หฤโหดโคตรนักเวทย์ (Mage are too Op) - ตอนที่ 61
มีการระบุไว้ในประกาศอย่างเป็นทางการว่าผู้ที่ลงทะเบียนและก่อตั้งกิลด์นั้นเป็นขุนนางระดับสูง ถ้าคนธรรมดาต้องการเห็นเขาพวกเขาจะต้องมีชื่อเสียงระดับหนึ่ง ทว่าชัคกลับบอกว่าเคยพูดคุยกับเขามาหลายครั้งแล้ว
ดูเหมือนว่า F6 จะสามารถคว้าความสำเร็จจากการเป็นคนกลุ่มแรกที่ก่อตั้งกิลด์ในเกมได้
ด้วยความคิดเหล่านี้ทุกคนจึงรู้สึกตื่นเต้นและมีรอยยิ้มบนใบหน้า ท้ายที่สุดพวกเขาล้วนเป็นวัยรุ่น ใครกันเล่าที่จะไม่ชอบชื่อเสียง
อย่างไรก็ตาม เบทต้าที่นั่งอยู่สังเกตุเห็นอะไรแปลกๆ เขามองไปที่ทุกคนแล้วพูดว่า “ไม่ใช่ว่าพวกเรามีเจ็ดคนเหรอครับทำไมถึงเป็น F6? เราควรตั้งชื่อว่า F7 ไม่ใช่เหรอ”
อีกหกคนมองหน้ากัน หลังจากนั้นทุกคนก็จ้องไปทางชัค
ชัคลุกขึ้นนั่งลงข้างๆลูกพี่ลูกน้องของเขา แล้วโอบไหล่พร้อมพูดว่า “พวกเราเล่นด้วยกันตั้งแต่เป็นเด็กและไม่ว่าเกมจะเป็นอย่างไรกิลด์ใดก็ตามที่เราสร้างขึ้นก็จะมีชื่อว่า F6 ซึ่งไม่เคยเปลี่ยนแปลง เป็นเวลาหลายสิบปีและเกือบยี่สิบปีแล้ว พวกเราไม่อยากเปลี่ยนเรื่องนี้หนะ”
“เข้าใจแล้วครับ” เบทต้าเกาหัวด้วยความผิดหวังเล็กน้อย ในตอนแรกเขาคิดว่าเขาสามารถเข้ากับพวกพี่ๆได้สมบูรณ์แล้วเสียอีก
จากนั้นเขารู้สึกว่านี่เป็นเรื่องปกติ เพียงไม่ถึงสองเดือนนับตั้งแต่ที่เขามา ในขณะที่พวกพี่ๆเหล่านี้เป็นเพื่อนสมัยเด็กที่เติบโตมาด้วยการเล่นด้วยกันมาเกือบยี่สิบปี ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งของพวกเขานั้นยากที่จะหาอะไรเทียบ
แม้ว่าเบทต้าจะเข้าใจเรื่องนี้แต่เขาก็อดหงุดหงิดไม่ได้ ราวกับตัวเองถูกกันออกจากกลุ่ม
ชัคพูดต่อโดยปลอบใจเขาว่า “นายเป็นสมาชิกคนพิเศษของเรานะ ลองคิดดูสิราชาทั้งสี่ทว่าจริงๆแล้วกลับมีห้าคน ดังนั้นการที่ F6 มีเจ็ดคนก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ง่ายๆใช่ไหมละ”
เบทต้ากลอกตาไปที่ลูกพี่ลูกน้องของเขาอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า “พี่คิดว่าผมเป็นเด็กสามขวบที่จะหลอกง่ายขนาดนี้เลยเหรอ”
ชัคหัวเราะอย่างฝืนๆและเลือกที่จะปล่อยเรื่องนี้ไป
หลังจากนั้น ชัค ได้อธิบายตัวตนของ “ทอรี่บอร์ซัม” – บุคคลนี้เป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของกิลด์ทหารรับจ้างและไม่ว่าใครก็ตามที่ต้องการจะสร้างกิลด์จะต้องไปเยี่ยมกิลด์ทหารรับจ้าง นี่อาจเป็นสาเหตุที่ระบบตัดสินใจให้ NPC ตนนี้กลายเป็นผู้ลงทะเบียน
สำหรับสาเหตุที่ชัคสามารถพูดคุยกับเขาได้เหตุผลนั้นค่อนข้างง่าย ประการแรก ชัค มีค่าเสน่ห์ที่สูง และประการที่สองนั่นคือตัวตนของชัคในฐานะเซนต์ซามูไร คลาสเซนต์ซามูไรในสายตาของคนทั่วไปนั้นเทียบเท่ากับขุนนางระดับสูง
ยิ่งพวกเขาพูดคุยกันมากขึ้นพวกเขาก็ตื่นเต้นมากขึ้น
พวกเขาเริ่มดื่มเบียร์ด้วยกัน
นี่เป็นสิ่งที่ช่วยไม่ได้ พวกเขาเล่นเกมด้วยกันมานานกว่าสิบปี แม้ว่าพวกเขาจะเปลี่ยนเกมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทว่าพวกเขาไม่เคยทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ในเกม ตอนนี้พวกเขาสามารถสร้างบางสิ่งบางอย่างได้แล้วพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะคุยโอ้อวดซึ่งกันและกัน
พวกเขาดื่มกันตั้งแต่เช้าจนถึงช่วงบ่ายจนถึงพวกเขาเมาเต็มที่ โรแลนด์เดินโซเซออกจากบาร์ไป เขาไม่ได้ขี่จักรยานสาธารณะแต่เลือกเดินช้าๆกลับบ้านแทน
เบียร์ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้คนเมาได้มากขนาดนั้น ดังนั้นเมื่อกลับถึงบ้านโรแลนด์ก็สร่างเมาเสียแล้ว
เขาเข้าไปที่เว็บบอร์ดอีกครั้งและสังเกตุเห็นว่ายังคงมีคนพูดถึงกิลด์อยู่เรื่อยๆ
หลายคนจินตนาการไปว่าระบบพื้นฐานของกิลด์จะมีอะไรบ้าง
คนส่วนใหญ่คิดว่าน่าจะเป็นความสามารถในการสื่อสารระยะไกล
โรแลนด์ก็คิดแบบนั้นเช่นกัน
แผนที่ของเกมมีขนาดใหญ่เกินไปและผู้เล่นก็กระจายกันไปทั่วทำให้การสื่อสารนั้นทำได้ยากมาก
แม้ว่าผู้เล่นหลายคนจะชอบสำรวจและทำความรู้จักกับ NPC แต่ก็มีผู้คนจำนวนมากที่ชอบเล่นกับเพื่อนของพวกเขา เล่นกับคนที่พวกเขาคุ้นเคย
แนวคิดของการอยู่เป็นกลุ่มนั้นมีอยู่มาตลอดตั้งแต่อดีต ผู้เล่นและผู้อยู่อาศัยภายในเกมนั้นมีความแตกต่างอย่างมาก ทั้งในด้านทัศนคติและมุมมองต่อชีวิตทำให้พวกเขาไม่สามารถเข้ากันได้ดีนัก
นอกจากโพสต์เกี่ยวกับกิลด์แล้วยังมีโพสต์เกี่ยวกับการบอกเล่าประสบการณ์ต่างๆอีกมากมาย อาทิเช่นบางคนวิเคราะห์ว่านักรบควรกำหนดคุณลักษณะของพวกเขาอย่างไร เลือกความพิเศษของพวกยังไง ควรเริ่มโจมตีอย่างไรและจู่โจมแบบไหน
และยังมีหลายคนที่โพสต์เกี่ยวกับภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมของพื้นที่รอบนอกของเมืองและประเพณีของเมือง
โรแลนด์พบว่าสิ่งเหล่านี้ค่อนข้างน่าสนใจในการอ่าน
จากนั้นโพสต์แปลกๆก็ดึงดูดความสนใจของเขา
“นี่มันเควสเชี่ยไรเนี่ย!”
มันเป็นโพสต์ของผู้เล่นชายคนหนึ่งที่ได้รับเควสส่งจดหมามาโดยไม่คาดคิด มันเป็นเควสส่งจดหมายจากหมู่บ้านหนึ่งยังอีกหมู่บ้านหนึ่ง
ในขั้นตอนแรกเขาคิดว่านี่เป็นภารกิจง่ายๆที่ให้ค่าตอบแทนสามเหรียญเงิน หลังจากส่งจดหมาย หลังจากที่เขารับเควสเขาก็ใช้เวลาถึงสามวันไปยังจุดหมาย ซึ่งมันก็ยังไม่จบเควสโดยง่าย หลังจากผู้รับจดหมายได้อ่านจดหมายเขาก็ยื่นจดหมายมาให้ฉันไปส่งยังที่ถัดไป
มีเพียงพวกโง่เท่านั้นที่ไม่ยอมรับเควส ด้วยความคิดเช่นนี้เขาเลยเลือกรับเควสไป
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาไม่เคยคาดคิดมาตลอดหนึ่งล้านปีก็เกิดขึ้นนี่เป็นภารกิจส่งจดหมายลูกโซ่
หลังจากนั้นทุกครั้งที่เขาส่งจดหมายไปยังปลายทางใหม่และหลังจากที่ผู้รับใหม่อ่านจดหมายจบแล้วผู้รับใหม่จะให้เขาส่งจดหมายฉบับใหม่ให้คนอื่น
ตั้งแต่เกมเปิดตัวจนถึงตอนนี้เขาเดินจากชายแดนทางเหนือของฮอลเลวิลไปยังพื้นที่กลางของฮอลเลวิล
ในช่วงเวลานี้เขาเสียชีวิตหลายต่อหลายครั้ง ถูกฆ่าโดยโจรถูกสัตว์ร้ายกัดกินเป็นอาหารตายไปในป่า และอื่นๆอีกมากมาย เนื่องจากระบบเก็บจดหมายไว้ในกระเป๋ามิติตลอดเวลามันจึงไม่สูญหายไป เขาสามารถส่งจดหมายได้ตลอดเวลาโดยไม่อะไรผิดพลาด
เพราะแบบนี้ครั้งนี้เขาได้รับภารกิจส่งจดหมายเป็นครั้งที่เจ็ดแล้ว
ในช่วงเวลาสองเดือนเขาเดินทางทั้งทางบกและทางน้ำตลอดเวลา เขาแทบไม่เคยเข้าร่วมการต่อสู้ใดๆและไม่ได้ทำสิ่งอื่นใดเลยนอกจากเดินทางอย่างไม่หยุดหย่อน
ผู้มอบเควสเปลี่ยนจากชาวบ้านเป็นขุนนางเล็กๆ ค่าประสบการณ์ที่เขาได้รับไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก แต่เขาได้รับเงินมากขึ้นเรื่อย ๆ
ในที่สุดผู้เล่นคนนี้ก็อุทานออกมาในทำนองว่า “ถ้าฉันยังส่งแบบนี้ต่อไปฉันจะส่งจดหมายถึงราชาได้ไหม?”
ผู้เล่นหลายคนตอบกลับกระทู้นี้ ทุกคนต่างแสดงความประหลาดใจออกมาและเรีกร้องให้ผู้โพสต์อัดวีดีโอ พวกเขาทุกคนค่อนข้างสงสัยว่าสุดท้ายแล้วผู้เล่นคนนี้จะต้องเจอกับใคร
…เพราะภารกิจนี้น่าสนใจเกินไป
โรแลนด์ยังฝากข้อความไว้ด้วยหวังว่าผู้เขียนโพสต์จะบันทึกวิดีโอ โดยปกติแล้วเขาจะมีความเคารพต่อผู้ที่มีความมุ่งมั่นเช่นนี้
จากนั้นเขาก็ปิดคอมพิวเตอร์และงีบไปในตอนบ่าย จากนั้นก็มุ่งหน้าไปที่สโมสรมวย
ภายในชมรมชกมวยเขาและโค้ชฝึกซ้อมกันนานกว่าหนึ่งชั่วโมง ในท้ายที่สุดโค้ชก็นั่งลงบนเก้าอี้หอบหายใจขณะที่โรแลนด์มีเหงื่อออกเพียงเล็กน้อย
ในขณะนี้โค้ชมองไปที่โรแลนด์ราวกับว่าเขากำลังมองตัวประหลาดและในที่สุดก็พูดอย่างไม่เร่งรีบว่า “คนที่เรียนไทเก๊กจะไม่เห็นผลลัพธ์ภายในสามปี ในขณะที่คนที่เป็นมวสามารถฆ่าคนได้ภายในสามเดือน!”
“คนที่ฝึกบาจิ [1] จะฆ่าคนได้ภายในสามเดือนไม่ใช่หรือ” โรแลนด์รู้สึกสับสนและถามออกไป
โค้ชโบกมือพร้อมพูดกวนๆว่า “อย่าเถียงผมน่าตราบใดที่คุณรู้ว่าผมจะสื่ออะไร อย่างไรก็ตามการชกมวยเป็นเรื่องง่ายที่จะเรียนรู้และใช้งานได้ง่ายในทางปฏิบัติ ตอนนี้คุณเหนือกว่าผมแล้วผมสามารถบอกได้เลยว่าคุณแอบผ่อนหมัดในตอนที่เราประลองกันก่อนหน้านี้”
โรแลนด์อยากจะปฏิเสธเรื่องนี้ แต่โค้ชจะรู้ก็ไม่แปลกเพราะถึงอย่างไรเขาก็เป็นโค้ชอยู่ดี หากเขาพูดแย้งออกไปเขาก็จะดูเหมือนคนขี้โกหก
ดังนั้นเขาตอบรับ
เขาแอบผ่อนหมัดตอนประลองกับโค้ชจริงๆ เพราะเขารู้สึกว่าหมัดของโค้ชนั้นช้าลง ทำให้เขาสามารถป้องกันและหลบได้อย่างดาย
“ผมไม่มีอะไรจะสอนคุณอีกแล้ว” โค้ชถอนหายใจยาว เขาเช็ดเหงื่อที่หน้าผากและพูดว่า “แม้ว่าเราจะเป็นองค์กรการศึกษาที่แสวงหาผลกำไร ที่สอนคนเพื่อเงิน แต่ผมก็อยากจะพูดอะไรไว้สักหน่อย การเรียนมวยมีไว้เพื่อป้องกันตัวหรือฝึกฝนร่างกายเท่านั้น อย่าใช้มันเพื่อทำร้ายคนอื่น! อย่าทำมันพลาดเหมือนผม!”
เมื่อต้องเผชิญกับคำแนะนำอย่างตั้งใจของโค้ชโรแลนด์พยักหน้าอย่างจริงจัง
——————————————————————————————————————————————————————————————————————————–
[1] ศิลปะการต่อสู้จีนประเภทหนึ่งในภาษาจีนจะใช้คำว่า 八極拳 Bā jí quán