หฤโหดโคตรนักเวทย์ (Mage are too Op) - ตอนที่ 54
โรแลนด์เพลิดเพลินอยู่กับอาหารของเขาขณะสังเกตุไปยังลูกค้าโต๊ะอื่นๆ
พวกเขาส่วนใหญ่ถืออาวุธหลากหลายชนิดที่บ่งบอกว่าพวกเขาเป็นทหารรับจ้าง โรแลนด์มองเห็นบางอย่างแปลกประหลาดในตัวพวกเขา
ก่อนที่พวกโรแลนด์จะเข้ามายังโรงเตี๊ยมแห่งนี้ เขาได้ยินเสียงพูดคุยดังออกมาจากข้างนอก ทว่าหลังจากพวกเขาทั้งสามเข้ามาแล้วภายในก็กลับเงียบลงทันที
ในตอนแรกโรแลนด์คิดว่าเป็นเพราะชุดคลุมเวทย์ของเขาทำให้ดูเหมือนมีอำนาจมากเกินไป ทว่าไม่นานนักเขาก็เข้าใจ จริงอยู่ที่เขาอาจจะเป็นตัวอันตราย แต่สายตาของทหารรับจ้างทั้งหลายนั้นมองไปยังฮอร์กและลิงค์
แม้ว่าพวกฮอร์กจะอยู่ในชุดที่ดูมอมแมม ทว่าพวกทหารรับจ้างก็มีท่าทีระวังตัวสูงขึ้น ต่างจากที่เขามองมาที่โรแลนด์ พวกเขามองมาที่โรแลนด์ด้วยสายตาที่ว่า ‘จะไม่วุ่นวายกับชายคนนี้’
มันต่างกันอย่างชัดเจน
“จะไม่วุ่นวายกับชายคนนี้” หมายความว่าพวกเขาจะต่อสู้กับเขาเมื่อพวกเขาไม่มีทางเลือก
สำหรับท่าทีระมัดระวังนั้นราวกับว่า “ฉันสู้พวกเขาไม่ได้ พวกเขาจะกระโดดมาทำร้ายฉันรึเปล่านะ”
เหล่าทหารรับจ้างต่างหวาดกลัวฮอร์กและลิงค์! โรแลนด์สรุปได้ดังนี้ จากนั้นเขาก็นึกขึ้นได้ว่าฮอร์กและลิงค์ได้กระท่อมหลังจากต่อสู้กับพวกนักเลงมาไม่กี่ครั้ง
เขายังจำสิ่งที่กลูบอกเขาในเกรย์แซนด์ได้ ย้อนกลับไปไม่นานมีบุตรสองคนประกาศกร้าวว่าพวกเขาจะไม่ยอมแพ้ในการสังหารขุนนาง
เขาหันไปมองสองคนนั้นที่กำลังกินเนื้ออย่างมูมมามและถามว่า “ใช้ได้มั้ย?”
ฮอร์กกลืนและพยักหน้า “นานมากแล้วที่ฉันได้กินเนื้ออร่อยๆแบบนี้ ร่างกายในเกมและร่างกายในความเป็นจริงแยกจากกัน แม้ว่าฉันจะเบื่อเนื้อสัตว์ในโลกจริง แต่เมื่อฉันเข้าสู่เกมร่างกายของฉันจะคอยบอกสมองของฉันว่าต้องการเนื้อ…”
โรแลนด์ยิ้มและถามอีกครั้ง “แล้วเครื่องดื่มล่ะ?”
“ไม่เลว” ฮอร์กจดจ่ออยู่กับอาหาร
“พวกนายฆ่าขุนนางเหรอ”
“พวกเราเคย…” ฮอร์กก็เงยหน้าขึ้นมา “นายกำลังหลอกถามฉัน?”
ลิงค์เงยหน้าขึ้นมามองไปยังโรแลนด์แต่แล้วก็กลับไปสนใจกับอาหารต่ออีกครั้ง
โรแลนด์หัวเราะเบาๆและพูดว่า “ฉันไม่ได้หลอกถามสักหน่อย ยังไงฉันก็สามารถหาข้อมูลจนรู้ตัวนายได้อยู่ดีนั่นแหละ พูดตามตรงฉันค่อนข้างประทับใจที่นายท้าทายขุนนาง”
“ขุนนางชั่วคนนั้นมันต้องตาย” ทันใดนั้นดวงตาของฮอร์กก็ดูโกรธแค้นขึ้นมา
โรแลนด์ค่อนข้างอยากรู้ “นายบอกฉันได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?”
“จริงๆแล้วพวกเราไม่ได้อยากทำแบบนั้นหรอก” ฮอว์ควางสเต็กลงและถอนหายใจก่อนที่เขาจะพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
ในเดือนก่อน ขณะที่ฮอร์กและลิงค์พยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอดอยู่ อย่างที่พวกเขาบอกว่าพวกเขากำลังดิ้นรนกับความอดอยากเนื่องจากไม่สามารถพูดคุยกับชาวเมืองได้
พวกเขาจึงออกไปล่าสัตว์ที่นอกเมือง เพื่อเติมเต็มท้องที่ว่างเปล่าของพวกเขา
ยังไงก็ตามไม่ได้มีสัตว์อยู่มากมายนัก ดังนั้นพวกเขาจึงคิดจะไปจับปลาในแม่น้ำ
แต่พวกเขาก็พบเข้ากับศพเด็กที่ดูเหมือนเป็นขอทานและพบเจอแบบนั้นหลายวันติดกัน
มีทั้งเด็กเพศชายและหญิง หน้าอกของพวกเขาเปิดกว้างและหัวใจก็หายไป
ใบหน้าของโรแลนด์ซีด เขากำถ้วยของเขาโดยไม่รู้ตัว
เขาพอจะเดาออกแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
ขณะที่เขาคิดอยู่นั่นเอง ฮอร์กและลิงค์เล่าต่อว่าพวกเขา วันรุ่งขึ้นพวกเขาจึงดักรอที่แม่น้ำและเขาก็จับคนที่มาทิ้งศพได้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถสื่อสารได้แต่พวกเขาก็สอบสวนจนรู้ตัวคนร้ายได้ในที่สุด
“เป็นเพราะขุนนางนั่นเชื่อว่าเลือดจากหัวใจเด็ก สามารถทำให้เขาเยาว์วัยได้! แม้งบ้าชัดๆ”
ฮอร์กทุบโต๊ะอย่างแรงพร้อมกับมีเส้นเลือดขึ้นเต็มดวงตา
เสียงคำรามของเขาดังก้องในโรงเตี๊ยมทำให้ทุกโต๊ะเงียบลง
โรแลนด์ถอนหายใจและไม่ได้พูดอะไรออกมา
“ฉันโกรธมาก ดังนั้นฉันจึงลากตัวคนร้ายไปที่บ้านของขุนนางพร้อมกับศพของเด็ก นายรู้ไหมว่าพวกมันพูดอะไรกับฉัน”
โรแลนด์ถอนหายใจ “หมอนั่นน่าจะบอกว่าเป็นเกรียติสำหรับเด็กพวกนั้นแล้วที่ได้ตายเพื่อเขาใช่ไหม”
“ฮ่าๆๆ นายฉลาดจริงๆ” ฮอว์กขบฟัน “ขุนนางคนนั้นไม่สำนึกผิดแม้แต่น้อย และมันก็จับและตัดสินเราโดยอ้างว่าเราทำร้ายพวกขุนนาง”
นี่มันเกินกว่าที่โรแลนด์คิดไว้อีก
เขารินไวน์ให้ฮอร์กและถามต่อว่า “นายหนีไปได้อย่างไร”
“พวกเราจำเป็นต้องหนี?” ฮอร์กยกยิ้มอย่างน่ากลัว “ฉันบีบคอลิงค์ในคุกให้ตายก่อนและจากนั้นฉันก็ฆ่าตัวตายด้วยการชนกำแพง หลังจากที่เราฟื้นคืนชีพในโบสถ์แห่งชีวิตเราก็ตรงไปที่คฤหาสน์ของขุนนางพร้อมไม้ในมือ”
โรแลนด์สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนว่าทหารรับจ้างที่อยู่ใกล้ๆดูท่าทางแปลกๆ ราวกับว่าพวกเขากำลังหวาดกลัว
“ตอนแรกพวกเรายังไม่มีประสบการณ์การต่อสู้มากนักดังนั้นพวกเราจึงถูกล้อมและฆ่าตายหลังจากที่พวกเราฆ่าทหารไปได้แค่สองสามคน” ฮอว์กกล่าวท่าทางตื่นเต้น “แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา อีกครึ่งชั่วโมงต่อมาพวกเราก็ฟื้นคืนชีพและบุกเข้าไปยังคฤหาสน์ขุนนางอีกครั้งและถูกสับเป็นชิ้นๆซ้ำไปซ้ำมา”
ทหารรับจ้างบางคนเดินออกไป โรงเตี๊ยมเริ่มเงียบและเงียบขึ้นเรื่อยๆ
โรแลนด์เอียงศีรษะและกล่าวด้วยความชื่นชมว่า “น่าจะต้องมีคนดูอยู่เยอะแน่ๆ”
“อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้ แต่พวกฉันไม่ได้สนใจนัก” ฮอร์กกล่าวต่อว่า “ทุกครั้งที่พวกเราตายประสบการณ์การต่อสู้ของเราจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ต่อมาหลังจากที่พวกเราฟื้นขึ้นมาชายสวมหน้ากากบางคนก็มอบอาวุธที่ขึ้นสนิมให้กับพวกเรา เมื่อมีอาวุธพวกเราก็สามารถฆ่าทหารได้มากขึ้นก่อนที่พวกเราจะตาย ในตอนนั้นขุนนางก็เริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาเพราะทหารของเขาตายไปกว่าครึ่ง หมอนั่นสั่งให้ทหารของมันจับพวกเราและมัดพวกเราไว้กับต้นไม้โดยหมอนั่นบอกว่าจะยกโทษให้พวกเราตราบเท่าที่พวกเรายอมรับใช้มันไปตลอดชีวิต”
โรแลนด์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะหลังจากที่เขาได้ยินแบบนั้น
“ฉันถุยน้ำลายใส่หน้าหมอนั่น” ฮอว์กตบโต๊ะและตะโกนด้วยความตื่นเต้น “หมอนั่นคิดว่าพวกเราจะทำอะไรไม่ได้ เพราะพวกเขามัดดพวกเราไว้แล้ว ฉันและลิงค์จึงกัดลิ้นของตัวเองจนขาดแต่มันก็ไม่ทำให้พวกเราตาย พวกเราจึงพยายามดิ้นจนกว่าจะหลุดหรือจนเหนื่อยตาย!”
สุดยอด!
โรแลนด์อดไม้ได้ที่จะยกนิ้วโป้งของเขาออก เขากล่าวด้วยความชื่นชมว่า “พวกนายเยี่ยมจริงๆ”
ฮอร์กรับคำชมของโรแลนด์ด้วยความพึงพอใจและขณะที่ลิงค์ดูเขินๆ
“อย่างไรก็ตามเราตรงไปที่คฤหาสน์ของขุนนางทุกครั้งที่เราฟื้นคืนชีพ” ฮอร์กก็ยิ้มเยาะ “จากนั้นก็มีพวกคนใหญ่คนโตมาเจรจาให้พวกเรามีเหตุผล บ้างก็บอกว่าพวกเราจะถูกเทพธิดาทอดทิ้งเพราะไปทำร้ายขุนนาง”
จากนั้นฮอว์กก็ก้าวขาขึ้นมาบนโต๊ะ เขาดื่มไวน์จนหมดและคำรามด้วยความโกรธ “ฉันบอกพวกเขาว่ายังไงไอเจ้าขุนนางงี่เง่านั่นก็จะต้องตายและไม่มีใครหยุดและใครก็ตามที่ยืนขวางทางฉัน ไม่เว้นแม้แต่เทพธิดา ฉันจะฆ่ามันทิ้งให้หมด!”
เสียงคำรามดุดันของเขาดังก้องไปทั่วโรงเตี๊ยม!
ทหารรับจ้างทุกคนราวกับถูกแช่แข็งพวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว