเขา โรแลนด์ทุบหัวของตัวเองออกมาด้วยความเจ็บปวด
ผ่านมากสักพักในที่สุดเขาก็รู้สึกว่าปวดหัวน้อยลง เขาจับกำแพงค่อยๆนั่งลงบนเก้าอี้
ในเวลาไม่นานนักโรแลนด์ก็ดีขึ้นมาก เขาไม่รู้สึกอึดอัดอีกต่อไปและอาการหอบของเขาก็หายไป
วิเวียนเคาะประตูและถามอย่างเป็นห่วง “รักษาการเป็นอย่างไรบ้างคะ? พวกเรารู้สึกได้ว่าพลังจิตของท่านพังทลายลง?”
พลังจิตพังทลาย? โรแลนด์สังเกตุเห็นว่าบอลน้ำในจิตสำนึกของเขานั้นหายไป
มันถูกแทนที่ด้วยหยดเล็กๆ
เป็นอย่างนั้น!
ดูเหมือนว่าพลังทางจิตจะเชื่อมต่อกับจิตสำนึกของเขาในความเป็นจริง ร่างกายของเขาในเกมเป็นของปลอม แต่จิตสำนึกของเขาเป็นของจริง
มันเป็นคำอธิบายได้อย่างดีว่าทำไมความเจ็บปวดรุนแรงแทนที่จะลดเหลือหนึ่งในสิบ
“ฉันสบายดี ฉันแค่ทดสอบการใช้พลังจิตนิดหน่อย” โรแลนด์ตอบด้วยน้ำเสียงสบายๆ “กลับไปทำธุระของคุณเถอะ”
“รับทราบค่ะ!” วิเวียนเข้าใจและเดินจากไป
โรแลนด์นั่งหลับตาลงบนเก้าอี้
ครึ่งชั่วโมงต่อมาหัวของเขาไม่เจ็บปวดอีกต่อไปและพลังจิตในจิตสำนึกของเขาก็กลับคืนสู่ลูกบอลน้ำขนาดใหญ่อีกครั้งดูเหมือนมันจะขยายใหญ่กว่าเดิม
โรแลนด์ทดสอบพลังจิตต่อไป
แต่คราวนี้แทนที่จะปลดปล่อยพลังจิตทั้งหมดของเขา เขาใช้วิธีแยกออกมันมาเป็นเส้นด้ายหลายๆเส้น
เขาทดสอบทีละนิดและจดบันทึก
ไม่นาน เขาน่าจะรวบรวมข้อมูลได้ครบ
เมื่อลูกบอลลดลงครึ่งหนึ่งหัวของเขาจะเริ่มเจ็บอีกครั้ง
นอกจากนี้เวทมนตร์ของเขาจะไม่เสถียรเป็นอย่างมากหากเขาใช้มันภายใต้สถานการณ์เช่นนี้
แม้แต่แขนเวทย์ซึ่งง่ายพอๆกับการหายใจก็ยังใช้เวลาสองถึงสามวินาทีก่อนที่มันจะเป็นรูปเป็นร่าง
หากพลังจิตของเขาลดลงอีกเขาอาจไม่สามารถรวบรวมพลังเวทย์ได้
ในช่วงที่เขากำลังทดสอบพลังอยู่เวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ผลกระทบและผลเสียของพลังจิตถูกทดสอบและบันทึกโดยโรแลนด์ จากนั้นเขาก็ร่างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์อย่างง่ายและใส่ข้อมูลเข้าไป เพื่อพยายามหาความเป็นไปได้อื่นๆ
เมื่อเห็นข้อมูลและทฤษฎีที่เป็นประโยชน์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว โรแลนด์ก็รู้สึกอดไม่ได้ที่จะตะลึงออกมา
เขาทดสอบต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งโลกกลายเป็นสีขาวดำอีกครั้ง
เขาคลานออกจากแคปซูลและเริ่มวอร์มร่างกาย ตอนนี้ยังเช้าอยู่ดังนั้นเขาจึงเปิดเข้าไปในเว็บบอร์ด
ตอนนี้เป็นช่วงที่เว็บบอร์ดกำลังคึกคักมากที่สุด
หลังจากออกจากเกม พวกเขาก็มีหลายสิ่งที่อยากจะเล่ากันฟัง
โรแลนด์ค้นหาในเว็บบอร์ดและไม่พบกระทู้เกี่ยวกับพลังจิต เขาจึงโพสต์สิ่งที่เขาพบเมื่อคืน: “เกี่ยวกับพลังจิตของนักเวทย์”
“พลังจิตของนักเวทย์นั้นอยู่ในจิตสำนึก…มันสามารถใช้ในการมองเห็นได้ แต่ระวังอย่าให้พลังจิตไปสัมผัสกับคนอื่นเพราะพวกเขาก็รู้สึกถึงมันได้เช่นกัน แล้วก็อย่าใช้พลังจิตมากเกินไปมันอาจทำให้พวกนายตายได้ สุดท้ายคือมันสามารถมองทะลุกำแพงได้!”
หลังจากโพสต์กระทู้ โรแลนด์ก็เข้าไปดูกระทู้อื่นๆต่อ
ผู้เล่นสายผจญภัยหลายคนได้ทำการทดสอบและสำรวจมากมาย
บางคนเคยพบกับเอลฟ์และคนแคระและนักภาษาศาสตร์บางคนก็สามารถพูดภาษาท้องถิ่นได้ พวกเขาพยายามเรียนรู้วิธีเขียน
ผู้เล่นคนอื่นๆกำลังรวมตัวกันในเมืองและวางแผนที่จะจัดตั้งกิลด์ของพวกเขาภายในเกม
ยิ่งมีคนทำงานเยอะภาระก็ยิ่งน้อยลง!
มีผู้เล่นที่ร่ำรวยหลายคนประกาศซื้อเหรียญทองในเว็บบอร์ด
หนึ่งเหรียญทองในตอนนี้มีมูลค่าหนึ่งหมื่นห้าพันเหรียญ
โรแลนด์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและโพสต์กระทู้ว่า: “มีใครอยู่ในเดลพอนไหม? ฉันจะขายเหรียญทองหกเหรียญ”
เมื่อเขาเข้าร่วมสมาคมคลาอัสได้มอบเหรียญทองให้เขาสิบเหรียญ
ด้วยความกังวลว่าเหรียญทองจะอ่อนค่าลงในภายหลัง โรแลนด์จึงตั้งใจที่จะขายบางส่วนออกไปก่อน
ในตอนนี้เขาไม่มีงานทำอยู่ หากไม่มีเงินเก็บเพียงพอเขาจะกังวลหากอยู่บ้านและเล่นเกมทุกวัน
สิบนาทีหลังจากที่เขาโพสต์กระทู้ผู้เล่นชื่อฮอร์กก็ทักเข้ามา