หฤโหดโคตรนักเวทย์ (Mage are too Op) - ตอนที่ 59
มีผู้เล่นอีกสองคนเหรอ? แม้จะสับสนแต่เบทต้าก็ไม่ได้ถามโรแลนด์ออกมา
โรแลนด์เดินเข้าไปในเมืองและพบกับฮอร์กและลิงค์ในกระท่อมของพวกเขา
โรแลนด์พบว่าพวกเขาทั้งคู่มีเฟอนิเจอร์และเสื้อผ้าใหม่โดยฮอร์กกำลังนักพักผ่อนอยู่บนเก้าอี้อย่างสบายใจส่วนลิงค์นั้นกำลังสวมผ้ากันเปื้อนสีขาวและทำอาหารอยู่
กลิ่นจะราบีลอบมาจากทางหน้าต่าง ทำให้เบทต้าต้องกลืนน้ำลาย
โรแลนด์เดินไปที่หน้าต่างและเคาะมัน “ดูคู่รักนี่สิ”
ฮอร์กนั้นค่อนข้างดีใจที่เห็นโรแลนด์ แต่เขาก็โกรธขึ้นมาทันทีมเมื่อโรแลนด์แซวเขา เขาจึงตะโกนออกไปว่า “กลับไปซะ!”
โรแลนด์ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
ลิงค์หันมาและยิ้มโดยไม่สนคำล้อเลียนของโรแลนด์ “เข้ามาด้านในแล้วกินข้าวด้วยกันก่อนสิ”
โรแลนด์พาเบทต้าเข้าไปในกระท่อมของพวกฮอร์กและถามว่า “ทำไมพวกนายไม่ซื้อบ้านใหม่ไปเลยละ?”
“มีปัญหานิดหน่อยน่ะ” ฮอร์กนั่งตัวตรง
“ฉันก็พอเดาได้อยู่” โรแลนด์ยิ้มออกมา “เพราะงั้นฉันถึงมาหาพวกนายที่นี่ยังไงล่ะ”
ฮอร์กถามอย่างสงสัย “นายพอรู้ไหมว่าทำไม?”
“การกระทำก่อนหน้านี้ของพวกนายมันรุนแรงและส่งผลกระทบมากเกินไป” โรแลนด์อธิบายต่อว่า “ดูเหมือนตอนนี้พวกขุนนางจะพยายามเฝ้าสังเกตุพวกเราบุตรทองคำอยู่ ดังนั้นไม่แปลกหรอกที่นายจะไม่สามารถหาบ้านได้”
“ทำไมนายถึงดูมั่นใจขนาดนั้น” ฮอว์กรู้สึกสับสนเล็กน้อย
โรแลนด์วางบัตรเชิญไว้บนโต๊ะ “ฉันและเบทต้าได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานเลี้ยงของพวกขุนนางชั้นสูงน่ะ”
เพื่อพิสูจน์คำพูดของโรแลนด์ เบทต้าจึงนำบัตรเชิญของเขาออกมาด้วย
ฮอร์กคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “ที่พวกนั้นไม่กล้าชวนพวกฉันเพราะกลัวงั้นเหรอ?”
“นั่นก็ส่วนหนึ่งแต่เรื่องมันไม่ง่ายขนาดนั้น” โรแลนด์อธิบายออกมา “พวกเขาพยายามจะแยกพวกเราออกจากกัน
ฮอร์กและลิงก์หันไปมองหน้ากัน จากนั้นฮอร์กก็พูดออกมาราวกับไม่เชื่อว่า “พวกเขาจะทำไปทำไมล่ะ? พวกเขาจะแยกพวกเราออกจากกันเพื่อ?”
“บุตรทองคำเลเวลศูนย์สองคนสามารถทำให้ขุนนางตระกูลเล็กต้องถอยหนี” โรแลนด์พูดออกมาอย่างสบายๆ “แล้วนายลองจินตนาการว่าถ้าหากมีพวกฉันที่เลเวลสามและสี่เข้าร่วมกับพวกนายล่ะ”
ฮอร์กนั้นมีประสบการณ์ในตำแหน่งรองหัวหน้ากิลด์อยู่แล้ว ดังนั้นเขาถึงเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว เขาเบิกตากว้างจากนั้นก็เริ่มหรี่ตาลง “NPC ฉลาดขนาดนั้นเลยเหรอ?”
อย่างไรก็ตามเบทต้าและลิงค์ก็ดูยังไม่ค่อยเข้าใจนัก
โรแลนด์จึงอธิบายให้พวกเขาฟังว่า “ลองคิดดูสิขณะที่ฉันและเบทต้าได้ดื่มกินและเพลิดเพลินอยู่กับเหล่าสาวงาม ในขณะที่พวกนายต้องทนอยู่กระท่อมเก่าๆและขาดแคลนอาหาร”
ในที่สุดเบทต้าก็เข้าใจ
ลิงก์ถอนหายใจออกมา “ถ้าเป็นอย่างนั้นถึงพวกเราจะไม่ได้เกลียดนาย แต่พวกเราก็คงนับเป็นพวกเดียวกันไม่ได้”
“ถูกต้อง” โรแลนด์ผายมือออกมา “ตราบใดที่พวกเราแยกกันพวกเขาก็สามารถทำหลายสิ่งได้ง่ายขึ้น”
เบทต้าเหงื่อไหลอย่างหนัก “พี่โรแลนด์พี่ไม่คิดมากไปเหรอ?”
“พี่ก็หวังว่าอย่างนั้น” โรแลนด์พูดออกมาด้วยท่าทีแปลกๆ “ก่อนที่ฟอลเคิลจะขึ้นไปยังสวรรค์เขาได้เตือนไว้ว่า แม้คนบนโลกนี้จะไม่ได้รู้อะไรมากมายเท่าพวกเขา แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาโง่”
ฮอร์กลูบใบหน้าของตนเองและพูดด้วยความประหลาดใจว่า “ถ้าตามที่ทางผู้พัฒนาบอกไว้ละก็ มี NPC มากกว่าห้าสิบล้านตนซึ่งแตกต่างกันไป นั่นหมายความว่าหากมี NPC ที่ฉลาดและเจ้าเล่ห์อยู่หนึ่งในหมื่น มันก็ น่าจะมี NPC แบบนั้นถึงห้าแสนตนซึ่งเทียบเท่ากับจำนวนผู้เล่น ฉันว่าบางทีอาจจะมีคนถูก NPC พวกนั้นหลอกก็เป็นได้”
เมื่อคิดว่ามันน่าจะเป็นไปได้ ทุกคนก็เงียบลง
ทันใดนั้นเสียงแปลกๆก็ดังขึ้น ลิงก์นึกขึ้นได้และรีบกลับไปที่ครัว และเขาก็พูดขึ้นมาว่า “ไม่เลว รสชาติไม่ได้แย่นัก โรแลนด์กับเบทต้าพวกนายอยู่กินอาหารเย็นด้วยกันก่อนสิ”
“ขอบคุณ” โรแลนด์ไม่ปฏิเสธข้อเสนอ “ฉันยังไม่เคยได้กินอาหารทั่วไปของโลกนี้เลย”
หลังจากอาหารเย็นฮอร์กและโรแลนด์ก็พูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน จากนั้นโรแลนด์และเบทต้าก็บอกลาและเดินจากไป
พวกเขาเดินมาถึงตรงจตุรัสก่อนหอคอยเวทย์ ในตอนนี้ก็เย็นแล้ว ตรงหน้าประตูหอคอยมีเด็กสาวคนหนึ่งยืนนิ่งอยู่ราวกับรูปปั้น
เธอไม่ได้ถอยหลังกลับเข้าหอคอยเวทย์จนกระทั่งโรแลนด์เดินมาใกล้
ทว่าโรแลนด์กลับไม่สังเกตุเห็น เขาพูดอยู่กับเบทต้าว่า “นายควรจะซื้อบ้านเล็กๆสักหลังในเมืองไว้สำหรับนายและสาวใช้ของนายนะ บางทีพวกเราอาจจะอยู่ที่นี่อีกยาว”
เบทต้าหน้าแดงออกมา “เธอไม่ใช่ของผมสักหน่อยครับ”
“นอกจากนั้นพยายามหาข้อมูลเพิ่มเติมด้วยล่ะ” โรแลนด์เตือนเขาออกมา “แม้ว่านายจะเป็นเด็กฉลาด แต่นายตามเล่ห์เหลี่ยมพวกนั้นไม่ทันหรอก”
เบทต้าคงไม่ยอมรับว่าตัวเองไร้ประสบการณ์ หากวันนี้เขาไม่ได้ยินสิ่งที่โรแลนด์พูด แต่หลังจากนั้นเขาก็ตระหนักว่าตนยังขาดประสบการณ์ทางสังคมอยู่
แต่ถึงอย่างนั้นเบทต้าก็แอบโกรธโรแลนด์อยู่ที่ล้อเลียนเขาโดยคำว่า “สาวใช้ของนาย”
ฉันเป็นคนที่ไร้เดียงส่เปรียบดั่งฤดูใบไม้ผลิ ดังนั้นฉันจะไม่มีทางเอาเปรียบเธอโดยเด็ดขาด
เขาโบกมือลาโรแลนด์และวิ่งจากไป
โรแลนด์กลับเข้ามายังหอคอยเวทย์ และเรียกรวมตัวนักเวทย์ฝึกหัดทั้งหมดและพูดว่า “พวกนายน่าจะได้ลองอ่านและทดสอบเวทย์และในเมื่อตอนกลางวัน ถ้าพวกนายมีคำถามพวกนายสามารถถามฉันได้ในตอนนี้ ฉันจะอธิบายตามความเข้าใจของฉัน”
นักเวทย์ฝึกหัดต่างตกตะลึง…ปกติมันจะค่อนข้างยากที่จะได้พูดคุยกับอาจารย์
ส่วนใหญ่พวกเขาจะเพียงแค่แนะนำวิธีการหรือแนวคิดและขอให้นักเวทย์ฝึกหัดเรียนรู้ด้วยตัวเอง
หากนักเวทย์ฝึกหัดไม่สามารถเรียนรู้ได้นั่นก็หมายความว่าเขานั้นโง่เกินกว่าที่จะเป็นนักเวทย์ เพราะนักเวทย์ส่วนใหญ่นั้นยุ่งมากและไม่มีเวลาให้เขานัก
พวกเขาไม่เคยเจอใครที่ใจดีแบบโรแลนด์มาก่อน
หลังจากลังเลชั่วครู่พวกนักเวทย์ฝึกหัดก็ตื่นเต้นขึ้น
พวกเขารู้ดีว่ามันยากเพียงใดที่พวกเขาจะได้พบกับโอกาสและอาจารย์แบบนี้
ดูเหมือนว่าพวกเขาโชคดีเลยทีเดียว